ครั้งแรกในประวัติศาสตร์การรวมตัวกันบนเวทีคอนเสิร์ต ของวงดนตรีร็อคระดับประเทศที่มันส์ที่สุด ใน Paradise Fest 2015 สวรรค์ของคนพันธุ์ร็อค พบกับศิลปิน Ebola, Sweet Mullet,Retrospect, Lomosonic, Brand New Sunset, Mad Pack it, Kluay Thai และ Phongfod ในวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2558 ที่ JJ Mall จตุจักร ตั้งแต่เวลา 15.00 - 24.00 น.
วันนี้ทางทีมข่าว "Super บันเทิง" ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับทางผู้จัดงาน Paradise Fest ซึ่ง "คุณออตโต้" ก็ได้ออกมาเผยที่มาที่ไปของงาน Paradise Fest 2015 สวรรค์ของคนพันธุ์ร็อคว่า เป็นโปรเจคที่นำศิลปินวงร็อคที่หายไปนานกว่า 10 ปี กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง พร้อมทั้งยังบอกถึงความพิเศษของงานนี้ว่า ไม่ใช่เพียงแค่การมาดูคอนเสิร์ตเพียงอย่างเดียว แต่มันคือการแสดงพลังของชาวร็อคที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
"ที่มาที่ไปคือทางพวกเราเองเนี่ย เราก็เติมโตมากับบทเพลงของวงอีโบล่า, เรทโทรสเปค, สวีทมัลเล็ท, แมท แพท อิท และก็ยังมีวงรุ่นใหม่ที่ถือว่าเป็นวงที่ทรงอิทธิพล ซึ่งปัจจุบันก็วงคือ LOMOSONIC แล้วก็ยังมี กล้วยไท คือวงเหล่านี้เราทราบว่าตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา วงเหล่านี้เป็นวงที่ทรงอิทธิพล กับทั้งเด็กรุ่นใหม่ แล้วเราก็มองว่าทำไมถึงไม่มีผู้จัดโปรโมเตอร์เจ้าไหนที่นำพาศิลปินเหล่านี้มารวมกัน เพื่อที่จะแสดงพลังให้เห็นความเป็นร็อค"
"(เพราะเป็นวงร็อคด้วยไหมถึงไม่มีใครสนใจ) ใช่ อันนี้เราก็ไม่ทราบ แต่ถ้าถามเราก็ท้าวความอย่าง เรทโทรสเปค, สวีทมัลเล็ท อย่างนี้เล่นตั้งแต่สมัยสีลมปิดถนนครั้งแรกคนดูร้อยสองร้อยคน แล้วแบบ แมท แพท อิท คนจากอุตรดิตถ์ขึ้นรถไฟมาอยู่ค่ายอินดี้คาเฟ่ เราก็เห็นเรื่องราวมานาน แล้วแต่ละวงที่เราได้นำพาเขาเรียกว่าเป็นวงที่ไม่ปกติ มันกว่าจะมาถึงวันนี้มันไม่ง่าย มันยากมากเลยนะ มันยากมากกับการที่เราต้องต่อสู้ในเรื่องของความเป็นจริง ณ ปัจจุบัน ต่อสู้เรื่องของครอบครัว ต่อสู่เรื่องของสภาวะทางเศรษฐกิจ ปากท้องตัวเอง แล้วไหนจะต้องนำพาเรื่องอุดมการณ์เพื่อไม่ให้มันเปลี่ยนแปลง เราก็มองว่ามันน่าถึงเวลาแล้วนะที่จะนำวงที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเรามาทำอะไรร่วมกัน มาอยู่ในงานๆ เดียวกัน เพื่อที่จะให้น้องๆ รุ่นใหม่ๆ ได้เห็นแล้วก็จะได้เอาแนวความคิด ได้นำประสบการณ์นำไปต่อยอดต่อ คือมันไม่ใช่คอนเสิร์ตแบบปกติครับ คือคนที่มาจะได้คำพูดของคนบนเวที แล้วหลายวงเขาจะพูดอะไรหลายๆ อย่างที่เขาไม่เคยพูดบนเวทีอื่น"
บอกคอนเสิร์ตนี้ใช้เวลาคิดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เผยที่ทำเพราะอยากตรอกย้ำในความเป็นร็อคในเมืองไทย
"คือโปรเจคคอนเสิร์ตนี้เราคิดมาตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และเราก็เก็บมันไว้รอจังหวะที่เรารู้สึกว่าเราพร้อม แล้วเราก็ถามว่ามันถึงเวลาแล้วล่ะ เราจึงได้หยิบเอาโปรเจคนี้ออกมา เพื่อที่จะต่อยอดให้เป็นการตรอกย้ำให้รู้ว่าดนตรีร็อคในเมืองไทยยังมีอยู่นะ แต่คุณจะฟัง เร็กเก้ สกา ร็อค ฮิบฮอบ จะฟังอะไร ผมเชื่อว่าทุกคนที่ฟังในแต่ละแนว ผมเชื่อว่าที่บ้านคุณบางช่วงเวลาก็เปิดเพลงร็อคฟัง ผมเชื่อว่าทุกคนมีหัวใจเป็นร็อคอยู่แล้วล่ะ แต่โอเคจะตลอด 360 วันทั้งปีหรือเปล่าเราตอบไม่ได้ แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนนะทุกคนต้องมีเพลงร็อค อย่างน้อยสมัยก่อนก็ต้องมีวง "หิน เหล็ก ไฟ"
"จริงๆ วันนั้นเราได้เชิญพี่โป่งมาด้วยนะ แต่วันนั้นพอดีพี่โป่งติดภาระกิจ ผมว่าจะนำมาเซอร์ไพร์ด้วย แต่ถ้าว่าอีกวงหนึ่งอย่างกล้อวยไท 12 ปีกับการเดินทางของกล้อวยไท คำว่า Banana เราก็อยากเอามาเชิดชู แม้ว่าใครไม่เห็น แต่ทีมงานของ Paradise เราเห็นคุณค่า ซึ่งเราไม่ได้มองว่างานนี้มันเป็นเรื่องของผลกำไร เรื่องของเงิน เราขอแค่งานนี้ไม่ขาดทุนเราโอเคแล้ว และเราก็ไม่ได้สนว่า มันจะเกิดอะไร แต่เราสนว่าสิ่งที่เราทำมันได้ตรอกย้ำไหมถึงความเป็นร็อคในเมืองไทย มันถูกไหมเรื่องราวที่ส่งมาผ่านต่อจนถึงปัจจุบัน แล้วเราก็จะส่งมันผ่านต่อไปกับวงรุ่นใหม่ๆ"
จริงหรือไม่ วงร็อคเมืองไทยไม่ได้รับความสำคัญเท่ากับวงร็อคต่างประเทศ
"จริงๆ มันก็ต้องเอาแบบเบสิคอ่ะนะ คนส่วนใหญ่อยากมาคอนเสิร์ตตามงานเทคกาลดนตรี เขาอยากมาฟังเพลงที่เขาร้องได้ มันเรื่องปกติ ถ้าเราจะทำเพลงร็อคถ้าเอาคนแบบกลุ่มใหญ่ใช่ไหม เราก็ทำเพลงร็อคในแนวทางของแต่ละวงให้คนได้ร้อง ได้จดจำให้ได้เยอะที่สุด มันมีอยู่แค่นี้เอง อย่างสมมุติระหว่างสองเทศกาลดนตรี คือเทศกาลหนึ่งมีวงดัง 10 วง กับอีกเทศกาลมีวงดัง 2 วง คุณจะเลือกไปเทศกาลไหนมากกว่ากัน เพราะคนเขาก็ต้องการความสุขมากที่สุด คนส่วนใหญ่ก็ต้องการไปฟังเพลงที่ตัวเองร้องได้มากที่สุด ซึ่งตรงนี้เรามองว่ามันเป็นเรื่องปกติ ทุกคนก็ต้องการอะไรที่มันมีความสุข"
ลั่นความพิเศษในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ถ้าพลาดจะหาที่ไหนดูไม่ได้อีกแล้ว
"ดนตรีต้องคู่กับแฟชั่น งานนี้ก็จะมีเสื้อผ้าของศิลปินที่ทำออกมาจัดจำหน่าย แล้วของที่ระลึกต่างๆ มีแน่นอน (ความพิเศษภายในงาน) คือแตกละวงจะงัดบทเพลงที่แบบคุณหาฟังจากที่อื่นไม่ได้ อย่างวงแมท แพท อิท หายไป 10 ปี แล้วนี้ก็คือเวทีใหญ่ที่สุดที่กลับมาเล่น อันนี้ก็ถือว่าเป็นความพิเศษของงานนี้ให้มาชมวงที่หายไปนาน หรืองานนี้พอเศษก็คือเราเปิดโอกาสให้วงรุ่นใหม่เปิดออดิชั่น ซึ่งตอนนี้เราก็ได้สองวง โฮมเลส กับ โพม่า มาเล่นเปิดงาน ซึ่งอันนี้มันก็เป็นหนึ่งความพิเศษให้กับศิลปินรุ่นใหม่ๆ ให้มาร่วมเล่นกับรุ่นพี่ด้วย"
เผยถ้ากระแสตอบรับดี ก็อยากจัดให้เป็นเทศกาลของชาวร็อคในวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมีนาคมของทุกปี
"ครั้งนี้หรอ เราคิดว่าครั้งนี้มันเป็นครั้งแรกนะ ก็ถือว่าเป็นการทดลองจัดแล้วกัน เราอยากรู้ ถามว่าเราตั้งใจอยากให้จัดทุกๆ ปีแบบนี้ ก็อยากจัด (คืออยากให้เป็นเหมือนเทศกาลบิ๊กเมาเท่น) ก็คงไม่ได้อยากให้ใหญ่เหมือนขนาดนั้นครับ แต่ก็คืออยากให้เป็นเทศกาลทุกปีที่ทุกคนใส่เสื้อดำมาพร้อมกัน ทุกคนมาเจอกัน ทุกคนมาโยกหัวกัน ทุกคนมาโชว์สัญญาลักษณ์ร็อคกัน ทุกคนมาสามมัคคีกัน เพราะงานร็อคสายแบบที่เรากำลังทำมันเป็นสายแข็ง คือถ้าถามว่าความหนักของผมเอง มันไม่ได้หมายถึงแค่ร้องว้าก หมายถึงพลังงานข้างในซึ่งผมอธิบายไม่ได้"
"ผมมองว่าความหนักของผมมันคือการถ่ายทอดอารมย์จากผู้ที่อยู่โดยตัวศิลปินถ่ายทอดมาถึงคนดู ผมให้ความสำคัญตรงนั้น เป็นอีกหนึ่งประเด็น ปีหน้าอาจจะมีวงฟลัวก็ได้ ซึ่งวงฟลัวเวลาแสดงถือว่าเดือด แต่ความเป็น Paradise ของผม มันคือสวรรค์ของคนพันธ์ร็อค เพราะว่าส่วนใหญ่พอบอกเป็นงานร็อคๆ มันก็จะนึกถึงรูปหัวกระโหลกอะไรแบบนี้ ซึ่งมันก็สวยงาม แต่รู้คิดอีกมุมหนึ่งอยากให้มันเป็นแบบสว่าง เราอยากเป็นอีกหนึ่งแนวคิดว่าบนสวรรค์คนเขาก็อยู่ได้ ไม่ใช่แค่สีแดงๆ เดือดๆ จริงๆ เดือดไม่เดือดมันขึ้นอยู่ที่เรา บางคนไปดูอาจจจะยืนนิ่งๆ ก็ได้ซึ่งผมก็ไม่ได้ซีเรียสนะ เพราะเขาอาจจะมีความสุขแบบนั้น หรือบางคนอาจจะวิ่งกัน อันนี้ผมถึงบอกว่ามันคือสวรรค์ของพวกเราจริงๆ"
"อนาคตมีต่อไปครับ จริงๆ เราอาจจะบอกวันไปเลยก็ได้คือเสาร์ที่สองของมีนาคมของทุกปีจะเจอกันในงาน Paradise แล้วอาจจะประกาศไปเลยว่าเจอศิลปินคนไหนบ้าง แบบจองบัตรกันไปเลย ซึ่งจริงๆวงร็อคในเมืองไทยมีอยู่เยอะ ซึ่งเราก็พยายามพลักดันให้วงเล่านี้ได้มีพื้นที่ ที่ชัดๆ สักปีละครั้ง ให้มันอยู่ในที่ที่เด๊ยวกัน บรรยากาศเดียวกัน คนดูไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งก็ปราถนานะว่าปีหน้าอาจจะมรวงจากญี่ปุ่นมาเล่น อาจจะมีวงจากต่างปีะเทศเข้ามาร่วม แต่ถามว่าสำหรับเราดนตรีมันไม่แบ่งแยกอยู่แล้ว แต่ปีนี้เราของทำคนไทย เราอยากภูมิใจในความเป็นไทยของเราให้ได้มากที่สุด โอเคเราเล่นดนตรีร็อคซึ่งมันเป็นวัฒนธรรมของต่างประเทศ แต่คนไทยเล่นแล้วคุณลองมาดูว่าฝีมือคนไทยเป็นอย่างไร"
ขอบคุณผู้ใหญ่ที่เปิดโอกาสในการจัดงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ ลั่นติดสัญญาในค่าย แต่ไร้ปัญหา เพราะเรามีเจตนาดี และทำทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
"เราเชื่ออย่างหนึ่งว่าเรามีเจตนาที่ดี เราก็ทำทุกอย่างถูกต้อง ทำจดหมายเวียนทุกที่ก็ยอมรับ นี่ก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์นะ ต้องขอบคุณทางจิมมี่ด้วย ต้นสังกัดโลโมโซนิก ของสมอลล์รูม ขอบคุณพี่รุ่ง ขอบคุณวอร์เนอร์ มิวสิค คือพี่บอย กับพี่บี ขอบคุณบานนาน่า พี่ต้อย กล้วยไท ขอบคุณแมท แพท อิท ที่กลับมาเล่น มาจากอุตรดิตถ์ที่กลับมาเล่นในครั้งนี้ ก็ถามว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่มันเป็นความพิเศษจริงๆ นะ ที่แบบว่าต่างค่ายต่างที่กันแล้วทางผู้ใหญ่ก็เปิดโอกาสให้มารวมกันมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ทราบ เพราะเราก็ไม่ใช่ผู้จัดเจ้าใหญ่ เราเป็นเจ้าเล็กๆ ก็ต้องขอบคุณที่ให้เราได้มีโอกาสได้จัด ได้ปล่อยศิลปินมา"
"คือปกติเลย เราเดินไปเลย ถามว่ารู้จักไหม เราก็เคยเจอหน้าเจอตากันหมดทุกวง แต่เราก็ทำจดหมายติดต่อไปปกติ เขาก็ตอบรับทุกที่ก็อนุญาติ เพราะตอนแรกก็แอบลุ้นนะ เพราะขั้นตอนมันก็เยอะขึ้น ซึ่งเอาตรงๆ ผมก็อธิษฐานจิตว่าขอให้มันผ่านไปได้ด้วยดี แล้วมีนก็ผ่านไปได้ด้วยดีจริงๆ เหมือนสวรรค์มาตาพาราไดซ์จริงๆ ครับ (หัวเราะ)"
ฝากถึงคอนเสิร์ตครั้งนี้
"ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่าอยากให้มานะ คืออยากให้มาแสดงพลังกัน คืออยากให้ทุกคนแต่งตัวกันเต็มที่มาเลย อยากให้ออกจากบ้านอย่างมีความสุข แล้วมารวมพลังกัน เพราะอย่างที่เราทราบดนตรีสายร็อคที่เป็นร็อคจริงๆ แบบนี้ที่เราทำทางนี้เรายังไม่มีที่มันเกิดขึ้นในประเทศ แล้วที่สำคัญก็คือ เราจะได้รู้ว่าเรามีกันกี่พันคน เราจะได้รู้ว่าเราจะเดินต่อกันไปแบบไหน ซึ่งผมเชื่อว่ามากันเยอะนะ ศิลปินเขาจะได้มีกำลังใจ ผมต้องการแค่นั้นเอง สิ่งที่เราต้องการคือให้ศิลปินมีกำลังใจในการที่จะทำงานต่อ คือเพลงกว่าจะออกมาได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายไง ถ้ามันไม่ได้รู้สึกจริงๆ มันก็ออกมาไม่ได้"
แนะอยากให้คนที่ไม่สนใจเพลงร็อคลองเปิดใจดู เพราะอย่างน้อยเพลงร็อคไทยก็ไม่ได้น้อยหน้าต่างชาติอย่างแน่นอน
ถ้าใครเป็นสาวกของแนวเพลงร็อคอยู่แล้ว ก็อยากให้ฟังกันต่อไปเยอะๆ ถ้าลุกขึ้นมาทำเพลงได้ก็ควรลุกขึ้นมาทำเพลง ส่วนคนที่ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง ก็ลองมาดูงานนี้มาเที่ยวงานนี้ดู ส่วนคนที่ไม่เคยฟังเพลงร็อคเลย ฟังแนวเพลงอื่นก็ลองเปิดใจมาดู เผื่อคุณจะได้อะไรบางอย่างกลับไป อย่างน้อยเราก็เป็นคนไทยเหมือนกัน เราก็มาสนับสนุนกัน เราเชื่อว่าร็อคไทยก็ไม่น้อยหน้าต่างชาติแน่นอน เราเชื่อว่าวันที่ 14 มีนาคม ที่จะมีงานพาราไดซ์ที่จะเกิดขึ้นความเป็นร็อคมันจะพุ่งพลานขนาดไหน