ระดับ “บุ๋ม ปนัดดา” ไม่โง่ให้ผู้ชายหลอก! ยันสร้างเรือนหอ 100 ล้านเป็นชื่อลูกสาว รับรวยกว่า “เอก เอกริน” แต่ตนไม่สนฐานะอีกฝ่าย บอกหากหาคนรวยกว่าคงต้องเป็นมหาเศรษฐี เผยเคลียร์จบกรณีบล็อกเกอร์ดังแขวะหลอกลวงผู้บริโภคสเต็มเซลล์ อ้างสินค้าใช้ดีเพราะเป็นเจ้าของ
เป็นผู้หญิงที่มากความสามารถจริงๆ สำหรับสาว “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” เพราะนอกจากจะเป็นนักแสดงแล้ว ยังพ่วงตำแหน่งนักธุรกิจสาวที่จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปเสียหมด ล่าสุดเตรียมไปลุยธุรกิจที่ประเทศกัมพูชาอีกแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวเปิดเผยในงาน ดาราเดลี่ จัดงานฉลองเปิดตึกทำการใหม่และงานฉลองครบรอบ ณ ซอยลาดปลาเค้า 14 โดยบอกว่าลงทุนเป็นหลัก 10 ล้าน และมองไกลถึงผลรายได้ในอนาคตถึงหลัก 100 ล้าน เพราะตนถือเป็นดีลเลอร์แต่เพียงผู้เดียวของประเทศกัมพูชาเลยทีเดียว พร้อมเผยความคืบหน้างานแต่ง บอกมัวแต่ทำงานจนลืม รับทุ่ม 100 ล้านสร้างเรือนหอ แต่ไม่โง่ให้ผู้ชายหลอกเพราะสร้างเป็นชื่อลูกสาว
“เมื่อวานเพิ่งบินไปกัมพูชาไปดูธุรกิจที่นั่น คิดว่าประมาณต้นปีหน้าก็คงจะเริ่มต้นได้ เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ ที่มาจับธุรกิจด้านนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นลู่ทางธุรกิจปนัดดาทำหมดค่ะ (หัวเราะ) น่าจะรู้จักนิสัยบุ๋มดี อีกอย่างเรามีเพื่อนที่ค่อนข้างจะมีคอนเนกชั่นใหญ่ในนั้น ก็อยากจะเดินเข้าไปในธุรกิจที่แตกต่างด้วย อยากจะดูแลครอบครัวให้ได้ อยากให้ครอบครัวสุขสบาย โดยที่เรามานั่งมองว่าถ้าเกิดเรามาทำงานในวงการบันเทิงตลอดไป มันก็เป็นเรื่องที่สนุกนะ แล้วบุ๋มก็รักงานละคร รักงานพิธีกรมาก แต่จะให้ทำอาชีพนี้ได้อีกสักกี่ปีคือบุ๋มก็ไม่รู้ เพราะทุกวันนี้บุ๋มอยู่ถึงวันนี้ได้ก็บุญแล้วนะ”
“บุ๋มเป็นเจ้าของร้านเลยค่ะ เป็นเจ้าของธุรกิจและเป็นเจ้าของดีลเลอร์แต่เพียงผู้เดียวทั่วประเทศกัมพูชาค่ะ เพราะว่าประเทศกัมพูชาเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาไปเยอะมาก แล้วเขาใช้ระบบเงินสดเลย จะไม่มีระบบเงินเชื่อโดยเด็ดขาด ซึ่งก็โอเค ช่วงนี้ก็คงไปๆ มาๆ ค่ะ แต่คงไม่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่โน่นหรอก เพราะยังไงเราก็เป็นคนไทยเนอะ ชีวิตในเมืองไทยก็สุขสบายดี (ยิ้ม) ก็อยู่ที่นี่ดีกว่า แค่บินไปดูธุรกิจแล้วบินกลับจะง่ายกว่าค่ะ”
“คือมันเป็นการมองลู่ทางมากกว่า แล้วพอเราอายุมากขึ้นและมีจังหวะชีวิตที่ดีขึ้น เราจะมองจากธุรกิจที่แต่ก่อนว่าได้ล้านหนึ่งก็บุญแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ต้องเป็น 10 ล้าน 100 ล้าน เราก็ต้องมองอะไรที่ไปเรื่อยๆ ค่ะ เพราะลงทุนคราวนี้ก็หลาย 10 ล้านอยู่ค่ะ (ยิ้ม)”
เผยซื้อบ้าน 100 ล้าน เตรียมแต่ง “เอก เอกริน นิลเศรษฐี” เข้าบ้าน
“ซื้อแล้วค่ะ อยู่แถวรามอินทราค่ะ 12 ห้องนอน ก็อยู่กันแม่ลูกสองคน แล้วก็มีพี่สาวหนึ่งคน ก็เลยว่าจะไปทุบบ้านแม่เพื่อให้แม่มาอยู่ด้วยค่ะ แล้วเดี๋ยวต้องมีคุณเอกอีก ก็แต่งคุณเอกเข้าบ้าน เพราะว่าห้องยังเหลืออีกเยอะ แล้วก็จะกลายเป็นห้องน้องหมาอีกหนึ่งห้อง มีสระว่ายน้ำอยู่ในบ้านค่ะ (ยิ้ม) ครอบครัวก็ยังเล็กเท่าเดิม แต่บ้านใหญ่ขึ้น ก็เป็นเรือนหอด้วยค่ะ เพียงแต่ว่าบุ๋มจะตั้งมูลนิธิปีหน้า แล้วก็มีออฟฟิศไว้อยู่แล้ว คือเป็นบ้านที่สร้างเสร็จไว้แล้วค่ะ แต่คนเข้าอยู่น้อยมากและเขาไม่ค่อยได้ใช้งาน ซึ่งมันก็ค่อนข้างลงตัวกับเรา และเราเสื้อผ้าเยอะ ของใช้เยอะ และ 12 ห้องนอนก็น่าจะเหลือเฟือ”
“เนื้อที่ประมาณ 200 กว่าตารางวาค่ะ อยู่ใจกลางเมืองก็ค่อนข้างแพงหน่อยหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ค่ะ กำลังอยู่ในช่วงตกแต่ง เพราะบุ๋มเป็นคนที่ชอบอะไรที่มันสมบูรณ์พร้อม ก็กำลังแต่งห้องโฮมเธียเตอร์เพิ่มนิดหนึ่ง 100 ล้านนี่ก็รวมตกแต่งด้วยค่ะ บุ๋มจะเน้นข้างในบ้านมากกว่า”
บอกตนเป็นแม่บุญทุ่มให้ตัวเอง ยันไม่เคยโง่เสียเงินให้ผู้ชายคนไหนสักบาท
“เงินตรงนี้ขอยืนยันว่าเป็นเงินบุ๋มทั้งหมด เพราะเป็นชื่อบุ๋มคนเดียว (ยิ้ม) แล้วก็โอนให้ลูกคนเดียว แต่ถามว่ากลัวคนจะมองคุณเอกอะไรยังไงไหม คือมันต้องเปรียบเทียบกันนะคะ เราไม่สนหรอกว่าคนอื่นจะมองยังไง แต่อย่างน้อยตัวคุณเอกเองต่างหากที่เราต้องแคร์ว่าเขามองยังไง ถ้าต้องมานั่งเปรียบเทียบว่าผมได้รายได้น้อยกว่าคุณ บุ๋มก็คงหาผู้ชายยากมาก ก็พูดกันตรงๆ เนอะ เราก็คงต้องไปหาประมาณมหาเศรษฐี แต่พวกนี้เขาก็มีเมียกันหมดแล้วล่ะ (หัวเราะ) ดังนั้นขอผู้ชายสักคนที่อยู่เคียงข้างเรา รักเราจริงๆ คอยดูแลเราเวลาที่เราทุกข์ เวลาที่เราโดนข่าว เวลาที่เราโดนทำร้ายและเขาสามารถยืนเคียงข้างเราได้ บุ๋มขอแค่นั้นดีกว่าค่ะ”
“ถ้าคนจะมองว่าเราเป็นแม่บุญทุ่ม บุ๋มก็ทุ่มให้กับตัวเองค่ะ ทุกคนมาดูได้ค่ะว่าชื่อใคร (ยิ้ม) ขอโทษนะคะ ถ้าโง่คงจบไปนานแล้ว คงโดนผู้ชายหลอกไปเยอะแล้ว แต่นี่ไม่เคยมีใครได้จากดิฉันไปสักแดง ขอยืนยันนะคะ ล่าสุดถ้าเกิดเปรียบเทียบภาษีประจำปีคุณเอกมีรายได้น้อยกว่าก็จริง แต่รถของเขาก็เป็นชื่อดิฉันแล้วนะคะ (หัวเราะ) ไม่ยอมหรอกค่ะ”
เผยงานแต่งยังไม่คืบหน้า เพราะมัวแต่ทำงานจนลืมใส่ใจงานแต่ง
“งานแต่งก็ยังไม่คืบเลยค่ะ มัวแต่ดูงาน บินไปบินมากัมพูชา ลืมว่าต้องบินไปดูสถานที่แต่งที่เชียงราย ลืมค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ มันก็เริ่มกระชั้นชิดแล้วเนอะ คือขนาดพี่ปลาห้องเสื้อฟินาเล่เตรียมชุดให้ บุ๋มยังไม่ได้เข้าไปวัดชุดกับเขาเลย เขาก็ดุอยู่เนี่ยค่ะ เราก็ยังไม่รู้เลยว่าชุดเป็นแบบไหน ทำงานจนลืมจริงๆ ค่ะ คุณเอกเขาก็เข้าใจค่ะ เขาไม่คาดหวังเรื่องฮันนีมูนเลยนะ เพราะตอนนี้คิวบุ๋มแน่นมาก แล้วจะรับละครเพิ่ม ก็กะว่าตอนเช้าวันที่ 18 แต่งหน้าตอนเช้า ช่วงสิบโมงถวายเพลพระ ได้รับศีลรับพรเสร็จ บ่ายๆ บินกลับรับงานต่อ (ยิ้ม) ก็เป็นพิธีเล็กๆ กันเอง คงแค่กินข้าวกันในบ้านเท่านั้นเองค่ะ ก็คงรอขึ้นบ้านใหม่แล้วฉลองที่บ้านกันอีกที”
รับฉุนโดนบล็อกเกอร์ชื่อดัง “กุ้งอินเตอร์” วิจารณ์เรื่องที่ตนเป็นพรีเซ็นเตอร์สเต็มเซลล์แล้ว แขวะหลอกลวงผู้บริโภคว่าใช้ดีเพราะเป็นเจ้าของ แต่เคลียร์จบแล้ว แม้แฟนคลับอีกฝ่ายไม่ยอมจบ
“เรื่องข่าวพรีเซ็นเตอร์ คือบุ๋มได้เป็นพรีเซ็นเตอร์บางตัวที่หลายคนจะเข้าใจว่าบุ๋มเป็นเจ้าของเอง สมมติสบู่เบนเนท อันนี้บุ๋มเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ รวมถึง Phyto SC Stem cell ซึ่งเป็นวิตามินเข้มข้น เราก็เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ แต่ส่วนใหญ่แล้วพอเวลาไปขายเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ บางทีพนักงานขายเขาก็เข้าใจผิดว่าบุ๋มเป็นเจ้าของ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะบุ๋มก็ใช้เองทุกผลิตภัณฑ์ บางทีคนที่เขาให้ความเห็นบางเรื่องเขาก็บอกว่า ใช่สิ บุ๋มก็ต้องบอกว่าดีสิเพราะว่าบุ๋มเป็นเจ้าของ บุ๋มก็เลยแค่ชี้แจงในจุดที่ว่าบุ๋มเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์”
“อีกอย่างหนึ่งคุณจะวิจารณ์ คุณจะพิจารณาของยังไง พิจารณาส่วนผสมยังไง หรือว่าคุณจะบอกว่ามันไม่ได้ผลจริง เพราะว่าคนขายที่ไปขายเกินจริงขนาดนั้นคุณก็ยันกันเองสิ ไม่ใช่ว่าแขวะชื่อดิฉันลงไป ถือว่ามันไม่เป็นงานวิชาการที่ดีที่มีเหตุและผลมากพอ บุ๋มว่าส่วนตัวไปนิดหนึ่ง บุ๋มก็ชี้แจงในจุดนั้น ซึ่งกลับกลายเป็นว่ามารุมบุ๋มแทนซะงั้นว่าทำไมล่ะพูดถึงไม่ได้เหรอ ถ้าคุณจะวิจารณ์ในงานวิชาการก็ไม่ควรจะเป็นส่วนตัวไหม ทีนี้พอเขาเอาชื่อบุ๋มไป บุ๋มก็มาใช้พื้นที่ในอินสตาแกรมของบุ๋มในการแถลงข่าวของบุ๋มเองส่วนตัว เขาก็บอกว่าลบชื่อเลยนะ อ้าวแล้วทีเขาใช้ชื่อฉันล่ะ (หัวเราะ) เขาตอบอีกว่าคุณเป็นคนสาธารณะ คุณก็ต้องโดนวิพากษ์วิจารณ์ได้สิ เหรอ (หัวเราะ)”
“บุ๋มว่าเราก็คนเหมือนกันนะ ก็ต้องให้เกียรติกันและกัน บุ๋มก็ให้เกียรติคุณ บุ๋มก็แค่เคลียร์ พอเขาขอโทษบุ๋มก็ลบ แต่เขาก็ยังไม่จบ คือบุ๋มไปเรียกเขาป้าแล้วเขาโกรธ บุ๋มก็ขอโทษถ้ามันโดน แต่เราโดนก่อนใช่ไหมล่ะ ทีนี้ก็ใจเขาใจเรานะคะ ก็ขอพูดแทนในฐานะดาราทุกๆ คนก็ได้ เวลาคุณจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรโดยเฉพาะสมัยปัจจุบันมันเป็นยุคของโซเชียลเน็ตเวิร์กค่ะ ไม่ใช่ว่าดาราไม่รับรู้และไม่เห็นนะคะ บางทีเขามีการเมมชื่อโพสต์และเอามาฟ้องร้องกันได้ อย่าคิดว่าเป็นประชาชนแล้วจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรก็ได้ ยังไงเห็นใจเขาใจเรา ถ้าไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริงก็ถามกันได้ค่ะ”
เผยเอกต้องเข้าไปโพสต์ชี้แจงแทนเพราะตนเข้าเฟซบุ๊กไม่เป็น
“อย่างบุ๋มเองบางทีตั้งกระทู้ถึงขนาดให้คนมานั่งปรึกษาปัญหาชีวิตกันเป็นพันๆ คนก็มี ดังนั้นแค่ถาม 2-3 คำถามว่าเป็นเจ้าของจริงไหม ถามได้เสมอนะคะและยินดีตอบทุกคำถาม แต่ไม่ควรจะมานั่งด่าโดยที่ใช้อารมณ์ส่วนตัวอย่างนั้น บุ๋มว่ามันเกินงาม ซึ่งครั้งนี้คุณเอกก็ช่วยเข้าไปชี้แจงให้เราด้วย เพราะบุ๋มเข้าเฟซบุ๊กไม่เป็น ที่คนไปแถลงในเฟซบุ๊กแทนบุ๋มและใช้ชื่อบุ๋ม ปนัดดา ไม่ใช่บุ๋มนะคะ อันนี้ขอยืนยัน คุณเอกก็เลยเข้าไปในเฟซบุ๊กและเคลียร์กับทางนั้นแทนว่าช่วยกรุณาเคลียร์ความเข้าใจตรงนี้ เขาก็เข้าใจและขอโทษกลับมา ซึ่งบุ๋มเคลียร์แล้วบุ๋มก็จบ บุ๋มก็นักเลงพอ”
“ตอนนี้บุ๋มจบแล้วค่ะ แต่แฟนคลับของทางโน้นยังไม่จบ ซึ่งบุ๋มก็บอกว่าการวิพากษ์วิจารณ์อะไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องมีการเรียนรู้ อย่างหนึ่งคือเมื่อคุณวิพากษ์วิจารณ์แล้วมันต้องมีความรับผิดชอบในสิ่งที่พูดออกมา เพราะถ้าเกิดเราเป็นผู้นำกระแส สิ่งต่างๆ เหล่านั้นมันต้องมีความรับผิดชอบและต้องเคลียร์ประเด็นให้ได้ ในเมื่อถ้าคุณนำไปทางที่ผิด คุณก็ต้องจับพวกเขาไปในทางที่ถูก นี่คือผู้นำที่ถูกต้องค่ะ”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |