ถามว่าสัตว์หรือแมลง-แมงชนิดไหนที่เป็นที่รังเกียจของมนุษย์มากที่สุด เชื่อว่า 1 ใน 10 ของคำตอบจะต้องมี "แมลงสาบ" รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็คงจะเป็นเพราะรูปร่างรวมถึงคุณลักษณะของที่มันได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสกปรกโสมมและพาหะของเชื้อโรคหลากหลายชนิดนั่นเอง
ผมเคยมีเรื่องที่นึกขึ้นมาทีไรก็สยองขนลุกทุกครั้งเกี่ยวกับแมลงสาบอยู่ 2 เหตุการณ์
ครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในหอพักระหว่างเป็นนักศึกษา คืนหนึ่งระหว่างที่กำลังจะเคลิ้มๆ หลับ พลันก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีตัวอะไรมาแทะๆ อยู่ที่ติ่งหู จิ๊กๆๆๆ
สักพักก็มีความรู้สึกว่ามีตัวอะไรปีนป่ายไต่ขึ้นมายังหน้าอกที่เปล่าเปลือย
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความงัวเงีย หรือเพราะความสิ้นคิด ไม่ทันคิด คิดไม่ถึง ที่ทำให้สมองสั่งมือขวาตวัดตบลงมายังเจ้าตัวที่ยุกๆ ยิกๆ จนบังเกิดเสียงดังปริ้ด!
พร้อมๆ กันนั้นมือผมก็สัมผัสได้ถึงเมือกลื่นๆ กับกลิ่นที่ไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาอธิบายที่ทำให้รู้สึกว่าแทบอ้วก!
เปิดไฟดูเห็นเจ้า "ปีเตอร์" ซึ่งไม่ทราบว่าจะเป็นตัวเดียวกับที่ชอบฝากรอยแทะเล็กๆ ไว้บนก้อนสบู่ในห้องน้ำหรือไม่นอนบี้แบนอย่างสยดสยองอยู่บนหน้าอก แต่ถึงกระนั้นหนวดของมันก็ยังส่ายดุ๊กดิ๊กไปมา
ถึงวันนี้ทั้งภาพ ความรู้สึก และกลิ่น ณ คืนนั้นก็ยังเป็นอะไรที่จำได้ไม่เคยลืมเลือน
ออกตัวก่อนนะครับว่าจริงๆ ผมกับเพื่อนร่วมห้องถึงจะไม่ได้สะอาดเข้าขั้นเจ้าสำอางแต่ก็ไม่ใช่คนสกปรกอะไรมากมาย เพียงแต่เพราะห้องเช่านั้นอยู่ชั้นล่างสุดติดกับพื้นดิน แถมข้างห้องยังเป็นร้านขายข้าวแกงก็เลยมีเจ้าปีเตอร์มาเยี่ยมเยือนที่ห้องอยู่บ่อยๆ
อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ร้านข้าวริมทางในคืนวันฝนตก
ระหว่างนั่งทานข้าวอยู่นอกจากจะได้ยินเสียงเม็ดฝนหล่นกระทบผ้ายางดังเปาะแปะๆ พลันก็หูก็ได้ยินเสียงดังแว่วแซ่กๆๆ มาจากที่พื้น
ก้มมองลงไป ใกล้ๆ กับขาโต๊ะเห็นถุงพลาสติกอุดลงไปที่รูๆ หนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นรูที่เจาะให้น้ำลงไปยังท่อระบายน้ำด้านล่าง พอตั้งใจเงี่ยหูฟังดีๆ ก็พบว่าเสียงแซ่กๆๆ ที่ว่ามาจากใต้พื้นตรงที่ถุงพลาสติกมันอุดอยู่นั่นเอง
ระหว่างกำลังสงสัยอยู่ว่าต้นตอมันคืออะไร เสียงแซ่กๆๆๆ ก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ และใกล้รูมากขึ้นๆ ทันทีทันใดเจ้าถุงพลาสติกที่อุดรูอยู่ก็หลุดผัวะออกมา พร้อมๆ กับกองทัพปีเตอร์ที่พากันพุ่งพรวดออกมาชนิดที่ต้องใช้คำว่าพรั่งพรูก่อนวิ่งกันให้พล่าน
งานนี้บอกได้คำเดียวครับว่ากระเจิง ร้องกรี๊ดแทบไม่ทัน
...
ด้วยคุณสมบัติของการเป็นแมลงที่น่ารังเกียจ สามารถปรับตัวได้กับทุกสภาพแวดล้อม อยู่ได้ทุกสภาวะ กินทุกอย่างเป็นอาหาร ไม่กลัวแม้กระทั่งนิวเคลียร์ แกร่งอึดชนิดหัวขาดก็ยังไม่ตาย ฯ ตรงนี้นี่เองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ "เคนอิจิ ทาจิบานะ" กับ "ยู ซาซึกะ" สองนักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่นได้หยิบเอาเจ้าแมลงสาบมาเป็นตัวเด่นในการ์ตูนแอ็กชันไซไฟของพวกเขาที่มีชื่อ Terra Formars (ภารกิจล้างพันธุ์นรก)
เนื้อหาของการ์ตูนเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวหลังจากมนุษย์ได้คิดวางแผนที่จะไปอาศัยอยู่บนดาวอังคาร จึงเริ่มนำเอา "มอส" และ "แมลงสาบ" ไปปล่อยไว้ที่นั่นเพราะเชื่อว่าด้วยคุณสมบัติของทั้งสองสิ่งนี้จะสามารถปรับสภาพบนดาวอังคารให้คล้ายกับโลกจนสิ่งมีชีวิตสามารถไปอาศัยอยู่ได้
ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี แต่ทว่ามนุษย์เองกลับไม่ได้คาดเดาถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นตามกฏพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตในการปรับตัวหรือกลายพันธุ์เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มันอาศัยอยู่
โดยเฉพาะกับความสามารถของเจ้าแมลงชนิดนี้ที่ถือกำเนิดมาบนโลกราว 250 ล้านปีมาแล้วซึ่งยาวนานกว่ามนุษย์หลายเท่านัก
เมื่อโครงการปรับเปลี่ยนสภาพดาวอังคารเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย มองจากภายนอกพบพื้นที่สีเขียวเต็มไปทั้งดวงดาว ในปีค.ศ.2599 ยาน "บั๊กส์ 2" พร้อมด้วย 15 ลูกเรือจากนานาประเทศได้ถูกส่งไปยังดาวอังคารเพื่อปฏิบัติภารกิจบางอย่างภายหลังจากที่ "บั๊กส์" หมายเลข 1 ซึ่งถูกส่งไปก่อนหน้านี้ถูกคาดเดาว่าสมาชิกจะเสียชีวิตทั้งหมด
ในครั้งนี้สมาชิกของยานบั๊กส์ 2 ที่ส่วนใหญ่คัดเลือกมาจากคนที่สิ้นหวังในชีวิต? ต่างก็ได้รับการตัดแต่งปรับเปลี่ยนสภาพร่างกายด้วยการใส่ดีเอ็นเอแมลงชนิดต่างๆ เข้าไป จุดมุ่งหมายก็เพื่อจะใช้คุณสมบัติเหล่านี้ในการ "รับมือ" กับสิ่งที่คาดว่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ภาระกิจของสมาชิกยานบั๊กส์หมายเลข 1 ล้มเหลว ซึ่งนั่นก็คือเหล่าบรรดาแมลงสาบที่ถูกนำมาปล่อยเพื่อการปรับสภาพก่อนหน้านี้นั่นเอง
และทั้งหมดก็คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ ที่นิยามได้คำเดียวว่าโคตรมัน
"เมื่อได้เผชิญกับสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน มนุษย์ก็ไม่อาจจะเป็นตัวของตัวเองได้อีกต่อไป" เป็นข้อความที่อยู่บนปกหลังของหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าผมคงเป็นหนึ่งในคนที่มีอาการเช่นนี้อย่างแน่นอน หากวันนึงต้องตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าแมลงที่ตนเองเห็นแล้วรู้สึกอี๋ได้เพิ่มความสยดสยองเข้าไปด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพตนเองจนเดินด้วย 2 ขา กล้ามเนื้อที่แข็งแรง แถมยังมีร่างกายและสติปัญญาที่นับวันจะยิ่งพัฒนาการสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ที่สำคัญก็คือดูเหมือนมันจะจับความรู้สึกได้เสียด้วยว่ามนุษย์นั้นรังเกียจพวกมันขนาดไหน
ความสนุกของ Terra Formars นั้นนอกจากจะได้ลุ้นไปกับความซับซ้อนของการเล่าเรื่อง ฉากการต่อสู้ที่ทั้งสุดโหดแต่ก็เต็มไปด้วยปฏิภานไหวพริบแล้ว เหนืออื่นใดก็คือการ์ตูนเรื่องนี้เป็นอะไรที่เดาไม่ออกเลยจริงๆ
ย้ำครับว่าคาดเดาอะไรไม่ได้แม้กระทั่งช่องต่อไปที่จะอ่าน หน้าต่อไปที่จะเปิดดู
การ์ตูนเรื่องนี้เริ่มตีพิมพ์นปี 2011 ถึงตอนนี้ได้รับความนิยมเอามากๆ ซึ่งก่อนที่เล่ม 12 จะออกมาวางขายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 19 ก.พ. นี้ปรากกฏว่า 11 เล่มแรกของ Terra Formars ที่ออกมาสามารถทำยอดขายทะลุ 10 ล้านเล่มเข้าไปแล้ว
ผมเองเพิ่งจะได้ติดตามอ่าน Terra Formars เมื่อไม่นานนี้เองครับด้วยความอนุคราเะห์ของพี่ที่ออฟฟิศท่านหนึ่ง พออ่านจบไป 2 เล่มแรก ตอนนั้นยังคุยกันเลยครับว่าการ์ตูนบ้าอะไร เดาอะไรไม่ได้เลย โหดก็โหด ถ้าทำเป็นหนังคงมันน่าดู
ไม่น่าจะเกิน 2 เดือนหลังจากที่คุยกัน ปรากฏว่าล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า Terra Formars กำลังจะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์แล้ว
ตามข่าวที่ออกมาหนังจะได้ "ทาเคชิ มิอิเกะ" ที่มีผลงานอย่าง Ichi the Killer, Crows Zero, Visitor Q และ Audition มารับหน้าที่กำกับการแสดง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้นคงจะทยอยออกมาให้ได้รับทราบกันในลำดับต่อไป
ใครที่อ่านข่าวเกี่ยวกับการที่การ์ตูนเรื่องนี้กำลังจะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ผ่านเวบไซต์เมเนเจอร์เห็นพาดหัวที่ว่า "ความมันส์กำลังจะบังเกิด! ประกาศดัดแปลงการ์ตูนบู๊แห่งยุค Terra Formars เป็นภาพยนตร์" อาจจะรู้สึกในใจว่าคนเขียนข่าวพาดหัวเวอร์ไปมั้ย อะไรมันจะขนาดนั้นเลยหรือ ฯ
ในฐานะที่ได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้มาแล้ว ผมขอยืนยันอีกเสียงครับว่า ความมันกำลังจะบังเกิดจริงๆ
...
หมายเหตุ : หลายคนเรียกแมลงสาบว่า "ปีเตอร์" ชื่อนี้เป็นชื่อของแมลงสาบตัวหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Joe's Apartment
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็คงจะเป็นเพราะรูปร่างรวมถึงคุณลักษณะของที่มันได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสกปรกโสมมและพาหะของเชื้อโรคหลากหลายชนิดนั่นเอง
ผมเคยมีเรื่องที่นึกขึ้นมาทีไรก็สยองขนลุกทุกครั้งเกี่ยวกับแมลงสาบอยู่ 2 เหตุการณ์
ครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในหอพักระหว่างเป็นนักศึกษา คืนหนึ่งระหว่างที่กำลังจะเคลิ้มๆ หลับ พลันก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีตัวอะไรมาแทะๆ อยู่ที่ติ่งหู จิ๊กๆๆๆ
สักพักก็มีความรู้สึกว่ามีตัวอะไรปีนป่ายไต่ขึ้นมายังหน้าอกที่เปล่าเปลือย
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความงัวเงีย หรือเพราะความสิ้นคิด ไม่ทันคิด คิดไม่ถึง ที่ทำให้สมองสั่งมือขวาตวัดตบลงมายังเจ้าตัวที่ยุกๆ ยิกๆ จนบังเกิดเสียงดังปริ้ด!
พร้อมๆ กันนั้นมือผมก็สัมผัสได้ถึงเมือกลื่นๆ กับกลิ่นที่ไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาอธิบายที่ทำให้รู้สึกว่าแทบอ้วก!
เปิดไฟดูเห็นเจ้า "ปีเตอร์" ซึ่งไม่ทราบว่าจะเป็นตัวเดียวกับที่ชอบฝากรอยแทะเล็กๆ ไว้บนก้อนสบู่ในห้องน้ำหรือไม่นอนบี้แบนอย่างสยดสยองอยู่บนหน้าอก แต่ถึงกระนั้นหนวดของมันก็ยังส่ายดุ๊กดิ๊กไปมา
ถึงวันนี้ทั้งภาพ ความรู้สึก และกลิ่น ณ คืนนั้นก็ยังเป็นอะไรที่จำได้ไม่เคยลืมเลือน
ออกตัวก่อนนะครับว่าจริงๆ ผมกับเพื่อนร่วมห้องถึงจะไม่ได้สะอาดเข้าขั้นเจ้าสำอางแต่ก็ไม่ใช่คนสกปรกอะไรมากมาย เพียงแต่เพราะห้องเช่านั้นอยู่ชั้นล่างสุดติดกับพื้นดิน แถมข้างห้องยังเป็นร้านขายข้าวแกงก็เลยมีเจ้าปีเตอร์มาเยี่ยมเยือนที่ห้องอยู่บ่อยๆ
อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ร้านข้าวริมทางในคืนวันฝนตก
ระหว่างนั่งทานข้าวอยู่นอกจากจะได้ยินเสียงเม็ดฝนหล่นกระทบผ้ายางดังเปาะแปะๆ พลันก็หูก็ได้ยินเสียงดังแว่วแซ่กๆๆ มาจากที่พื้น
ก้มมองลงไป ใกล้ๆ กับขาโต๊ะเห็นถุงพลาสติกอุดลงไปที่รูๆ หนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นรูที่เจาะให้น้ำลงไปยังท่อระบายน้ำด้านล่าง พอตั้งใจเงี่ยหูฟังดีๆ ก็พบว่าเสียงแซ่กๆๆ ที่ว่ามาจากใต้พื้นตรงที่ถุงพลาสติกมันอุดอยู่นั่นเอง
ระหว่างกำลังสงสัยอยู่ว่าต้นตอมันคืออะไร เสียงแซ่กๆๆๆ ก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ และใกล้รูมากขึ้นๆ ทันทีทันใดเจ้าถุงพลาสติกที่อุดรูอยู่ก็หลุดผัวะออกมา พร้อมๆ กับกองทัพปีเตอร์ที่พากันพุ่งพรวดออกมาชนิดที่ต้องใช้คำว่าพรั่งพรูก่อนวิ่งกันให้พล่าน
งานนี้บอกได้คำเดียวครับว่ากระเจิง ร้องกรี๊ดแทบไม่ทัน
...
ด้วยคุณสมบัติของการเป็นแมลงที่น่ารังเกียจ สามารถปรับตัวได้กับทุกสภาพแวดล้อม อยู่ได้ทุกสภาวะ กินทุกอย่างเป็นอาหาร ไม่กลัวแม้กระทั่งนิวเคลียร์ แกร่งอึดชนิดหัวขาดก็ยังไม่ตาย ฯ ตรงนี้นี่เองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ "เคนอิจิ ทาจิบานะ" กับ "ยู ซาซึกะ" สองนักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่นได้หยิบเอาเจ้าแมลงสาบมาเป็นตัวเด่นในการ์ตูนแอ็กชันไซไฟของพวกเขาที่มีชื่อ Terra Formars (ภารกิจล้างพันธุ์นรก)
เนื้อหาของการ์ตูนเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวหลังจากมนุษย์ได้คิดวางแผนที่จะไปอาศัยอยู่บนดาวอังคาร จึงเริ่มนำเอา "มอส" และ "แมลงสาบ" ไปปล่อยไว้ที่นั่นเพราะเชื่อว่าด้วยคุณสมบัติของทั้งสองสิ่งนี้จะสามารถปรับสภาพบนดาวอังคารให้คล้ายกับโลกจนสิ่งมีชีวิตสามารถไปอาศัยอยู่ได้
ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี แต่ทว่ามนุษย์เองกลับไม่ได้คาดเดาถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นตามกฏพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตในการปรับตัวหรือกลายพันธุ์เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มันอาศัยอยู่
โดยเฉพาะกับความสามารถของเจ้าแมลงชนิดนี้ที่ถือกำเนิดมาบนโลกราว 250 ล้านปีมาแล้วซึ่งยาวนานกว่ามนุษย์หลายเท่านัก
เมื่อโครงการปรับเปลี่ยนสภาพดาวอังคารเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย มองจากภายนอกพบพื้นที่สีเขียวเต็มไปทั้งดวงดาว ในปีค.ศ.2599 ยาน "บั๊กส์ 2" พร้อมด้วย 15 ลูกเรือจากนานาประเทศได้ถูกส่งไปยังดาวอังคารเพื่อปฏิบัติภารกิจบางอย่างภายหลังจากที่ "บั๊กส์" หมายเลข 1 ซึ่งถูกส่งไปก่อนหน้านี้ถูกคาดเดาว่าสมาชิกจะเสียชีวิตทั้งหมด
ในครั้งนี้สมาชิกของยานบั๊กส์ 2 ที่ส่วนใหญ่คัดเลือกมาจากคนที่สิ้นหวังในชีวิต? ต่างก็ได้รับการตัดแต่งปรับเปลี่ยนสภาพร่างกายด้วยการใส่ดีเอ็นเอแมลงชนิดต่างๆ เข้าไป จุดมุ่งหมายก็เพื่อจะใช้คุณสมบัติเหล่านี้ในการ "รับมือ" กับสิ่งที่คาดว่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ภาระกิจของสมาชิกยานบั๊กส์หมายเลข 1 ล้มเหลว ซึ่งนั่นก็คือเหล่าบรรดาแมลงสาบที่ถูกนำมาปล่อยเพื่อการปรับสภาพก่อนหน้านี้นั่นเอง
และทั้งหมดก็คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ ที่นิยามได้คำเดียวว่าโคตรมัน
"เมื่อได้เผชิญกับสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน มนุษย์ก็ไม่อาจจะเป็นตัวของตัวเองได้อีกต่อไป" เป็นข้อความที่อยู่บนปกหลังของหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าผมคงเป็นหนึ่งในคนที่มีอาการเช่นนี้อย่างแน่นอน หากวันนึงต้องตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าแมลงที่ตนเองเห็นแล้วรู้สึกอี๋ได้เพิ่มความสยดสยองเข้าไปด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพตนเองจนเดินด้วย 2 ขา กล้ามเนื้อที่แข็งแรง แถมยังมีร่างกายและสติปัญญาที่นับวันจะยิ่งพัฒนาการสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ที่สำคัญก็คือดูเหมือนมันจะจับความรู้สึกได้เสียด้วยว่ามนุษย์นั้นรังเกียจพวกมันขนาดไหน
ความสนุกของ Terra Formars นั้นนอกจากจะได้ลุ้นไปกับความซับซ้อนของการเล่าเรื่อง ฉากการต่อสู้ที่ทั้งสุดโหดแต่ก็เต็มไปด้วยปฏิภานไหวพริบแล้ว เหนืออื่นใดก็คือการ์ตูนเรื่องนี้เป็นอะไรที่เดาไม่ออกเลยจริงๆ
ย้ำครับว่าคาดเดาอะไรไม่ได้แม้กระทั่งช่องต่อไปที่จะอ่าน หน้าต่อไปที่จะเปิดดู
การ์ตูนเรื่องนี้เริ่มตีพิมพ์นปี 2011 ถึงตอนนี้ได้รับความนิยมเอามากๆ ซึ่งก่อนที่เล่ม 12 จะออกมาวางขายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 19 ก.พ. นี้ปรากกฏว่า 11 เล่มแรกของ Terra Formars ที่ออกมาสามารถทำยอดขายทะลุ 10 ล้านเล่มเข้าไปแล้ว
ผมเองเพิ่งจะได้ติดตามอ่าน Terra Formars เมื่อไม่นานนี้เองครับด้วยความอนุคราเะห์ของพี่ที่ออฟฟิศท่านหนึ่ง พออ่านจบไป 2 เล่มแรก ตอนนั้นยังคุยกันเลยครับว่าการ์ตูนบ้าอะไร เดาอะไรไม่ได้เลย โหดก็โหด ถ้าทำเป็นหนังคงมันน่าดู
ไม่น่าจะเกิน 2 เดือนหลังจากที่คุยกัน ปรากฏว่าล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า Terra Formars กำลังจะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์แล้ว
ตามข่าวที่ออกมาหนังจะได้ "ทาเคชิ มิอิเกะ" ที่มีผลงานอย่าง Ichi the Killer, Crows Zero, Visitor Q และ Audition มารับหน้าที่กำกับการแสดง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้นคงจะทยอยออกมาให้ได้รับทราบกันในลำดับต่อไป
ใครที่อ่านข่าวเกี่ยวกับการที่การ์ตูนเรื่องนี้กำลังจะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ผ่านเวบไซต์เมเนเจอร์เห็นพาดหัวที่ว่า "ความมันส์กำลังจะบังเกิด! ประกาศดัดแปลงการ์ตูนบู๊แห่งยุค Terra Formars เป็นภาพยนตร์" อาจจะรู้สึกในใจว่าคนเขียนข่าวพาดหัวเวอร์ไปมั้ย อะไรมันจะขนาดนั้นเลยหรือ ฯ
ในฐานะที่ได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้มาแล้ว ผมขอยืนยันอีกเสียงครับว่า ความมันกำลังจะบังเกิดจริงๆ
...
หมายเหตุ : หลายคนเรียกแมลงสาบว่า "ปีเตอร์" ชื่อนี้เป็นชื่อของแมลงสาบตัวหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Joe's Apartment