นักแสดงเจ้าของบท “สป็อค” ในไซไฟชุด Star Trek ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ขณะที่มีอายุได้ 83 ปี ที่บ้านในลอสแอนเจลิส เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น
เลนเนิร์ด นีมอย ไม่ได้โดดเด่นแค่ด้านงานแสดงเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้กำกับ, นักเขียน และช่างภาพที่มีผลงานมากมายด้วย อย่างไรก็ตามงานที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากที่สุด ก็คือการสวมบท “สป็อค” ลูกครึ่งมนุษย์โลก และชาววัลแคน ลูกเรือยานอวกาศเอนเตอร์ไพรซ์ แห่งซีรีส์ และภาพยนตร์ชุด Star Trek ทั้งในซีรีส์ต้นฉบับ และอีกหลายภาค จนแทบจะไม่สามารถลบภาพ “สป็อค” ออกจากตัวเองได้เลย
ภาพของ สป็อค กับ นีมอย ทับซ้อนเป็นคนคนเดียวกันทันทีที่ ผู้อำนวยการสร้างชื่อดัง จีน ร็อดเดนเบอร์รี ยื่นข้อเสนอบทนี้ให้กับเขาในปี 1965 จน นีมอย ได้สวมบทนี้เป็นครั้งแรกในซีรีส์ Star Trek ตอน The Cage ซึ่งเป็นตอนลองสร้างชิมลางให้ผู้บริหาร NBC ได้ลองชมก่อน แต่แล้วทาง NBC กลับมองว่าซีรีส์มีเนื้อหา “ฉลาด” เกินไป จึงออกคำสั่งให้มีการแก้บท และเปลี่ยนตัวนักแสดง จนมีการเปลี่ยนตัวดาราในซีรีส์ทั้งหมด มีเพียง นีมอย เท่านั้นที่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนตัว
สุดท้ายแม้ Star Trek ได้ออกอากาศอยู่แค่ 3 ฤดูกาลเท่านั้น ก่อนทาง NBC จะตัดสินใจยกเลิกการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ไป เพราะเรตติ้งไม่ค่อยดี แต่ Star Trek กลับประสบความสำเร็จขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถูกนำกลับมาออกอากาศใหม่ จนสร้างกลุ่มสาวกเดนตายขึ้นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในนามของกลุ่ม “Trekkers” หรือ “Trekkies” นั่นเอง
ความนิยมในซีรีส์ Star Trek ยังทำให้ จีน ร็อดเดนเบอร์รี ตัดสินใจหยิบเรื่องราวชุดนี้มาต่อยอดสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 1979 ภายใต้ชื่อ Star Trek: The Motion Picture ซึ่งแม้คำวิจารณ์จะไม่ค่อยสวย ก็ทำรายได้ดี จนมีการสร้างภาคต่อออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงยุค 90 ได้แก่ The Wrath of Khan (1982), The Search for Spock (1984), The Voyage Home (1986), The Final Frontier (1989) และ The Undiscovered Country (1991) ซึ่ง นีมอย ก็มีส่วนร่วมรับบทเด่นอยู่ในหนังทุกภาค ยกเว้นก็แต่ The Search for Spock ซึ่งตัวละคร “สป็อค” ปรากฏตัวออกมาจริงๆ เพียงไม่กี่ฉากเท่านั้น
หลังจากนั้น นีมอย ยังมีโอกาสกลับมารับบทเป็น สป็อค อยู่เป็นระยะ ทั้งในซีรีรีส์ชุด Star Trek: The Next Generation, วิดีโอเกมส์ และล่าสุดในหนัง Star Trek ฉบับใหม่ของ เจ.เจ. อับรามส์ ที่เขารับบทเป็น สป็อค ในวัยชรา ส่วน แซคคารี ควินโต รับบทตัวละครเดียวกันในวัยหนุ่ม
แม้จะทำให้เขามีเชื่อเสียงโด่งดังจนเข้าขั้นตำนานของวงการหนัง และโทรทัศน์สหรัฐฯ แต่ในเวลาเดียวกันชื่อของ นีมอย ก็ต้องถูกบดบังรัศมีจากบท สป็อค อย่างช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม นีมอย ได้เอ่ยปากยืนยันว่าเขาไม่เคยรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอะไรในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการเปิดใจในหนังสือ I Am Not Spock ที่ตีพิมพ์ออกมาเมื่อปี 1977 ที่แฟนๆ คิดว่าจะเป็นหนังสือที่ นีมอย เขียนออกมาเพื่อให้คนเลิกเรียกเขาว่า สป็อค เสียที แต่เขากลับเปิดใจว่าจริงๆ แล้วตน รู้สึกสนุกกับการเล่นบทนี้มาตลอด แต่เพียง อยากจะเล่าเรื่องชีวิตด้านอื่นๆ ของตัวเองด้วยเท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้น นีมอย ยังเขียนอัตชีวประวัติเล่มที่ 2 ออกมาในปี 1995 ในชื่อ I Am Spock ด้วย
เลนเนิร์ด ไซมอน นิมอย เกิดที่บอสตัน ในครอบครัวชาวยิวจากยูเครน และเริ่มสนใจการแสดงมาตั้งแต่เด็ก มีโอกาสเล่นละครเวทีเรื่อง Hansel and Gretel ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ก่อนจะออกจากบ้านเพื่อตามฝันเป็นนักแสดง จนได้รับบทนำเป็นครั้งแรกในหนังเรื่อง Kid Monk Baroni ในปี 1952
หลังรับใช้ชาติในกองทัพระหว่างปี 1953 – 1955 นีมอย ได้รับงานแสดงอย่างต่อเนื่อง อาทิซีรีส์เรื่อง Dragnet, Sea Hunt, Bonanza, Wagon Train, Rawhide, The Twilight Zone, The Untouchables, The Outer Limits, The Virginian, Get Smart และ Gunsmoke ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกจาก Star Trek โดยผลงานในระยะหลังของ นีมอย ก็คือ ซีรีส์ Fringe และบทรับเชิญในซีรีส์ The Big Bang Theory ที่เล่าเรื่องของกลุ่มเพื่อนผู้คลั่งไคล้ซีรีส์ Star Trek นั่นเอง
นอกจากนั้น นีมอย ยังถือว่าเป็นผู้กำกับที่มีผลงานน่าจดจำมากมาย โดยเฉพาะหนังตลกสุดฮิต Three Men and a Baby (1987) ก็เป็นผลงานของเขาด้วย อดีตนักศึกษา UCLA คนนี้ยังมีทั้งงานเขียนบทกวี, ออกผลงานเพลง และยังจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่ายของตัวเองด้วย
สำหรับด้านชีวิตส่วนตัว นีมอย เคยแต่งงาน 2 ครั้ง โดยเขา และ แซนดรา โซเบอร์ ได้หย่าขาดกันไปในปี 1987 ก่อนที่ในปี 1988 นีมอย จะแต่งงานกับ ซูซาน เบย์ ลูกพี่ลูกน้องของ ไมเคิล เบย์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ต่อมา นีมอย จะเคยมีโอกาสได้ร่วมให้เสียงพากย์เป็นตัวละครวายร้ายในหนัง Transformers: Dark Of The Moon ของ เบย์ ด้ว โดย นีมอย มีลูกสองคนจากภรรยาคนแรก และยังเป็นคุณปู่ที่มีหลานๆ หลายคนแล้ว
ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านที่สนใจในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง สรรสาระ เกร็ดความรู้ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้ และ ต้องรู้อีกมากมาย ติดตามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |