ต้องบอกว่าสวนทางกันอย่างสิ้นเชิงครับสำหรับภาพยนตร์ในแนวสยอง+ระทึกขวัญกับรสนิยมความชอบของผม
โดยเฉพาะหนังเรื่องที่มีตัวละครไม่กี่ตัว ใช้สถานที่ไม่กี่สถานที่เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่ตัวนางเอกต้องตกเป็นเป้าหมายของฆาตรกรโรคจิต-บูชาลัทธิหรือมีความเชื่อแปลกๆ ฯ
มาคิดดูว่าเป็นเพราะอะไรก็สรุปได้ว่าเป็นเพราะดูหนังแนวนี้ทีไรเป็นต้องเกิดอาการรำคาญมากกว่าอาการลุ้นระทึกนั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างซ้ำซาก ซึ่งหลายครั้งจำต้องดูจนจบเพราะอยากจะรู้ว่าสุดท้ายเรื่องจะลงเอยอย่างไร
รำคาญต่อเสียงกรี๊ดๆ และความขาดสติของตัวละครที่เป็นฝ่ายถูกล่า (โดยที่รู้สึกว่าทำไมมรึงไม่โกรธ ไม่แค้น หรือคิดที่จะเอาคืนอีกฝ่ายด้วยการเป็นผู้ล่าแทนมั่ง)
รำคาญความเทพตลอดจนความเก่งกาจของพวกผู้ร้ายที่แทบทุกครั้งจะดูเหมือนว่าโคตรเท่ โคตรฉลาด รู้หมดว่าเหยื่อจะหนีไปทางไหน จะทำอะไร ด้วยวิธีอะไร ขณะที่ตนเองนึกอยากจะไปโผล่ อยากจะไปสร้างความตกอกตกใจให้กับใครที่ไหนตรงไหนเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น
แถมจู่ๆ ก็หายตัวไปราวกับผีอีกต่างหาก
รำคาญซาวนด์เอฟเฟ็กต์เสียงดังตึงตังรวมทั้งตัวละครที่จู่ๆ มักจะโผล่มาให้ตกใจกันเล่นๆ อย่างไม่มีเหตุผล
รำคาญบรรยากาศที่ชวนให้วังเวง+ตื่นเต้นหลากหลายประเภททั้งที่เล่นกับเรื่องของความบังเอิญและไม่บังเอิญที่บางทีก็รู้สึกว่า เฮ้ย ตกลงนี่มันหนังผีหรือเปล่า(วะ) อาทิ จู่ๆ น้ำก็ไหล จู่ๆ ไฟก็ดับ ฯ ในขณะที่ภาวะคับขันเราก็จะเห็นฉากรถสตาร์ตไม่ติด-น้ำมันหมด-ยางแบน, โทรศัพท์ไร้สัญญาณ-แบตหมด ฯลฯ
แล้วก็ยังรำคาญตัวละครพวกที่มีคาแรกเตอร์-มีพฤติกรรมแปลกๆ ผิดมนุษย์มนา รวมไปถึงบรรดาตัวละครที่พระเอก-นางเอกของเราน่าจะพึ่งพิงได้ เช่น รปภ., ตำรวจ, เพื่อนที่มีนิสัยเป็นนักเลง, เพื่อนบ้าน ฯ แต่สุดท้ายคนเหล่านี้ก็มักจะตายก่อนทุกที
ส่วนที่น่าตื่นเต้นสำหรับการดูหนังประเภทนี้อย่างเดียวก็เห็นจะเป็นเรื่องของรูปแบบการฆ่าที่จะดีไซน์ออกมาให้ดูแปลกแหวกแนวหรือว่าจะโหดสยดสยองแค่ไหนนั่นเอง
อย่างไรก็ตามหลังได้เห็นหนังตัวอย่างของหนังแนวนี้อย่าง "Kristy" (คืนนี้คริสตี้ต้องตาย) ผมก็นึกอยากจะดูหนังเรื่องนี้ขึ้นมาทันที
เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากครับ คือนอกจากตัวอย่างของหนังจะบอกเป็นนัยๆ ว่าหนังเรื่องนี้มีการฉีกกฏหนังระทึกขวัญโดยทั่วไปแล้ว ในการโฆษณาโปรโมตมันยังมีการพ่วงเอาคำว่า "แอ็กชั่น" เข้ามาอีกด้วย
"Kristy" บอกเล่าเรื่องราวของ "จัสติน" (เฮลี่ เบนเน็ตต์) ที่จำต้องอยู่มหาวิทยาลัยในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าขณะที่ทั้งแฟนทั้งเพื่อนต่างก็พากันกลับไปหาครอบครัวกันหมดทิ้งให้เธอต้องอยู่กับ รปภ.2 นายกับอีก 1 เจ้าหน้าที่ภายในมหา'ลัยอันกว้างใหญ่ที่ดูเงียบเหงาเวิ้งว้าง ก่อนที่เธอจะตกเป็นเป้าหมายของแกงค์แปลกๆ แก๊งค์หนึ่งที่ออกอาละวาดไล่ล่าฆ่าเหยื่อที่เป็นหญิงสาวพร้อมบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ เอาไว้เพื่อเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์
โดยที่พวกแก๊งค์เหล่านี้จะเรียกเหยื่อที่ตนเองจะฆ่าทุกคนว่า "คริสตี้"
ยอมรับว่าก่อนดูหนังก็ตั้งความหวังเอาไว้พอสมควรเลย ยิ่งมาเห็นจำนวนคนดู (รอบ 19.15 น. วันพุธที่ 27 ส.ค.) ที่ค่อนข้างจะเยอะยิ่งรู้สึกคึกคักขึ้นไปอีก
ทว่าพลันที่หนังจบลงสิ่งเดียวที่ผมรู้สึกขึ้นมาทันทีก็คือ..."เอา 100 บาทตรูคืนมา"
จริงๆ ผมชอบประเด็นในเรื่องการ "เอาคืน" อยู่ทีเดียวเพราะรู้สึกว่าสะใจดี แต่ว่าโดยรวมหนังเองซึ่งแม้จะพยายามปูอะไรบางอย่างเอาไว้ก็ตามยังคงขาดความไม่สมเหตุสมผลอยู่เยอะมากๆ
ด้วยเหตุนี้จากความรู้สึกส่วนตัว "Kristy" จึงเป็นหนังระทึกขวัญที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ชวนให้รู้สึกประทับใจ ทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่กับสูตรที่จำเจของหนังแนวนี้
ที่สำคัญยังห่างไกลจากคำโฆษณาที่ว่านี่คือหนังแอ็กชั่นระทึกขวัญที่ชวนตื่นเต้น-เหนือชั้นอยู่ไกลโขทีเดียว
แต่ก็ใช่ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ได้ให้อะไรเอาเสียเลยนะครับ
อย่างน้อยๆ หนังก็บอกให้เรารู้ว่าหากต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายๆ อย่างไม่คาดฝัน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ "สติ"
เพราะถ้าขาดสิ่งนี้ไป ต่อให้เป็นคนเก่ง ต่อให้มีความรู้ท่วมหัวขนาดไหนก็เอาตัวไม่รอดแน่นอน
ก็คงเหมือนกับคำสอนที่ "ผู้ใหญ่" ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในออฟฟิศนี้บอกไว้อยู่ตลอดเวลาครับว่า...เสียอะไรก็เสียไป แต่อย่าให้ "ใจเสีย" ก็แล้วกัน
โดยเฉพาะหนังเรื่องที่มีตัวละครไม่กี่ตัว ใช้สถานที่ไม่กี่สถานที่เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่ตัวนางเอกต้องตกเป็นเป้าหมายของฆาตรกรโรคจิต-บูชาลัทธิหรือมีความเชื่อแปลกๆ ฯ
มาคิดดูว่าเป็นเพราะอะไรก็สรุปได้ว่าเป็นเพราะดูหนังแนวนี้ทีไรเป็นต้องเกิดอาการรำคาญมากกว่าอาการลุ้นระทึกนั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างซ้ำซาก ซึ่งหลายครั้งจำต้องดูจนจบเพราะอยากจะรู้ว่าสุดท้ายเรื่องจะลงเอยอย่างไร
รำคาญต่อเสียงกรี๊ดๆ และความขาดสติของตัวละครที่เป็นฝ่ายถูกล่า (โดยที่รู้สึกว่าทำไมมรึงไม่โกรธ ไม่แค้น หรือคิดที่จะเอาคืนอีกฝ่ายด้วยการเป็นผู้ล่าแทนมั่ง)
รำคาญความเทพตลอดจนความเก่งกาจของพวกผู้ร้ายที่แทบทุกครั้งจะดูเหมือนว่าโคตรเท่ โคตรฉลาด รู้หมดว่าเหยื่อจะหนีไปทางไหน จะทำอะไร ด้วยวิธีอะไร ขณะที่ตนเองนึกอยากจะไปโผล่ อยากจะไปสร้างความตกอกตกใจให้กับใครที่ไหนตรงไหนเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น
แถมจู่ๆ ก็หายตัวไปราวกับผีอีกต่างหาก
รำคาญซาวนด์เอฟเฟ็กต์เสียงดังตึงตังรวมทั้งตัวละครที่จู่ๆ มักจะโผล่มาให้ตกใจกันเล่นๆ อย่างไม่มีเหตุผล
รำคาญบรรยากาศที่ชวนให้วังเวง+ตื่นเต้นหลากหลายประเภททั้งที่เล่นกับเรื่องของความบังเอิญและไม่บังเอิญที่บางทีก็รู้สึกว่า เฮ้ย ตกลงนี่มันหนังผีหรือเปล่า(วะ) อาทิ จู่ๆ น้ำก็ไหล จู่ๆ ไฟก็ดับ ฯ ในขณะที่ภาวะคับขันเราก็จะเห็นฉากรถสตาร์ตไม่ติด-น้ำมันหมด-ยางแบน, โทรศัพท์ไร้สัญญาณ-แบตหมด ฯลฯ
แล้วก็ยังรำคาญตัวละครพวกที่มีคาแรกเตอร์-มีพฤติกรรมแปลกๆ ผิดมนุษย์มนา รวมไปถึงบรรดาตัวละครที่พระเอก-นางเอกของเราน่าจะพึ่งพิงได้ เช่น รปภ., ตำรวจ, เพื่อนที่มีนิสัยเป็นนักเลง, เพื่อนบ้าน ฯ แต่สุดท้ายคนเหล่านี้ก็มักจะตายก่อนทุกที
ส่วนที่น่าตื่นเต้นสำหรับการดูหนังประเภทนี้อย่างเดียวก็เห็นจะเป็นเรื่องของรูปแบบการฆ่าที่จะดีไซน์ออกมาให้ดูแปลกแหวกแนวหรือว่าจะโหดสยดสยองแค่ไหนนั่นเอง
อย่างไรก็ตามหลังได้เห็นหนังตัวอย่างของหนังแนวนี้อย่าง "Kristy" (คืนนี้คริสตี้ต้องตาย) ผมก็นึกอยากจะดูหนังเรื่องนี้ขึ้นมาทันที
เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากครับ คือนอกจากตัวอย่างของหนังจะบอกเป็นนัยๆ ว่าหนังเรื่องนี้มีการฉีกกฏหนังระทึกขวัญโดยทั่วไปแล้ว ในการโฆษณาโปรโมตมันยังมีการพ่วงเอาคำว่า "แอ็กชั่น" เข้ามาอีกด้วย
"Kristy" บอกเล่าเรื่องราวของ "จัสติน" (เฮลี่ เบนเน็ตต์) ที่จำต้องอยู่มหาวิทยาลัยในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าขณะที่ทั้งแฟนทั้งเพื่อนต่างก็พากันกลับไปหาครอบครัวกันหมดทิ้งให้เธอต้องอยู่กับ รปภ.2 นายกับอีก 1 เจ้าหน้าที่ภายในมหา'ลัยอันกว้างใหญ่ที่ดูเงียบเหงาเวิ้งว้าง ก่อนที่เธอจะตกเป็นเป้าหมายของแกงค์แปลกๆ แก๊งค์หนึ่งที่ออกอาละวาดไล่ล่าฆ่าเหยื่อที่เป็นหญิงสาวพร้อมบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ เอาไว้เพื่อเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์
โดยที่พวกแก๊งค์เหล่านี้จะเรียกเหยื่อที่ตนเองจะฆ่าทุกคนว่า "คริสตี้"
ยอมรับว่าก่อนดูหนังก็ตั้งความหวังเอาไว้พอสมควรเลย ยิ่งมาเห็นจำนวนคนดู (รอบ 19.15 น. วันพุธที่ 27 ส.ค.) ที่ค่อนข้างจะเยอะยิ่งรู้สึกคึกคักขึ้นไปอีก
ทว่าพลันที่หนังจบลงสิ่งเดียวที่ผมรู้สึกขึ้นมาทันทีก็คือ..."เอา 100 บาทตรูคืนมา"
จริงๆ ผมชอบประเด็นในเรื่องการ "เอาคืน" อยู่ทีเดียวเพราะรู้สึกว่าสะใจดี แต่ว่าโดยรวมหนังเองซึ่งแม้จะพยายามปูอะไรบางอย่างเอาไว้ก็ตามยังคงขาดความไม่สมเหตุสมผลอยู่เยอะมากๆ
ด้วยเหตุนี้จากความรู้สึกส่วนตัว "Kristy" จึงเป็นหนังระทึกขวัญที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ชวนให้รู้สึกประทับใจ ทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่กับสูตรที่จำเจของหนังแนวนี้
ที่สำคัญยังห่างไกลจากคำโฆษณาที่ว่านี่คือหนังแอ็กชั่นระทึกขวัญที่ชวนตื่นเต้น-เหนือชั้นอยู่ไกลโขทีเดียว
แต่ก็ใช่ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ได้ให้อะไรเอาเสียเลยนะครับ
อย่างน้อยๆ หนังก็บอกให้เรารู้ว่าหากต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายๆ อย่างไม่คาดฝัน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ "สติ"
เพราะถ้าขาดสิ่งนี้ไป ต่อให้เป็นคนเก่ง ต่อให้มีความรู้ท่วมหัวขนาดไหนก็เอาตัวไม่รอดแน่นอน
ก็คงเหมือนกับคำสอนที่ "ผู้ใหญ่" ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในออฟฟิศนี้บอกไว้อยู่ตลอดเวลาครับว่า...เสียอะไรก็เสียไป แต่อย่าให้ "ใจเสีย" ก็แล้วกัน