โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
การหย่าร้างของ “คริส มาร์ติน” นักร้องนำวงโคลด์เพลย์ กับ “กวินเน็ธ พัลโธรว์” ดาราสาวฮอลลีวู้ดชื่อดัง
ด้านหนึ่งได้สร้างความเจ็บปวดโศกเศร้าเสียใจให้กับคริสอย่างใหญ่หลวง
แต่อีกด้านหนึ่งมันได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญต่อผลงานชุดใหม่ของวงโคลด์เพลย์(Coldplay) ในชื่อ“Ghost Stories”(โกสต์ สตอรีส์) ที่ชื่อได้สื่อแสดงนัยยะบางอย่างออกมา
โกสต์ สตอรีส์ เป็นอัลบั้มชุดที่ 6 ของโคลด์เพลย์(ในสังกัด Warner Music) ที่เผลอแป๊บเดียววงนี้มีอายุอานามปาเข้าไป 13 ปีแล้ว เป็น 13 ปีที่มีอัลบั้มออกมาไม่มากไม่มาย แต่ส่วนใหญ่เป็นงานคุณภาพซึ่งก็ส่งให้พวกเขาจากวงร็อกอินดี้ ขึ้นชั้นสู่วงร็อกแถวหน้าของวงการเพลงที่มีแฟนเพลงมากมาย
อัลบั้มชุดนี้โคลด์เพลย์ยังคงเหนียวแน่นกับผองเพื่อนสมาชิกดั้งเดิมตั้งแต่ยุคก่อตั้ง นำโดย “คริสต์ มาร์ติน”(Chris Martin) : ร้องนำ-กีตาร์-เปียโน-คีย์บอร์ด และคนเขียนเพลงให้กับวง, จอนนี่ บั๊คแลนด์(Jonny Buckland) : กีตาร์-คีย์บอร์ด-เปียโน, กาย เบอร์รี่แมน(Guy Berryman) : เบส-คีย์บอร์ด, วิลล์ แชมป์เปี้ยน(Will Champion) : กลอง-เพอร์คัสชั่น
โกสต์ สตอรีส์ มีทั้งหมด 9 เพลง ล้วนแต่เป็นเพลงในอารมณ์อกหักรักคุดที่มาแบบล่องลอยหม่นทึม เปิดตัวกันด้วย “Always in My Head” ที่มาในโทนหม่นทึม เสียงคีย์บอร์ดล่องลอย มีกีตาร์เล่นสำเนียงแบบโคลด์เพลย์ประสานเติมเต็ม เพลงนี้นอกจากจะฟังเหงาเศร้าซึมแล้วยังเป็นการเปิดตัวที่ฉายอารมณ์โดยรวมของอัลบั้มได้ดีทีเดียว
“Magic” ซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งมี MV ทำเป็นสไตล์หนังเงียบในยุค 1920 ‘s ว่าด้วยเรื่องราวของชีวิตนักมายากลในคณะละครสัตว์ ที่ได้ “จางซื่อยี่” ดาราสาวสวยชื่อดังชาวจีนมาเล่น MV ให้เป็นครั้งแรกของเธอ
เมจิกเป็นมินิมอลร็อกเน้นเสียงโปรแกรมของเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิคส์ แม้จะมีจังหวะเร่งเร้าขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังฟังล่องลอยอยู่ดี
“Ink” เร่งจังหวะขึ้นมาอีกนิด ว่าด้วยการเปรียบเทียบ“ความรัก”กับ “รอยสัก” ที่แฝงนัยยะอันลุ่มลึกว่า รอยสักนั้นเจ็บปวดตอน “ลบ” มากกว่าตอน “สัก”
อารมณ์รักยังดำเนินต่อไปกับ “True Love” มีซาวนด์คีย์บอร์ดหนาแน่น ดนตรีฟังเท่แต่ก็เศร้าอยู่ในที ต่อกันด้วย “Midnight” บทเพลงถูกดึงลงไปสู่ความหน่วง เหงาอีกครั้ง
“Another's Arms” จังหวะโจ๊ะขึ้นมาหน่อยกับดนตรีอิเล็กทรอนิคติดเหงาหม่น ส่วน “Oceans” นี่ดึงให้ดำดิ่งไปจ่อมจมกับความหม่นทึม ทั้งเสียงร้อง คีย์บอร์ด อะคูสติกกีตาร์ ที่ต่างประเคนกันมาตอกย้ำความเหงาเศร้า
จากนั้นเป็น “A Sky Full of Stars” บทเพลงที่ฟังคึกคักและสดใสที่สุดในอัลบั้ม ฟังแล้วให้นึกถึงโคลย์เพลย์ในแบบที่ผ่านมาหน่อย เป็นป็อบร็อคเท่ๆ อวลเสียงเปียโนเพราะพริ้ง ถือเป็นเพลงเอกของอัลบั้มที่น่าจะดังที่สุด ก่อนจะปิดท้ายกันด้วย “O” บัลลาดหวานเศร้าซึ้ง เสียงเปียโนไพเราะมาก รวมถึง Hidden Track “Fly On” ช่วงสั้นๆท้ายอัลบั้มที่เหมือนจะชวนบินไปด้วยกันกับความหม่นเศร้า
สำหรับภาพรวมของอัลบั้ม Ghost Stories มันเป็นการสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของคริส ที่เพิ่งรักสลายไปหมาดๆได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้งานเพลงชุดนี้เต็มไปด้วย เหงาเศร้า หม่น ดนตรีเนิบช้า ล่องลอย ผ่านน้ำเสียงของคริสร้องถ่ายทอดความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวออกมาได้อย่างถึงอารมณ์ แต่นั่นมันก็ทำให้ความเป็นร็อกโจ๊ะๆเท่ๆของโคลด์เพลย์มีปรากฏให้ฟังกันน้อยมาก
นับได้ว่าโกสต์ สตอรีส์ชุดนี้เป็นดังบรรทึกรักสลายของ คริส มาร์ติน นักร้องนำ คนเขียนเพลง ที่นำเอาความเจ็บปวด ผิดหวัง โศกเศร้า เสียใจ จากรักสลายของเขามาถ่ายทอดเป็นบทเพลง ซึ่งนี่อาจเป็นที่ขัดใจใครหลายๆคนอีกครั้ง เพราะถึงแม้ว่าโคลย์เพลย์ในชุดที่แล้ว(Mylo Xylo)นั้นมากไปด้วยเพลงช้าแล้ว ในชุดนี้ยิ่งมีมากกว่า
การหย่าร้างของ “คริส มาร์ติน” นักร้องนำวงโคลด์เพลย์ กับ “กวินเน็ธ พัลโธรว์” ดาราสาวฮอลลีวู้ดชื่อดัง
ด้านหนึ่งได้สร้างความเจ็บปวดโศกเศร้าเสียใจให้กับคริสอย่างใหญ่หลวง
แต่อีกด้านหนึ่งมันได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญต่อผลงานชุดใหม่ของวงโคลด์เพลย์(Coldplay) ในชื่อ“Ghost Stories”(โกสต์ สตอรีส์) ที่ชื่อได้สื่อแสดงนัยยะบางอย่างออกมา
โกสต์ สตอรีส์ เป็นอัลบั้มชุดที่ 6 ของโคลด์เพลย์(ในสังกัด Warner Music) ที่เผลอแป๊บเดียววงนี้มีอายุอานามปาเข้าไป 13 ปีแล้ว เป็น 13 ปีที่มีอัลบั้มออกมาไม่มากไม่มาย แต่ส่วนใหญ่เป็นงานคุณภาพซึ่งก็ส่งให้พวกเขาจากวงร็อกอินดี้ ขึ้นชั้นสู่วงร็อกแถวหน้าของวงการเพลงที่มีแฟนเพลงมากมาย
อัลบั้มชุดนี้โคลด์เพลย์ยังคงเหนียวแน่นกับผองเพื่อนสมาชิกดั้งเดิมตั้งแต่ยุคก่อตั้ง นำโดย “คริสต์ มาร์ติน”(Chris Martin) : ร้องนำ-กีตาร์-เปียโน-คีย์บอร์ด และคนเขียนเพลงให้กับวง, จอนนี่ บั๊คแลนด์(Jonny Buckland) : กีตาร์-คีย์บอร์ด-เปียโน, กาย เบอร์รี่แมน(Guy Berryman) : เบส-คีย์บอร์ด, วิลล์ แชมป์เปี้ยน(Will Champion) : กลอง-เพอร์คัสชั่น
โกสต์ สตอรีส์ มีทั้งหมด 9 เพลง ล้วนแต่เป็นเพลงในอารมณ์อกหักรักคุดที่มาแบบล่องลอยหม่นทึม เปิดตัวกันด้วย “Always in My Head” ที่มาในโทนหม่นทึม เสียงคีย์บอร์ดล่องลอย มีกีตาร์เล่นสำเนียงแบบโคลด์เพลย์ประสานเติมเต็ม เพลงนี้นอกจากจะฟังเหงาเศร้าซึมแล้วยังเป็นการเปิดตัวที่ฉายอารมณ์โดยรวมของอัลบั้มได้ดีทีเดียว
“Magic” ซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งมี MV ทำเป็นสไตล์หนังเงียบในยุค 1920 ‘s ว่าด้วยเรื่องราวของชีวิตนักมายากลในคณะละครสัตว์ ที่ได้ “จางซื่อยี่” ดาราสาวสวยชื่อดังชาวจีนมาเล่น MV ให้เป็นครั้งแรกของเธอ
เมจิกเป็นมินิมอลร็อกเน้นเสียงโปรแกรมของเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิคส์ แม้จะมีจังหวะเร่งเร้าขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังฟังล่องลอยอยู่ดี
“Ink” เร่งจังหวะขึ้นมาอีกนิด ว่าด้วยการเปรียบเทียบ“ความรัก”กับ “รอยสัก” ที่แฝงนัยยะอันลุ่มลึกว่า รอยสักนั้นเจ็บปวดตอน “ลบ” มากกว่าตอน “สัก”
อารมณ์รักยังดำเนินต่อไปกับ “True Love” มีซาวนด์คีย์บอร์ดหนาแน่น ดนตรีฟังเท่แต่ก็เศร้าอยู่ในที ต่อกันด้วย “Midnight” บทเพลงถูกดึงลงไปสู่ความหน่วง เหงาอีกครั้ง
“Another's Arms” จังหวะโจ๊ะขึ้นมาหน่อยกับดนตรีอิเล็กทรอนิคติดเหงาหม่น ส่วน “Oceans” นี่ดึงให้ดำดิ่งไปจ่อมจมกับความหม่นทึม ทั้งเสียงร้อง คีย์บอร์ด อะคูสติกกีตาร์ ที่ต่างประเคนกันมาตอกย้ำความเหงาเศร้า
จากนั้นเป็น “A Sky Full of Stars” บทเพลงที่ฟังคึกคักและสดใสที่สุดในอัลบั้ม ฟังแล้วให้นึกถึงโคลย์เพลย์ในแบบที่ผ่านมาหน่อย เป็นป็อบร็อคเท่ๆ อวลเสียงเปียโนเพราะพริ้ง ถือเป็นเพลงเอกของอัลบั้มที่น่าจะดังที่สุด ก่อนจะปิดท้ายกันด้วย “O” บัลลาดหวานเศร้าซึ้ง เสียงเปียโนไพเราะมาก รวมถึง Hidden Track “Fly On” ช่วงสั้นๆท้ายอัลบั้มที่เหมือนจะชวนบินไปด้วยกันกับความหม่นเศร้า
สำหรับภาพรวมของอัลบั้ม Ghost Stories มันเป็นการสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของคริส ที่เพิ่งรักสลายไปหมาดๆได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้งานเพลงชุดนี้เต็มไปด้วย เหงาเศร้า หม่น ดนตรีเนิบช้า ล่องลอย ผ่านน้ำเสียงของคริสร้องถ่ายทอดความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวออกมาได้อย่างถึงอารมณ์ แต่นั่นมันก็ทำให้ความเป็นร็อกโจ๊ะๆเท่ๆของโคลด์เพลย์มีปรากฏให้ฟังกันน้อยมาก
นับได้ว่าโกสต์ สตอรีส์ชุดนี้เป็นดังบรรทึกรักสลายของ คริส มาร์ติน นักร้องนำ คนเขียนเพลง ที่นำเอาความเจ็บปวด ผิดหวัง โศกเศร้า เสียใจ จากรักสลายของเขามาถ่ายทอดเป็นบทเพลง ซึ่งนี่อาจเป็นที่ขัดใจใครหลายๆคนอีกครั้ง เพราะถึงแม้ว่าโคลย์เพลย์ในชุดที่แล้ว(Mylo Xylo)นั้นมากไปด้วยเพลงช้าแล้ว ในชุดนี้ยิ่งมีมากกว่า
