เพิ่งเอะใจ! นักมวยปล้ำ “มาร์ค ชูลต์ซ” สวดยับหนังเล่าชีวิตตัวเอง Foxcatcher แฝงเนื้อหารักร่วมเพศ

“มาร์ค ชูลต์ซ” นักกีฬาเจ้าของเหรียญทองกีฬาโอลิมปิกออกมาให้ข่าวแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง ต่อหนัง Foxcatcher ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขา และอดีตโค้ชผู้อื้อฉาว “จอห์น ดู ปองต์” หลังมีนักวิจารณ์แสดงความเห็นว่าหนังสื่อว่าเขาและ “ดู ปองต์” อาจจะมีความสัมพันธ์ทางเพศกัน

หลังจากเคยกล่าวชื่นชมหนังเรื่อง Foxcatcher มาก่อนหน้านี้ แต่ล่าสุด มาร์ค ชูลต์ซ กลับเริ่มรู้สึกว่าหนัง Foxcatcher ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเขาอาจจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล โดย ชูลต์ซ ได้เขียนข้อความผ่าน Facebook โจมตีหนัง และผู้กำกับ เบนเน็ต มิลเลอร์ อย่างสาดเสียดเทเสียว่า “ทุกอย่างที่ผมเคยพูดถึงหนังในแง่บวก ผมขอคืนคำก็แล้วกัน ผมเกลียดหนังเรื่องนี้, เกลียดมัน, เกลียดมัน, เกลียดมัน, เกลียดมัน, เกลียดมัน, เกลียดมัน …. ผมเกลียด เบนเน็ต มิลเลอร์”

Foxcatcher เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริง เกี่ยวกับเหตุอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับ 2 พี่น้องนักมวยปล้ำเจ้าของเหรียญจากการแข่งขันโอลิมปิก โดย แชนนิง เททัม รับบทเป็น มาร์ค ชูลต์ซ ผู้น้อง ส่วน มาร์ค รัฟฟาโล สวมบทเป็น เดฟ ชูลต์ซ ผู้พี่ ซึ่งทั้งสองได้รับการสนับสนุนทั้งด้านเงิน และการฝึกซ้อมต่างๆ จาก จอห์น ดู ปองต์ (สตีฟ เคเรล) ลูกชายของอภิมหาเศรษฐีแห่งตระกูล ดู ปองต์ ที่คลั่งไคล้การแข่งขันกีฬามาก ถึงขั้นควักกระเป๋าสนับสนุนด้านเงินทุนให้กับนักกีฬาสมัครเล่นทีมชาติมากมาย แต่สุดท้าย ดู ปองต์ กลับก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงสังหาร เดฟ ชูลต์ซ โดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน โดย “ฟอกซ์แคตเชอร์” ก็คือบ้านไร่ที่ ดู ปองต์ ใช้เก็บตัวนักกีฬามวยปล้ำที่เขาให้การสนับสนุนนั่นเอง

โดยภาพยนตร์เรื่อง Foxcatcher ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์สุดอื้อฉาวครั้งนั้น และกำลังเป็นตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลออสการ์อยู่ในขณะนี้ แต่ล่าสุดตัวของ มาร์ค ชูลต์ซ กลับให้ข่าวว่าหนังแทบจะไม่ได้มีอะไรใกล้เคียงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเลย “ฉากที่เกิดขึ้นที่ฟอกซ์แคตเชอร์แทบจะถอดแบบมาจากหนังสือของผม แต่บุคลิกตัวละคร และความสัมพันธ์ต่างๆ เป็นเรื่องแต่งขึ้นโดยสิ้นเชิง”

มาร์ค ชูลต์ซ ยังเขียนข้อความที่ต่อมาเขาตัดสินใจลบทิ้งไปว่า “บุคลิก และความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในหนังเป็นสิ่งที่แต่งขึ้นมา และเข้าข่ายเป็นการลบหลู่กัน ทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกขึ้นว่าบางที ผม และ ดู ปองต์ อาจจะมีความสัมพันธ์ทางเพศกัน ซึ่งมันน่าคลื่นไส้ และเป็นการดูถูกกันด้วย”

“ผมเคยบอกให้ เบ็นเน็ตต์ มิลเลอร์ ตัดฉากนั้นออก จนเขาบอกว่ามันเป็นฉากที่จะบอกคนดูว่า ดู ปองต์ มีพฤติกรรมที่ล่วงละเมิดชีวิต และความเป็นส่วนตัวของคนอื่น ซึ่งผมก็โอเค ไม่ได้มีปัญหาอะไร จนได้อ่านบทวิจารณ์ไป 3 – 4 ชิ้นที่บอกว่าหนังตีความได้ถึงเรื่องทางเพศ ซึ่งถือว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงของผม พวกเขาต้องจัดแถลงข่าวให้มันชัดเจน หรือไม่อย่างนั้นผมก็จะทำเอง”

เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเมื่อปี 1984 ยังกล่าวอย่างไม่พอใจอีกว่า “คุณทำอะไรล้ำเส้นไปแล้ว มิลเลอร์ อาชีพของคุณมันจบสิ้นแล้ว คุณอาจจะคิดว่าผมทำอะไรไม่ได้ ก็ลองดูแล้วกัน ผมอดทนต่ออะไรได้มากมาย แต่ไม่สามารถทดต่อการขาดความยำเกรงกันแบบนี้ได้ เราขาดกัน เบนเน็ตต์ … ถ้าคุณจะใส่ประโยคว่า ‘สร้างจากเรื่องจริง’ เอาไว้ตอนเริ่มเรื่อง ก็ควรจะทำหนังจากเรื่องจริงซิวะ!!!!!!!!!!! โยนหนังเรื่องนี้ลงถังขยะไปเถอะ มันสมควรไปอยู่ในนั้นแล้ว”






ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก