“ต่อ ฮอร์โมน” โต้ข่าวดังแล้วเขี่ยแฟนทิ้ง ยันแค่เจอกันน้อยลง

“ต่อ ฮอร์โมน” โต้ข่าวดังแล้วเลิกแฟน ยันแค่เจอกันน้อยลงและมีทะเลาะกันบ้างตามประสาแฟน ลั่นคบกันมาเกือบ 4 ปี ฝ่ายหญิงเข้าใจการทำงานของตนดี บอกโชคดีแฟนคลับไม่แอนตี้แฟนสาว

เล่นซีรีส์เรื่องฮอร์โมนวัยว้าวุ่น จนแจ้งเกิดมีงานต่อเนื่องจนมีข่าวออกมาว่าหนุ่ม “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร” ดังแล้วเลิกกับแฟนสาวนอกวงการ สบโอกาสได้เจอต่อที่งานเปิดตัวครั้งแรก 12 คนสุดท้าย “ฮอร์โมน เดอะ เน็กซ์ เจน” ว่าที่นักแสดงหน้าใหม่ ใน “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ซีซั่น 2 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวก็ถึงกับงง ก่อนปฏิเสธว่าไม่เป็นเรื่องจริง คบแฟนมา 4 ปี ยังแฮปปี้ดี

“ข่าวว่าดังแล้วเลิกกับแฟนไม่จริงครับผม ปัจจุบันนี้ยังไม่ได้เลิกครับ เจอกันน้อยลงนิดหน่อยแต่ยังได้เจอกันเหมือนเดิมครับ งงครับที่มีข่าวออกมาว่าเลิกกับแฟน ผมคาดว่าเขาไม่รู้ข่าวเหมือนผมเช่นกันครับ เรื่องข่าวไม่ได้คุยกันเพราะส่วนใหญ่จะตอบตามความจริงไป ก็ไม่ได้ไปคิดเล็กคิดน้อยอะไร คบกันมาเกือบ 4 ปี เขาค่อนข้างเข้าใจในการทำงานของเรามากๆ ครับ”

“ทะเลาะกันมีบ้างตามสไตล์ของคนที่จะเป็นเพื่อนสนิทกัน ถามว่าเคยทะเลาะให้คนเห็นจนคิดว่าเลิกกันมั้ยก็ไม่เคยนะครับ ส่วนใหญ่ไม่ใช่ทะเลาะแบบภาพที่หลายคนคิดครับ เราจะต่างกันเรื่องความคิดเห็นมากกว่า”

โต้ดังและไม่มีเวลาทำให้ห่างกัน
“ไม่เกี่ยวครับ คนเข้ามาหาก็ไม่มีครับ ส่วนเรื่องทำให้ห่างขึ้นไหมในความคิดต่อ ต่อว่าไม่ครับ ถ้าเกิดว่ายังอยากจะให้มีเวลาว่างและมีเวลาส่วนตัวเหมือนเดิมก็ยังพร้อมที่จะหาเวลาว่างได้ครับ จริงๆ ไม่อยากให้คนคิดว่าไม่ว่างเพราะทำงานเยอะ ผมรู้สึกว่าคนเราถ้าอยากมีเวลามันต้องหาได้ แต่เวลาทำงานผมไม่เคยพาเขาไปด้วย ผมจะแยกชีวิตส่วนตัวกับการทำงานออก ถ้าผมทำงานผมจะค่อนข้างไม่แตะโทรศัพท์เลย ถ้าอยู่ในกองถ่าย”

ขอบคุณแฟนคลับที่เข้าใจและไม่แอนตี้แฟนสาว
“แฟนคลับมีผลทำให้ทุกอย่างราบรื่นขึ้นครับ ขอบคุณแฟนคลับทุกคนมาก โชคดีที่แฟนคลับไม่แอนตี้ เขาเข้าใจ และโชคดีที่แฟนคลับค่อนข้างเอาใจใส่ผม”

พร้อมบอกไม่กดดันที่ถูกจับตามองเรื่องความรัก
“ไม่กดดันเลยครับ ผมรู้สึกว่าการที่ผมเลือกที่จะบอกกับทุกคนแล้วว่าผมมีแฟน น่าจะไม่ต้องเกร็งอะไรแล้ว (คิดไหมอาจมีคนกุข่าวทำให้เลิกกัน?) ใจแป้วเลย (หัวเราะ) ไม่คิดจนเพิ่งได้ยินนี่แหละครับ คาดว่าไม่ ผมเป็นมิตรกับทุกคน ไม่ค่อยเป็นศัตรูกับใคร ผมไม่ได้มั่นใจในความรักของเรานะครับเพราะผมไม่ได้มองถึงอนาคตขนาดนั้น ผมแค่เป็นคนหนึ่งที่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดมากกว่า ไม่ค่อยมองข้างหน้าว่าจะต้องยังไงกันต่อครับ ทุกวันนี้แฮปปี้ดี ทั้งการทำงานและเรื่องส่วนตัว”