xs
xsm
sm
md
lg

อหังการ “ใบเตย” เขี่ย “เปิ้ล ไอริณ” พ้นหนัง ลั่นมีฉันต้องไม่มีผู้หญิงคนนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หนังเรื่อง “สวยผ่าซาก” ป่วน “ใบเตย” ช็อกไม่รู้ “เปิ้ล ไอริณ” เล่นด้วยประกาศในงานฟิตติ้งชุด ถ้ามีตนต้องไม่มีผู้หญิงคนนี้ ซัดเปิ้ลทำให้ชีวิตตนล่มจม บอกถ้าต้องร่วมงานกับอีกฝ่ายรู้สึกอยากถอนหายใจแรงๆ แขวะเจ็บไม่อยากให้หนังเรื่องนี้มีสิ่งไม่ดีเจือปน อาร์เอสก็ไม่ยอมยืนคำขาดถ้าเรื่องนี้มีเปิ้ลจะให้ใบเตยกับ “กิ๊บซี่” ถอนตัวทันที ด้านเปิ้ลถึงกับน้ำตาแตกโวยทำไมต้องทำให้ตนไม่มีที่ยืนในวงการ จวกกลับใบเตยนั่นแหละที่ทำให้ชีวิตตนล่มจม



ดังกระฉ่อนตั้งแต่วันฟิตติ้งชุดเลยทีเดียว สำหรับภาพยนตร์ “สวยผ่าซาก” ของบริษัทกระบิลสิงห์ฟิล์ม ที่นำแสดงโดย ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน, กิ๊บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์, โม อมีนา พินิจ, เชน ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์ ที่วันนี้ (23 พ.ค.) ได้มีการนัดนักแสดงทั้งหมดมาฟิตติ้งชุด ที่ เคลย์เลอร์ สตูดิโอ ซอยประดิษฐ์มนูธรรม เลียบทางด่วนเอกมัย-ลาดพร้าว แต่แล้วกลับเกิดปัญหาขึ้นเมื่อทีมงานออกมาแจ้งว่าเรื่องนี้มีนักแสดงรับเชิญคือ “เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว” โจทก์เก่าใบเตยร่วมแสดงด้วย โดยทางทีมงามก็ได้นัดเปิ้ลให้มาฟิตติ้งชุดในวันนี้ด้วยเช่นกัน

งานนี้ทำเอาใบเตยไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน มีรายงานว่าพอใบเตยมาถึงก็อารมณ์เสีย ยื่นคำขาดจะไม่เล่น บอกเปิ้ลทำชีวิตตนพังมา 2 รอบแล้ว ส่วนต้นสังกัดของใบเตยอย่างอาร์เอสก็บีบมาทางทีมงานว่าถ้าแค่เปิ้ลเข้ามาในงานจะให้ทั้งใบเตยและกิ๊บซี่ถอนตัวกลับหมดทั้งสองคน เป็นเหตุให้ทางค่ายหนังตัดสินใจที่จะตัดเปิ้ลพ้นหนังเรื่องดังกล่าว และไม่ให้เปิ้ลเข้ามาในสตูดิโอให้รอในรถร่วม 2 ชม.กว่า จนกว่าใบเตยจะแต่งตัวเสร็จ ถ้าจะสัมภาษณ์นักข่าวก็ให้ไปสัมภาษณ์ด้านนอก ทำให้ทางฝ่ายของเปิ้ลหมดความอดทนรู้สึกทำไมต้องรอก็เลยเดินเข้ามาให้สัมภาษณ์ โดยมีทีมงานพยายามเข้ามาประกบเปิ้ลตลอดเวลา เพราะไม่อยากให้มีปัญหากัน

สถานการณ์มาคุขึ้นเรื่อยๆ ทางด้านของใบเตยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเรียบเฉียบ แต่ยอมรับว่าไม่โอเคมากๆ ที่รู้เรื่องนี้เพราะทีมงานไม่ได้บอกล่วงหน้า
“ไม่รู้เรื่องมาก่อนเลยค่ะ เพิ่งทราบเลยค่ะ ถามว่ารู้สึกยังไง ก็ไม่โอเคค่ะ ต้องบอกว่าถ้าเป็นเรากับเขาหลายๆ อย่างที่ผ่านมา ก็ไม่โอเคที่ต้องร่วมงานกัน (ถ้ามีเปิ้ลต้องไม่มีเรารึเปล่า?) ให้ทางทีมงานตอบดีกว่าค่ะ เรื่องที่คนจะมองใบเตยไม่มีสปิริตนักแสดง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับใบเตยเลยเพราะใบเตยไม่รับรู้มาก่อนว่าจะต้องมีใครบ้าง รู้แค่ว่ามีพี่กิ๊บซี่ พี่โม อมีนา คนอื่นก็มารู้วันนี้ มันไม่เกี่ยวข้องกับเราเลยค่ะ เป็นทางผู้ใหญ่ของบริษัทที่ต้องคุย เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด เพราะเป็นขั้นตอนการดำเนินงานและสัญญาทุกอย่าง ใบเตยไม่ร่วมงานกับเขาดีกว่าค่ะ ทีมงานก็ได้มาชี้แจง ขอโทษ ขออภัย”

อาร์เอสยื่นคำขาดถ้ามี “ใบเตย” ต้องไม่มี “เปิ้ล” ส่วนจะถอนอีกฝ่ายออกรึเปล่าโบ้ยให้ไปถามค่ายหนัง
“ต้องถามกองถ่ายค่ะ จริงๆ แล้วใบเตยไม่ได้มีส่วนเกี่ยงข้องอะไรเลยในการรับทราบเรื่องตัวนักแสดง เป็นเรื่องของทางกองถ่ายและผู้ใหญ่ที่ต้องแก้ไข ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็ถ่ายต่อแน่นอน แต่ถ้ามีก็ไม่ถ่ายต่อแน่นอนค่ะ ใบเตยก็ยื่นขำขาดไประดับนึงค่ะ แต่ก็ต้องอยู่ที่บริษัท เพราะผู้ใหญ่เป็นคนตัดสินให้เราเล่น ทุกอย่างเป็นเรื่องของการพูดจากัน ของกองถ่ายและบริษัท (อาร์เอส) ซึ่งทางบริษัทเป็นคนยื่นคำขาดว่าจะไม่มีเขา เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกับพี่แมนค่ะ แต่ก็คงได้คุยกันอยู่แล้ว”

ไม่คิดว่าตนเองโดนดัดหลัง
“คิดอย่างนั้นไม่ได้ค่ะ เขาก็คือผู้มีพระคุณที่ให้โอกาสเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อะไรที่มันไม่ถูกต้องตามกฎกติกาที่ตั้งกันเอาไว้ ก็เป็นการแก้ไข ส่วนจะยังรับเล่นไหมต้องให้บริษัทตัดสินค่ะ แนวโน้มที่จะไม่ได้เจอกันมีเยอะกว่าอยู่แล้ว (ถ่ายไปกลัวมีเซอร์ไพรส์ โผล่มามั้ย?) ได้ตกลงกันเป็นกฎกติกาอยู่แล้วค่ะ หลังจากนี้คงต้องมีระบุในสัญญาว่าไม่ขอร่วมงานกันค่ะ”

บอกความรู้สึกที่ต้องมาร่วมงานกับ “เปิ้ล” รู้สึกต้องถอนหายใจแรงๆ ทำไมผู้หญิงคนนี้ต้องมาวนเวียนกับชีวิต แขวะแรงไม่อยากให้หนังเรื่องนี้มีสิ่งไม่ดีเจือปน
“รู้สึกแบบว่า ถอนหายใจแรงๆ ตายแล้วทำไมจะต้องมาวนเวียนกับชีวิต ความจริงไม่ใช่ว่าเราไม่มีสปิริต แต่ด้วยหนทางข้างหน้า ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรแย่ๆ ขึ้น ก็ไม่อยากให้ทางกองถ่ายมามีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่อยากให้หนังเรื่องนี้มีสิ่งไม่ดีเจือปน ทั้งที่ผ่านมาและวันนี้เท่านั้นเอง”

ส่วนที่ “เปิ้ล” บอกว่าถ้า “ใบเตย” อยู่ในห้องแต่งหน้าเขาก็ไม่ขอร่วมห้องเหมือนกัน?
“ก็คงไม่มีใครอยากเข้าร่วมอยู่แล้วค่ะ ไม่เจอดีกว่าค่ะ แต่ถ้าเจอกันทั้งเขาและเราก็ต้องมีความเป็นโปรเฟสชันนอลพอในการทำงาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรา มันคือความผิดพลาดและต้องแก้ไขของทางกองถ่าย แต่ถ้าต้องเจอกันตามงานก็โอเค ที่ได้ยินชื่อพี่เขามาหนูไม่เคยเจอหน้าพี่เขาเลย แต่ถ้าวันนี้ถ้าต้องเจอกันก็คงไม่เดินหนีหรอก ไม่มีวางมวยค่ะ เรามีมารยาทพอในเรื่องนี้”

ด้าน “เปิ้ล ไอริณ” หลังจากทนรอในรถ 2 ชม.กว่า ก็ทนไม่ไหวบุกเข้ามาในสตูดิโอเพื่อให้สัมภาษณ์กับนักข่าว โวยเสียความรู้สึกที่ตนเองโดนรังแก จวกปลดตนแบบนี้ไม่แฟร์เอาซะเลย
“ตอนแรกมีคนบอกแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเขา บอกแค่ว่านางเอกคือกิ๊บซี่ (วนิดา) แล้วก็บอกว่าตัวอื่นเป็นแค่ตัวรองๆ แต่ไม่ได้บอกชื่อว่ามีใครบ้าง เรื่องของเรื่องคือในตอนแรกทางกองถ่ายติดต่อเปิ้ลให้รับเป็นตัวแสดงตัวหนึ่งในหนังเรื่องนี้ เมื่อเช้าก็โทร.มาคอนเฟิร์มว่าให้มาถึงสถานที่ฟิตติ้งเวลาบ่าย 2 โมง จนเปิ้ลมาถึงและนั่งรอในรถอยู่ 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยที่ทีมงานบอกว่าน้องคนนั้น (ใบเตย) บอกว่าถ้ามีเปิ้ลเล่น เขาจะไม่เล่น ไม่เล่นคนเดียวไม่พอแต่จะเอานักแสดงอีกคน (กิ๊บซี่) ออกไปด้วย ทำให้ทีมงานเลือกที่จะตัดเปิ้ลออกจากหนังไป”

“ต้องบอกว่าตอนแรกเปิ้ลก็ไม่ทราบว่าหนังเรื่องนี้จะมีน้องคนนั้นเล่นด้วย เปิ้ลก็รับงานไปตามหน้าที่ ตามสปิริตของนักแสดง แต่เปิ้ลไม่ทราบว่าทำไมเขาจะต้องมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรเปิ้ล มาขัดขวางงานทุกชิ้น ที่สำคัญคือมันไม่แฟร์ในเมื่อตัวเองก็บอกว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรและทุกอย่างก็จบไปแล้ว”

ลั่นต่อให้รู้แล้วว่ามี “ใบเตย” ร่วมแสดงด้วยตนก็ยังยินดีที่จะร่วมงานด้วยเพราะเป็นสปิริต
“ด้วยสปิริตของนักแสดงเปิ้ลรับเล่นอยู่แล้ว แต่วันนี้รู้สึกเหมือนตัวเองโดนฟาดหน้า ทุกอย่างของเปิ้ลทำไมจะต้อมาขัดขวางงานด้วย เปิ้ลทำเพลงออกมา คนที่แต่งเพลงเบนซ์สปอร์ตให้ก็ถูกทางค่ายเขาซื้อตัวไป จนเปิ้ลต้องมานั่งหาคนแต่งเพลงใหม่เป็นปี แดนเซอร์ของเปิ้ลทั้งชุดก็ซื้อตัวไปหมด กระทั่งวันนี้เปิ้ลได้งานหนัง ได้เป็นตัวเอกของหนังเรื่องนี้ ทางค่ายเขาก็บอกอีกว่าถ้าเปิ้ลเล่นเขาขอตัดนักแสดง 2 ตัวออกไป แต่ตอนนี้ค่ายเขาเลือกตัดเปิ้ล เปิ้ลมาถึงที่สตูดิโอตอนบ่าย 2 ทีมงานเดินมาบอกเปิ้ลที่รถว่าคงจำเป็นที่จะต้องตัดเปิ้ลออกไปจากตัวแสดงในเรื่องนี้เพราะว่าทางน้องคนนั้นไม่ยอมเล่นถ้ามีเปิ้ลเล่น”

ปัดไม่รู้ว่าเป็นแผนของทางทีมงานหนังเรื่องนี้รึเปล่าที่ทำให้ตนกับ “ใบเตย” มาประจันหน้ากัน ถึงกับน้ำตาแตกตัดพ้อเห็นตนไม่มีค่ายไม่มีสังกัดคุมกะลาหัวเหรอถึงได้ทำกับตนแบบนี้
“เปิ้ลไม่ทราบค่ะ แต่เปิ้ลรู้สึกเหมือนแบบโดนตบหน้า ทำไมเจ้ากรรมนายเวรมันไม่จบไม่สิ้น ให้ทางกองถ่ายเดือดร้อนด้วย เพราะทางกองถ่ายก็อึดอัดใจ เปิ้ลก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง แต่การนั่งรอในรถมา 2 ชั่วโมงครึ่ง เปิ้ลก็ไม่รู้ว่าเขาให้รออะไร ซึ่งเปิ้ลก็จะไม่รออีกแล้ว”

“ที่เดินเปิ้ลเดินเข้ามาในสตูดิโอคือเปิ้ลสุดๆ แล้ว มีคนบอกว่าให้เปิ้ลรอแป๊บนึง นักข่าวจะไปสัมภาษณ์ข้างสตูดิโอ คือแบบเพราะอะไรทำไมต้องเป็นแบบนั้น เพราะเปิ้ลไม่มีค่ายไม่มีสังกัด (เสียงสั่นน้ำตาไหล) ทำอะไรก็ผิดไปหมด เคยสาบานไว้ว่าเปิ้ลจะไม่ร้องไห้ออกจอเป็นอันขาดเพราะเปิ้ลไม่ใช่ผู้หญิงมารยา”

ลั่นเจตนาที่เดินเข้ามาในสตูดิโอทั้งที่ทีมงานให้รอในรถเพราะอยากถามกองถ่ายว่าจะให้ตนรออะไร แต่ไม่ใช่มาหา “ใบเตย” โวยทำไมอาร์เอสต้องบีบให้ตนไม่มีที่ยืนในวงการบันเทิงด้วย
“ที่เดินเข้ามาเพราะเปิ้ลอยากจะรู้และอยากจะถามว่ากองถ่ายให้เปิ้ลรออะไร เปิ้ลผิดอะไร เปิ้ลไปคอรัปชั่นหรือไปขายตัวเหรอ ทำไมต้องรังเกียจกัน ถ้าเปิ้ลเล่นหนังเรื่องนี้จะเอานักแสดงของค่ายกลับหมดเลย ทำให้กองถ่ายต้องเดือดร้อน คือเปิ้ลไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพยายามทำให้เปิ้ลไม่มีที่ยืนในวงการบันเทิงตลอดเวลาด้วย เปิ้ลเซ็นสัญญากับค่ายหนังไว้แล้วแต่ไม่รู้ว่าจะต้องยังไง แต่คงไม่เรียกร้องอะไรให้ทางหนังชดใช้หรอกค่ะ เรื่องเคลียร์กับค่ายหนังไม่เป็นไรค่ะ ไม่รู้จริงๆ เปิ้ลไม่อยากคุย รู้สึกเหมือนเอาเปรียบกันเกินไป”

ปฏิเสธรู้กันกับทีมงานหนังสร้างสถานการณ์ขึ้นมา
“ไม่มีหรอกค่ะ ถ้าเปิ้ลสามารถที่จะทำเป็นฉากละครได้ เมื่อกี้เปิ้ลคงยิ้มกับหน้ากล้องไปแล้วตอนที่นักข่าวเรียก แต่เปิ้ลยิ้มไม่ออกจริงๆ รู้สึกกดดัน รู้สึกโดนฉีกหน้า ระหว่างที่รอในรถเปิ้ลนั่งถามตัวเองร้อยรอบว่านั่งรออะไร แล้วในกองก็มีคนโทร.มาบอกว่ารอแป๊บนึงนะ รอน้องเขาเปลี่ยนชุดก่อน เปิ้ลไม่เข้าใจว่าคืออะไร อยู่วงการมา 20 ปีแล้ว นั่งรอน้องเขาเปลี่ยนชุดในรถ 2 ชั่วโมงครึ่งเพื่ออะไร”

เลี่ยงไม่ตอบว่าตอนที่เดินเข้ามาในสตูดิโอรู้ไหมว่า “ใบเตย” อยู่ข้างในนี้ด้วย
“วันนี้หน้าที่เปิ้ลคือมาฟิตติ้ง กองถ่ายโทร.ตามเปิ้ล 3 รอบว่าต้องมาให้ได้ เปิ้ลก็แคนเซิลงานชิ้นนึงที่ศรีราชาเพื่อมางานนี้ แต่นี่คืออะไร ทั้งที่เปิ้ลก็รู้เมื่อเช้าว่ามีน้องเล่นหนังเรื่องนี้ด้วย แต่เปิ้ลโอเคบอกร้อยรอบแล้วเปิ้ลมีสปิริตนักแสดง เปิ้ลเป็นคนที่ไม่มีค่าย ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีครอบครัว ไม่มีแฟน ชีวิตเปิ้ลอยู่คนเดียว (ร้องไห้) บ้านกับรถก็ต้องผ่อน แล้วจะมารุมรังแกอะไรกันนักกันหนา”

แฉ “ใบเตย” พูดกับคนในกองถ่ายว่าตนเป็นคนทำชีวิตใบเตยล่มจม เจ้าตัวย้อนใครกันแน่ ซัดใบเตยนั่นแหละที่ทำให้ชีวิตตนล่มจม เพลงก็ก๊อบปี้ของตน ตอนเล่นหนังกับ “แมน” ก็โทร.กดดันทีมหนังให้ตัดฉากเลิฟซีนทิ้ง พอจะได้เล่นหนังเรื่องนี้อีกฝ่ายก็บีบจนตนโดนปลดกลางอากาศ
“อยากถามคำหนึ่ง เขาเป็นคนพูดผ่านพี่ในกองคนหนึ่งมาว่าเปิ้ลทำชีวิตเขาล่มจม เปิ้ลอยากถามว่าใครกันแน่ที่ทำชีวิตเปิ้ลล่มจม ไม่ว่าจะเป็นทำเพลงเปิ้ลมีปัญหา พอเปิ้ลเล่นหนังก็ให้มาตัดฉากออก แล้วนี่พอจะได้เล่นหนังเรื่องนี้ก็ให้ตัดตัวเปิ้ลออกไปอีก คือถ้าไม่สุดเปิ้ลไม่เดินเข้ามาจริงๆ”



















กำลังโหลดความคิดเห็น