“นก อุษณีย์” ของขึ้น โร่แจ้งความจับมือดีเอารูปตนไปขึ้นปกหนังสือโสเภณี

“นก อุษณีย์” โร่แจ้งความกับ ปอท. ให้เอาผิดมือดีที่เอารูปไปขึ้นปกหนังสือโสเภณี รับโกรธมากที่โดนดูถูก ใช้รูปตนเพื่อหาผลประโยชน์ในทางที่ไม่ดีทำให้คนอื่นเข้าใจตนผิด บอกถ้าเป็นไปได้อยากเคลียร์กับคนทำหนังสือดังกล่าว ลั่นไม่เข็ด ไม่เลิกถ่ายเซ็กซี่เพราะทุกอย่างคือการทำงาน

หลังนักแสดงสาวชาวไทยสังกัดช่อง 7 “นก อุษณีย์ วัฒฐานะ” ถูกมือดีเอารูปสมัยที่ถ่ายแบบให้กับนิตยสารมิกซ์เมื่อหลายปีก่อน ไปขึ้นปกหนังสือ “Thai Hooker 101” ซึ่งเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเซ็กซ์และการขายบริการในประเทศไทย ทำเอานกฉุนจัดออกมาร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อให้เอาคนผิดมาลงโทษ รับโกรธมากที่โดนดูถูกและใช้รูปตนเอาไปทำมาหากินในทางที่ไม่ดี

“วันนี้ที่เดินทางมาที่นี่เนื่องจากมีบุคคลที่ใช้รูปนกที่เคยถ่ายนิตยสารมิกซ์เมื่อหลายปีก่อน ที่เป็นถ่ายแบบทั่วๆ ไป ซึ่งงานนั้นก็เป็นแนวกีฬา เพราะถ้าจำไม่ผิดฉบับที่นกถ่ายมันเป็นช่วงโอลิมปิก แล้วภาพมันก็จะลงตามอินเทอร์เน็ตทั่วไป แต่เขาได้นำรูปดังกล่าวมาใช้เป็นปกหนังสือที่เหมือนเอารูปเราไปหาผลประโยชน์ แล้วหนังสือมันก็เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับโสเภณี ซึ่งตรงนี้มันทำให้นกเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะเราเป็นนักแสดงเป็นที่รู้จักในไทย แล้วเอารูปเราไปเขียนเกี่ยวกับโสเภณีก็อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ แล้วนกเองก็มีแฟนคลับมีคนฟอลโลวที่อยู่ในประเทศจีนก็อาจทำให้เขาเข้าใจผิดและทำให้นกเสื่อมเสียได้ และวันนี้ที่เดินทางมาที่นี่ก็อยากจะมาร้องเรียน อยากออกมาปกป้องสิทธิของตัวเอง”

“ก็ทราบเรื่องก่อนช่วงสงกรานต์ค่ะ ประมาณวันที่ 5 คือครั้งแรกที่ทราบเพราะว่ามีนักข่าวโทร. มาสัมภาษณ์เราก็งงเลยขอเข้าไปดูก่อน และก็มีคนโทร. มาบอกซึ่งเป็นทางเว็บไซต์ของทางอเมซอนโทร.มาบอกว่าเห็นหรือยัง เนื้อหามันเป็นแบบนี้ๆ นะแล้วก็ส่งลิงค์มาให้เราดู ซึ่งในหนังสือมีชื่อคนเขียนนะคะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ใช่ชื่อจริงของเขาหรือเปล่า คือชื่อเขาเป็นภาษาอังกฤษประมาณว่าเซเว่นอะไรสักอย่างเหมือนเป็นนามปากกา”

“ตอนแรกที่เห็นก็งงอึ้งก่อนเลย แบบพออ่านคำโปรยหน้าปกแล้วคือโกรธมาก โกรธที่เขาดูถูกผู้หญิงไทยใช้รูปเราไปหาผลประโยชน์ แต่นกเองก็ยังไม่ได้เข้าไปงานเนื้อหาในหนังสือทุกตัวอักษรนะ อ่านแค่หัวข้อบทบางจุดบางคำ คือหนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีเนื้อหาสาระอะไรเพราะเป็นหนังสือนำเที่ยวโสเภณีไทย แบบว่าจะทำยังไงถึงได้ผู้หญิงไทยมานอน จะต่อราคาหมอนวดยังไง แบบมีคำนึงเขียนว่าคุณไม่ต้องหล่อไม่ต้องรวยก็สามารถหาผู้หญิงมานอนด้วยได้ แต่ว่าตอนนี้ได้มาดำเนินเรื่องนกเองก็สบายใจขึ้นมากแล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเคลียร์กับทางนั้นสักนิดนึง”

“อย่างหนังสือที่เอามาเป็นตัวอย่างในวันนี้นกก็สั่งซื้อมาเองเลย ก็อยากจะช่วยเขาอุดหนุน (หัวเราะ) คือยังไงมันก็ต้องมีหลักฐานค่ะเพราะเราไม่รู้ว่าข้างในมันมีอะไรบ้างเราเสียหายมากน้อยแค่ไหน เพราะอาจหนักที่ภาพกับพาดหัวข้างในอาจไม่มีอะไร”

โดนหนักแบบนี้ “นก” บอกไม่เข็ด ไม่เลิกถ่ายเซ็กซี่เพราะทุกอย่างคือการทำงาน
“ไม่นะคะเพราะมันเป็นการทำงานของเรา เราก็มีสิทธิ์ที่จะถ่ายนิตยสาร ซึ่งนิตยสารที่เขาจ้างมาก็เป็นหนังสือที่ดีที่มีคนอ่านเยอะ คือคนที่เอารูปไปใช้ควรจะสำนึกมากกว่า นกเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็ทราบว่านกเป็นนักแสดงก็คิดว่าคนไทยไม่น่าเข้าใจผิด แต่ก็อย่างที่บอกนะคะว่ากรณีนี้ไม่ได้เป็นกรณีแรก ก็อยากฝากถึงคนที่กำลังจะหาผลประโยชน์หรือว่าเอาเปรียบคนอื่น โดยที่ไม่คำนึงถึงความเสียหายของตัวบุคคลหรือว่าประเทศนั้นๆ”

“ก็อยากจะฝากนิดนึงว่าถ้าจะทำมาหากินอะไรก็แล้วแต่ อย่าทำแบบนี้เลยมันเสียหายมากกว่าแค่เงินไม่กี่บาท คือคนที่เขาเสียหายมันเสียหายมากกว่านั้น แล้วก็อยากจะฝากถึงคนไทยทุกๆ คนให้ช่วยกันดูแลป้องกันสิ่งเหล่านี้ เพราะทุกวันนี้ในโลกออนไลน์มันมีหลายๆ อย่างทั้งอาชญากรรม ข่มขืน เยอะมากก็อยากให้ช่วยกันสอดส่องให้สิ่งเหล่านี้มันหมดไป”

ทั้งนี้ “พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา” ผบก.ปอท. ยังชี้แจงอีกว่า ตอนนี้เว็บไซต์ดังกล่าวปิดตัวไปแล้ว แต่ไม่ต้องกังวลเพราะตอนนี้รู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว
“ก็ต้องหาคนที่จัดทำหนังสือเล่มนี้ก็ต้องดูร่องรอยหลักฐานที่มีเพราะที่ดูคร่าวๆ ตอนนี้เหมือนว่าเขาใช้นามแฝง แล้วเมื่อสักครู่ที่ตรวจสอบเว็บมันก็ถูกปิดตัวไปแล้ว ส่วนจะตรวจสอบนานแค่ไหนมันก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานที่ปรากฏอยู่ครับ แต่เบื้องต้นก็คงต้องตรวจสอบจากทางเว็บไซต์ แต่ในส่วนของเว็บอเมซอนก็คงเป็นเรื่องของการโฆษณาโดยทั่วไปเพราะเขาก็เป็นร้านขายหนังสือออนไลน์อยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้เป็นคนจัดพิมพ์ แค่เป็นคนจัดจำหน่าย”

“ทางเราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตามคนที่ทำหนังสือเล่มนี้ต้องรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งหรือทางอาญา เพราะว่าชื่อหนังสือของเขาทำให้เสื่อมเสีย ผมเชื่อว่าชาวต่างชาติเป็นคนทำ ก็ถ้าใครทำผิดนำข้อมูลอันเป็นเท็จ ก็จะถูกจำคุกไปเลย 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แม้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในประเทศไทยก็ตาม เพราะนี่คือกฎหมายพิเศษ เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นโลกไร้พรมแดน ซึ่งตอนนี้ผมก็มีผู้ต้องสงสัยแล้วครับ แต่จะเป็นใครอะไรยังไงก็เก็บไว้ในลิ้นชักก่อนเพราะมันเป็นหนึ่งในเรื่องของการดำเนินการ”