ทริปไททานิกภาคต่อ “ตั๊ก” กับ “โรส” สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร

...หมิ่น กับละเมิดสิทธิส่วนตัว อันไหนหนักกว่ากันน้า.....

ข้อความล่าสุดที่นางเอกเจ้าของฉายา “อึ๋มผ่าซาก” อย่าง “ตั๊ก-บงกช คงมาลัย” โพสต์ผ่านอินสตาแกรมของตนเองนั้น สะท้อนให้เห็นว่าข้อพิพาทระหว่างเธอกับคู่กรณี “โรส” หรือ “น.ส.เขมณัฐ เอี่ยมประเสริฐ” ผู้ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้ปล่อยภาพส่วนตัวของเธอขณะล่องเรือยอชต์กับสามี “เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล” ดูท่าว่าจะไม่จบลงง่ายๆ เสียแล้ว

เหตุที่มาของโพสต์ดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังที่คู่กรณี ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อตั๊ก ที่สถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง จ.ภูเก็ต ในข้อหาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยระบุว่าข้อความที่ตั๊กโพสต์ในไอจีส่วนตัวนั้น ทำให้เธอได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกบุคคลทั่วไปดูถูกดูหมิ่น ซึ่งก่อนจะเข้าแจ้งความนั้น โรสได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเบื้องต้นว่า ตนเองไม่ใช้พนักงานบนเรือลำที่สามีของตั๊กเช่า แต่เป็นเพียงเอเยนซีที่ติดต่อให้บริการเช่าเรือในครั้งนี้เท่านั้น และยืนยันว่าภาพที่หลุดออกมาไม่ได้หลุดออกมาจากตนเองเหมือนที่ถูกกล่าวหา ส่วนกรณีเรื่องชู้สาวกับคนสนิทของเจ้าสัวที่ตั๊กโพสต์ข้อความก่อนหน้านี้นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพิ่งมารู้จักกันแค่บนเรือเท่านั้น ไม่เคยมีการแลกเบอร์แต่อย่างใด และการเข้าแจ้งว่าดังกล่าวนี้ ก็ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีต่อคู่กรณีจนถึงที่สุด

ทั้งนี้โรสได้ออกมาเปิดใจพร้อม "นายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล" ทนายความส่วนตัวผ่านรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางช่อง 2 เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม เผยไม่อยากได้ยินคำว่าขอโทษ แต่จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด ไม่หวั่นอิทธิพลของเจ้าสัวสามีตั๊ก

“โรสยอมรับว่าโรสก็เป็นคนแรง โรสทำทัวร์ เราก็ค่อนข้างเด็ดขาดกับลูกค้า โรสไม่มีเบอร์ฝั่งเขาเลย แม้แต่เบอร์คุณชาลี เพราะโรสติดต่อผ่านเอเจนซี่ที่กรุงเทพฯ หลายคนถามว่าทำไมโรสไม่ติดต่อคู่กรณี ทำไมไปโพสต์หน้าไอจี เราไม่มีเบอร์ติดต่อเขาเลย แม้แต่คุณชาลีโทร.มาขอโทษ พอเราติดต่อกลับเขาไม่รับโทรศัพท์เราแล้ว แล้วโรสก็เข้าไปหน้าไอจี ว่าขอไอดีไลน์ได้ไหม ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าต่างๆ นานา นั่นล่ะค่ะ เป็นจุดเริ่มต้น แล้วเขาก็โพสต์ขึ้นมาที่เป็นข่าวหยาบคาย”

พร้อมกันนั้น ก็ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ได้เป็นผู้ปล่อยภาพหลุดดังกล่าว แต่ยอมรับว่าได้รับภาพนั้นจากคนสนิทของเจ้าสัว บุญชัยจริง แต่ทางฝ่ายนั้น ก็ไม่ได้ให้รูปตนแค่คนเดียว ย้ำมีหลักฐานแต่ยังเปิดเผยไม่ได้

ส่วนประเด็นที่ลุกขึ้นมาฟ้องร้องนั้น ทางทนายความได้อธิบายสาเหตุว่า

“เราไม่ได้ตั้งทนายเพื่อฟ้อง แต่พอดีผมรู้จักคุณโรสเพราะผมทำคดีอยู่ที่ภูเก็ต เมื่อคุณโรสมาปรึกษา ผมก็บอกว่าคดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท และความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็ให้คุณโรสไปดำเนินคดีที่ภูเก็ตซะ ก็แค่นั้นเองไม่มีอะไร ตอนนี้ดำเนินคดีไปอย่างเดียวครับ เพราะการที่คุณตั๊กลงโซเชียลอย่างนี้เป็นการหมิ่นประมาทคุณโรสอย่างร้ายแรงเลย เช่นใช้คำไม่เหมาะสม ถ้าท่านไปอ่านคงรู้ คือคุณโรสพยายามให้คุณตั๊กขอโทษทางสื่อ แต่ก็เงียบหายไป มันจำเป็นต้องใช้กฎหมายเข้ามา แล้วดูว่าคุณตั๊กคิดยังไง แต่ตอนนี้เหมือนเราโดนทำร้ายฝ่ายเดียว ก็ขอความยุติธรรมทางกฎหมายแค่นั้นเอง เราก็แจ้งข้อหาหมิ่นประมาท และความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ไม่ได้เรียกร้องอะไรครับ ดำเนินคดีตามกฎหมายครับ ซึ่งก็ยังไม่ได้รับการติดต่อ”

พร้อมกันนั้น ก็ได้ตอบคำถามของตั๊กที่ตั้งคำถามกับสังคมผ่านการโพสต์ข้อความในไอจีส่วนตัว ดังที่กล่าวมาข้างต้น ว่า ว่า

“แต่เขาลงไอจีว่าระหว่างคดีที่เขาหมิ่นประมาทเรากับคดีละเมิดอันไหนร้ายแรงกว่ากัน คือคดีเกี่ยวกับละเมิดเป็นความผิดทางแพ่ง หมายถึงว่าเขาจะเรียกร้องค่าเสียหายจากเรา แต่สิ่งที่เขาทำกับเราเป็นความผิดคดีอาญา เพราะหมิ่นประมาท และความผิดทางพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มีโทษร้ายแรง คือหมิ่นประมาทตามกฎหมายอาญา มันจะมีโทษไม่เกิน 2 ปี ส่วนความผิดพรบ.คอมพิวเตอร์นี่โทษไม่เกิน 5 ปีและเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ด้วย ตอนนี้ตำรวจเขารับเฉพาะหมิ่นประมาทไปก่อน ส่วนพรบ.คอมพิวเตอร์ เขาจะตรวจสอบให้ได้ก่อนว่าเป็นไอจีของคุณตั๊กจริง

ณ เวลานี้ ข้อความที่เขาลง เขาหมิ่น เขาพูดแรงมาก อย่างตอแ-ล คนชั้นต่ำ ซึ่งใครฟังก็รู้ว่าหมายความว่าอะไร แล้วคำว่าขายบริการ เขาไม่ควรใช้ คุณตั๊กก่อนเขาไปลงเขาต้องมั่นใจก่อนว่าคุณโรสยังไง แล้วเอาเขาไปวิจารณ์เสียหาย ส่วนภาพที่คุณตั๊กเอาไปลง ภาพนั้นพอดูก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย แต่คนไปคอมเมนต์ในนั้น ทำให้เกิดปัญหา แทนที่เขาจะไปเอาเรื่องคนคอมเมนต์หรือให้ความเห็น เขามาลงที่นี่ แล้วไม่ได้สอบถามคุณชาลีให้ดีก่อนว่าใครเป็นคนเอาไปลง รูปมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง อาจเกิดจากอะไรก็แล้วแต่ ผมก็มองว่าคุณตั๊ก แกก็แรงไปหน่อย”

ก่อนที่โรสจะเผยว่ารู้สึกผิดหวัง ที่เคยชื่นชมอีกฝ่ายว่าเป็นคนกตัญญู สู้ชีวิต

“โรสเคยชื่นชมเขาจริงค่ะพราะว่าโรสเป็นคนแรงอยู่แล้ว เวลาทำงานโรสทำงานพูดตรง พูดแรง ทำงานเด็ดขาด แล้วเหมือนคุณตั๊ก โรสก็ติดตามเขาอยู่ เขาก็เป็นคนสู้ชีวิต กตัญญู มีลูก เราก็ชื่นชอบเขาในจุดนั้น แต่ถามเรื่องนี้ยังโกรธไหม โกรธที่เขาด่า แต่ลึกๆ เขาเข้าใจผิดน่ะค่ะ แต่ในความเข้าใจผิดเขาไม่มีสปิริตในการออกมาขอโทษ”

ความรู้สึกต้องลบอยู่แล้วค่ะ ลบตรงที่ว่าคนทำผิดรู้จักขอโทษ อีกประเด็นหนึ่งที่เขาบอกว่าโรสด่าน้องข้าวหอม วันนั้นคุณตั๊กพูดคำหยาบคายมาปุ๊บ โรสก็บอกไปว่าจะไม่พูดอะไรกลับแล้วจะดำเนินคดีตามกฎหมาย และโรสก็แคปชั่นจริงๆ ว่าสงสารน้องข้าวหอม โอเคเป็นอารมณ์จริงๆ ของผู้หญิงที่เกิดขึ้นด้วย โรสไม่ได้ด่านะคะ โรสแค่พูดแค่นี้ว่าโรสสงสารน้องข้าวหอม เขาก็ไปเปิดประเด็นต่อว่าไม่ต้องมาสงสารลูกกู นั่นล่ะค่ะ ด้านความรู้สึกคงจบไปแล้วล่ะค่ะ มีเรื่องขนาดนี้”

จากนั้นก็ย้ำว่าถ้าตั๊กขอเจรจา ตนก็กล้าเผชิญหน้า ขึ้นอยู่กับอีกฝ่ายว่ากล้าเจอตนหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ต้องการค่าเสียหาย 10 ล้าน เพราะความเสียหายและความเสียใจของตนประเมินค่าไม่ได้

การที่โรสลุกขึ้นมาท้าชนขนาดนี้ นั่นก็เพราะต้องมั่นใจในหลักฐานที่ตัวเองมีอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าเธออาจจะไม่ได้เป็นคนโพสต์ และก็เป็นไปได้อีกเช่นกันว่า ทางชาลีเอง อาจจะส่งต่อรูปเหล่านั้นไปให้คนอื่นอีกหลายต่อหลายคนจริงๆ (ตามที่โรสให้การไว้) เพื่อโชว์บารมีในฐานะที่เป็นคนสนิทของเจ้าสัวบุญชัย และคนหนึ่งคนใดในจำนวนนั้น ก็เป็นคนโพสต์รูปเหล่านี้ อาจจะด้วยความคึกคะนองหรือเหตุผลใดก็ตามแต่ ซึ่งการจะสืบหาต้นตอก็ทำได้ไม่ยากเลย และถ้าหากพิสูจน์ได้ว่า โรสไมได้เป็นผู้ปล่อยภาพดังกล่าวจริง คราวนี้ตั๊กเองนั่นแหละ ที่จะต้องเป็นฝ่ายกุมขมับ เมื่อต้องเป็นสถานะจากโจทก์มาเป็นจำเลยอย่างเต็มตัว ในคดีหมิ่นประมาท

ก็ต้องมาดูกันต่อว่า “อึ๋มผ่าซาก” อย่างตั๊ก-บงกช จะหาทางออกกับเรื่องนี้ยังไง แต่รับรองว่ายาวแน่นอน

ที่มานิตยสารASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 296 4 – 11 กรกฏาคม 2558