“เสก โลโซ” ประกาศฟ้องสถาบันธัญญารักษ์ โมโหไม่ทำหนังสือยืนยันว่าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับการให้ “หมออังกูร” บุกบ้านตนเพื่อจะนำตัวไปรักษาที่สถาบัน จวกไอ้สั-ว์จบหมอมาได้ไง
นอกจากจะฟ้อง “กานต์ วิภากร” ภรรยา และ “นพ.อังกูร ภัทรากร” แพทย์สถาบันธัญญารักษ์ที่ทำการรักษาการติดยาของ “เสก โลโซ” เสกสรร ศุขพิมาย เมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว วันนี้เสกก็ได้เปิดแถลงข่าวที่บ้านประกาศฟ้องสถาบันธัญญารักษ์ เพราะน่าจะรู้เห็นเป็นใจให้หมออังกูรมาเอาตัวตนที่บ้านไปรักษาพยาบาล
“เรื่องฟ้องสถาบันเป็นความคิดของผมเอง ตอนแรกผมก็ฟ้องไอ้อังกูรไปแล้ว และผมมีความรู้สึกว่าสถาบันนี้จะต้องรับผิดชอบ เนื่องจากว่าเขาจะมาปรับความรับผิดชอบให้อังกูรคนเดียวไม่ได้ อังกูรนี่มันตัวเล็กๆ เป็นรองผู้อำนวยการ ฉะนั้น ผู้อำนวยการสถาบันจะไปออกสัมภาษณ์ว่า เขาไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะที่มันมานี่ (ที่บ้าน) มันใส่เครื่องแบบมาและเอารถของสถาบันมา”
“พวกนี้มันไม่รับโทรศัพท์ผมนะ มากล่าวหาว่าเสพยาเสพติดแต่คนที่เสพยาโทร. ไปหาพวกมันเ-อกไม่รับโทรศัพท์ เพราะฉะนั้นผิดวิสัยของความเป็นหมอของมัน เมื่อวานก่อนก็ไลน์ไปบอกลูกน้องมันและไลน์ไปบอกมันด้วยซึ่งมันไม่เคยตอบไลน์ผมเลยแม้แต่ครั้งเดียวอังกรูนี่นะ เสร็จแล้วผมก็บอกว่าวิโรจน์ วิโรจน์นี่ก็คือผอ. ว่าให้ทำหนังสือมาให้ผมหน่อย ถ้าไม่เกี่ยวข้องจะต้องทำหนังสือมา เพราะผมก็โตแล้วอายุ 40 แล้วนะ จะทำอะไรแบบนี้ต้องมาบอกกัน คุณจะมาบอกว่าไม่เกี่ยวกันไปสัมภาษณ์ที่ไหนใครก็พูดได้ และผมก็บอกว่าถ้าไม่ทำมาวันนี้ผมจะฟ้องมัน ผมก็เลยต้องทำเดี๋ยวจะหาว่าผมลักไก่”
“ผมติดต่อไปเมื่อวันเสาร์ให้ทำหนังสือมาวันอาทิตย์ ไอ้อังกรูก็ไม่เคยรับโทรศัพท์ผมเลยจนเมื่อเช้านี้ก็รับโทรศัพท์ผม ผมก็ใส่มันไปยกนึง มันก็คงจะรู้ว่าไม่ควรที่จะทำสิ่งที่มันทำแล้ว ก็บอกมันไว้เลยว่าให้ไปพบกันที่ศาล เมื่อก่อนคุยกับผมคุณเสกอยู่ไหนผมจะไปหา แต่เมื่อเช้าใจเย็นครับๆๆ แม่มพูดเป็นอยู่สามคำไอ้สั-ว์ ถือว่าไอ้นี่เป็นหมอไม่ได้เพราะหนึ่งผิดจรรยาบรรณ ไอ้นี่คือคนประเภทที่มันจะฉีดยาให้คนตายห่านี่ไอ้อังกูรนี่นะ เพราะฉะนั้นไอ้อังกูรเป็นหมอที่ควรจะไปรักษาตัวเองอย่างยิ่ง คุณอย่าคิดว่าหมอจะป่วยไม่ได้”
ฟ้องกรณี “หมออังกูร” นำคลิปขณะเข้ามารักษาติดยาเสพติดมาเผยแพร่
“ผมจะมีสิทธิ์บอกได้ไง จรรยาบรรณของแพทย์ตามที่คนไข้กำลังเบลอ ทำแบบนี้ถือว่าผิดจรรยาบรรณมาก ถ่ายมาแบบนี้เสร็จแล้วนำมาเผยแพร่นั่นคือเสียชื่อเสียงมาก ตอนแรกที่ไม่ฟ้องเพราะตอนนั้นให้อภัยก็ถือว่ามึงเอากูไปรักษา คิดว่าผมเป็นหนักเอาไปรักษาก็ถือว่าเป็นบุญคุณกัน แต่คราวนี้มาทำอีกให้อภัยไม่ได้เพราะฉะนั้นก็เลยย้อนไปฟ้องถึงอันโน้นด้วย สิ่งที่เขาทำผิดจรรยาบรรณของหมอเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหมอที่ไหนไม่มีใครเขาทำหรอกที่ไปถ่ายคนไข้ตอนเขาเบลอๆ โดยเฉพาะผมเป็นคนมีชื่อเสียง ถ้าผมไม่เข้มแข็งก็คงจะไม่ได้มาคุยณปัจจุบัน”
“เราต้องจัดการให้เป็นบรรทัดฐานว่าจรรยาบรรณแพทย์ของพวกคุณเนี่ยไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ละเมิดสิทธิ์คนไข้ นี่ขนาดผมเป็นนักร้องนะแล้วไม่รู้ลูกตาสีตาสาโดนมันทำอะไรขนาดไหน 7 วันนี้ถ้าสถาบันไม่ดำเนินการอะไรก็จะฟ้องอยู่แล้ว ผมไม่เคยขู่ใครอยู่แล้ว สิ่งที่ผมพูดนี่ทำจริงไม่เคยขู่ใครไม่เคยพูดให้กลัว ตอนนี้ให้มันคิดไง มึงจบหมอได้ไง มึงจบสถาบันไหนเนี่ย”
