[ชมคลิปเต็ม] “พีค” แถลงทั้งน้ำตา ขอเลิก “เต๋อ” ก่อนเกลียด เสียดายวิวาห์ล่ม

“พีค ภัทรศยา” น้ำตาแตก เปิดใจเลิก “เต๋อ ฉันทวิชช์” เสียดายวิวาห์ล่ม แต่ขอเลิกก่อนเกลียด ชมเต๋อเป็นแฟนที่ดี แต่รักอย่างเดียวยังคงไม่พอ!



เป็นการประกาศเลิกฟ้าแลบที่ทำเอาช็อกใจแฟนๆ และสะเทือนวงการอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นคู่ที่น่ารักมาตลอดสำหรับ “เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” กับ “พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ” อีกทั้งยังลุ้นว่าปีหน้าจะต้องได้เห็นงานแต่งของทั้งคู่แน่นอน แต่สุดท้ายฝ่ายชายก็ได้ออกมาเปิดใจน้ำตาคลอว่าได้ล้มโครงการวิวาห์ไปแล้ว ด้วยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย โดยระบุรักกันมากแต่เป็นปัญหาที่สะสมมานาน ล่าสุดพีคก็ได้ออกมาแถลงข่าวทั้งน้ำตาเปิดใจถึงสาเหตุการเลิกรากัน ที่บริษัท นาดาว ซอยสุขุมวิท 31 โดยเผยว่าอีกฝ่ายเป็นแฟนที่ดีมากตลอดระยะเวลา 7 ปี แต่รักอย่างเดียวยังไม่พอ และขอเลิกกันก่อนที่จะรู้สึกเกลียดกันในภายหลัง

"จริงๆ ก็ไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่นะคะ แต่ว่าถ้าจำเป็นพีคก็พูดได้ (ร้องไห้) สาเหตุที่เลิก (นิ่งนาน) จริงๆ แล้วอย่างที่พี่เต๋อพูดเลยนะคะ เป็นปัญหาที่สะสมมานานแล้วจริงๆ ซึ่งเราสองคนพยานามแก้ไขกันแล้ว พยายามกันมาสักพักหนึ่งแล้วค่ะ แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ตัดสินใจว่าควรหยุดตรงนี้ดีกว่า คือตลอดเวลาที่คบกันมา 7 ปีดีมากนะคะ ซึ่งเราเป็นแฟนที่รักกัน (ร้องไห้) แต่ว่าวันนี้มันจะก้าวข้ามผ่านไปยังวันแต่งงาน ฉะนั้น มันไม่ได้มีแค่ความรักอย่างเดียวค่ะ มันต้องมีความเข้าใจ การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ลงตัวจริงๆ ฉะนั้นมันก็เลยทำให้ปัญหาเล็กๆ ที่เรามีมันเกิดเป็นปัญหาใหญ่ได้ในอนาคต ไม่มีใครอยากแต่งงานแล้วต้องแยกกันหรอกค่ะ ก็เลยมานั่งคุยกัน แล้วก็ได้ตัดสินใจว่าหยุดไว้ดีกว่า คือไม่อยากเกลียดกัน (เสียงสั่น) ไม่อยากเป็นคนที่รักกันแล้วเกลียดกัน ซึ่ง ณ ตอนนี้มันก็เป็นความรักที่ดีมาก (เสียงสั่น)”

“เอาจริงๆ ถ้าเป็นปัญหาของคนอื่นที่คบกันแต่ละคนก็คงมีปัญหาของแต่ละคู่นะคะ ซึ่งบางทีพีคว่าแต่ละคู่ก็มีปัญหาไม่เหมือนกัน แต่นี่มันก็เป็นปัญหาคู่ของเรา แต่ก็ได้พยายามแล้ว เพราะว่าทุกคนรักคู่พีคกับพี่เต๋อมาก (ร้องไห้) ซึ่งพีคก็ขอบคุณมากที่ให้กำลังใจ แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง คือเราพยายามกันแล้วจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ”

“มันมีปัญหาหลายอย่างค่ะ คือตอนที่เราคบกัน พอเราโตขึ้นความที่เราเคยเหมือนกันในบางอย่างมันก็ไม่เหมือนกัน แล้วเราก็ไม่อยากต้องไปปรับต้องเปลี่ยนใครให้ไปมากกว่านี้ เพราะพีคก็ชอบความที่เป็นตัวพี่เต๋อ แล้วพี่เต๋อเขาก็เคารพในความที่พีคเป็น เราพยายามทุกอย่างด้วยกันแล้วค่ะ แต่สุดท้ายแล้วพีคคิดว่าแบบนี้น่าจะดีที่สุดสำหรับชีวิตเราทั้งคู่ค่ะ”

บอกไม่เคยเสียดายเวลาเพราะเป็นคนที่ดีมากแต่เสียดายที่ไปไม่ถึงวันแต่งงาน
“พีคนั่งคุยกันแล้วก็ยังพูดอยู่ทุกวันนี้เลยว่าพีคไม่เคยเสียดายเวลาที่คบกับพี่เต๋อเลย เพราะเขาเป็นคนที่ดีมาก (ร้องไห้) เรามีความสุขด้วยกันน่ะค่ะ ฉะนั้นไม่มีอะไรน่าเสียดายเลย แต่แค่เสียใจและเสียดายมากที่มันไม่สามารถไปถึงวันนั้นได้ (ร้องไห้) หลังจากเลิกแล้วได้คุยกันตลอดค่ะ คุยกัน ไปทานข้าวกัน เพราะตอนนี้ต่างคนต่างผอม (ยิ้ม) ก็เลยเชียร์อัปกัน”

“ปัญหาเกิดสักพักแล้วค่ะ เกือบๆ เดือนค่ะ ก็เสียใจนะคะเพราะว่าคนเรารักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ มันก็ต้องยอมรับความจริง และกว่าที่พีคจะตัดสินใจมาในวันนี้ พีคก็ผ่านการคิดทุกอย่างมาแล้ว ก็ต้องเข้มแข็งมากพอที่จะมาอยู่ตรงนี้ได้เหมือนกัน ก็ขอบคุณที่ทุกคนคาดหวังและเอ็นดูคู่ของเราค่ะ”

“ใครเป็นคนพูดว่าเลิก (นิ่งนาน) จริงๆ แล้วพีคเป็นคนเริ่มคุย คุยเพื่อจากกัน เราพยายามแก้อย่างที่บอก แต่ก็คงแก้กันมาสุดทางแล้ว มันก็เลยลงเอยแบบนี้ พี่เต๋อเสียใจมากค่ะ ทุกคนเสียใจกับเรา คนรอบข้างทุกคนเลย เราก็มีปลอบกันเอง อย่างบางทีพีคปลอบเขา พอเขาดีขึ้นพีคก็เป็น หลังๆ ก็เลยไม่ได้ปลอบกันค่ะ ก็แค่ทานข้าวธรรมดา”

ยันครอบครัวเข้าใจ ไร้มือที่สาม ส่วนตนไม่รู้จักทายาทตึกใบหยก
“ที่บ้านพีคก็เข้าใจดีนะคะ ครอบครัวพีคครอบครัวพี่เต๋อรักเราทั้งคู่ สุดท้ายแล้วเขาก็เข้าใจว่าถ้าเข้ากันไม่ได้ ก็ต้องแยกจากกันเป็นเรื่องธรรมดาของคู่รัก แต่เขาก็คงเสียดาย”

“ทายาทตึกใบหยกพีคไม่รู้จักเลย และที่มีภาพ พีคได้เห็นภาพนั้นมาสักพักแล้วและพี่เต๋อก็ได้เห็น วันนั้นพีคไปทำงานที่ร้านขนมของพีค แล้วคนในรูปก็เป็นเพื่อนของพี่ชายค่ะ เขาก็เป็นเพื่อนพีคด้วย พอเสร็จเราก็ไปกินข้าวกันต่อหลังจากทำงานเสร็จเฉยๆ เพราะว่าเขาแวะไปอุดหนุนพีค ซึ่งพี่เต๋อก็ได้รู้ข้อมูลอยู่แล้ว เหตุการณ์นี้ก็น่าจะสักพักแล้วนะคะ เพราะว่าพีคเป็นคนเปิดให้พี่เต๋อดูเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับใครค่ะ เพราะว่ามันเป็นที่เราสองคนค่ะ เป็นปัญหาของเราสองคนจริงๆ มีโอกาสกลับมาไหมตอนนี้ได้ตัดสินใจแล้วว่าเป็นแบบนี้ อนาคตไม่รู้จริงๆ แต่ตอนนี้ขออยู่กับปัจจุบันจริงๆ เลยค่ะ เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป”

โต้เปลี่ยนสังคมใหม่ ไฮโซขึ้น รับเจอเต๋อยังเศร้า
“พี่เต๋อมีเวลาให้พีคตลอดจริงๆ ค่ะ และที่เห็นในรายชื่อในอินสตาแกรมพีค มีพี่มุก พี่ต้อม ซึ่งพีครู้จักพี่มุกก่อนจะรู้จักพี่เต๋อด้วยซ้ำ และพี่มุกก็เป็นแม่สื่อให้คู่เราด้วยนะคะ ฉะนั้นไม่ใช่สังคมใหม่ เป็นสังคมตั้งแต่แรกของพีค ตั้งแต่ถ่ายหนังเรื่องแรกค่ะ ส่วนพี่ต้อมเป็นพี่และเป็นผู้ใหญ่ที่พีคสนิทตั้งแต่หนังเรื่องรักสามเส้า ฉะนั้นไม่ใช่สังคมใหม่ และทุกครั้งที่เราไปปาร์ตี้สังสรรค์กันพี่เต๋อก็ไปกับพีค”

“ถามว่าใครเปลี่ยน ต้องมีเปลี่ยนไปอยู่แล้วค่ะ คือพีคอาจจะเป็นคนที่เปลี่ยนมากกว่า เพราะว่าพีคกับพี่เต๋อคบกันตอนเวลาที่พีคเด็ก พอเราโตขึ้นยังไงมันก็ต้องมีความโตในแบบของตัวเองถูกไหมคะ วันหนึ่งตอนเด็กเราเป็นแบบนี้ พอโตขึ้นเรามีความคิดมากขึ้นทุกอย่างมันก็ต้องเปลี่ยนไปตามอายุ ตามวุฒิภาวะ ตามประสบการณ์ชีวิตที่เราเจอ แต่ว่าเราก็พยายามเข้าหากันตลอดอยู่แล้ว แต่มันก็อาจจะถึงเวลาจริงๆ”

“กับพี่เต๋อยังเจออยู่ค่ะ เมื่อกี้ก็เพิ่งเจอตอนไปถ่ายปฎิทินของนาดาว เจอกันก็ยังเศร้า ง้อไหมพีคคิดว่าพี่เต๋อเขาใช้ความเข้าใจทุกอย่างแล้วค่ะ เขาเป็นคนเก่งมาก (ยิ้ม) เหมือนเขาเข้าใจทุกอย่าง แต่ไม่แน่ใจว่าง้อหรือเปล่า แต่เขาก็เข้าใจอย่างที่พีคบอกและก็คงเป็นไปอย่างที่เราตัดสินใจค่ะ คือเราคบกันมานาน 7 ปี และหลังจากนี้เราก็วางไว้ว่าใช้ชีวิตด้วยการแต่งงาน มันเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ของชีวิตจริงๆ”

รับความรักอย่างเดียวไม่พอ เลิกกันเป็นทางออกที่ดี ไม่หวั่นมองหน้ากันไม่ติด ส่วนธุรกิจยังทำด้วยกันเหมือนเดิม
"คือพี่เต๋อรักพีคมาก พีคก็รักพี่เต๋อมากเหมือนกัน แต่ความรักมันไม่พอค่ะ ฉะนั่นถ้าวันหนึ่งแต่งงานกันไปรักกันอย่างเดียวแต่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่ได้ มีปัญหากันความรักนี้มันจะถูกบั่นทอน แล้วอาจจะเกลียดกันก็ได้ ฉะนั้น พีคว่าอันนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับชีวิตคู่ของเรา ซึ่งเราไม่อยู่ใกล้กัน แต่เราก็ยังรักกันได้ พี่เต๋อก็ยังเป็นพี่ที่ดีมากๆ ของพีค ซึ่งพีคก็เป็นน้องเขา เป็นเพื่อนเขาเหมือนกัน (ร้องไห้)”

“ขอบคุณมากๆ นะคะที่ทุกคนให้กำลังใจ พีคได้ดูในคอมเมนต์ที่ทุกคนเขียน ไม่ใช่แค่ให้กำลังใจ แต่ให้แนวคิดด้วย ก็ขอบคุณมากค่ะ แต่สุดท้ายแล้วเราสองคนตกลงกันแบบนี้แล้วจริงๆ ฉะนั้นก็ต้องก้าวกันต่อไปค่ะ”

“ส่วนเรื่องธุรกิจอันนี้คุยกันแล้วเหมือนกันค่ะ ก็ยังทำด้วยกันเหมือนเดิม เพราะพีคก็โตแล้ว พี่เต๋อก็โตแล้วฉะนั้นก็แยกแยะได้ อย่างพีคเป็นคนทำขนมพีคก็จะอยู่ในครัว พี่เต๋อก็ไปช่วยขายข้างหน้า มีหน้าที่กันอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ไม่มีการถอนหุ้นค่ะ”

“เรื่องมองหน้ากันไม่ติดไม่มีทางอยู่แล้วค่ะ แต่คงไม่อยากมองมากเพราะว่ามันเศร้าน่ะค่ะ เมื่อกี้ตอนถ่ายปฏิทินก็ลำบากเหมือนกัน แต่ก็ผ่านไปได้ ต้องให้เวลาหน่อยค่ะ หลังจากนี้ก็ต้องเข้มแข็งค่ะ (ร้องไห้) เพราะมันเพื่อชีวิตของเราทั้งคู่ ตอนนี้อยู่คนเดียวยังไม่ได้ ตอนนี้อยู่กับเพื่อนเยอะมาก เจอพี่ๆ ในรายชื่อนั่นแหละค่ะ”