ค้นหัวใจ “ฝันดี” กับชีวิตที่อุทิศเพื่อสังคม เสียสละตนเป็นอาสาสมัครร่วมกตัญญูมา 20 ปี ล่าสุดหาเงินซื้อรถพยาบาลให้ปัตตานีเพื่อนำไปช่วยเหลือคนเจ็บคนป่วยในพื้นที่เสี่ยงและเต็มไปด้วยอันตรายรอบตัว ซึ้งใจมีดาราและประชาชนร่วมทำบุญเพียบยอดทะลุเกือบ 2 ล้าน เผยเงินล้านกว่าที่เหลือจากซื้อรถตนได้มอบเป็นกองทุนไว้ช่วยเหลือพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ตอนนี้ส่งมอบรถและเงินเรียบร้อย เป้าหมายต่อไปอยากทำไร่สวนผสมให้คนเรียนรู้ตามรอยในหลวง ลั่นทั้งหมดที่ทำไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน แต่สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นคืออยากให้คนไทยรักกัน อันไหนที่ไม่ดีก็ต้องขับไล่ออกไป มันเจ็บกันมาพอแล้ว
ถึงภาพลักษณ์ภายนอกจะเป็นคนตลกโปกฮา แต่ตัวตนของ “ใหญ่ ฝันดี จรรยาธนากร” เป็นคนที่อุทิศตัวทำงานช่วยเหลือสังคมมายาวนานในฐานะอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือน้ำท่วม แม้แต่เหตุด่วนเหตุร้ายบนท้องถนนหรือกลางม็อบต่างๆ เจ้าตัวก็ลุยแหลกไปช่วยเหลือให้ทุกคนรอดปลอดภัยเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมานับไม่ถ้วน ล่าสุดฝันดีได้สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ด้วยการหาเงินซื้อรถพยาบาลให้กับ “สมาคมกู้ชีพ กู้ภัย สันติจังหวัดปัตตานี” เพื่อเอาไว้ช่วยเหลือคนเจ็บคนป่วยในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและอันตรายรอบตัว หลังจากได้ไปเห็นการทำงานของสมาคมฯนี้ว่าเป็นหน่วยงานที่ทำงานจริง ทุกครั้งที่เกิดเหตุร้ายแรงขึ้นจะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เข้าไปถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วก่อนใคร แต่เครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์สำหรับช่วยชีวิตคนกลับขาดแคลนไม่เพียงพอต่อการทำงาน ด้วยเหตุนี้ฝันดีจึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะหารถพยาบาลดีๆ สักคัน รวมถึงสิ่งของจำเป็นไปมอบให้เป็นการส่งต่อกำลังใจแบบใจถึงใจ
แต่เพราะรู้ว่าเป็นงานช้าง ตอนแรกที่บอกบุญเพื่อนก็ไม่ได้คาดหวัง ถึงขั้นคิดว่าถ้าไม่มีใครช่วยก็จะใช้เงินตัวเองทำงานเก็บหอมรอมริบไปเรื่อยๆ เพราะแต่ละปีจะแบ่งเงินรายได้จากการทำงานไว้ทำบุญปีละ 4 หมื่นอยู่แล้ว แต่งานนี้ผิดคาดทันทีที่โพสต์บอกบุญไปในเฟซบุ๊ก มีเพื่อนดาราค่อนวงการ รวมถึงประชาชนทั่วไปโอนเงินเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันไม่ขาดสาย แค่เดือนกว่ายอดบริจาคเหยียบ 2 ล้าน ตอนนี้รถพยาบาลเสร็จเรียบร้อยนำไปมอบให้กับกู้ภัยปัตตานีเป็นที่เรียบร้อย แถมมีเงินเหลืออีกหนึ่งล้านกว่าบาทมอบเป็นกองทุนไว้ให้ใช้ในการช่วยเหลือพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป้าหมายต่อไปอยากทำไร่สวนผสมตามรอยในหลวง เพื่อให้คนในชนบทมาเรียนรู้และยึดแนวทางไปเลี้ยงชีพ ลั่นช่วยเหลือสังคมมา 20 ปีไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน แต่สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยก็คืออยากให้คนไทยรักกัน อันไหนที่ไม่ดีก็ต้องขับไล่ออกไป บ้านเมืองจะได้สงบสุขซะที
จุดประกายบุญที่อยากซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินให้ทีมกู้ชีพกู้ภัยปัตตานีเพราะเห็นว่าหน่วยงานนี้ทำงานจริง อีกทั้งเป็นพื้นที่ที่เดินทางลำบาก การเข้าไปช่วยเหลือคนป่วยถ้าไม่ใช่รถพยาบาลจะเข้าลำบากมาก แถมอุปกรณ์ที่ใช้ช่วยชีวิตคนก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร
“ผมอยู่มูลนิธิร่วมกตัญญูมานานแล้วนะครับ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 จนกระทั่ง 5 ปีก่อนผมได้ไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วก็ได้เห็นทีมสันติปัตตานีเขาทำงานกัน เขาเป็นคนในชุมชนแล้วเขาก็รักบ้านเกิด เขาก็พากันก่อตั้งเป็นหน่วยงานเล็กๆ กันขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือคนในชุมชนต่างๆ จนได้รับการยอมรับจากพ่อแม่พี่น้องจากเขตนั้นทั้งหมด เวลามีเหตุอะไรเกิดขึ้นถ้าในเขตตัวเมืองและพื้นที่รอบๆ ทีมนี้เขาจะเข้าไปถึงที่เกิดเหตุก่อน จนเราได้คุยและได้เห็น เราเลยรู้สึกอยากให้รถพยาบาลดีๆ ที่สามารถช่วยเหลือชีวิตคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“ที่ผมเลือกทำให้ปัตตานีเพราะการเดินทางมันยาก คุณไปแล้วคุณจะรู้ว่ามันลำบากมาก คนป่วยจะออกมามันลำบากถ้าไม่ใช่รถกู้ชีพหรือรถพยาบาล แล้วก็อุปกรณ์ที่จะช่วยเหลือมันก็ไม่ได้ดีเลย ถ้าสังเกตดีๆ เวลาเกิดเหตุใหญ่ๆ เราจะเห็นน้อยมากที่รถดีๆ จะเข้าไปช่วยได้ รวมถึงบุคลากรที่มีคุณภาพ ดังนั้นทุกคนจะต้องผ่านขั้นตอนการไปเรียนและต้องได้รับใบรับรองการแพทย์ฉุกเฉิน และเราจะต้องส่งคนไปเทรนเพื่อให้ใช้เป็นและรู้ว่ามันคืออะไร ความสูญเสียมันเกิดขึ้นแล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ความสูญเสียมันลดน้อยลงหรือเบาบางลง ต่อลมหายใจให้เหลือเวลาให้คนที่กำลังมาหาได้คุยกันสักครั้งหนึ่งก็ยังดี”
“ถ้าพูดถึงความหวาดกลัว ถึงแม้ว่าเขาจะพูดว่าไม่มีหรอก แต่ผมเชื่อว่าในใจมี มันมีอยู่แล้วแต่จะทำอย่างไรให้ความหวาดกลัวมันลดน้อยถอยลงไป นั่นก็คือการแสดงออกด้วยความสามัคคี และการให้ที่ไม่ได้หวังการตอบแทน คุณมาช่วยพวกเราเพื่ออะไร คุณจะเอาอะไรจากเรา อันนี้มันไม่มีเลย มันมาจากศรัทธา มันไม่มีเป้าหมาย เป้าหมายคือการอยู่ร่วมกันในสังคม ให้คนเจ็บได้อยู่กับคนรักต่อไป มันไม่มีเป้าหมายว่าผมจะมากินเงินคุณ ตอนที่คิดจะทำรถผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหาเงินจากไหน แต่สิ่งที่รู้คือผมสามารถเผยแพร่ข่าวสารไปว่าใครอยากจะร่วมทำบุญกับเราบ้าง แต่ผมก็กลัวปัญหาเพราะตอนนี้มีพวกมิจฉาชีพเยอะแล้วผมก็ไม่อยากเสียชื่อ แต่เพื่อนบอกว่าทำเถอะทำในสิ่งที่อยากทำ”
เกินคาด! จากตอนแรกคิดจะหาเงิน 8 แสนเพื่อทำรถพยาบาล ถึงขั้นคิดว่าถ้าไม่มีใครช่วยจะทำงานเก็บเงินทำเอง แต่ปรากฏว่ามีดาราและประชาชนทั่วไปหลั่งไหลโอนเงินเข้ามาช่วยสานฝัน 40 วัน ยอดทะลุเกือบ 2 ล้าน ได้ทั้งรถและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปบริจาคครบสมบูรณ์
“ตอนแรกตั้งเป้าจะทำแค่รถพยาบาลครับ ผมโพสต์ลงไปสเตตัสเดียวสั้นๆ ว่าเราอยากทำแบบนี้นะ เราต้องการเงิน 8 แสนบาท เวลาไม่กำหนดเพราะไม่รู้ว่ามันจะนานขนาดไหน ที่จะทำแค่รถพยาบาลมันไม่ได้คิดว่าเงินจะพอหรือไม่พอ เราคิดแค่ว่าสิ่งไหนที่เราพอจะทำได้ด้วยตัวเราเองก่อน ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือคิดเกินตัว แต่สำหรับผมสิ่งไหนที่ผมจะทำ ผมจะต้องรับผิดชอบตัวเองได้ ก็คิดว่าถ้าไม่มีใครช่วยเลยแต่ในเมื่อเราบอกว่าจะทำแล้วต่อให้จะต้องใช้เวลานานขนาดไหนก็ต้องทำ ก็คิดว่าจะเก็บเงินวันละนิดวันละหน่อยไปเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นเงินที่เราทำงานนี่แหละครับ แต่ละปีผมจะหักเงินจากการทำงานไว้ทำบุญปีละ 3-4 หมื่นบาท และบอกแค่คนรอบข้างผมนี่แหละ แต่มันผิดคาด ทุกคนยินดีที่จะร่วมกับเรา”
“ปรากฏว่าวันแรกที่โพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อนที่เป็นดาราก็โทร.มา อย่าง บอย ปกรณ์, หมอก้อง สรวิชญ์, เนย โชติกา, ตั๊ก บงกช, แม่เล็ก คุณแม่ของตั๊ก, พี่เหมี่ยว ปวันรัตน์, พี่แหม่ม สุริวิภา, พี่ท็อป ดารณีนุช, พี่จ๋า ยศสินี, พี่ดุ๊ก ภาณุเดช, พี่ต้น ชลลัมพี, พี่เคน ธีรเดช, พี่หน่อย บุษกร, อ้น ศรีพรรณ, ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด, จั๊กจั่น อคัมย์สิริ, อายุวดี จากยูม่า เยอะมากครับ พอเราแชร์ลงไปแป๊บเดียวเพื่อนในเฟซบุ๊กก็ทยอยโอนเงินเข้ามาทุกวัน 500 บ้าง 200 บ้าง 3 วันแรกเราก็ได้ค่ารถเลย 8 แสน 3 วันหลังทะลุไปล้านกว่า จากวันนั้นจนเสร็จสิ้นโครงการใช้เวลาทั้งสิ้น 40 วัน ได้เงิน 1.9 ล้านกว่าบาท ได้เกินจากที่เราตั้งไว้มาก เงินที่ได้มาเราก็ทำรถพยาบาล ส่วนที่เหลือเราก็ตั้งเป็นกองทุนที่อยู่ในสมาคมกู้ชีพ กู้ภัย สันติปัตตานี ก็คือยกให้เขาหมดเลย ให้เขาจัดการเลย แล้วเราจะเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลการใช้เงินที่ได้มาจากศรัทธาของเพื่อนๆ ของคนที่ร่วมทำบุญให้เกิดประโยชน์สูงสุด”
“ผมตั้งใจเลยว่าต้องทำให้ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกวัน ตอนผมไปเปิดบัญชีมันใช้ชื่อ ใจถึงใจ ไม่ได้เพราะเราไม่ได้เป็นองค์กร ก็เลยใช้ชื่อของผมเอง แต่ผมก็บอกไปว่ามันเป็นชื่อของผมนะถ้ามั่นใจในสิ่งที่ผมทำก็จบ แต่ถ้าคุณมีคำถามว่าสิ่งที่ผมทำมันคืออะไร ก็อย่าทำ ผมไม่ได้เผด็จการนะ แต่จงทำที่อื่นก็ได้ครับ ก็ไม่เคยมีคำถาม ทุกคนเชื่อใจ ผมบอกว่าเงินมันจะต้องออกมาแค่ 4 ครั้ง 1.จ่ายค่ารถตู้ 2.ทำอุปกรณ์ภายใน 3.ทำอุปกรณ์ให้แสงสว่าง และ 4.เงินก้อนสุดท้ายที่เหลือก็ให้เขาทั้งหมด ผมก็ทำตามนี้เลยครับ”
ลงไปดูทุกขั้นตอน ตั้งแต่เลือกซื้อรถให้ได้ตามสเปคมาตรฐานที่ต้องการ รวมไปถึงการติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์
“พอได้เงินมาเราก็หารถตู้ เราอยากได้รถตู้ปี 2009 ขึ้นไป ราคาไม่เกินเท่านี้นะ สเปครถนี่คือได้มาตรฐานการแพทย์ฉุกเฉินครับ เราก็ได้คันนี้มาเป็นมือสองเพราะมือหนึ่งก็เกือบล้านแล้ว เราได้รถรุ่นปี 2010 ราคาจาก 5.5 แสน แต่เฮียเจ้าของลดเหลือ 4.9 แสน ลดให้ 6 หมื่นเพราะเฮียอยากร่วมทำบุญกับพวกเรา แล้วก็มีอุปกรณ์ให้แสงสว่างเขาก็ลดราคาให้ จาก 2 ชุด 2 แสนกว่า เหลือ 9.6 หมื่น และติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เป็นรถพยาบาลฉุกเฉินอีก 197,037 บาท และเพิ่มพวกอุปกรณ์ดูดเสลด รวม 3 รายการเป็นเงิน 783,037 บาท ผมไปดูงานเองตรวจเช็คทุกอย่างเองหมด เราเลือกอุปกรณ์เองหมด”
ใจถึงใจล้วนๆ นอกจากมีผู้ใจบุญช่วยบริจาคเงินไม่ขาดสายแล้ว ยังมีคนบริจาคน้ำยาสำหรับใส่ล้อรถเพื่อกันเวลารถเหยียบตะปูเรือใบอีก 300 ขวด ราคา 4 แสนกว่า ซึ่งนับว่าจำเป็นมากสำหรับทีมกู้ภัยปัตตานี
“นอกจากนี้ก็มีคนบริจาคน้ำยาใส่ล้อรถ น้ำยาชนิดนี้เวลาที่โดนตะปูเรือใบแทง น้ำยามันจะเคลือบรถแล้วรถจะสามารถวิ่งต่อได้ เป็นของจากอเมริกา คนที่ให้ตอนแรกเขาบอกผมแค่ว่าเขาจะส่งน้ำยามาให้นะ เราก็ดีใจเพราะให้ 300 กว่าขวด แต่ผมเพิ่งมารู้ตอนหลังว่าขวดละ 1.5 พันบาท รวมแล้วเป็นเงิน 4 แสนกว่า(ยิ้ม) เขาบอกให้คุณใหญ่เอาไปให้ทหาร เอาไปให้เจ้าหน้าที่ไว้เติม และเขายังส่งพี่ทีมงานมาสอนวิธีการใช้งานด้วย สุดยอดมาก เขารู้ว่ารถคันนี้ต้องไปปัตตานีซึ่งมันจำเป็นมาก”
“ของอย่างอื่นที่เรามอบให้ไปพร้อมกับรถก็จะมีพวกยารักษาโรคต่างๆ แล้วก็มีของใช้ที่ผมเป็นพรีเซ็นเตอร์มาร่วมด้วย ส่วนใหญ่เขาจะให้ในนามตัวเรา ผมเป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมไปหาคนนั้นคนนี้ แล้วก็เอาของมารวมๆ กัน คือผมไม่ได้บอกบุญนะ เพราะมันเป็นการร่วมบุญกันที่ไม่ได้มีใบอนุโมทนาให้เห็น ไม่ใช่ว่าทำบุญกับเราแล้วสามารถนำใบไปลดหย่อนภาษีได้ มันไม่ใช่ ถ้าคุณสุขใจที่จะทำกับเราก็แค่นี้ แต่ผมบอกไม่ได้ว่าถ้าคุณทำบุญกับผมคุณจะได้สิ่งนั้น สิ่งนี้เป็นการตอบแทน”
เงินล้านกว่าที่เหลือจากค่าใช้จ่ายต่างๆ ฝากเข้าบัญชี สมาคมกู้ชีพ กู้ภัย สันติปัตตานี เพื่อใช้ช่วยเหลือพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
“ตอนนี้ปิดบัญชีไปแล้วครับ เงินที่เหลือประมาณ 1.1 ล้านจะเข้าบัญชีสมาคมกู้ชีพ กู้ภัย สันติปัตตานี ไม่ใช่บุคคล ทุกอย่างตรวจสอบได้หมดทุกอย่างต้องแจ้งเรา 3 เดือนครั้ง เงินสามารถใช้ได้ไม่มีปัญหาแต่ต้องบอกเรา งบใหญ่ๆ ต้องบอกเรา ถ้าไม่พอค่อยมาว่ากัน ถ้าคุณโปร่งใสมันก็ไม่มีปัญหา ไม่ใช่ว่ามันหายไปไหน เราจะถามแล้วก็จะไม่ทวงเงินคืนด้วยนะ แต่ก็จบกันแค่นี้ ในเมื่อทุกคนพยายามช่วยกันเต็มที่ 1 เดือนด้วยความเข้มแข็ง ผมสนิทกับทีมนี้พอประมาณ ผมลงใต้ไปเยี่ยมชาวบ้านเขาก็จะไปด้วย พาขับรถไปโน่นไปนี่ ผมไปในนามส่วนตัวไง ลงสนามบินเขาก็มารับผม หิ้วของพลุงพลังเพื่อไปแจก เขาก็มีหน้าที่เอาไปแจก มีหน้าที่เอาเงินของเราไปซื้อของให้คนในชุมชน เพื่อเอาไปให้ทหารตามค่ายต่างๆ ทุกเดือน ผมรู้จักนิสัยใจคอขอทีมนี้ประมาณนึง ถ้าไม่รู้จักเราทำแบบนี้ไม่ได้ เราต้องมั่นใจแล้ว”
“เงินที่เหลือมันเหมือนวัตถุประสงค์ครับ ความศรัทธาที่ให้มามันคืออะไร ถ้าอยู่ในส่วนของการช่วยผู้บาดเจ็บ ขนส่ง ขนย้าย หรือใช้บำรุงรถที่ใช้งานให้ดีที่สุด ช่วยเหลือให้คนรอดแบบนี้ได้ แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่ได้เกี่ยวกับมนุษยชน มนุษยธรรม เราก็จะขอหยุดในส่วนนั้น เราต้องแข็งแรงและเลี้ยงได้ เราไม่ได้เป็นองค์กรใหญ่ เงินเท่านี้แหละที่เราจะทำให้มันคุ้มค่าและเกิดประโยชน์ให้ได้มากที่สุด การช่วยคนของผม มันไม่ใช่การให้เงินนะ ประโยชน์ของเงินเอาไว้ดูแลรถให้พร้อมใช้งานตลอด ให้เอาไปรับส่งผู้ป่วย ไปรับคนแก่จากพื้นที่ไกลมาโรงพยาบาลฟรี ไม่ใช่ว่าเอาเงินไปปุ๊บแล้วเอาไปทุ่มให้เขาไม่ได้ มันอยู่ที่วัตถุประสงค์และสถานการณ์นั้น”
“ถ้าวันนึงเงินส่วนนี้หมดผมคิดว่าถ้าเงินมันจะงอก มันต้องงอกจากศรัทธาและความจริง มันไม่มีทางหรอกที่เงินมันจะงอกจากคนที่ไม่มีศรัทธา เพราะเงินก้อนนี้มันมาจากศรัทธา เพียงเวลา 40 วัน 1.9 ล้าน ถือว่าเยอะมากกับในยุคนี้แล้วคนจะหยิบเงินออกจากกระเป๋า 500 หรือ 1 หมื่น หรือ 3 แสน มันไม่ง่าย ในเมื่อเราได้มาแล้วเราก็ต้องดูแลให้เกิดประโยชน์สูงสุด หมดก็คือหมดไม่ว่ากัน เรามาว่ากันใหม่มันหมดเพราะอะไร ถ้าหมดเพราะช่วยชีวิตคนเรายินดี วันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ผมเอารถคันนี้ไปแนะนำให้คนที่ปัตตานีรู้ ไปให้หลวงพ่อที่วัดช้างให้เจิม แล้วก็บอกท่านว่ารถคันนี้จะอยู่กับชาวปัตตานี แล้วเงินที่ได้มาเราจะเอาไปช่วย 3 จังหวัดชายแดนใต้”
เต็มใจซื้อรถพยาบาลให้โดยที่ไม่มีใครร้องเพราะเห็นแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มหาศาลกับชาวปัตตานี
“ทีมปัตตานีไม่เคยขอผมครับ เขาบอกว่าคนเราทำความดีเราจะเห็นต่อกัน ผมเห็นในสิ่งที่เขาทำ เขาไม่ได้มาขอร้องเรานะว่าต้องทำโน่นนี่นั่นหรืออยากได้อันนี้มากเลยครับ ไม่เคยเลย ตอนผมบอกเขาว่าผมจะทำ เขาก็บอกแล้วแต่คุณใหญ่ครับ มันเยอะไปหรือเปล่าครับ เขาเกรงใจ แต่เพราะผมเห็นว่าทำแล้วได้ใช้ประโยชน์จริง ยิ่งตอนนี้เป็นโลกของสังคมออนไลน์ด้วย คันนี้คนที่ปัตตานีจะรู้จักเพราะคนตามเฟซบุ๊กผมด้วย ชาวปัตตานี นราธิวาส ยะลา นี่เต็มเลย เขาและเราก็ต้องเห็นรถคันนี้ทำอะไร ทำดีหรือไม่ดี ต้องรู้อยู่แก่ใจ แต่ผมมั่นใจในตัวทุกคนคือทำดี”
เป้าหมายต่อไปอยากทำไร่สวนผสมไว้ให้คนเข้ามาเรียนรู้ ตามรอยพ่อหลวงของแผ่นดิน
“เป้าหมายต่อไปผมอยากจะทำอะไรที่มันยั่งยืน อยากจะสร้างเหมือนโรงเรียนที่มีไร่สวนผสม สร้างในที่ชนบทจำนวน 1 ไร่ ภายในนั้นจะขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ปลูกผัก อยู่กันได้หลายๆ คน เหมือนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบอก และคนในชุมชนสามารถกินได้และหาเงินจากสิ่งที่เรามอบให้ได้ด้วย ให้รู้จักหน้าที่ ความรับผิดชอบ เราไปสร้างแล้วให้เขาช่วยกันสานต่อ ตอนนี้เป็นแค่โปรเจกต์ผุดขึ้นมาเฉยๆ ยังไม่มีเวลาลงมือทำ แต่ถ้าเวลาทำผมอยากจะเหวี่ยงไปทั้ง 4 ภาค ตอนนี้ภาคใต้เสร็จผมก็อาจจะไปต่อภาคอีสาน เพราะแต่ละภาคเขาจะมีความเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน มันต้องแยกให้ถูกก่อนว่าพื้นที่ตรงนั้นมันเหมาะที่จะทำอะไร”
สุขใจที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว
“ความรู้สึกอยากช่วยคนอื่นมันเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ มันเป็นอยู่ในตัวเราเลย มีความสุขในการช่วยเหลือคนอื่น ทำมา 20 ปีแล้ว แต่เราก็ไม่ได้บอกใครว่ามันต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ทำของเราไปเรื่อยๆ ผมไปใต้บ่อย บางทีมันก็เป็นราชการบอกไม่ได้ ไปพูดคุยกับประชาชน ไปหมู่บ้านเสี่ยงภัย ไปคุยให้กำลัง ไปส่วนตัวก็ไปครับไปมอบของให้ชาวบ้าน แต่ไปในราชการก็ไป เราไปทำหลายอย่างเลย พี่เหมี่ยว ปวันรัตน์ก็ไปด้วยกันครับ (ก่อนหน้านี้ เล็ก ฝันเด่น น้องชาย ได้เดินเท้าไปพระราชวังไกลกังวล เพราะรู้สึกหดหู่ที่เห็นคนไทยทะเลาะและฆ่ากันเอง บอกถ้าเป็นตอนเด็กๆ เวลามีเรื่องไม่สบายใจก็จะวิ่งไปหาพ่อ แต่ตอนนี้พ่อของตนเสียไปแล้ว จึงอยากเดินไปหาพ่อหลวงเพื่อหาที่พักพิงยึดเหนี่ยวทางใจ อีกทั้งหวังเรียกร้องความสงบสุขให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง กับความรู้สึกนึกคิดหรือการทำอะไรแบบนี้ได้คุยกันไหม?) คุยครับ บางอย่างเราอยากจะทำแนวไหนเราก็ทำ คนนึงไปคนนึงช่วยพยุง มันช่วยกัน มีความสุขครับ”
ช่วยเหลือสังคมมา 20 ปีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยก็คืออยากให้รักกัน อันไหนที่ไม่ดีก็ต้องขับไล่ออกไป บ้านเมืองจะได้สงบสุขซะที
“สิ่งที่ผมทำผมคาดหวังคือให้ในสิ่งที่เราอยากให้แค่นั้นเอง ผลต่อไปจะเป็นอย่างไรจะสัมฤทธิ์มั้ยก็ขึ้นอยู่กับคนรับ อย่างรถคันนี้ผมดีใจที่มันสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และทำให้ทุกคนเห็นว่าสิ่งที่ทำมามันไม่ได้เปล่าประโยชน์ แต่ถ้าถามว่าอยากให้สังคมเป็นแบบไหนมันตอบไม่ได้ ผมอยากให้คนนึกถึงว่ารากฐานของเราคือคนไทย อยากให้รักกัน อันไหนที่ไม่ดีเราก็ต้องขับไล่ออกไป มันใช่เป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายไหน อันไหนผิดคือผิด อันไหนไม่ถูกคือไม่ถูก มันเจ็บกันมาพอแล้ว”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |