“นุ่น ศิรพันธ์ - ท็อป พิพัฒน์” ฉลองพิธีสมรส ฝ่ายชายสัญญาจะเคารพเชื่อฟังภรรยาและรักษาสมบัติครอบครัว ด้านนุ่นเผยเลือกท็อปเพราะเป็นคนดี ยังไม่วางแผนมีลูกเตรียมบินฮันนีมูนอิตาลี
รักกันมา 8 ปีในที่สุดคู่ของ “นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา” กับ “ท็อป พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร” ก็เข้าพิธิวิวาห์กันไปเรียบบร้อยแล้ว โดยได้ฉลองมงคลสมรสที่โรงแรมแลนด์มาร์ค ซึ่งทั้งคู่ก็ได้เปิดใจถึงกันและกัน
ท็อป : “สำหรับพิธีการตอนเช้าเป็นพิธีในครอบครัว มีญาติ และเพื่อนสนิท รวมถึงหลาน ๆ”
นุ่น : “สิ่งที่ชอบคือ มีพิธีผูกข้อไม้ข้อมือที่มาจากเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนุ่น บรรยากาศซาบซึ้ง ร้องไห้หลายรอบมาก สบตาคุณแม่ไม่ได้เลย ต้องขอบคุณที่บ้านของนุ่นและบ้านของท็อปที่จัดงานออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบกว่าที่คิดไว้”
ท็อป : “สำหรับพิธีผูกข้อไม้ข้อมือ พอได้มีโอกาสทำจริงก็รู้สึกดีไปอีกแบบ เพราะแต่ก่อนเคยแต่ผูกข้อมือตอนไปทำรายการ”
“ท็อป” ให้คำสัญญาจะเชื่อฟังเคารพภรรยาและรักษาสมบัติครอบครัว
ท็อป : “ได้มีคำปฏิญาณกับน้องชายของนุ่น ด้วยความเข้าไปอยู่ในครอบครัวทหารจึงต้องมีการปฏิญาณกันนึดนึง ซึ่งมี 3 ข้อ ได้แก่ ให้เชื่อฟังคำสั่งภรรยา ให้เคารพภรรยา และให้รักษาสมบัติของครอบครัว นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ได้ฝากฝังว่าให้รักกันเข้าใจและยอมรับในกันและกัน”
“ส่วนเรื่องสินสอดทองหมั้นบ้านผมก็จัดให้นุ่นตามสมควร ไม่ได้มากได้มากมาย และไม่ได้มีน้อยจนเกินไป ผมคิดว่าเรื่องสินสอดมันเป็นเรื่องหนึ่งสำหรับประเพณี แต่สิ่งที่สำคัญผมว่าการที่มาอยู่ด้วยกันแล้วผมให้เกียรติเขาในการที่จะได้เข้ามาดูแลบริษัท และดูแลสภาพความเป็นอยู่ของผม และคนในบริษัททั้งหมด ก็คิดว่าน่าจะได้มากกว่าสิ่งที่เป็นสินสอดให้ และก็ด้วยความรักด้วยผมว่าน่าจะได้เต็มที่”
“ซึ่งจากเดิมผมเป็นเจ้าของทั้ง 2 บริษัท ตอนนี้ผมได้ยกให้นุ่นและผมก็เป็นดีไซเนอร์เฉย ๆ ตัวนุ่นเองก็เป็นซีอีโอของบริษัท เขาได้โอนชื่อเข้ามาแล้วและเป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดในบริษัท ฉะนั้น ผมก็เลยไม่อยากที่จะมาบอกว่า วันนี้เราให้อะไรบ้าง เพราะว่าสิ่งที่ผมได้ให้และได้เชื่อใจเขามันมีมากกว่าวันแต่งงานวันนี้เยอะจริง ๆ สำหรับบริษัทผมจริง ๆ ทั้ง 2 บริษัททำเกี่ยวกับงานอีโคดีไซน์ (Eco Design) ไม่ว่าจะบริษัทเล็ก หรือบริษัทใหญ่ที่เป็นอีโค (Eco) เราจะเข้าไปทำให้และอีกบริษัทหนึ่งชื่อว่า ทูเก็ต ทูเกเตอร์ (ToGetTogether) ทำเกี่ยวกับรายการทีวีให้นุ่นเป็นคนดูแล”
นุ่น : “ไม่เป็นต้องห่วงนะคะ เรื่องสมบัติหรือสินสอดคือพอได้แต่งแล้วหลังจากวันนี้เป็นต้นไป เขายกบริษัทให้แล้ว
รอฤกษ์จดทะเบียนสมรส ส่วนเรื่องทายาทคงต้องอีกพักหนึ่ง
นุ่น : “เรื่องจดทะเบียนสมรสเราสองคนยังเลยค่ะ ก็เดี๋ยวดูฤกษ์กันอีกที”
ท็อป : “ส่วนเรื่องทายาทยังไม่ได้คิดเลยครับ คือเราก็ยังไม่กล้าเพราะเราก็ยังไม่แน่ใจว่าเราจะเป็นพ่อที่ดีได้ แต่เป็นสามีที่ดีพอคิดออกแล้ว แต่เป็นพ่อที่ดียังคิดไม่ออกเดี๋ยวรอเป็นสเต็ปต่อไปครับ”
ฮันนูมูนอิตาลี
ท็อป : “จะพ่วงไปกับการทำงานที่อิตาลี งานเวิลด์เอ็กซ์โป หลังจากเสร็จงานเรียบร้อยก็จะเที่ยวต่อ ถือว่าได้สองอย่างเลย เราไม่ได้ตั้งแพลนว่าจะไปฮันนีมูนที่ไหนยังไง ที่เลือกต่างประเทศไม่ใช่แพลนตอนแรกเหมือนกัน เราอยากจะเลือกในประเทศก่อน จริง ๆ แล้วเราอยากจะลงไปทะเลบ้าง ทุกทีบ้านนุ่นเขาอยู่ที่เชียงใหม่เลยอยากจะไปฮันนีมูนที่ทะเลในเมืองไทย แต่พอดีว่าที่ไปอิตาลีเพราะไปทำงาน ไหน ๆ ต้องไปแล้วก็เลยขอพักอีกหน่อยหนึ่ง เลยเรียกว่าฮันนีมูนไปเลยแล้วกัน ไปช่วงปลายเดือน ก.ย. ครับ ประมาณ 10 วัน”
งานแสดงในวงการยังอยู่ไหม
นุ่น “ “ก็ยังทำต่อนะคะจ้างได้นะคะยังอยากทำ นุ่นรักการแสดงค่ะ นุ่นไม่ได้เกี่ยงว่าบทจะต้องเป็นยังไง แต่ขอให้เป็นบทที่นุ่นอยากเล่นจริง ๆ เดี๋ยวนุ่นจะเสนอหน้าไปขอเล่น อาจจะต้องแบ่งเวลาระหว่างงานในวงการกับบริษัท ไหน ๆ เราจะฮุบเขาแล้ว เราก็ต้องให้มันเติบโตงอกงามได้กำไรเต็มที่ค่ะ”
เผยรักกันมา 8 ปีทะเลาะกันบ่อย เพราะต่างคนต่างเป็นตัวของตัวเอง
ท็อป : “อยากจะบอกว่าคู่เราไม่ใช่ได้มาง่าย ๆ ด้วยความที่เราตั้งใจจะเป็นตัวเราตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องมาบอกว่าเปลี่ยนไป เพราะสุดท้ายเราก็จะเป็นคนเดิมเรานั่นแหละ พอเป็นตัวเองจากสองครอบครัวที่ต่างกันทำให้เราทะเลาะกันบ่อย ต้องมานั่งเคลียร์กันหลาย ๆ เรื่อง แต่สุดท้ายเราก็ผ่านไปได้ จนกลายเป็นเรื่องเล่าสนุก ๆ และก็มาถึงวันนี้”
นุ่นเลือกท็อปเพราะเป็นคนดี
นุ่น : “จริง ๆ ทั้งหมดทั้งมวลคือเขาเป็นคนดี เมื่อเช้ามีการส่งตัว นุ่นก็ได้พูดความในใจกับป๊าและม้าของท็อปว่า จริง ๆ ท็อปเป็นคนดีมาก แต่ความดีของเขามาจากบ้าน ขอบคุณป๊ากับม๊าที่เลี้ยงเขาเป็นคนดี ซึ่งความเป็นคนดีของเขานี่แหละที่นุ่นคิดว่าจะสามารถทำให้เราไปด้วยกันได้