“น้ำเพชร” ยอมรับภาพแหกบนรถคือตัวเอง แจงเป็นภาพเบื้องหลังงานพริตตี้ ทำไปเพราะดิ้นรนหาเงินรักษาแม่ที่ป่วย ทำใจหากจะมีภาพอื่นๆ หลุดออกมาอีก เพราะไม่ใช่คนดีเต็มร้อย แต่จะขอทำวันนี้และวันต่อไปให้ดี ขอโอกาสสังคมในการทำงานในวงการบันเทิง
“ฝ้าย เวฬุรีย์ ดิษยบุตร” อดีตมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 ที่สละตำแหน่งเพราะทนแรงกดดันไม่ไหวกรณีโพสต์ข้อความหยาบคายไม่เหมาะสม จะเหลือก็แต่ “น้ำเพชร สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ” รองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 ที่ยังไม่มีอะไรระคายผิวทั้งทีมีภาพฉาวรับงานพริตตี้แอ่นหน้าอก ใส่ชุดวาบหวิวให้ผู้ชายแปะสติกเตอร์ แต่ที่แรงสุดๆ เห็นจะเป็นภาพชุดที่ไปนั่งแหกในรถยนต์ ทั้งแหกเดี่ยวและนั่งอยู่กับผู้ชาย แต่จนแล้วจนรอดทางกองประกวดก็ปิดปากเงียบไม่มีการออกมาชี้แจงกับสังคมว่า ภาพดังกล่าวเหมาะสมแล้วหรือไม่กับตำแหน่งที่สาวๆ ทั่วประเทศแห่กันมาสมัครประกวดเพื่อชิงตำแหน่ง ซึ่งอาจเป็นตัวอย่างให้ผู้เข้าประกวดปีต่อไปจะต้องแหกบันลือโลกแบบนี้ออกมาถึงจะได้มงกุฎ อย่างไรก็ตาม ด้านน้ำเพชรก็ได้ออกมายอมรับว่า ภาพดังกล่าวเป็นตนเองจริง
“สำหรับข่าวที่ออกมานะคะมันก็เป็นอดีตที่น้ำเพชรหนีไม่ได้ เพชรเลือกที่จะอยู่กับมันและทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วก็ทำดีเผื่อพรุ่งนี้ไปอีก ทางผู้ใหญ่ก็มีคุยกันคร่าวๆ แล้วแต่ก็ยังไม่สรุปว่ายังไง ตอนนี้คงยังให้รับงานในเมืองไทยอยู่ค่ะ คงไม่ได้ไปประกวดที่ไหน”
“ก็เป็นหนูจริงๆ ค่ะ ตอนที่เห็นภาพเพชรก็ไปปรึกษาผู้ใหญ่ทันที ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใหญ่จะดำเนินการยังไงต่อไป ผู้ใหญ่ก็ถามว่าเหตุการณ์ในภาพมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ทำงานไหน ซึ่งเราก็ตอบไปตามความจริงว่าเราทำงานตรงนี้และภาพนั่นเป็นภาพเบื้องหลัง มันหลุดออกไปเพราะวันนั้นตากล้องค่อนข้างเยอะเลยไม่รู้ว่าเป็นใคร ผู้ใหญ่ก็ค่อนข้างซีเรียสค่ะแต่ก็ได้คุยกันแล้ว ภาพก็มีผลกระทบกับงานบ้างอยู่เหมือนกันค่ะเพชรอยากให้ทุกคนโฟกัสที่จุดดีๆ ที่เพชรทำ อยากจะขอโอกาสจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนให้เพชรได้เดินต่อไป”
“ยอมรับว่าตอนแรกก็ตกใจค่ะ แต่นั่นมันก็คือการกระทำของเราจริงๆ ราไม่สามารถหนีมันพ้น งานที่เพชรทำเพชรไม่ได้ปฎิเสธว่าเพชรทำพริตตี้ ตอนนี้ก็ยังรู้สึกตกใจนิดๆ ถ้าจะมีภาพอื่นๆ อกมาอีกก็ไม่กลัวแล้วค่ะ ตอนนี้เรียกว่าเพชรทำใจยอมรับกับมันแล้ว หนูขอโอกาสแล้วกันค่ะและอยากจะขอโทษ หนูเองไม่ใช่คนดีเต็มร้อย”
“ได้อ่านข่าวก็รู้ว่ากระแสโจมตีค่อนข้างเยอะ ก็เสียใจค่ะเสียใจกับการกระทำของเรา รู้ว่าครั้งหนึ่งมันต้องเกิดขึ้น เราทำไปเพราะเวลาเรารับงานอะไรก็ไม่ค่อยมีคนมาสกรีนให้ ตอนนั้นหนูเองก็ยังเด็กมากอายุแค่ 16-17 ปี แล้วแม่หนูก็ป่วย เราเป็นลูกเราก็อยากที่จะทำอะไรก็ได้ที่ทำให้แม่เราหาย หนูต้องต่อสู้ชีวิตมาก มันเป็นเรื่องราว...หนูก็เป็นเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ก็มีคิดจะสละสิทธิ์เพื่อตัดปัญหาบ้าง แต่ก็ว่าครั้งนึงเราได้เดินตามความฝันในการที่เราเป็นลูกผู้หญิง เราทำมันได้ มันเป็นฝันที่เป็นจริง มันเป็นฝันที่สูงสุดในชีวิตลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่พึงจะทำได้ เราดีใจมากที่วันนี้เพชรทำให้แม่และครอบครัวมีความสุข”
“เพชรไม่สามารถไปเปลี่ยนความคิดเขาได้ เพชรว่าตรงนี้เพชรเปลี่ยนตัวเองดีกว่า เพชรขอเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ยังขอทำงานจิตอาสารับใช้สังคมไปเรื่อยๆ ชีวิตคนเราต้องดำเนินต่อไป อาจจะต้องหาช่องทางทำธุรกิจส่วนตัวหรือว่าเรียนให้จบแล้วทำงานประจำถ้าไม่ได้ทำงานในวงการจริงๆ แต่ความฝันสูงสุดของเพชรคือได้เข้ามาทำงานในวงการ ยังไงก็ขอฝากตัวกับพี่ๆ ด้วยนะคะ”