“ณเดชน์” ให้ตุ๊กตาแซลมอนเป็นของขวัญ “ญาญ่า” ปัดเป็นของแทนกายไว้กอดแก้เหงา เผยอุปการะเด็กจนเรียนจบ แต่ยังไม่รับเพิ่ม โต้เป็นพระเอกสายบุญ ไม่คิดตั้งมูลนิธิ บอกไม่ได้มีเงินร้อยล้านพันล้าน เน้นช่วยเหลือตามกำลังทรัพย์ดีกว่า
มีอะไรให้แฟนคลับได้ลุ้นกันตลอด ล่าสุด “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ก็หอบเอาตุ๊กตาแซลมอนตัวใหญ่ไปให้ “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” แถมไม่ได้มีวาระพิเศษอะไรด้วย งานนี้คนเลยคิดกันว่าหรือนี่จะเป็นตัวแทนไว้แก้เหงาของคนที่คิดถึงกันหรือเปล่า ซึ่งพระเอกหนุ่มก็รีบแจงทันทีว่าให้เฉยๆ ไร้เหตุผล พร้อมเผยวันแม่ปีนี้ไร้เงาสาวญาญ่ามาร่วมแจมเข้าครัวเหมือนปีที่ผ่านมา
“(หัวเราะ) ก็ตามนั้นเลยครับ กินได้ครับ มีซาซึมิ ซูชิ มีหมดครับ คือที่ซื้อให้เพราะว่าน่ารักดีครับ แล้วน้องเขาบางทีเดินทางไปไหนมาไหน ก็เผื่อติดรถติดอะไรไปด้วยได้ แต่ไม่ได้อยากให้ติดตัวตลอดเวลานะครับ ก็ซื้อไว้ให้ในโอกาสอยากจะให้ น้องเอาไปนอนกอดเหรอ น้องวางไว้บนโซฟานี่ครับ(หัวเราะ) คือตอนให้น้องเขาก็ตกใจว่าให้อะไรมาเนี่ย แต่ก็คงชอบแหละครับ ก็ไม่รู้ว่าถูกใจมากหรือเปล่านะครับ แต่ก็เห็นอยู่ตรงโซฟา เห็นในอินสตาแกรมเพื่อนเขาก็ไปกัน เพื่อนก็ใช้ ก็แชร์ดีครับ ไม่ได้จะให้แทนตัวเราอะไรหรอกครับ ไม่ใช่ครับ(ยิ้ม) คือผมก็ไม่ได้ซื้ออะไรให้บ่อยหรอกครับ ก็จะเป็นตามงานวันเกิด ปีใหม่ อะไรแบบนี้”
“วันที่ 12 สิงหาคมนี้ก็ว่างครับ น่าจะพาครอบครัวไปทานข้าวกัน ก็ไม่ได้ชวนญาญ่าไปทำกับข้าวกันที่บ้าน ก็น่าจะไปกินข้าวกันแค่คุณพ่อคุณแม่ คือที่แม่แก้วเขาสอนญาญ่าทำกับข้าว จริงๆ วันนั้นก็กินกันหลายคนครับ น้าๆ มาจากขอนแก่นก็เยอะ ก็เลยได้มีโอกาส นานๆ ทีได้เจอกันก็นัดมากินข้าว ก็กินปกติ แล้วจริงๆ ก็ช่วยๆ กันทำหลายคน เพราะว่ามื้อนั้นก็มื้อหนักเหมือนกัน ก็กินสุกี้กัน”
เผยไม่รู้ดีเทล “ญาญ่า” ถ่ายละครแล้วถูกเม้งแตก ข้อหาทำรถติดหนัก อีกฝ่ายไร้ปรึกษา
“พอได้ทราบข่าวมาเหมือนกันครับ แต่ไม่รู้ดีเทลอะไรครับ แต่ผมก็ไม่ได้ถามเรื่องนี้ คือก็เป็นปัญหาที่ต้องไปแก้ไขกัน ก็ต้องไปฟังผู้ใหญ่ตอบอีกทีหนึ่งครับ น้องเขาก็ไม่ได้มีปรึกษาอะไรครับ ผมก็ไม่ค่อยทราบเหมือนกัน แล้วผมก็ไม่ได้อยู่แถวนั้นด้วย (ยิ้ม) ก็คงไม่ต้องโทร.ไปให้กำลังใจน้องเขาหรอกครับ”
ฟุ้งอุปการะเด็กจนเรียนจบมีงานทำ สร้างครอบครัวได้ หลังสแกนประวัติมาอย่างดี ส่วนคนที่เหลือส่งเงินไม่ขาด
“ก็ยังอุปการะอยู่นะครับผม รวมถึงน้องอีก 2 คนด้วย เราก็พิจารณาตามเหตุปัจจัยไปมากกว่า ผมไม่ได้อุปการะทุกคน เพราะเราก็ต้องมีความเชื่อมั่นเชื่อใจ พื้นฐานต่างๆ ด้วย จริงๆ เด็กๆ ส่วนมากที่ผมช่วยเหลือ ก็มาจากคนที่รู้จักด้วยกัน ที่แนะนำกันมา เราก็ต้องมาดูประวัติ คือมันเป็นธรรมดาที่เราต้องดูเรื่องพวกนี้ เพื่อที่ว่าการดูแลเด็กจะดีไปเลย ไม่ใช่ว่ามาเลี้ยงดู แล้วก็เลี้ยงดูไม่ดีหรือทิ้งมันไม่ใช่อย่างนั้น เราก็ทำจนเขาโต จนเขาจบมหาวิทยาลัย คือวันนี้น้อง 2 คนที่จบมหาวิทยาลัยไปแล้ว คนหนึ่งก็มีครอบครัวแล้ว คนหนึ่งก็ทำงานอยู่ ก็ยังติดต่อกันอยู่ ไม่ได้ขาดอะไรกัน”
“กับน้องคนที่เขาเรียนเสริมสวย ตอนนี้เขาอยู่ที่อุดรธานี ถ้าผมจำไม่ผิดนะ ก็คุยกับเพื่อนคุณแม่ที่เป็นอาจารย์ ซึ่งถามว่าดูแลขนาดไหนยังไงบ้าง เราก็ต้องพิจารณากับทางครอบครัวว่าอะไรที่ขาด อะไรที่เกิน ในส่วนของครอบครัว หรือสิ่งที่เขาเจอมาต่างๆ นานา เราก็ต้องมาพิจารณาว่าเราจะช่วยเหลือแบบไหน ก็ต้องมานั่งจับเข่าคุยกับครับ เหมือนแม่สอนลูกอะไรประมาณนี้ ซึ่งเราก็ส่งเงินไปนะครับ”
ยันไม่คิดรับอุปการะเพิ่ม เหตุต้องดูความจำเป็นอย่างละเอียด ขอเน้นให้ทุนการศึกษาเป็นหลักไปก่อน
“กับเรื่องแพลนที่จะรับเพิ่มอันนี้ยังไม่ทราบเหมือนกัน บอกไม่ได้ต้องถือว่าเป็นตามโอกาสมากกว่า คือถามว่าเราพิจารณาจากอะไร ก็จะเป็นน้องๆ ที่คุณครูในโรงเรียนนั้นลงความเห็นกันว่าต้องการคนช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเงิน หรือในเรื่องของกำลังใจ อันนี้ก็จะมีการประชุมกัน ทั้งทางแม่ทางผมและทางคณะอาจารย์ของโรงเรียนๆ นั้น แล้วเราก็จะมาลงความเห็นว่า เคสต์ไหนที่สำคัญที่สุด เคสต์ไหนที่เหมาะที่จะได้รับการช่วยเหลือจริงๆ”
“บางคนอยากเรียนมาก แต่ด้วยความที่ว่าพ่อแม่ไม่อยู่กับที่ ไปจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ น้องๆ ก็ต้องย้ายตามไปด้วย มันก็จะมีหลายๆ เคสต์ แล้วบางทีน้องๆ อยากเรียนเราก็ให้น้องๆ มาเรียน แล้วก็อยู่ในอยู่ความดูแลของอาจารย์ แล้วในเรื่องของเงินก็ให้อาจารย์ที่รับอาสาดูแลน้องๆ เป็นผู้ปกครอง แทนพ่อแม่อีกที ส่วนในกรณีของน้องที่ต้องส่งเสียเลี้ยงคุณตาคุณยาย ถามว่าเขามาปรึกษาเราไหมก็คุยครับ คือจริงๆ มันก็มีอะไรที่ละเอียดอ่อนค่อนข้างเยอะครับ”
“จริงๆ ทั้งหมดตอนนี้ก็ประมาณ 3-4 คนนะ แต่เดี๋ยวล่าสุดวันที่ 11 สิงหาคมนี้ก็จะมีงานผ้าป่าวันแม่ เทิดพระเกียรติวันแม่แห่งชาติ ก็จะจัดขึ้นที่โรงเรียนนครขอนแก่น ก็จะมีทุนการศึกษาให้น้องๆ เหมือนกัน ช่วงนี้ก็จะเน้นเป็นทุนการศึกษา ที่กระจายๆ ซะมาก ส่วนเรื่องดูแลรายบุคคลตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรครับ”
บอกไม่คิดตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเด็กจริงจัง เพราะช่วยตามกำลังทรัพย์
“ผมว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนนะครับเรื่องพวกนี้ คือผมว่าถ้าไปถึงขั้นมูลนิธิเลยเนี่ย ไม่มีความจำเป็นต้องทำขนาดนั้น เพราะจำนวนเรา ไม่ใช่จำนวนเงินที่เยอะมากมายเป็นพันล้าน เป็นร้อยล้านหรือสิบล้านอะไร เราช่วยเหลือด้วยความที่ว่าเราพอดีตัวมากกว่า ถ้าช่วยจนหมดตัวอันนี้ก็คงไม่ไหว (หัวเราะ)”
ไม่ปฏิเสธเป็นพระเอกสายบุญ บอกแม่สอนต้องตอบแทนสังคม ถือบุญเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
“จริงๆ อย่างหนึ่งที่แม่บอก คือว่าสิ่งที่เราได้มา เราก็ตอบแทนให้กับสังคมไป เป็นเรื่องธรรมดาอะไรที่ทำได้ก็พยายามจะทำให้ แล้วเรื่องของบุญเรื่องของอะไรมันเป็นตามประเพณีไทยอยู่แล้ว แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน น่าจะเป็นเรื่องของเด็กหรือเยาวชนหันออกไปหาสิ่งเย้ายวนใจหรือว่าข้างนอกมากเกินไป คือมันต้องครึ่งๆ กลางๆ กัน หนึ่งเลยคือเราต้องชำระจิตใจให้สะอาด ด้วยสภาวะของความเป็นบุญ เราก็ดึงเข้ามา มันก็จะช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจ”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
