เป็นปีที่มาแรงทีเดียวสำหรับ “แซม สมิธ” นักร้องดังที่เพิ่งเปิดตัวก็มีชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมีถึง 6 สาขาเทียบเท่า “บียอนเซ” ก่อนคว้ารางวัลใหญ่กลับบ้านไปถึง 4 รางวัลหลังก่อนหน้าจ้าเต้าตัวกวาดรางวัลมาแล้วหลายเวทีจากเพลง Stay With Me
ฮือฮากันตั้งแต่เปิดงานเลยทีเดียวสำหรับชุดเดินพรมแดงของ มาดอนนา ราชินีเพลงป็อปชื่อดังที่ทั้งโชว์อกเปิดก้นให้สื่อได้แชะภาพ ซึ่งเธอยังพาผลงานใหม่ขึ้นแสดงอย่างสุดแซ่บบนเวทีด้วย
โดยปีนี้ศิลปินที่ถูกจับตามองมากที่สุดอย่าง แซม สมิธ เพราะมีชื่อเข้าชิงในสาขาใหญ่ๆถึง 6 สาขาด้วยกันทั้งบันทึกเสียงห่งปี, อัลบั้มแห่งปี, เพลงแห่งปี, ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี, อัลบั้มเพลงป็อปยอดเยี่ยมแห่งปี และศิลปินเพลงป็อปยอดเยี่ยมแห่งปี, ก็กวาดรางวัลกลับบ้านไปถึง 4 รางวัล โดยคว้ารางวัล ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และ อัลบั้มเพลงป็อปยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองจากอัลบั้ม In The Lonely Hour นอกจากนั้นเพลง Stay With Me ของเขาก็ยังคว้ารางวัลใหญ่ เพลงแห่งปี ที่งานนี้เขาพาเพื่อนที่ร่วมแต่งเพลงขึ้นมารับรางวัลด้วย นอกจากนั้น รางวัลใหญ่ที่สุดของงานอย่างบันทึกเสียงแห่งปี เขาก็คว้ารางวัลนี้กลับบ้านด้วยเช่นกัน ทำเอาเจ้าตัวกล่าวขอบคุณอาการอกหักที่ทำให้เขาแต่งเพลงดีๆแบบนี้ออกมาจนโด่งดังเป็นพลุแตก
ต้องบอกว่าปีนี้แม้บียอนเซ จะมีชื่อเข้าชิงถึง 6 สาขา แต่ก็ไม่ได้มีชื่อเข้าชิงในสาขาใหญ่ๆมากเหมือนที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ แต่ปีนี้ บียอนเซก็สามารถคว้ารางวัล ศิลปินอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม และเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยมไปได้ ซึ่งทั้ง 2 รางวัลมาจากเพลงเดียวกันคือ Drunk In Love โดยนอกจากนั้นเธอยังคว้ารางวัล อัลบัมเสียงเซอร์ราวด์ยอดเยี่ยมไปได้ด้วย นับว่าบียอนเซเป็นศิลปินหญิงที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมีมากที่สุดโดยถูกเสนอชื่อเข้าชิงถึง 53 ครั้งแล้ว
ส่วนฟาร์เรล วิลเลียม ที่มีชื่อเข้าชิง 4 สาขา ก็คว้ารางวัลศิลปินเพลงป็อปเดี่ยวยอดเยี่ยมไปครอง จากผลงานเพลง Happy เวอร์ชัน Live ที่เขาได้นำเพลงนี้ขึ้นแสดง ซึ่งต้องบอกว่าการเข้าชิงสาขานี้ตัวฟาร์เรล แทบไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับรางวัล เนื่องจากผลงานเพลงนี้ออกมานานร่วม 2 ปีแล้ว และยังมีผู้เข้าชิงเป็นศิลปินที่กำลังมาแรงในเวลานี้ด้วยทั้ง จอห์น เลเจนด์, เซีย, แซม สมิธ และ เทย์เลอร์ สวิฟท์
ด้านรางวัลอัลบั้มร็อกยอดเยี่ยมปีนี้ตกเป็นของอัลบั้ม Morning Phase จาก เบ็ค เดวิด แคมป์เบล ที่เอาชนะศิลปินกลุ่มที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงมากที่สุดตลอดกาลอย่าง U2 จากผลงานอัลบั้ม Songs Of The Innocence ไปได้ด้วย และอัลบั้มนี้เองยังพาเขาคว้ารางวัลใหญ่อย่าง อัลบั้มแห่งปีไปครองได้สำเร็จ ซึ่งเบ็คเองก็ออกอาการประหลาดใจไม่น้อยเช่นกัน เพราะสาขานี้มีผู้เข้าชิงอย่าง บียอนเซ, เอ็ด ชีแรน, แซม สมิธ และ ฟาร์เรล วิลเลียม ที่หลายฝ่ายต่างพากันคาดการณ์ว่าน่าจะเป็น ฟาร์เรล วิลเลียม ที่จะคว้ารางวัลนี้ไปเพราะเขาเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังผลงานอัลบั้มที่เข้าชิงสาขานี้ถึง 3 อัลบั้ม โดยนอกจากผลงานของตนเองแล้วยังมีผลงานของบียอนเซและเอ็ด ชีแรน ด้วย
และสาขานี้ก็เป็นไปตามคาดกับสาขาเพลงคันทรีที่เจ้าแม่คันทรีอย่าง มิแรนดา แลมเบิร์ท ที่ขึ้นแสดงในปีนี้ จะสามารถคว้ารางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมสาขาเพลงคันทรีไปครองได้จากอัลบั้ม Platinum ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้าชิงในสาขานี้ด้วย
ผลรางวัลปีนี้ที่น่าสนใจต้องบอกว่า แร๊ปเปอร์รุ่นเก๋าอย่าง เอมิเน็ม วัย 42 ปี สามารถพาอัลบั้ม The Marshall Mathers LP 2 เบียดศิลปินหน้าใหม่อย่าง อิกกี อาซาเลีย แร๊ปเปอร์สาวที่เป็นคู่กัดกัน คว้ารางวัลอัลบั้มเพลงแร๊ปแห่งปีไปครอง ซึ่งเขายังนับเป็นแร๊ปเปอร์ที่ได้รางวัลแกรมมีมากที่สุดและทำยอดขายได้สูงที่สุด โดยเอมิเน็มครองถ้วยรางวัลแกรมมีไปถึง 6 ตัวแล้วด้วยกัน ส่วนอัลบั้มของเขาที่ทำยอดขายสูงที่สุดก็คือ The Marshall Mathers LP ปี 2002 เป็นอัลบั้มของศิลปินเดี่ยวที่สามารถทำยอดขายได้เร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกาด้วย
ปีนี้เป็นอีกปีที่การแสดงบนเวทีเป็นที่น่าสนใจมากไม่แพ้กัน โดยเริ่มต้นจากวงร็อกระดับตำนานอย่าง AC/DC ที่ขึ้นแสดงบนเวทีแกรมมีครั้งแรกก็มาพร้อมกับเพลง Rock or Bust และ Highway To Hell นอกจากนั้น มาดอนนา ที่แต่งตัวเรียกเสียงฮือฮาบนพรมแดงก็ขึ้นแสดงบนเวทีด้วยเพลง Living for Love ผลงานเพลงจากอัลบั้มใหม่ที่เตรียมจะปล่อยออกมาในเดือนหน้านี้
อีกการแสดงที่ทำเอาหลายคนน้ำตาซึมคือการขึ้นร้องเพลงของคานเย เวสต์ แร๊ปเปอร์สุดฉาวในเพลง Only One เพลงที่เขาร่วมแต่งกับ พอล แมคคาร์ทนีย์ เพลงที่คานเยแต่งให้กับแม่ผู้ล่วงลับและลูกสาวตอนที่เธอลืมตาดูโลกด้วย นอกจากนั้นทั้งคานเย และ พอล ยังนำเพลงที่ได้แต่งร่วมกันอีกเพลงอย่าง FourFiveSeconds ที่อยู่ในอัลบัมใหม่ของสาวรีฮันนามาขึ้นร้องบนเวทีร่วมกัน 3 คนเช่นกัน ส่วนทางด้าน เอ็ด ชีแรน ก็พาเพลง Thinking Out Loud มาขึ้นแสดงโดยได้มือกีตาร์สุดหล่อ จอห์น เมเยอร์ มาร่วมร้องคลอรัสและโซโลกีตาร์ในเพลงนี้ด้วย
ส่วนโค้ชชื่อดังจาก The Voice อย่าง เกว็น สเตฟานี และ อดัม เลอวีน ก็สลัดมาดขาร็อกควงกันมาแสดงเพลงช้าๆซึ้งๆบนเวที ตามมาด้วยหนุ่ม แอนดรูว์ โฮซิเออร์ เจ้าของเพลงดังอย่าง Take Me To Church ก็พาเพลงนี้มาร้องสดๆบนเวที ซึ่งได้ดูเอตคู่กับ แอนนี เลนน็อกซ์ และยังควบต่อด้วยเพลง I Put a Spell On You ที่เพลงนี้ยังเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง 50 Shades of Grey ด้วย
อีกการแสดงที่น่าสนใจคือการแสดงของ ฟาร์เรล วิลเลียม ที่ปีนี้เจ้าตัวพาเพลง Happy เวอร์ชัน Live มาร้องบนเวทีในรูปแบบประสานเสียง โดยงานนี้ยังได้มือเปียโนอย่าง หลางหลาง มาร่วมบรรเลงบนเวที ซึ่งปีที่แล้วเขาก็เคยบรรเลงเปียโนร่วมกับวง Metallica ที่ทำเอาเวทีร้อนฉ่ากันเลยทีเดียว
ส่วนสาวที่เพิ่งโชว์อลังการในช่วงพักครึ่งศึกซูเปอร์โบล์อย่าง เคที เพอร์รี ก็มาขึ้นแสดงบนเวทีด้วยเพลงช้าสื่ออารมณ์ที่เธอร่วมแต่ง เพื่อสื่อถึงความรู้สึกของเธอที่เคยเจ็บปวดจากการหย่าร้างและเคยคิดทำร้ายตนเองอย่าง By The Grace of God ที่เข้าธีมการต่อต้านความรุนแรงของงานแกรมมีปีนี้ ทางด้าน เลดี้ กาก้า ก็มาขึ้นเวทีร้องเพลงที่คว้ารางวัลแกรมมีสาขาเพลงป็อปดั้งเดิมยอดเยี่ยม Cheek To Cheek ผลงานเพลงที่เธอร่วมร้องกับนักร้องดังระดับตำนาน โทนี เบนเนตต์
ด้านหนุ่มมาแรงปีนี้ แซม สมิธ ก็พาเพลงฮิต Stay With Me ขึ้นโชว์ร่วมกับ แมรี เจ. ไบลจ์ โดยมีวงออเคสตราและคณะนักร้องปรสานเสียงมาร่วมขับกล่อม
ส่วนศิลปินที่ไม่เคยเผยโฉมหน้าตนเองมาก่อนอย่าง เซีย ก็เปิดตัวบนเวทีแกรมมีครั้งนี้ครั้งแรกกับการแสดงในเพลง Chandelier อย่างไรก็ตามแม้จะขึ้นเวทีแต่เธอก็ยังไมยอมเผยโฉมหน้าที่แท้จริง แต่ยืนหันหลังร้องเพลงสร้างความฉงนให้แฟนเพลงได้สงสัยกันต่อไป
นอกจากนั้นยังมีการโคจรมาเจอกันของ 2 ร็อกดัง คริส มาร์ติน และ เบ็ค เจ้าของอัลบั้มแห่งปี ที่งานนี้ทั้งคู่มาในเพลงอคูสติกฟังสบายๆตามธีมงานที่เน้นเพลงช้าและเพลงประสานเสียง ก่อนจะปิดท้ายด้วยการโชว์พลังเสียงทรงพลังของ บียอนเซ ในเพลง Precious Lord ก่อนจะส่งต่อให้ จอห์น เลเจนด์ กับ คอมมอน ในเพลง Glory
ผลรางวัลแกรมมีอวอร์ดส์ครั้งที่ 57
บันทึกเสียงแห่งปี - "Stay With Me" , Sam Smith
อัลบั้มแห่งปี - "Morning Phase", Beck
เพลงแห่งปี - "Stay With Me" , Sam Smith
รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม - Sam Smith
ศิลปินเพลงป็อปยอดเยี่ยม - Pharrell Williams , "Happy" ( Live Version )
ศิลปินเพลงป็อปกลุ่ม/ดูโอยอดเยี่ยม -A Great Big World With Christina Aguilera, “Say Something”
อัลบั้มเพลงป็อปดั้งเดิมยอดเยี่ยม - Tony Bennett & Lady Gaga, “Cheek To Cheek”
อัลบั้มเพลงป็อปยอดเยี่ยม - "In The Lonely Hour" , Sam Smith
บันทึกเสียงเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม - Clean Bandit Featuring Jess Glynne, “Rather Be”
อัลบั้มเพลงแดนซ์/อิเล็กทรอนิกส์ยอดเยี่ยม - Aphex Twin, Syro
ศิลปินเพลงร็อกยอดเยี่ยม - Jack White, “Lazaretto”
ศิลปินเพลงเมทัลยอดเยี่ยม - Twnacious D, “The Last In Line”
เพลงร็อกยอดเยี่ยม - Hayley Williams & Taylor York,songwriter (Paramore) , “Ain’t It Fun”
อัลบั้มร็อกยอดเยี่ยม - "Morning Phase" , Beck
อัลบั้มเพลงอัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม - St. Vincent, “St. Vincent”
ศิลปินอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม - Beyonce ,"Drunk In Love"
ศิลปินอาร์แอนด์บีดั้งเดิมยอดเยี่ยม - Robert Glasper Experiment Featuring Lalah Hathaway & Malcolm-Jamal Warner , “Jesus Children”
เพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม - “Drunk In Love”, Shawn Carter, Rasool Diaz, Noel Fisher, Jerome Harmon, Beyoncé Knowles, Timothy Mosely, Andre Eric Proctor & Brian Soko, songwriters (Beyoncé Featuring Jay Z)
อัลบั้มเออร์เบินคอนเทมโพรารียอดเยี่ยม - “Girl”, Pharrell Williams,
อัลบั้มอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม - “Love, Marriage & Divorce”, Toni Braxton & Babyface
ศิลปินแร๊ปยอดเยี่ยม - Kendrink Lamar , “I”
เพลงแร๊ป/ร่วมร้องยอดเยี่ยม - “The Monster” , Eminem Featuring Rihanna
เพลงแร๊ปยอดเยี่ยม - “I” , K. Duckworth & C. Smith, songwriters (Kendrick Lamar)
อัลบั้มเพลงแร๊ปยอดเยี่ยม - “The Marshall Mathers LP2” , Eminem
ศิลปินเดี่ยวคันทรียอดเยี่ยม - Carrie Underwood , “Something In The Water”
ศิลปินดูโอ/กลุ่มคันทรียอดเยี่ยม - The Band Perry , “Gentle On My Mind”
เพลงคันทรียอดเยี่ยม - “I’m Not Gonna Miss You , Glen Campbell & Julian Raymond, songwriters ( Glen Campbell )
อัลบั้มคันทรียอดเยี่ยม - "Platinum" , Miranda Lambert
อัลบั้มนิวเอจยอดเยี่ยม - Ricky Kej & Wouter Kellerman, “Winds Of Samsara”
อัลบั้มเพลงร้องแจ๊ซยอดเยี่ยม - Dianne Reeves, “Beautiful Life”
อัลบั้มเพลงบรรเลงแจ๊ซยอดเยี่ยม - Chick Corea Trio, “Trilogy”
อัลบั้มแจ๊ซวงใหญ่ยอดเยี่ยม - Gordon Goodwin's Big Phat Band , “Life In The Bubble”
อัลบั้มละตินแจ๊ซยอดเยี่ยม - Arturo O'Farrill & The Afro Latin Jazz Orchestra , “The Offense Of The Drum”
อัลบั้มละตินป๊อปยอดเยี่ยม - Rubén Blades, “Tangos”
อัลบั้มละตินร็อก เออร์เบินหรืออัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม - Calle 13, “Multivira”l
อัลบั้มเพลงบลูส์ยอดเยี่ยม - Johnny Winter , “Step Back”
อัลบั้มเพลงโฟล์กยอดเยี่ยม - Old Crow Medicine Show, "Remedy"
อัลบั้มเร็กเก้ยอดเยี่ยม - Ziggy Marley, “Fly Rasta”
ภาพยนตร์ที่รวบรวมซาวนด์แทร็คยอดเยี่ยม - “Frozen” , Kristen Anderson-Lopez, Robert Lopez, Tom MacDougall & Chris Montan, compilation producers
ภาพยนตร์ที่มีโน้ตเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม - “The Grand Budapest Hotel” , Alexandre Desplat, composer
เนื้อเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม - “Let It Go” , Kristen Anderson-Lopez & Robert Lopez, songwriters (Idina Menzel)
อัลบั้มเสียงเซอร์ราวนด์ยอดเยี่ยม - “Beyonce’” , Elliot Scheiner, surround mix engineer; Bob Ludwig, surround mastering engineer;Beyoncé Knowles, surround producer (Beyoncé)
มิวสิกวิดีโอสั้นยอดเยี่ยม - “Happy” , Pharrell Williams
มิวสิกวิดีโอยาวยอดเยี่ยม - “20 Feet From Stardom” , Darlene Love, Merry Clayton, Lisa Fischer & Judith Hill
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |