xs
xsm
sm
md
lg

หรือความรักจะถึงทางตัน !? “อั้ม-พัชราภา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ความรักของซูเปอร์สตาร์ระดับ “ตัวแม่” อย่าง “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” มีหรือที่ผู้คนจะไม่สนใจใคร่รู้ ถ้าเป็นไปได้เรียกว่าแทบจะอยากเกาะติด เอาชนิด “ถึงใจ ถึงอารมณ์” สมดังคำโฆษณาช่อง 7HD. เลยทีเดียว
เมื่อความรักระหว่างเธอกับ “แอมป์-พิธาน องค์โฆษิต” เริ่มส่อเค้าลางว่าจะไปไม่ถึงระฆังวิวาห์ หลายคนก็เริ่มจับสังเกต ว่าจะจริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่ ? หรือเป็นแค่กระแสข่าวโคมลอยที่บรรดาเกรียนคีย์บอร์ดนำมาเมาท์มอยกันเป็นอาหารปากอันโอชะโอชา
เมื่อไม่มีคำยืนยันออกจากปากเจ้าตัว มีเพียงแต่การตั้งข้อสังเกตว่าระยะหลังมานี่ ดูเหมือนอั้มจะไม่ค่อยอัปรูปคู่ ลงไอจีส่วนตัว @aum_patcharapa เหมือนเคย บรรดานักข่าวสายบันเทิง ก็เริ่มกวาดสายตามองหาแหล่งข้อมูลใกล้ๆ ตัวทันที ปกติกระบอกเสียงของเรื่องนี้ น่าจะเป็นหน้าที่ของพี่สาวสุดเลิฟ อย่าง “เมย์ เฟื่องอารมย์” แต่หนนี้นักข่าวพร้อมใจกันยกผลประโยชน์ให้จำเลย เพราะเข้าใจว่าอยู่ในช่วงกำลังฟูมฟักลูกสาวตัวน้อย ที่เกิดกับ “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” ก็เลยไม่อยากจะไปรบกวนเวลา ฉะนั้นแล้ว ผู้ที่จะทำหน้าที่นี้ได้ดีไม่แพ้กัน ก็คือมือวางอันดับ 2 อย่าง “เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร” แต่เจ้าตัวก็ยืนยันเสียงแข็งว่า ความรักของอั้มกับแอมป์ยังคงสวีตหวานกันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ทว่า....คล้อยหลังยังไม่ทันไร ฝ่ายชาย ก็มีการโพสต์ข้อความเป็นเชิงพูดถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มไม่ปกติผ่านไอจี @amp_ongkosit
“ผมต้องขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องที่ไม่ได้ออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับข่าวทำให้ทุกคนต้องลำบากนะครับ การที่คนสองคนคบกันก็คงมีการงอนกันบ้างเป็นเรื่องปกตินะครับ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับแฟนเก่าของผม ผมขอยืนยันนะครับว่าผมไม่เคยติดต่อแฟนเก่าหรือปรึกษาแฟนเก่าเกี่ยวกับคุณอั้ม การที่เราสองคนงอนกันครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการวีนของคุณอั้มครับ มีคนเคยถามผมว่าคุณอั้มเหมือนในละคร“พราว” หรือเปล่า ผมขอตอบเหมือนเดิมนะครับว่าคุณอั้มไม่ใช่คนเหวี่ยงหรือวีน แต่เขาเป็นคนที่ตั้งใจทำอะไรแล้วจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวก็ตาม ผมหวังว่าสิ่งที่ผมเขียน คงจะตอบคำถามของทุกคนได้ไม่มากก็น้อย สุดท้ายผมขอเวลาให้เราได้เข้าใจตัวเองแล้วเมื่อถึงเวลาเราจะออกมาตอบคำถามทุกอย่างที่ทุกคนสงสัยนะครับ ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เรามาตลอดนะครับ”
ข้อความดังกล่าว แม้จะไม่ถึงกับ “ยอมรับ” หรือ “ปฏิเสธ” แต่ก็ทำให้น้ำหนักเทไปทางอย่างแรกมากยิ่งขึ้น เลิก-ไม่เลิกไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็จับได้ว่าทั้งคู่ระหองระแหงกันจริง !!

อย่างไรก็ตาม การออกมาโพสต์ข้อความของแอมป์ในครั้งนี้ แฟนเพจยอดนิยม อย่าง “อีเจี๊ยบเลียบด่วน” ได้วิเคราะห์โดยนำมาเปรียบเทียบกับความรักระหว่าง “เต๋อ-ฉันทวิชช์” กับ “พีค-ภัทรศยา” ที่เพิ่งเลิกรากันไปก่อนหน้านี้ โดยระบุว่าเป็น “ฉันทวิชช์ โมเดล” ซึ่งน่าจะหมายถึงเป็นคู่รักที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กันอยู่แล้ว แต่ความรักกลับมาล่มสลายกลางคัน เหมือนๆ กัน โดยที่สาเหตุของการเลิกรากันนั้นยังคงคลุมเครือ

เมื่อย้อนกลับไปสัมภาษณ์ “เมย์-พิชญ์นาฏ” อีกครั้ง กลับได้รับคำตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ยืนยันเสียงแข็งเหมือนก่อนหน้านี้

“ก็บอกตามนั้น ซึ่งเมย์ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องของเมย์เนอะ เอาเป็นว่าคนเราคบกัน ขนาดกับเพื่อนยังมีงอนกัน อันนี้เป็นแฟนก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของคนสองคนที่เขาจะต้องคุยกันเอง เราว่าเรารอฟังจากปากเขาเองดีกว่าค่ะ ไม่กล้าจะพูดอะไรมาก เมื่อเช้าก็คุยกัน พี่เขาก็ปกติค่ะ ก็พี่เขาไม่ได้พูดอะไรที่มันทำให้เราเป็นห่วง เราก็ไม่ค่อยกล้าถาม ตอนนี้ทุกอย่างมันก็ยังปกติอยู่ ฉะนั้น เมย์ก็ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร เอาเป็นว่ารอให้เขาสบายใจก่อนดีกว่า รอเขาออกมาพูดเองดีกว่าค่ะ

ไม่ได้กลบเกลื่อนค่ะ เราเป็นเพื่อนกัน ฉะนั้นเราไม่เห็นว่าเพื่อนเราเป็นอะไร เราก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ถ้าวันหนึ่งเพื่อนเราเป็นอะไร เราก็จะวิ่งไปดูแลเพื่อนเรา วันนี้เขายังร่าเริงอยู่ เราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปทำอะไร จริงๆ เมย์เป็นทั้งเพื่อนและน้อง สมมติเวลาเมย์ไม่สบายใจ ถ้าเกิดเมย์ยังไม่พร้อมที่จะให้ใครมายุ่งกับเมย์ ก็จะบอกว่าเมย์โอเค และถ้าเมื่อไหร่ที่อยากเล่าเดี๋ยวจะเล่าเอง บางทีอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ รอเขาดีกว่าค่ะ”
เมื่อไม่ได้รับความกระจ่างอย่างที่ต้องการ เป้าหมายต่อไป ที่นักข่าวจะต้องตามไปสืบเค้นหาความจริง ก็คือ “เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร” ในฐานะผู้จัดการส่วนตัว
"พี่สาบานได้เลยว่าไม่ทราบจริงๆ เรื่องนี้ เพราะอั้มไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเลย และตอนที่มีข่าวออกมาช่วงแรกๆ พี่ได้ถามอั้มเหมือนกันว่าอะไรยังไง อั้มตอบแต่เพียงว่าไม่มีอะไร ช่วงนี้อั้มถ่ายละครอยู่ เขาก็ตั้งใจทำงานมากในความคิดพี่ คู่อั้มและแอมป์เป็นคู่ที่น่ารัก ต่างคนต่างงอนกันไปมาเหมือนลิ้นกับฟัน สำหรับพี่เอคิดว่าเขาไม่ได้เลิกกันขาดหรอก คงแค่งอนกัน คิดว่าเดี๋ยวคงดีกัน แต่ถ้าเขาสองคนต้องเลิกรากันจริงๆ ก็ไม่ได้โทษใครทั้งสิ้น เพราะแอมป์และอั้มน่ารักทั้งคู่ คงเป็นเรื่องของคนสองคนจริงๆ คงต้องรอให้เขาทั้งคู่ออกมาพูดเรื่องนี้เองดีกว่า"

ทว่าเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสได้เจอกับอั้มในงานอีเวนท์งานหนึ่ง ซึ่งอั้มได้เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ความว่า
"ตามที่แอมป์ได้ลงในไอจีไปเลยค่ะ คงยังไม่มีอะไรจะพูดตอนนี้ ใช้เวลาให้ทิ้งช่วงสักนิดนึง ยอมรับว่ามีปัญหากันแต่เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา แต่เผอิญว่ามีข่าวออกมาทำให้แอมป์ต้องออกมาพูด อย่างที่บอกว่าจริงๆ เป็นเรื่องเล็ก แต่พอข่าวออกมาทำให้กลายเป็นดูใหญ่ ปัญหาเล็กมากจริงๆ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับบุคคลที่สามตามที่ข่าวออกมาแม้แต่นิดเดียวเลย ตอนนี้ก็ไม่ได้เจอกันไม่ได้คุยกันมาหลายอาทิตย์แล้ว ไม่มีการติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าอั้มจะโทร.ไปหรือแอมป์โทร.มาไม่มีเลยค่ะ แต่ว่าเพื่อนเราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันอยู่แล้วก็ยังไม่ได้พูดอะไรที่ชัดเจนขนาดนั้น ต้องใช้เวลาจริงๆ ถามว่ามีการตกลงว่าจะห่างกันไหม ไม่มีการตกลงอะไรเลย คนไม่ได้คุยกันก็ห่างกันไปเอง หลังจากที่มีปัญหากันต่างคนก็ต่างเงียบ และไม่ได้โทร.หากันอีกเลย ไม่มีการง้อ ไม่มีความหวังอะไรทั้งนั้น อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าใช่ของเราก็คือใช่ ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ แต่ไม่มีบุคคลที่สาม ไม่มีเรื่องการวีน ไม่มีข่าววิวาห์ ไม่จริงสักข้อหนึ่งเลย จริงๆ ทะเลาะกับแอมป์ไม่มีเรื่องใหญ่ๆ เลยค่ะ มีแต่เรื่องเล็กๆ นี่แหละแต่มันจะเป็นปัญหาของเรา ถึงบอกว่าไม่กล้าระบุไงคะ พาดหัวข่าวไปเลยนะคะว่าคลุมเครือ อั้มพูดได้เลยว่าต่อให้จะเป็นยังไง จะดีกันหรือไม่ดีกัน เราก็ยังยืนอยู่อย่างนี้ คือเมื่อก่อนอั้มไม่เคยมีเขาก็อยู่ได้ วันนี้อั้มก็อยู่ได้ค่ะ ไม่ได้ซีเรียสอะไรเลย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าใช่ก็คือใช่"
การเป็นซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของอั้ม ไม่อาจรับประกันได้ว่าชีวิตส่วนตัว หรือชีวิตรักนั้น จะต้องประสบความสำเร็จเหมือนกับชีวิตการทำงาน อั้มอาจจะจัดอยู่ในหมวด Lucky In Game – Unlucky In Love อาจจะแตกต่างจาก “ชมพู่-อารยา” ที่ขับเคี่ยวกันมา และถูกจับนำมาเปรียบเทียบกันตลอด ซึ่งรายหลังดูเหมือนความรักจะราบรื่น โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ
แต่มองในอีกมุมหนึ่ง ก็อาจจะเป็นการดี ถ้าอั้มจะยังคงรักษาสถานภาพ “โสด” ของตัวเองไว้อยู่ เพื่อเก็บเกี่ยว และกอบโกยชื่อเสียง ในระหว่างที่ชื่อ-ชั้นของตัวเอง ยังคงหอมหวนอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการ

ที่มา นิตยสารASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 263 15-21 พฤศจิกายน 2557
















กำลังโหลดความคิดเห็น