งามแท้แม่หญิงลาว เจาะใจ “หลิงหลิง” ตัวเต็งมิสอินเตอร์ฯ ควีน 2014 สวยพิฆาต “ปอย ตรีชฎา” เผยพ่อไม่ยอมรับเผาของรักคาตา แต่ต่อสู้จนครอบครัวเปิดใจ พ่อใจอ่อนให้เงินแสนห้ามาคว้านเงาะที่เมืองไทย สุดสยองเลือดออกยิ่งกว่าทำแท้ง ตั้งปณิธานจะไม่ทำให้ครอบครัวผิดหวัง เปิดโปงวงการเทยลาวไม่มีที่ยืนในสังคม อยากชนะการประกวดกลับไปทวงสิทธิ์ ย้ำกะเทยก็คนเหมือนกัน
ทำเอาฮือฮาสนั่นโลกออนไลน์ ตั้งแต่ยังไม่ทันจะเปิดตัวออกสื่ออย่างเป็นทางการ สำหรับ “หลิงหลิง ปิยดา อินทะวง” สาวประเภทสองตัวแทนของประเทศลาว ผู้เข้าประกวดหมายเลข 20 เวทีประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล ควีน 2014 เธอมาพร้อมกับความเนียนสวยใสเหมือนผู้หญิงแท้ๆ ทั้งรูปร่างหน้าตา เลยทำให้ถูกจับตาว่าน่าจะเป็นตัวเต็งอีกคนที่มีลุ้นคว้าตำแหน่งมิสอินเตอร์ฯ ควีนไปครอง วันนี้ซุปเปอร์บันเทิงผู้จัดการออนไลน์เลยรีบคว้าตัว หลิงหลิง มาทำความรู้จักคุยกันแบบเฉาะกะเทาะเปลือก ย้อนถึงสมัยก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด ทำอย่างไรถึงเอาชนะใจพ่อกับแม่จนให้การยอมรับว่าลูกเป็นกะเทย
“หนูเป็นคนลาวค่ะ เกิดที่ลาวเลยมีพี่น้องสองคนหนูเป็นพี่คนโต น้องสาวเรียนอยู่ที่จีน คุณพ่อเป็นหมอเกี่ยวกับโรคไต คุณแม่เป็นหมอตรวจภายใน อยู่ที่โน่นหลิงทำงานในเวดดิ้งสตูดิโอ แล้วก็ศึกษาภาษาอังกฤษระดับพื้นฐานควบคู่ไปด้วย ตัวหลิงเป็นช่างแต่งหน้าเจ้าสาวที่สตูดิโอเวดดิ้ง ซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัว ที่ผ่านมาก็มีไปๆ มาๆ เมืองไทยบ้าง แต่หลังๆ จะมาอยู่เมืองไทยยาวเลย เพราะว่าเรารับงานถ่ายแบบเป็น พริตตี้ บ้าง แต่ว่าจะไม่ได้รับโดดเด่นอะไรมาก”
เผยต้องใช้เวลากว่าพ่อจะยอมรับ ก่อนให้เงินแสนห้าคว้านเงาะที่เมืองไทย บอกสุดสยองเลือดออกยิ่งกว่าทำแท้ง
“ตั้งแต่หลิงจำความได้ก็รู้สึกว่าตัวเองชอบผู้ชายเลยนะคะ(หัวเราะ) อยากใส่กระโปรง แต่พอเอากระโปรงมาใส่คุณพ่อก็ไม่พอใจ ส่วนคุณแม่จะเต็มที่ไม่ได้ว่า เมื่อก่อนคุณพ่อจะไม่ชอบเลยอย่างเวลาหนูซื้อกระเป๋าของผู้หญิงมาคุณพ่อจะเอาไปเผาเลย แอนตี้มากตอนช่วงที่หลิงอายุ 15-16 ปี แต่มันมีช่วงหนึ่งที่คุณพ่อต้องไปศึกษาต่อเรียนหมอที่อเมริกาสองปี ทำให้หลิงได้แต่งตัวได้เต็มที่ แล้วพอวันที่พ่อกลับมาเขาให้หลิงไปรับที่สนามบินเราก็แต่งหญิงไปเลยปรากฏว่าคุณพ่อจำไม่ได้เลย”
“พอกลับมาบ้าน คุณพ่อบอกซื้อเสื้อผ้าผู้ชายมาฝาก แล้วบังคับให้เราใส่เสื้อผ้าผู้ชาย ตอนนั้นรู้สึกโกรธพ่อมากไม่ไปไหนเลย พ่อชวนไปไหนเราก็ไม่ไปไม่ออกไปกินข้าวนอกบ้านเลย เพราะรู้สึกอายมากที่ต้องแต่งตัวเป็นผู้ชาย สักพักพ่อคงสงสารเลยบอกให้ไปแต่งตัวเป็นผู้หญิงมาให้ดูหน่อย พอเห็นแล้วก็บอกว่าสวยดีนะ และถ้าจะเป็นแบบนี้จริงๆ ก็ต้องให้สวยนะอย่าให้ขายหน้า ต้องให้เหมือนผู้หญิงที่สุด”
“ตอนนั้นหนูรู้สึกดีใจมากที่คุณพ่อรับได้แล้วที่เราเป็นกระเทย แถมหลังจากนั้นพ่อให้เงินมาทำนมที่ประเทศไทยด้วย(หัวเราะ) ตอนนั้นอายุ 19 ยังเรียนอยู่ แต่ช่วงนั้นดร็อปไปแล้วก็ไปเรียนแต่งหน้าเรียนหลายอย่าง แล้วก็มาประกอบอาชีพตรงนี้เลย หลังจากนั้นพอทำเสร็จเราเข้ามาเมืองไทยแล้วเห็นกระเทยเมืองไทยสวยมาก พอกลับไปลาวอีกครั้งก็กลับไปขอคุณพ่อว่าอยากแปลงเพศ อยากเป็นผู้หญิงเต็มตัว คุณพ่อก็ให้เงินมาแปลงเพศที่ประเทศไทยอีก”
“ตอนนั้นหลิงมาแปลงเพศราคาแสนห้าคุณหมอดูแลดีมาก ส่วนหน้าอกสี่หมื่นห้าพันบาท แล้วก็มีโบท็อกซ์หน้าให้หน้าเล็ก เพราะหลิงหน้าบานมากนอกนั้นเราก็ดูแลตัวเอง ออกกำลังกายเล่นโยคะเพื่อให้หุ่นสวย ตอนนี้หนูเป็นสาวเต็มตัวแล้ว ตอนที่แปลงเพศต้องอยู่ที่โรงพยาบาล 7 วัน เลือดมันจะไหลออกมาเยอะมาก เป็นเหมือนคนทำแท้งมาเลย พอหลังจากทำเสร็จคุณพ่อห่วงเรามากขึ้น กลัวเวลาจะไปไหนเพราะว่าเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้วญาติๆ ก็ยอมรับในตัวเรา”
“หลังจากทำมารู้สึกได้เลยว่าชีวิตเปลี่ยนไปมาก รู้สึกว่าได้ทำอะไรเหมือนผู้หญิง ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นกระเทยอีกแล้ว หลังจากที่แปลงเพศมา มันทำให้เรามั่นใจมากเวลาใส่กางเกงรัดรูปตัวหลิงก็จะไม่พูดคำหยาบเลย เพราะอยากให้ดูดีในสายตาคนอื่นดูเป็นผู้หญิงให้มากที่สุด ทางคุณพ่อก็หวงและห่วงมากขึ้นจะกลัวไม่ค่อยอยากที่จะให้หลิงออกไปไหนเพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้ว”
หลิงหลิงเผยถึงจะเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้ว แต่สำหรับเรื่องความรักขอปิดกั้นเพราะอยากเดินหน้าสร้างฝันต่อไป
“เรื่องหนุ่มๆ หลิงยังไม่คิดเรื่องนี้ น้อยคนนักที่จะเข้ามาจริงใจด้วย กลัวไม่อยากมีแฟน ถ้าไม่ได้ผู้ชายที่ดีก็ไม่อยากที่จะมี เพราะผู้ชายบางคนที่เข้ามาก็หวังแค่เรื่องเดียวก็ไม่เอาเลยค่ะเลิกคุย แต่อย่างที่ผ่านมาก็มีเข้ามาคุยๆ อย่างคนที่เข้ามา หลิงก็เปิดเผยเต็มที่ไม่แอ๊บบอกเลยว่าไม่ใช่ผู้หญิงนะ เพราะถ้าเราไม่บอกแล้วเขามารู้ตอนหลังก็จะเสียความรู้สึกเปล่าๆ อย่างบางคนพอรู้เหมือนอึ้งๆ แล้วก็หายไปเลย ตอนนี้เลยยังไม่อยากมีความรักอยากทำความฝันให้เป็นจริงก่อน ความฝันหลิงอย่างแรกเลย คืออยากประกวดเวทีอินเตอร์เนชั่นแนลควีน และถ้าได้โอกาสจากผู้ใหญ่ก็อยากทำงานในวงการบันเทิง หลิงอยากเป็นนางแบบอยากแสดงละคร ไม่ว่าจะเป็นที่ไทย หรือ ลาวขอแค่มีโอกาสเข้ามาผู้ใหญ่ให้โอกาสหลิงไม่เกี่ยงเลย”
เผยอยากชนะการประกวดเพื่อให้ประเทศลาวยอมรับว่ากะเทยก็คน อยากสร้างจุดเปลี่ยนให้กะเทยลาวได้มีจุดยืนในวงสังคมบ้าง
“พี่ชาติ(นพกร เพชรล้ำ) เป็นคนส่งหลิงเข้าประกวด ตอนที่ตัดสินใจมาประกวดเพื่อนๆ ก็บอกว่า มึงจะมาประกวดทำไม มึงไม่กลัวเหรอ คนไทยเขาแรงนะ พอได้มาเมืองไทยหลิงยังไม่เคยเจอคนไม่ดีเลย อย่างลูกๆ แม่ชาติก็ต้อนรับดูแลดีมาก ก่อนมาประกวดบอกที่บ้านให้รับรู้คุยเรียบร้อย แต่คุณพ่อคุณแม่จะห่วงมาก บอกตลอดว่าอย่าไปติดยานะ อย่าไปทำอะไรที่ไม่ดี หลิงเองก็ปฏิญาณกับคุณพ่อคุณแม่ว่าจะไม่เอาสิ่งเหล่านี้เข้ามาในชีวิตสัญญา”
“ที่ผ่านมาลาวค่อนข้างแอนตี้ไม่ค่อยให้กระเทยทำงานในทุกๆ ด้าน ประเทศลาวจะมีกระเทยไม่ค่อยเยอะถ้าเทียบกับเมืองไทยแล้วจะไม่ค่อยเปิดเผยด้วย หลิงเป็นรายแรกๆ เลยที่กล้าเปิดเผยตัวเอง ทำให้สังคมยอมรับ ปกติถ้าใครเปิดแบบนี้สังคมจะไม่ยอมรับเลย แต่พอหนูมาประกวดแบบนี้ทุกคนก็โอเค เราสัญญาเลยว่าจะไม่ทำให้เสื่อมเสีย กระแสด้านลบของหนูยังไม่เห็นก็จะเห็นกระแสด้านบวก อาจเพราะหลิงวางตัวดีด้วยไม่เคยทำให้เสื่อมเสีย หลิงเป็นกระเทยคนเดียวที่ได้ใส่ผ้าซิ่นในประเทศลาวไปเรียนหลินไปขออาจารย์ในโรงเรียนเลย ว่าขอใส่ผ้าซิ่นบอกเลยว่าหนูจะทำตัวให้เหมือนผู้หญิงคนหนึ่ง”
“และถ้าสมมุติว่าหลิงได้รับตำแหน่ง หลิงก็อยากจะกลับไปสร้างจุดยืนให้กับสาวประเภทสองคนอื่นๆ บ้าง เพราะทุกคนก็อยากที่จะมีที่ยืนทำงานในสังคมได้บ้าง หนูเห็นสาวประเภทสองบางคนที่แก่ไปแล้วไม่มีสิทธิ์อะไรเลย หลิงคิดว่าสาวประเภทสองก็เป็นคนเหมือนกัน ศักยภาพการทำงานก็ไม่ต่างกับคนอื่นๆ หลิงมีพี่ปอย (ตรีชฎา เพชรรัตน์) เป็นไอดอล พี่ปอยคือนางฟ้า แต่หนูไม่กล้าเทียบจริงๆ พี่ปอยตัวจริงสวยมาก”
ด้าน “ชาติ นพกร เพชรล้ำ” ช่างแต่งหน้าชื่อดัง ที่เคยส่งสาวประเภทสองของประเทศไทยเข้าประกวดและได้ตำแหน่งมาแล้วนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็น ปอย ตรีชฏา เพชรรัตน์ มิสทิฟฟานี่ปี 2004,ไก่โต้ง รัฐระวี จีระประภากุล มิสทิฟฟานี่ปี 2006 แต่ครั้งนี้เขาเทรนด์ “หลิงหลิง ปิยดา อินทะวง” ประกวดเวทีมิสอินเตอร์ฯ ควีน มั่นใจสวยไม่แพ้ชาติใดในโลก
“ยังคิดเลยว่าคนไทยจะว่าเราไหม แต่คิดว่าคนลาวก็เป็นบ้านพี่เมืองน้องอะไรแบบนี้ หลิงหลิงก็เป็นลูกสาวอยู่ในค่ายก็แปลกดีเป็นคนลาวคนแรกที่เราส่งเข้าประกวด นี่ยังไม่รู้เลยมีใครว่าหรือเปล่า(หัวเราะ) แต่ก็คิดแหละว่ามันเป็นแค่การประกวดถึงเราจะไม่ได้ส่งมันก็มีหลายคนหลายประเทศติดต่อมาให้แต่งหน้าให้ ส่วนเรื่องที่คนมองว่าเป็นตัวเต็งไม่ได้คิดเลยว่าน้องจะเป็นตัวเต็ง แต่พอวันนี้เออไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีกระแสขนาดนี้ มีคนโทร.มาติดต่อออกรายการโน่นรายการนี้ได้ไหม สัมภาษณ์ได้หรือเปล่า ก็ยังแปลกใจความคาดหวังมันก็ห้าสิบก็เข้าใจกระแสนะ แต่มันอยู่ที่ตัวน้องว่าจะทำออกมาได้ดีแค่ไหน”
“ตอนที่เห็นหลิงหลิงครั้งแรกเราก็เห็นว่ามีแววนะ เรามองว่าเขาสวยและเหมือนกะเทยไทย ตอนแรกคิดว่าเป็นกะเทยไทยหรือเปล่า แต่พอจริงๆ แล้วเออไม่ใช่ คนลาวจริงๆ สำหรับคนนี้เราก็คาดหวังแหละเราเองก็เต็มร้อย แต่มันก็อยู่ที่น้องด้วยว่าจะทำได้มากแค่ไหนเวลาอยู่บนเวที พี่เองก็เทรนด์เรื่องบุคลิกภาพ การวางตัวในสังคมผู้เข้าประกวดว่าควรทำตัวยังไง การรักษาเวลา เวลาพบสื่อ เวลานั่งต้องทำยังไง เราก็สอนหมดเลย น้องไม่เคยมีประสบการณ์ในการประกวดเขาจะไม่ค่อยมั่นใจ เขายังถามเลยว่าคุณแม่มั่นใจในตัวหนูเหรอ เราก็บอกไม่เป็นไรทำให้เต็มที่ให้ดีที่สุด ให้เขาเป็นธรรมชาติที่สุด ตัวเขาก็มีความใฝ่ฝันและตั้งใจมาก”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |