“ป๋อ ณัฐวุฒิ" ซึ้งชีวิตคู่ไม่ง่าย ยิ่งมีลูกยิ่งยาก รับต้องมีปรับกันตลอด แต่ปลื้ม “เอ๋ พรทิพย์” ใจเย็นขึ้น โวฟิตจัดอยากมีซิกแพก ปัดถ่ายเซ็กซี่ บอกแค่อยากมีสุขภาพดี รับใจห่อเหี่ยว ชาวเน็ตติงไม่เหมาะพระเอก"ทางผ่านกามเทพ"
เป็นอีกหนึ่งพระเอกตัวอย่างที่ตระเวนรับรางวัลเพื่อสังคมมาแล้วหลายเวที สำหรับ “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ที่ล่าสุดเพิ่งมารับรางวัล “ยอดมณีตรีมูรติ” ครั้งที่ 2/2558 รางวัลเกียรติยศอัญมณีแห่งรัก ณ โรงภาพยนตร์ Enigma The Shadow Screen siam paragon โดยป๋อเผยว่ารู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะการได้ทำดีทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ และดาราควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนและเยาวชน
“สำหรับรางวัลยอดมณีตรีมูรตินะครับ เป็นรางวัลสำหรับบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำความดีให้กับเยาวชนครับ ก็ต้องขอบคุณมากๆ เลยที่มอบรางวัลนี้ให้ครับ (ยิ้ม) แต่ผมก็คงบอกไม่ได้ว่าตัวเองดียังไงนะครับ คือผมก็เป็นคนธรรมดาเหมือนคนทั่วไปนี่แหละครับ แต่เราก็พยายามที่จะทำความดี คือเราก็อาจจะมาถึงจุดที่เราจะเลือกได้แล้วว่าอันนี้มันเป็นสิ่งที่จะดีหรือไม่ดี เราเลือกที่จะเดินมาในสายที่ว่าเป็นสิ่งที่ดี บางครั้งการทำความดีพวกนี้มันยากเหมือนกันนะ มันยากมากๆ แล้วมันไม่สนุกด้วย น่าเบื่อ แต่ว่ามันจะรู้สึกอบอุ่นในใจนะครับ มันรู้สึกเราได้ช่วยเหลือคนอื่น เรามีโอกาสได้เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ก็รู้สึกดี มันอบอุ่นในใจ (ยิ้ม)”
“ดาราก็คือคนของประชาชน ฉะนั้นตัวดาราเองก็จะไม่มีข้อกำหนดอะไรนอกไปจากคำว่าจิตใต้สำนึกของตัวเองน่ะครับ ว่าเราควรจะต้องทำตัวยังไง เราควรจะต้องเป็นคนดีในสังคม เราควรจะต้องเป็นแบบอย่างของประชาชน แบบอย่างของเยาวชน”
เผยดีใจแทน “เอ๋ พรทิพย์ สกิดใจ” ภรรยาที่ได้ทำรายการ “สมาคมเมียจ๋า” เพราะรู้สึกใจเย็นขึ้น
“ ผมก็เพิ่งรู้ว่าชีวิตคู่มันยากมาก และเวลาเรามีลูกขึ้นมามันยิ่งยากขึ้น ในแง่ที่ว่าเราจะทำยังไง เราจะเลี้ยงเด็กคนนี้ให้โตขึ้นมาแล้วเป็นคนดีในสังคม เราจะทำยังไงที่เราจะประคับประคองชีวิตคู่ของเราด้วยความรัก ทำให้ชีวิตคู่ของเราเป็นคู่ที่สดใสเหมือนตอนก่อนจะมีลูก มันยากครับ แต่เอ๋เขาก็ต้องเรียนรู้ไป และต้องบอกว่าโชคดีมากนะครับที่เอ๋มีโอกาสได้ทำรายการสมาคมเมียจ๋า มันมีเกล็ดเล็กเกล็ดน้อย มันมีข้อคิดทุกอย่าง และมันมีข้อแก้ไขให้ด้วยว่าเวลาเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมาเราควรจะทำยังไง สามารถให้เราเอามาปรับในการดำรงชีวิต แล้วเอ๋เขาก็ใช้ได้จริงๆ บางครั้งเอ๋เขาก็ได้ใช้เอามาปรับปรุง และบางครั้งก็มาบอกเราให้เราปรับปรุงด้วย”
“ผมก็รู้สึกว่าเขาดีขึ้น ผมว่าเขาอาจจะซุ่มนะ อย่างเมื่อก่อนเวลาเถียงกันก็จะต่างคนต่างเถียงเลย แต่หลังๆ ผมเห็นว่าเอ๋เริ่มเงียบ แล้วก็เดินหนีไปเลย ผมว่านี่จะต้องเป็นเคล็ดลับของรายการอีกอันหนึ่ง แต่แทนที่ผมจะหายนะ ผมโกรธกว่าเดิมอีก แล้วคนที่ทรมานคือผมคนเดียว เอ๋ก็ไปเล่นกับลูก ไปอ่านหนังสือ ทำโน่นทำนี่ เราก็จะเห็นว่าทำไมเขาไม่จมอยู่กับความทุกข์แบบเรานะ เราก็มาคิดว่าเราต้องก้าวผ่านตรงนั้นไป อารมณ์เราก็จะเย็นลง”
ปัดฟิตร่างกายเพื่อเตรียมปั้มลูกหรือถ่ายเซ็กซี่ บอกอายุมากขึ้น อยากมีสุขภาพที่ดี
“ตอนนี้ผมก็พยายามฟิตครับ ผมตามไอจีหนุ่มๆ เขาเห็นมีซิกแพ็กกัน ผมก็พยายามฟิตบ้าง (ยิ้ม) ทุกวันนี้ตอนเช้าจะต้องมีเทรนเนอร์มาที่บ้าน ซึ่งผมง่วงมาก (หัวเราะ) ทรมานมาก อยากจะเลิกจ้างเทรนเนอร์มาก แต่ที่ฟิตนี่ไม่ใช่เพราะจะมีถ่ายแบบอะไรหรอก แต่คนเรามันต้องดูแลตัวเอง เวลาอายุเริ่มเยอะมันก็ต้องดูแลตัวเอง แต่ตอนนี้ยังมีแพ็กเดียวอยู่นะ (ยิ้ม) คือผมเป็นคนใส่ใจสุขภาพอยู่เหมือนกันนะ อาจจะไม่ใช่คนมีซิกแพ็ก แต่ผมก็พยายามจะมีสุขภาพที่ดีเหมือนกับคนอื่น ก็ต้องหมั่นออกกำลังกาย ได้มากได้น้อยก็ไม่เป็นไร ขอให้เราออกกำลังกาย”
“เอ๋เขาก็เล่นครับ เขาเริ่มสนใจ เพราะ 8.30 น. ก็จะมีเทรนเนอร์มาที่บ้านล่ะ พอเอ๋เห็นเขาก็เลยบอกว่าเขาจะเอาครูสอนโยคะมาบ้าง เขาก็จะออกกำลังกายไปพร้อมๆ กับเรา มันก็ดีครับ เพราะลูกก็จะได้เห็นว่าการออกกำลังกายมันเป็นสิ่งที่ดี เด็กก็จะรู้สึกสนุกไปด้วย ตัวเราก็สุขภาพดีด้วย เตรียมฟิตเพื่อลูกคนที่สองเหรอ จริงๆ มันก็ไม่ใช่ประเด็นหรอก (หัวเราะ) ก็มีคนถามเยอะครับ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เร่งรัดอะไร แต่ก็อยากมีแหละ รอให้บ้านเสร็จก่อนก็น่าจะมี แต่ตอนนี้ยังไม่อยากเร่ง ไม่อยากกดดัน เอ๋เขาพร้อมอยู่แล้วล่ะ แต่เราก็ไม่อยากกดดัน ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า”
รับเสียกำลังใจโดนวิจารณ์เล่น “ทางผ่านกามเทพ” คู่ “พรีม รณิดา เตชสิทธิ์”
“จริงๆ แล้วต้องบอกว่า 100% ของคนทำงานน่ะเขามุ่งมั่นเต็มที่นะ ไม่มีใครหรอกที่เขาจะมาเล่นละครเพื่อมาเอาเงินอย่างเดียว เพราะละครมันจะต้องถูกคิดถูกสร้างสรรค์โดยตัวเขา มันออนแอร์ทั่วประเทศ งานระดับประเทศแน่นอนว่าไม่มีใครหรอกที่มาแค่เล่นๆ ไป ฉะนั้นกำลังใจตอนที่มันยังไม่มีอะไรมันจะพองโตมากเลยนะ แต่พอมันมีคำวิจารณ์ขึ้นมาบางทีมันก็เหลือแค่ 80 นะ หรือบางทีเหลือ 50 ฉะนั้นผมก็ขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์ ก็คงจะไปพูดว่าอย่าวิจารณ์เลยก็ไม่ได้ แต่ก็คงต้องบอกว่าจิตใจก็ห่อเหี่ยว แต่เราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ตอนนี้จาก 50 ผมก็พองมา 150 แล้ว (ยิ้ม) เพราะได้พี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) บอกมาว่าเดี๋ยววันออนแอร์เจอกัน (ยิ้ม) ได้รุ่นใหญ่แนะนำมาแล้ว”
“ต้องบอกว่าเรื่องนี้ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของผมอีกหนึ่งเรื่อง ผู้กำกับก็บอกว่าอยากให้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน น้องพรีมก็ต้องสอนผม ผมก็ต้องสอนน้องพรีม ต่างคนก็ต้องต่างเรียนซึ่งกันและกัน เพราะผมไม่มีทางเข้าใจวิธีคิดของน้องพรีมหรอก และน้องพรีมก็ไม่มีทางเข้าใจความคิดของผมเหมือนกัน ฉะนั้นมันสนุกตรงที่เอาสองคนมาบดขยี้บี้รวมกันเพื่อเป็นตัวละครตัวนี้ และต้องบอกว่ามันน่าสนุกมากเลยนะ เพราะผู้กำกับก็ไม่เคยร่วมงานกัน นักแสดงเกือบทั้งหมดก็ไม่เคยเจอกันเลย ผมเคยเจอแค่ไม่กี่คนเท่านั้นเอง เราสนุกที่ได้เจอวิกกี้ (สุนิสา หิรัญยัษฐิติ) ได้เจออาหนิง (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ได้เจอพี่หนุ่ม (สันติสุข พรหมศิริ)”
“เราก็ต้องเรียนตามตรงว่าเวอร์ชั่นเก่าเขาก็ทำได้ดีอยู่แล้ว ซึ่งพวกเราก็ชื่นชม แต่เวอร์ชั่นนี้มันเป็นของผมแล้วน่ะครับ เพราะฉะนั้นผมก็ต้องทำให้ดีที่สุด แต่ที่บอกว่าผมจะเป็นป๋าดันให้น้องพรีมน่ะ ผมว่าพรีมนี่แหละจะเป็นป๋าดันป๋อ (หัวเราะ) คือด้วยความน่ารักสดใสของพรีม คุณจะรู้ว่าพรีมเป็นเด็กมีของนะ และบทเรื่องนี้ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้พรีมได้แสดงความสามารถของตัวเองได้มากกว่าเดิม คือเรื่องอื่นก็ดีนะครับ แต่เรื่องนี้เขาก็จะได้มีคาแรกเตอร์ใหม่ๆ เราจะได้เห็นหน้าหวานๆ แต่มีแววตาที่แข็งกระด้างหรือแววตาที่เขาสู้คน ก็อาจจะเป็นภาพใหม่ๆ ที่เราไม่เคยเห็นก็ได้ ฝากเป็นกำลังใจให้กับน้องพรีมและน้องป๋อด้วยแล้วกันครับ (ยิ้ม)”