xs
xsm
sm
md
lg

บันทึกบันเทิง 2557 รัก-เลิก , แต่ง-หย่า , ด่าผ่านไอจี , ชะนีไร้ยางอาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สุดสัปดาห์ฉบับแรก ประเดิมปี 2558

ปีนี้เป็นแพะ ไม่รู้ว่าวงการบันเทิงจะแบ๊ะ แบ๊ะ แบ๊ะ แค่ไหน ? รู้แต่ว่าปีม้าที่เพิ่งผ่านพ้นไป วงการบันเทิงเต็มไปด้วยทั้งข่าวคราว และข่าวคาว เรียกว่าเป็นอีกปีที่นักข่าวบันเทิงคึกคักกับการออกตามล่าหาความจริง ทั้งเจาะข่าว ทั้งสัมภาษณ์เหล่าดารา นักร้อง ศิลปิน ไม่เว้นแต่ละวัน

ลองมาไล่เรียงกันดูดีกว่าว่า ตลอด 365 วันของปี 2557 นั้น มีอะไรเกิดขึ้นในวงการบันเทิงบ้านเราบ้าง ?

สงครามค่าย-สงครามคน

ปี 2557 ถือเป็นการเปิดศักราชเริ่มต้นทีวีดิจิตอลอย่างเป็นทางการ หลังจากที่เปิดประมูลกันไปเมื่อปลายปี 2556 แต่ละช่องก็งัดคอนเท้นต์ออกมาห้ำหั่นกันสุดฤทธิ์ หวังใจว่าจะแย่งชิงตลาดจากช่องฟรีทีวีให้จงได้ โดยมียักษ์ใหญ่อย่างแกรมมี่,
อาร์ เอส. , เวิร์คพ้อยต์ , ทีวีพูล , โมโน ,ไทยรัฐทีวี และอีกหลายๆ ช่อง ที่ประกาศเจตนารมย์ลงสนามสู้ศึกในสงครามดิจิตอล

ขณะเดียวกันก็เกิดมหากาพย์วิวาทะครั้งสำคัญระหว่างคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กับช่อง 3 อันสืบเนื่องมาจากทางช่อง 3 ยังยืนกรานที่จะแพร่ภาพออกอากาศช่อง 3 ออริจินัลในระบบอะนาล็อก โดยไม่ยอมออกอากาศแบบคู่ขนาน เหมือนดังช่องฟรีทีวีอื่นๆ ด้วยเห็นว่าอายุสัมปทานยังคงอยู่ถึงปี 2563 ขณะที่ทาง กสทช. ก็มองว่าการที่ช่อง 3 ยังคงออกอากาศด้วยระบบอะนาล็อก จะส่งผลกระทบทำให้ทีวีดิจิตอลไปได้ไม่ไกลตามความมุ่งหมายที่วางไว้ ก่อนจะยื่นคำขาดว่าหากช่อง 3 ยังคงดื้อแพ่งต่อไป คนที่ดูช่อง 3 อะนาล็อกผ่านโครงข่ายดาวเทียม-เคเบิล จะต้องพบกับปัญหา “จอดำ” นั่นหมายถึงบรรดา “ติ่ง” ณเดชน์ , ญาญ่า ฯลฯ จะต้องดูช่อง 3 อะนาล็อกผ่านเสาอากาศแบบก้างปลา หรือหนวดกุ้งเท่านั้น

มหากาพย์ครั้งนี้ยืดเยื้อกันมาเป็นแรมเดือน ถึงขนาดที่ช่อง 3 ต้องขนทัพทั้งผู้จัด ดารา นักแสดง ในสังกัด ออกโรงมาเล่นบทดราม่าแบบผิดที่ผิดทางด้วยการโพสต์ข้อความต่อต้าน “จอดำ” จนกระหึ่มโลกโซเชียล แต่สุดท้ายก็ต้องจำยอม นำช่อง 3 อะนาล็อกมาออกอากาศแบบคู่ขนานที่ช่อง 3 HD ช่อง 33

จบมหากาพย์สงครามค่ายกับ กสทช. แล้ว ช่อง 3 ก็กลับต้องมีเรื่องให้มางัดข้อกับ อาร์เอส ซึ่งแต่เดิมเคยผูกสมัครรักใคร่กันมาก่อนเก่า แต่พอ อาร์เอส. มีช่อง 8 ดิจิตอลอยู่ในมือ ก็เลยเปลี่ยนสถานะจาก “คู่ค้า” มาเป็น “คู่แข่ง” เริ่มจาก อาร์เอส. ที่ประกาศจะไม่ส่งศิลปินในสังกัดไปแสดงละครต่างช่อง (ซึ่งก็ตีความว่าหมายถึงช่อง 3 นั่นเอง) โดยจะมี “ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ที่ไปเล่นละครเรื่อง “ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู” กับค่ายบรอดคาซท์ฯ เป็นเรื่องสุดท้าย ทางช่อง 3 ก็สวนหมดกลับทันควัน ไม่ให้นักแสดงในสังกัดไปร่วมงานกับช่อง 8 ของ อาร์เอส. เหมือนกัน งานนี้นางเอกลูกหม้ออย่าง “เบ็นซ์-พรชิตา ณ สงขลา” แสดงสปิริตขอถอนตัวจากการเป็นพิธีกรรายการ “ปากโป้ง” เป็นคนแรก (ก่อนจะมีคำสั่งอย่างเป็นทางการ) ส่วนที่ยังคาราคาซังอยู่ระหว่าง
2 ช่อง ก็มี “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” กับ “แพท-ณปภา ตันตระกูล” แต่รายหลังมีข่าวว่าจะอัปเปหิตัวเองไปอยู่ช่อง 8 อย่างเป็นทางการ

จากสงครามค่าย มาต่อกันที่สงครามคน ตลอดทั้งปีมานี้ มีเหตุวิวาทะระหว่างคนบันเทิงด้วยกันเองหลายกรณีด้วยกัน เท่าที่พอจะยกนำมายกเป็นตัวอย่าง ก็อาทิ....

“หมาก-ปริญ สุภารัตน์” กับ “มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง” ที่มาประทุขึ้นภายหลังมีข้อความสนทนาที่คุยในกลุ่มไลน์เล็ดรอดออกมาปรากฏในโลกโซเชียล เป็นคำผรุสวาสที่หมากก้าวล่วงไปถึงมารดาของมิ้นต์ เพราะไม่พอใจที่ฝ่ายหลังโพสต์รูปต้นงิ้วในไอจี เหมือนเจตนาจะกระทบถึงการคบหาระหว่างเขากับ “คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ” งานนี้นึกว่าจะจบลงด้วยการที่หมากตั้งโต๊ะแถลงข่าวยอมรับผิดแบบลูกผู้ชาย แต่ไปๆมาๆ กลับมีก๊อกสองตามมาอีก เหมือนปรากฏมีคอมเม้นต์ปริศนาไปพาดพิงบรรดาแฟนคลับของหมาก-คิม ว่า “มึงติ่งงิ้ว” ซึ่งมีผู้จับพิรุธได้ว่าน่าจะมาจากไอจีของมารดาของมิ้นต์นั่นเอง ขณะที่ตัวมิ้นต์เองยังคงแบ่งรับแบ่งสู้กับเรื่องที่เกิดขึ้น

“น้ำเพชร-สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ” กับ “บัวขาว บัญชาเมฆ” ” คู่ชกต่างสังเวียน ระหว่างนางงามกับนักมวยครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมีข่าวหลุดออกมาว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันแบบลับๆ ฝ่ายชายถึงขนาดให้สร้อยคอทองคำเป็นของกำนัล งานนี้ทางฝั่งบัวขาวออกโรงมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ประมาณว่าเรื่องทั้งหมดฝ่ายน้ำเพชรมโนแจ่มไปเอง แต่เรื่องไม่จบง่ายๆ เพราะภายหลังกลับมีหลักฐานเด็ดหลุดตามออกมา ไม่ว่าจะเป็นภาพทั้งคู่ควงกันไปทำบุญ หรือภาพบอกรักทางเฟซไทม์ หลักฐานนัดแน่นขนาดนี้ แต่ทางฝั่งบัวขาวก็ยังยืนกรานปฏิเสธเหมือนเดิม ทำเอาน้ำเพชรถึงกับฟูมฟายน้ำตา เพราะถูกตราหน้าว่ากุข่าว สร้างกระแส ถึงขนาดพูดตัดพ้อว่า “ตอนนี้หนูแค่หายใจก็ผิดแล้ว”

สงครามคนบันเทิงยังมีอีกเยอะ อย่างเช่นคู่ของผู้จัด “ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์” กับนางเอก “วาววา-ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด” , คู่ของเพื่อนซี้บัญชีเดือด “โย-ยศวดี หัวดีวิจิตร” กับ “บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์” , คู่คน (เคย) รัก ระหว่าง “โดม-ปกรณ์ ลัม”กับ “กัสจัง-จิรันธนิน พิทักษ์พรตระกูล” หรืออย่างกรณีของนางเอก “พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” ที่มีเหตุกระทบกระทั่งกับ
สื่อมวลชน ถึงขนาดถูกประกาศแบนนั่นก็ด้วย

รัก-เลิก
เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของคนบันเทิงตลอดปี 2557 นั้น ดูเหมือนที่โดดเด่นที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้นคู่ของนางเอกซุป’ตาร์ “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” กับแฟนหนุ่มไฮโซ “แอมป์-พิธาน องค์โฆษิต” ที่เกือบจะถูกจัดให้อยู่ในหมวด “เลิก” แล้ว แต่สุดท้ายก็กลับมาลมพัดหวนกันเมื่อโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี เรียกว่าเป็นอีกคู่หนึ่งที่บรรดาแฟนคลับลุ้นและเอาใจช่วย อยากให้ลงเอยกันด้วยวันวิวาห์ซึ่งก็น่าจะอีกไม่ไกลแล้ว เพราะการกลับมาคบกันใหม่หนหลังนี้ ก็น่าจะมาจากการที่ทั้งคู่ได้ทบทวนความผิดพลาดที่ผ่านมา รวมถึงพร้อมที่จะจับมือกันเดินต่อไปนั่นเอง

และเป็นที่น่าจับตาว่าตลอดทั้งปีที่ผ่านมา มีเรื่องที่ทำเอาบรรดาเก้งกวาง และอาจหมายรวมถึงผู้หญิงแท้บางคนอิจฉาตาร้อน เพราะมีคู่รักแบบ “ชายรักชาย” ผุดขึ้นมาพร้อมกันราวกับนัดกันไว้ เริ่มจากคู่ของ “ดีเจ.เจ๊แหม่ม-วินัย สุขแสวง” กับแฟนหนุ่มนอกวงการ ที่อายุห่างกัน 12 ปี ที่มาเปิดเผยว่าวางแผนจะแต่งงานกันในวันที่ 31 พ.ค. ปี 2558 ซึ่งตรงกับวันครบรอบที่เจอกัน โดยมีการหมั้นหมายกันกลางรายการ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” พร้อมด้วยโฉนดที่ดินราคา 3.8 ล้านบาท เป็นของหมั้น
“อ้วน รีเทิร์น” ในวัย 50 ปี กับแฟนหนุ่มทายาทโรงแรมเซ็นทรัล พัทยาการ์เด้น ที่มีอายุห่างกันถึง 20 ปี ซึ่งเตรียมควงแขนกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ในต้นปีหน้า ด้วยสินสอดแบบจิ๊บๆ แค่ 40 ล้านเท่านั้น

“ซันนี่ ยูโฟร์” ก็ประกาศเปิดตัวแฟนหนุ่ม อายุห่างกันถึง 18 ปี ที่ได้หมั้นหมายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพราะแหวนหมั้นซื้อจากตลาดนัดราคาแค่ 200 บาท

ปิดท้ายด้วยคู่ของ “นาธาน โอมาน” ที่ยังไม่มีใครกล้าชี้ชัด ว่างานนี้นางมโนไปเองอีกหรือเปล่า ? เมื่อจู่ๆ ก็ออกมาประกาศว่ามีแฟนเป็นถึงเศรษฐีพันล้านภาคใต้ ลูกเสี้ยวสัญชาติฝรั่งเศส พร้อมๆ กับการปรากฏตัวในลุคใหม่แบบไม่แคร์สื่อ ไม่ว่าจะเป็นสักคิ้ว 4 มิติ และใส่ส้นสูงแบบเป็นสาวเต็มตัวออกงาน

มีรัก ก็ต้องมีเลิก ปี 2557 มีคนบันเทิงหลายคู่ ที่ต้องตกอยู่ในสถานะ “รักร้าง” แต่คู่ที่เลิกกันแบบดุเดือดเลือดพล่านที่สุด ก็หนีไม่พ้นคู่ของ “เมย์- พิชญ์นาฏ สาขากร” กับแฟนหนุ่ม “สารวัตรโจ้- พ.ต.ต.ธิติสรรค์ อุทธนพล” ที่มีการเปิดศึกกันผ่านไอจี และมีการแฉลามไปถึงข้อความแชทไลน์ของสารวัตรโจ้ ที่อ้างว่ามีเงินที่นอมินีถืออยู่ 230 ล้าน

ส่วนคู่ของ “เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” กับ “พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ” แม้จะออกปากว่าเลิกกันด้วยเหตุผล
“รักคงยังไม่พอ” และยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับมือที่สาม แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่วายมีข่าวหลุดออกมาอีกว่า สาเหตุที่เลิกรากันอาจจะเป็นเพราะ “เธอปันใจ” ไปคบหากับไฮโซดัง ขณะที่ฝ่ายชายก็ออกมาโชว์แมนยืดอกปกป้องข่าวลือของฝ่ายหญิงทุกประเด็น

คู่ของพระเอกมาดเซอร์ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” กับนางเอกมาดติสท์ “โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล” ก็สะบั้นรักอย่างถาวรในปีที่ผ่านมาเหมือนกัน หลังจากที่เคยเลิกกันมาแล้วหนหนึ่ง แต่ก็กลับมาคืนดีกันใหม่ งานนี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสกลับมาคืนดีกันหนที่ 3 รึเปล่า ?

“มาร์กี้-ราศี บาเลนซิเอก้า” หลังจากเลิกกับแฟนหนุ่มผู้จัดละคร “ ต้อง–จุลวุฒิ ชลลัมพี” หลายคนก็จับตามองว่าอาจจะมาจิ้นกันนอกจอกับพระเอก “บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” แต่สุดท้ายผู้ชายที่มาวินกลับกลายเป็นทายาทโรงแรมเซ็นทรัลกับอดีตนางงามจักวาล นามว่า “ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์”

แต่ง-หย่า
จากเรื่องรัก-เลิก มาถึงเรื่องแต่ง-หย่า ปี 2557 ถือเป็นปีที่คนบันเทิงเข้าสู่ประตูวิวาห์กันหลายต่อหลายคู่ มีทั้งคู่ที่หลายคนตั้งตารอกันมานานแล้ว อย่าง “อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์” กับ “นัท มีเรีย”, คู่ “มิค-บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ” กับ “เบ็นซ์-พรชิตา ณ สงขลา” ,คู่ของ “ซี-ศิวัฒน์ ชติชัยชรินทร์” กับ “เอมี่ กลิ่นประทุม”

คู่ที่หลายคนคลุมเครือและคลางแคลงใจในความสัมพันธ์ อย่างคู่ของพิธีกร-ดีเจ. สาวฝีปากกล้า “โอปอลล์-ปาณิศรา พิมพ์ปรุ” กับ “หมอโอ๊ค-สมิทธิ์ อารยะสกุล”

คู่ที่คนเกือบจะลืมไปแล้วว่ายังไม่ได้แต่ง เพราะควงกันนานเหลือเกิน อย่าง “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” กับ “เมย์ เฟื่องอารมย์” ซึ่งจริงๆ ทั้งคู่จดทะเบียนกันมาปีครึ่งแล้ว แต่ไม่ได้ประกาศออกสื่อ รวมไปถึงคู่ของ “อ๋อม-สกาวใจ พูลสวัสดิ์” กับแฟนหนุ่ม “เอ-อาทิตย์ ศรีพาเพลิน” ที่คบหากันมาถึง 12 ปี ก่อนจะลงเอยด้วยงานแต่งงานเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

คู่แต่งงานเซอร์ไพรซ์ เพราะทำเอานักข่าวตั้งตัวกันแทบไม่ทัน นั่นก็คือคู่ของ “ทาทา ยัง”ที่ซุ่มเงียบแต่งงาน กับ
“หมอ-ฉัตรอดุลย์ สีนะพงษ์พิพิธ” ก่อนที่จะควงคู่กันมาแถลงข่าวในภายหลัง

คู่แต่งสะท้านวงการ เห็นจะไม่มีใครเกินคู่ของเจ้าสาวหมื่นล้าน “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” ที่เข้าสู่ประตูวิวาห์กับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเมืองพัทยา “เพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง”

ปิดท้ายปลายปีกับงานแต่งงานของ “ฉลอง ภักดีวิจิตร” ในวัย 83 ปี กับเจ้าสาวอายุ 38 ปี หลังจากที่คบหาดูใจกันมาเพียง 5 เดือน งานนี้ทำเอา “กัญจน์ ภักดีวิจิตร” ลูกชายของอาฉลองถึงกับเดือดดาล จนต้องโพสต์ข้อความที่แสดงออกว่าไม่
เห็นชอบกับการแต่งงานครั้งนี้

นอกเหนือจากนั้น ก็ยังมีคู่แต่งงานอีกหลายคู่ที่อาจจะไล่เรียงกันแทบไม่หวาดไหว ไม่ว่าจะเป็นคู่ของอ้อน-ลัคนา , แบงค์ วงแบล็กวานิลลา , โบว์-สาวิตรี (โบว์ เอเอฟ) , มาริสา อานิต้า , ออร์แกน-ราศี, แอร์-ภุมวารี , เปิ้ล-ภารดี , หญิง-กัญญา ,
อุ๊-พัชนี ลูกสาวกอบสุข จารุจินดา ,พลอย รัตนรัตน์ กับกัลป์ กัลย์จาฤก ทายาทกันตนา ฯลฯ รวมไปถึงที่เพิ่งแต่งงานไปหมาดๆ ก็คือ “ดอน-ธีระธาดา”

นอกจากนั้นยังมีคู่ที่เตรียมจะแต่ง อย่างเช่น “บุ๋ม-ปนัดา วงศ์ผู้ดี” รวมถึง “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ที่เพิ่งจะผ่านการถูกขอแต่งงานอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา งานนี้ทำเอาว่าที่เจ้าสาวพันล้านถึงกับน้ำตาซึม

ส่วนคู่หย่า ที่ถือเป็นมหากาพย์ประจำปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าย่อมไม่มีใครเกินคู่ของ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” กับ
“เอ๋-ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” ที่ครองพื้นที่สื่อบันเทิงนานแรมเดือน ไล่มาตั้งแต่ข่าวพริตตี้สาว ที่ว่ากันว่าเป็นปฐมบทของมหากาพย์ครั้งนี้, การเปลี่ยนไอจีของเจนี่ พร้อมข้อความที่บอกใบ้เป็นนัยๆ ว่า Begin Again , ภาพ (จงใจ) หลุด “รักในรอยช้ำ” ที่ลุกลามบานปลายมาถึงข้อความสนทนาในไลน์กลุ่มของเหล่าคนสนิท ? ที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างคะนองปาก ก่อนจะปิดฉากด้วยการจดทะเบียนหย่าของทั้งคู่ เป็นการปิดฉากตำนานรักอันลือลั่นของนางเอกกับนักการเมือง ที่ถือครองทะเบียนสมรสกันมาได้เพียง 11 เดือนเศษ อันเป็นที่มาของฉายา “มือฉกตกสวรรค์”

มาถึงคู่หย่าที่ด่ากันผ่านสื่อไม่หยุด อย่าง “เสก โสโซ” หรือ “เสกสรรค์ ศุขพิมาย” กับ (อดีต) ภรรยา “กานต์ –
วิภากรณ์” ที่ต่างฝ่ายต่างขุดภาษาพ่อขุนออกมาก่นประจานฝ่ายตรงข้าม จนถูกติติงว่าไม่คำนึงถึงความรู้สึกของลูก ยังไม่นับรวมถึงพฤติกรรมที่ทะเลาะตบตีกันอยู่เป็นนิจ

ตรงข้ามกับคู่ของ “อ่ำ-อัมรินทร์ นิตพน” กับ “จอย-อัจฉริยา” ที่จดทะเบียนหย่าอย่างเป็นทางการ ก่อนจะตกเป็นข่าว แม้จะมีข่าวลือสะพัดออกมาในเชิงว่าฝ่ายหญิงมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่เคยคำพูดในเชิงให้ร้าย (อดีต) ภรรยาออกจากปากของอ่ำ หนำซ้ำยังยืดอกปกป้อง และขอยอมรับผิดแต่เพียงคนเดียว เรียกว่างานนี้อ่ำได้ใจไปเต็มๆ

ท้อง-ไม่ท้อง ?
เรื่องท้องสำหรับผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่สำหรับ “บีม วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ” ลูกสาวคนโตของดาวตลกผู้ล่วงลับ “ดี๋ ดอกมะดัน” กลับยืดอกยอมรับต่อหน้าสื่อมวลชน ว่าตนกำลังตั้งท้อง 4 เดือน (ณ ตอนนั้น) กับแฟนหนุ่มที่เลิกรากันไปแล้ว และปฏิเสธที่ฝ่ายชายจะขอรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน โดยยืนยันว่าจะขอทำหน้าที่ Single Mom เลี้ยงลูกตามลำพัง งานนี้ไม่มีใครตำหนิเธอ เพราะสิ่งที่เธอปฏิบัติต่อครอบครัว ด้วยการปลดหนี้กว่า 10 ล้านบาท แถมยังหาเงินรักษาน้องสาวที่ป่วย ด้วยหนึ่งสมองและสองมือนั้น พิสูจน์แล้วว่าเธอเป็นทั้งเก่ง และแกร่ง และเชื่อว่าเธอพร้อมจะทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อ และแม่ของลูกที่จะลืมตามาดูโลกได้ดีที่สุด

ขณะที่บีมยืดอกยอมรับความจริงทุกอย่าง ด้วยความกล้าหาญ “ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” กลับ (จำ) ต้องยอมรับสถานะสามีนอกกฎหมายของนางแบบ “ซาร่า” และการเป็นพ่อของทารกน้อย “แม็กซ์เวลล์” เหตุเพราะจำนนต่อหลักฐาน หนำซ้ำตอนแรกที่ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องตรวจ DNA เพราะเห็นหน้าก็รู้ว่าใช่ แต่สุดท้ายฝ่ายหญิงก็ต้องหอบลูกไปตรวจจนได้ ก่อนที่ผลจะออกมาว่าเป็นทายาทของอดีตนักร้องดูโอจริง ยังดีที่งานนี้หนุ่มไมค์ก็ไม่ได้ทิ้งขว้างซะทีเดียว ยังมีภาพที่หมั่นไปกอดเล่นกับลูกชายปรากฏออกมาตามสื่ออยู่เนืองๆ มิเช่นนั้นอาจจะโดนวิพากษ์วิจารณ์หนักกว่านี้

แต่รายของ “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ไม่ได้ท้อง กลับโดนข่าวลือเป็นตุเป็นตะว่าท้อง

เซ็กซี่-เซ็กซ์เสื่อม
ในวงการบันเทิงต้องยอมรับว่าผู้หญิงที่แต่งตัวเซ็กซี่แบบมีรสนิยม เลอค่า สง่างาม และดู “แพง” มีหลายคน เท่าที่พอจะยกตัวอย่าง ก็อาทิ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ , ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต , ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ , เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ , พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ไม่นับที่ดูมีคลาส โดยไม่จำเป็นต้องเซ็กซี่อย่างแอน ทองประสม” , เชอร์รี่-เข็มอัปสร หรือรุ่นเด็กอย่างญาญ่า-อุรัสยา , แต้ว-ณฐพร , มิ้นต์ ชาลิดา ฯลฯ

แต่ที่ทำเอาวงการ “เสื่อม” ก็เห็นจะเป็นพวกที่ชอบแต่งตัวแบบไร้รสนิยม และไร้ยางอาย หวังเพียงแค่จะสร้างกระแสให้ตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงกาลเทศะและความเหมาะควร โดยเฉพาะในปีนี้ ที่อุจาดถึงขั้นที่ถูกกระหน่ำโจมตีอย่างรุนแรง ก็เห็นจะไม่มีใครเกิน “เจมี่ บูเฮอร์” ที่ประเดิมมาก่อนด้วยชุด “แหวกล่าง” จนเห็นกางเกงใน งานนี้คงคาดหวังว่าจะกลับมาโด่งดังในวงการอีกครั้ง หลังจากที่ชื่อเสียงถดถอยไปนาน แต่ก็ไม่มีใครเอาด้วย

ตามมาด้วย “กระต่าย แม็กซิม” ที่อุจาดไม่แพ้กัน กับชุด “เปิดบน” มีเพียงสายเอี๊ยมปิดหัวนมไว้เท่านั้น ผลก็คือโดนด่าเละเทะไม่มีชิ้นดี ต่อให้แก้ตัวว่าไม่ได้ตั้งใจก็ไม่มีใครฟัง เพราะเจตนามันเห็นกันชัดแจ้งอยู่แล้ว

เอาเป็นประมวลกันพอเบาะๆ เพียงเท่านี้ เริ่มต้นศักราชใหม่ 2558 หวังใจว่าวงการบันเทิง น่าจะมีอะไรแซบซ่าและคึกคักยิ่งกว่าเดิม อย่างน้อยก็ขอให้หลุดพ้นจากวังวนรักๆ เลิกๆ แต่งๆ หย่าๆ ด่ากันผ่านไอจีเหมือนปีที่ผ่านมาก็พอ

ที่มา นิตยสารASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 270 27 3 -9 มกราคม 2558
































กำลังโหลดความคิดเห็น