xs
xsm
sm
md
lg

ดูหนังหน้าพ่อด้วย “เผือก” เมาท์ฮา! ว่าที่ภรรยาอยากมีลูกหน้าเหมือน “น้องโสน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“เผือก พงศธร” หวั่นแฟนถูกเมาท์ท้องก่อนแต่ง ไม่กล้าพาตรวจสุขภาพ รับหวานใจอยากมีลูกแล้ว อย่างฮาอีกฝ่ายอยากได้ลูกหน้าเหมือน “น้องโสน” ลูกสาว “มอส ปฏิภาณ” ลั่นให้ดูหน้าพ่อด้วย ขอใช้วิธีธรรมชาติครึ่งปี ถ้าไม่ติดพึ่งหมอ แต่มั่นใจเชื้อแข็งแรง เปิดปุ๊บป่องปั๊บ

กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในเดือนธันวาคมนี้สำหรับนักแสดงหนุ่มอารมณ์ดีจากค่ายจีทีเอช “เผือก พงศธร จงวิลาส” กับแฟนสาวนอกวงการนาม “ลูกจ๋า วรินทรา” ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการเตรียมงานแต่ง เมื่อถามถึงเรื่องมีทายาท ฝ่ายชายเผยว่าตอนนี้ไม่กล้าพาว่าที่ภรรยาไปตรวจสุขภาพเพราะกลัวโดนคนครหาว่าท้องก่อนแต่ง

“แฟนผมเขาอยากมีแล้ว ตอนนี้ก็นั่งดูรูปลูกดาราตลอด ดูคลิปน้องไลลา น้องโสน น้องออก้า ออกัส เขานอนดูน้องโสนทุกคืนเลย เขาอยากได้แบบน้องโสน เราก็เฮ้ย เราไม่ใช่มอสนะ(หัวเราะ) เราก็จะแซวเขาว่าต้องหน้าแบบพี่มอสโน่นถึงจะได้แบบนี้ ผมนี่ไม่ได้ดูอะไร ผมเป็นแนวไม่คาดหวัง ลูกจะผู้หญิงผู้ชายเราโอเคหมด ขอให้เขาออกมาแข็งแรง เราโอเค เขาจะอยากได้ลูกสาว เราก็จะคอยปรามว่าเฮ้ย…ถ้าเป็นลูกผู้ชายออกมาเขาจะน้อยใจเอานะ อย่าเพิ่งไปคิดว่าต้องเป็นลูกสาวแน่ๆ คือตอนนี้เขาจินตนาการไปแล้วว่าถ้าลูกออกมาจะให้ลูกใส่ชุดแบบนี้แบบนั้น ก็คงมีเลยแหละดูทรงแล้ว บ้านเราสองคนเองก็เร่ง เขาอยากอุ้มหลานมาก”

“ตอนนี้เริ่มบำรุงกันแล้ว เพื่อนๆ เขาก็แนะนำให้ทานนั่นทานนี่ นี่ผมก็จะต้องโดนกินด้วย เดี๋ยวอีกพักรอเคลียร์คิวไปตรวจสุขภาพ ตอนนี้คือไม่กล้าไปตรวจ เพราะถ้าเดินไปตอนนี้คนจะหาว่าเขาท้องก่อนแต่ง เขาจะคิดว่าเอ๊ะนี่ยังไง ไหนบอกแต่งธันวาคม อีกสัก 1-2 เดือนก่อนแต่งก็คงจะไปตรวจสุขภาพแล้วครับ พ่อบอกว่าอยากได้ลูกแฝดแล้วยกให้เขาไปเลยคนหนึ่ง เราก็เฮ้ยไม่ได้มั้ง(หัวเราะ) ด้วยความที่เขาอยากอุ้มหลานมากไง เขาอยากให้มีลูกเยอะๆ แต่เราอยากเลี้ยงคนเดียว มีคนเดียวให้ดีไปเลยดีกว่า ก็มั่นใจว่าเปิดก็ติดเลยนะให้เวลาตัวเองครึ่งปีหลัง ถ้าไม่ติดก็คงพึ่งแพทย์แล้ว แฟนผมคงร้อนรนเพราะเขาอยากมีลูกมากๆ”

ขำฟีดแบ็กขอแต่งงานแฟนสาวทำหลายคนเซอร์ไพรส์เพราะไม่คิดว่าตนจะมีโมเมนต์นี้
“คนเซอร์ไพรส์กันเยอะแม้แต่ตัวเองก็ไม่คิดว่าจะมีโมเมนต์นี้ ถามว่าคิดนานไหมก็ไม่นานนะครับ เหมือนแว้บเข้ามากะทันหัน ตอนแรกคิดเลยยังไงก็จะไม่มีทางทำอย่างนี้แน่นอน มันอี๋ มันขนลุกอ่ะ เราผู้ชายเนอะ แค่คิดก็ขนลุกแล้ว เราเคยเห็นคลิปของคนอื่นที่เขาเซ็ตมาเป็นธีม เรารู้สึกว่ามันเกินไป ขอแต่งงานก็แค่นั่งดูทีวีกันอยู่ที่บ้านแล้วก็หันมาบอกกันว่าเราแต่งงานกันเถอะก็คงพอแล้ว ซึ่งเราสองคนก็มีโมเมนต์นั้นผ่านมาแล้ว เขาเลยคิดว่ามันคงจะไม่มีอะไรแล้วแหละ ถึงเขาจะบอกว่าเขาโอเคแต่ในโมเมนต์นั้นลึกๆ เราก็อยากจะมีอะไรแบบนั้นไว้เป็นภาพจำ ก็เลยแบบเอาวะ ทำซะหน่อยก็ได้”

“โชคดีเราไปตั๋วฟรีไปเกาหลี จะเดินทางภายใน 2 อาทิตย์แล้ว ก็เลยวางแผนให้เพื่อนทำแหวนให้ ก็ไปเอาดาบหน้า ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะไปทำเซอร์ไพรส์เขายังไง ตอนแรกจะไปโซลทาวเวอร์ เราก็เคยไปแต่ทัวร์เนอะ มันก็ดูจะทัวร์ริสมากเลย เห่ยมาก เราก็ตันๆ เนอะ คิดไม่ออก เราก็คิดว่าคงไม่น่าเวิร์กเพราะต้องไปเจอคนไทยเยอะแน่เลย ก็เลยคิดว่าจะไปเดินริมแม่น้ำ เลยไปถามเพื่อนเกาหลีว่าริมแน่น้ำฮันเดินได้ไหม ไออยากจะไปขอแต่งงานแฟน เขาเลยแนะนำที่หนึ่งริมแม่น้ำฮัน จะมีน้ำพุมีไฟทุกคืน ถ่ายรูปออกมาน่าจะสวย จังหวะนั้นกำลังรอให้เพลงมันสวยๆ หน่อยเพราะตอนนั้นมีแต่เพลงจีนอะไรก็ไม่รู้ มันไม่ไหวอ่ะ เทียนมีมี่ มันไม่ใช่เราอ่ะ แต่จังหวะที่รออยู่ดีๆ มันมีพลุขึ้นมา เราเลยแบบต้องเอาแล้วแหละ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้ก็เลยหลอกเขาว่าไปถ่ายรูปกัน ให้เพื่อนเกาหลีแกล้งถ่ายรูปให้แต่จริงๆ เราถ่ายวิดีโอไว้เรียบร้อย”

“วินาทีนั้นแบบว่ามือสั่นไปหมด ไม่เคยคิดว่าเราจะเสียอาการได้ขนาดนี้ ทุกอย่างมันสั่นไปหมด จะพูดจะทำอะไร เขาก็หัวเราะ ตอนนั้นจำได้ว่าให้เขาฟังเพลง คู่เราจะมีเพลงเพลงหนึ่งเฉพาะเราสองคน เขาชอบเพลงนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว เขาเคยพูดกับเพื่อนตอนสมัยจีบๆ กัน เป็นเพื่อนกันว่าเขาชอบเพลงนี้ ถ้าใครให้เพลงนี้เขาเขาจะแต่งงานด้วย เราก็เปิดเพลงนั้นให้เขาฟังแล้วบอกว่าเคยพูดใช่ไหมถ้าใครให้เพลงนี้แล้วจะแต่งงานด้วย เขาก็โอเค เราก็บอกงั้นแต่งงานกันนะ เขานี่หัวเราะอย่างเดียว เรานี่เสียอาการมาก สั่น เหงื่อแตกไปหมดทั้งๆ ที่ก็หนาว คนจะฮือฮาว่าอย่างมึงทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ เขาจะรับรู้ว่าเราจะไม่เป็นแบบนี้แน่ๆ แต่ก็สักครั้งในชีวิตเนอะ ก็ทำเพื่อเขา ทุกคนก็จะแบบเอาจนได้นะ สุดท้ายก็ต้องทำ เป็นไงล่ะมึง คนก็จะกรี๊ดกร๊าดกันไม่คิดว่าเราจะทำ”

ลั่นตอนนี้ยังขออุบฤกษ์แต่งงานก่อน เน้นธีมสีทองเรียบง่าย จัดงานเช้าเลี้ยงอาหาร ไม่มีปาร์ตี้ต่อตอนเย็น
“ตอนนี้ได้เดือนแล้วคือธันวาคม แต่วันยังไม่ลงตัวครับ ธีมงานก็คงธรรมดา งานเช้าเป็นงานจีน แล้วก็ทานข้าวกัน ก็คงจะใช้สีทอง ไม่มีอะไรมากมาย เป็นเรียบๆ มากกว่า คือเห็นเราตลกเฮฮาแต่ชีวิตจริงแล้วผมเป็นคนไม่โลดโผนเลย เป็นคนที่นิ่งและน่าเบื่อพอสมควร ทุกคนก็จะแบบไม่น่าใช่มึงนะ คนที่ไม่สนิทจะคิดว่าเราเป็นแบบนั้น เราต้องเป็นคนที่ปาร์ตี้ยันเช้าแน่นอน แต่คนที่สนิทสนมกับเราจริงๆ จะรู้ว่าเราเป็นฟิวส์นิ่งๆ นั่งกินข้าวกัน ฟังดนตรีเบาๆ จะเป็นแนวนี้มากกว่า”




ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม


กำลังโหลดความคิดเห็น