ปากพาจนมานานแล้วสำหรับนางเอกฝีปากไร้ตะกร้อ "แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์" ที่ล่าสุดเข้าไปแขวะสาว "โอปอล์ ปาณิสรา พิมพ์ปรุ " ในอินสตาแกรมส่วนตัวของโอปอล์ โดยการคอมเมนต์ใต้รูปที่สาวโอปอล์สวมชุดเดรสสีแดงแปร๊ดโพสท่าถ่ายแบบว่า "คนขาวใส่สีแดงยังไงก็ขึ้น!!” จนเป็นเหตุให้บรรดาแฟนคลับของโอปอล์ไม่พอใจต้องออกโรงฉะสาวปากพาจนรายนี้กันแบบจัดเต็ม ในขณะที่ฝ่ายโอปอล์เองก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย เธอเปิดเข้าไปเช็กอีกทีตอนค่ำหลังจากที่โพสภาพไปแล้วหลายชั่วโมงแล้วก็พบว่ารูปดังกล่าวมีคนเข้าไปคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันอย่างถล่มทลาย โดยส่วนใหญ่เป็นคอมเมนต์โจมตีสาวแตงโมที่เข้ามาคอมเมนต์แบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำให้สุดท้ายโอปอล์ตัดสินใจลบรูปดังกล่าวทิ้งเป็นการตัดปัญหา แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนแคปรูปคอมเมนต์ของแตงโมแล้วไปโพสต์กระจายจนว่อนเน็ตจนเกิดกระแสเป็นเดือดเป็นร้อนแทนโอปอล์ แม้ว่าเจ้าตัวจะออกมาให้สัมภาษณ์นิ่งๆ สวยๆ แล้วว่าไม่ถือโทษโกรธเคืองเพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้สนิทกับแตงโมถึงพูดเล่นแบบนี้กันได้ แต่เธอก็ถูกล้อเรื่องสีผิวมาตั้งแต่เกิดจนตอนนี้เธอชาชินไปแล้ว การออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้แบบสวยๆ สไตล์นางเอกแม่พระของโอปอล์ยิ่งเป็นเสมือนการตอกหน้าแตงโมซ้ำไปอีกรอบว่าเธอเลือกแซวหรือด่าผิดคนเสียแล้ว
กรณีแตงโมแขวะโอปอล์จนบรรดาแฟนๆ ของโอปอล์ทนไม่ไหวต้องออกโรงตอบโต้จนอินสตาแกรมร้อนนั้นเริ่มต้นจากการที่โอปอล์สวมตุ้มหูจากร้านน้องสาวของ "หมอโอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุล " สวมชุดสีแดงแปร๊ดโพสท่าถ่ายรูปลงอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งอยู่ดีๆ แตงโมที่ไม่รู้ไปกินรังแตนมาจากที่ไหนก็เข้ามาคอมเมนต์ใต้ภาพว่า "คนขาวใส่สีแดงยังไงก็ขึ้น!!” แล้วก็ไป หลังจากนั้นบรรดาแฟนคลับทั้งขาประจำและขาจรของโอปอล์ก็แห่เข้ามาปกป้องโอปอล์ด้วยการรุมด่าแตงโมกันแบบจัดเต็ม เนื่องจากแต่ไหนแต่ไรมาแตงโมไม่เคยมีประวัติเป็นเพื่อนสนิทกับโอปอล์มาก่อน เพราะการที่จะเข้ามาใช้ถ้อยคำแขวะเรื่องสีผิวแบบนี้ก็น่าจะต้องสนิทสนมกันในระดับที่สามารถล้อเล่นกันได้ แต่โอปอล์รวมถึงบรรดาแฟนคลับมั่นใจว่าไม่เคยสนิทสนมกับแตงโมมาตั้งแต่ชาติปางไหนเลยจริงๆ
คอมเมนต์ที่ถือว่าแรงและจัดเต็มมากคอมเมนต์หนึ่งจากหลายสิบคอมเมนต์ที่เข้ามารุมด่าแตงโมได้เขียนว่า "คนขาวอย่างมึงควรใส่เสื้อดอก ดอก! แบบนี้ใช่ป่ะ ดอกส้มสีทองน่ะ อิอิ บางทีนะ จะสอนอะไรให้เผื่อว่าแม่ไม่มีเวลาสอน เอ๊ะ หรือแม่ไม่รัก หรืออะไรยังไง พี่โอปอล์เค้าสวยกว่ามึงอีกกูจะบอกให้ ใจเค้าสวย แต่มึงอ่ะ หน้าก็พลาสติก ใจมึงก็ยังพลาสติก ปลอมทั้งนั้น ทำไมต้องไประรานชาวบ้าน มึงอยู่เฉยๆ เป็นป่ะ เป็นอะไร สันนิบาตเหรอ อยู่เฉยไม่ได้ นี่กูมาด่ามึงเพราะพี่โอปอล์เลย และที่กูติดตามมึงเพราะกูอยากเสือก แต่ต่อไปกูจะไม่ติดตามมึงให้ยอดฟอลโลมึงเพิ่มแล้ว" จากนั้นก็ด่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรงอีกพอสมควรก่อนที่จะลงท้ายว่า RIPbabymelony ซึ่งเป็นการไว้อาลัยแล้วตามด้วยชื่ออินสตาแกรมส่วนตัวของสาวแตงโมนั่นเอง
เมื่อมีคอมเมนต์ตอบโต้รุนแรงเต็มหน้าอินสตาแกรม โอปอล์จึงตัดสินใจลบรูปดังกล่าวซึ่งส่งผลให้คอมเมนต์ทั้งหลายหายไปด้วย โดยโอปอล์ให้เหตุผลว่าเธอไม่อยากให้ใครต้องมาทะเลาะกันเพราะตัวเธอ และที่แตงโมเข้ามาแขวะหรือด่าว่าเช่นนั้นเธอคิดว่าสาวแตงโมคงไม่คิดอะไรมาก คงแค่อยากจะแซวขำๆ และที่แซวเรื่องสีผิวนั้นเธอก็ไม่โกรธเพราะว่าถูกแซวเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็กและเธอก็ยอมรับว่าเธอผิวดำจริงๆ
“ปอล์มั่นใจว่าโมไม่มีเจตนาที่จะด่าปอล์หรือประชดอะไรกัน ตอนนี้ปอล์สงสารโมมาก เพราะมันไม่มีอะไรจริงๆ ซึ่งเพื่อนคนอื่นก็เข้ามาคอมเมนต์ด่าปอล์ปกติ แต่ทำไมพอเป็นโมดันเป็นข่าว"
ถึงแม้จะบอกว่ามีเพื่อนเข้ามาคอมเมนต์ด่าว่าเป็นเรื่องปกติ แต่โอปอล์ก็ยอมรับว่าเธอกับแตงโมไม่ใช่เพื่อนสนิท แค่เจอกันตามงานปกติ ไม่เคยไปทานข้าว ดูหนัง หรือคบค้าสมาคมอะไรกัน จะมีก็เพียงการฟอลโลอินสตาแกรมและแอดเฟรนด์ในเฟซบุ๊กกันเท่านั้น
“ไม่มีเบอร์ ปกติไม่ได้ติดต่อกัน ไม่มีไลน์ มีเฟซบุ๊กกัน แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่จนต้องเคลียร์กันนะปอล์ว่า ไม่ได้ติดใจอะไร ถ้าปอล์ติดใจคนที่ด่าปอล์ก็น่าจะต้องทั้งชีวิตเลย เพราะคนก็ด่าปอล์ทุกวัน" โอปอล์กล่าวติดตลกเอาไว้แบบนั้น
เมื่อการเข้ามาแซวเข้ามากัดแบบไม่ดูกาลเทศะ รวมถึงไม่สนใจระดับความสนิทสนมของแตงโมที่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ถูกต้องตั้งแต่แรกแล้วมาประกอบกับท่าทีของโอปอล์ที่นิ่งและไม่แสดงท่าทีความโมโหไม่พอใจอะไรแตงโมเลย เลยทำให้กรณีนี้ไม่กลายเป็นศึกสงครามระหว่างดารา แต่ทว่ากลายเป็นว่าการกัดการจิกด้วยความคะนองปาก รวมถึงการพยายามทำตัวเองให้เป็นข่าวเพื่อที่จะได้อยู่ในหน้าสื่อต่อไปของแตงโมครั้งนี้เสียหายใหญ่หลวงนัก
หากย้อนไปดูวีรกรรมความปากสุนัขของแตงโมก็ต้องยอมรับว่าฉายาตะกร้อไร้ฝีปากที่สมาคมนักข่าวบันเทิงมอบให้เธอเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย เพราะในช่วงเวลาที่อยู่ในวงการบันเทิง มีคนจดจำแตงโมในเรื่องความจัดจ้านในการใช้ถ้อยคำมากกว่าผลงานของเธอเสียอีก โดยวีรกรรมแรกๆ ที่แตงโมได้ก่อไว้ก็คือการออกมาตอกหน้าแฟนคลับของเธอเอง หลังจากที่แฟนคลับคนดังกล่าวเข้ามาคอมเมนต์ชมเธอเรื่องรอยสักที่เธอถ่ายรูปโพสต์โชว์ในอินสตาแกรม เรื่องนี้เริ่มต้นจากที่แฟนคลับคนดังกล่าวเข้ามาคอมเมนต์ใต้รูปว่า "พี่โมสักสวยจัง" ซึ่งแตงโมก็เข้ามาตอบแฟนคลับคนดังกล่าวว่า "เอารูปมาแชร์บ้างสิคะ" แต่พอแฟนคลับคนเดิมเข้ามาพิมพ์ตอบว่า "อ๋อ ไม่มีหรอกครับ พอดีเห็นในไอจีพี่ก็ชอบ เลยอยากสักบ้าง" เท่านั้นแหละ แตงโมถึงกับไม่พอใจเข้าไปตอบโต้ว่า "เลยมาพิมพ์ว่ากูรู้มากกว่าคนอื่น ดูเท่ไรงี้ มันเกี่ยวกับรูปนี้ยังไงคะ เห็นที่ไหนพิมพ์ที่นั่นเลยค่ะ ในนี้ไม่ได้ต้องการคนโชว์ภูมิ" หลังจากนั้นทั้งแฟนคลับและไม่ใช่แฟนคลับของแตงโมก็เริ่มงุนงงและตกใจกับพฤติกรรม "นักเลงคีย์บอร์ด" ของแตงโมที่ไม่ได้จบแค่การออกมาชวนแฟนคลับทะเลาะเรื่องรอยสักเท่านั้น
วีรกรรมต่อมาคือการปะทะคารมกับอดีตหวานใจอย่าง "แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ" หลังจากที่แตงโมควงแฟนหนุ่มคนปัจจุบัน "โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" ไปร่วมชุมนุมทางการเมืองในช่วงปลายปีที่ผ่านมา แล้วมีภาพถ่ายคู่กันระหว่างโตโน่กับแต๊งค์ออกมา ซึ่งต่อมามีข่าวออกมาว่าแตงโมกับโตโน่ไม่ได้ไปร่วมนั่งฟังการปราศัยแต่อย่างใด ซึ่งแต๊งค์ก็ออกมาแขวะแตงโมเล็กๆ ในอินสตาแกรมของเขา หลังจากที่มีแตงโมให้สัมภาษณ์นักข่าวว่ามาชุมนุมทุกวันแต่ไม่เห็นเจอแต๊งค์ในการชุมนุมเลย ซึ่งแต๊งค์ก็โพสต์ข้อความชี้แจงว่า เขาไม่ใช่คนที่จะมาชุมนุมเพื่อเอาหน้า แต่เขาทำงานอยู่ด้านล่างเพราะเขาไม่ใช่ดารานักร้อง และที่ยอมถ่ายรูปคู่ด้วยเพราะอยากจะสร้างกระแสการชุมนุมเท่านั้น
ต่อจากนั้นแตงโมก็ออกมาเปิดหน้าแลกหมัดกับเจ๊ดา "ดารุณี กฤตบุญญาลัย" ที่เผยแพร่คลิปโจมตีสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เรื่องการชุมนุม แถมยังกัดดารานักแสดงที่ไม่ยอมไปเลือกตั้งว่าเป็นพวก "สมองหมาปัญญาควาย" งานนี้แตงโมเดือดจัดถึงขั้นออกมาโพสต์ภาพเจ๊ดา พร้อมทั้งบรรยายใต้ภาพว่า "เอาอะไรมาวัดว่าเป็น "ไฮโซ" เสียดายความน่ารักส่วนบุคคลของป้าดาค่ะ คุณเคยเป็นคนที่น่ารักน่านับถือมากๆ คนนึงตอนอยู่ในวงการ"
หลังจากแสดงความรักชาติด้วยการตอบโต้เจ๊ดาเบาๆ หลังจากนั้นแตงโมก็จัดเต็มกับ "เต๋า ทีวีพูล"นักข่าวบันเทิงที่โพสต์ภาพพิธีหมั้นระหว่างเธอกับโตโน่ ที่จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม โบสถ์ และลักษณะงานซึ่งงานนี้เป็นใครก็ต้องงงว่านี่พิธีหมั้นหรือพิธีแต่งเพราะคุณเธอเล่นจัดเต็มแบบมีโยนช่อดอกไม้ด้วย วันนั้นเต๋าโพสต์ภาพคู่ในพิธีพร้อมทั้งบรรยายใต้ภาพว่า "แต่งแล้วจ้า โตโน่กับแตงโม กูงง" ซึ่งสาวโมก็สวนกลับทันทีว่า "มึงไม่ต้องงงค่ะ ศึกษาพิธีกรรมคริสต์ศาสนาแล้วจะเข้าใจ ตามหลักความเป็นจริงการแต่งงานคือการจดทะเบียนและฉลองพิธีมงคลสมรส ซึ่งเราไม่ได้ทำสักอย่างค่ะ"
ปิดท้ายก่อนที่จะไปแขวะโอปอล์ แตงโมก็สะเหล่อเข้าไปยุ่งกับไฮโซ "ไผ่ วันพอยท์" ที่เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากที่ "ชัญญ่า ทามาดะ" อดีตกิ๊กเก่าของไผ่ที่โพสต์ข้อความต่อว่าไผ่ว่าเดี๋ยวนี้เห็นเมียดีกว่าน้อง และต่อไปจะขออยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ซึ่ง "ดิว อริสรา" แฟนของไผ่ก็เข้าไปตอบโต้ด้วยการโพสต์รูปสตรอเบอรี่แล้วแท็กไปหาชัญญ่า ซึ่งดูแล้วเรื่องทั้งหมดก็ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับแตงโม แต่อยู่ดีๆ คุณเธอก็เข้าไปโพสต์ข้อความถึงชัญญ่าว่า "จะไปแคร์อะไรกับไอ้อ้วนเสี่ยว" ซึ่งไผ่เดือดจัดจนเข้ามาคอมเมนต์แฉว่าอย่าทำตัวเป็นคนดีว่าคนอื่นโกงชาติ แต่ตัวเองไปเที่ยวต่างประเทศกับแฟนคนอื่นแล้วขอให้เขาซื้อของให้ ซึ่งงานนี้เล่นเอาสาวโมถึงกับเงิบเลยทีเดียว
แต่เธอก็ยังไม่หยุดแค่นั้นโพสต์ภาพตัวเองใส่ชุดว่ายน้ำโชว์หุ่นแล้วเขียนบรรยายแขวะไผ่ว่าอ้วนจนซิตอัปไม่ได้เพราะติดพุง แต่พอเจอไผ่ที่ประกาศตัวชัดเจนว่าจะขอต่อสู้กับแตงโมจนถึงที่สุดเพราะว่าสาวโมทำลายศักดิ์ศรีของเขาก็เล่นเอาแตงโมถึงกับจ๋อยเพราะว่าลึกๆ แล้วไผ่คนนี้ก็รู้ตื้นลึกหนาบางของแตงโมดี เรียกว่าถ้าปากสุนัขมากๆ ก็อาจจะเจอแฉละเอียดชนิดที่ไม่อาจสู้หน้าประชาชีได้เลยทีเดียว
แต่หลังจากนั้นแตงโมก็ยังไม่หยุด เพราะว่าเธอก็ยังโพสต์อินสตาแกรมตำหนิการทำงานของฝ่ายดูแลศิลปินของเอ็กแซ็กท์ที่ชื่อว่า "นิ" ซึ่งเป็นต้นสังกัดของโตโน่ โดยแตงโมบอกว่าคุณนิคนนี้ควรปรับปรุงการทำงานด่วน ซึ่งงานนี้รุนแรงถึงขั้นมีคนออกมาตำหนิแตงโมที่เข้ามาจุ้นจ้านและโชว์เกรียนออกสื่อขนาดนี้ จนถึงขั้นที่สื่อหลายสำนักอยากจะแบนแตงโมไปเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะปากสุนัขแบบส่วนตัว ปากสุนัขเพื่อชาติ หรือปากสุนัขจุ้นจ้านอย่างในช่วงหลังๆ แต่โดยรวมก็ต้องยอมรับว่าแตงโมคนนี้ขยันแขวะ ขยันกัด ขยันด่าคนอื่นไม่เว้นวัน กรณีโอปอล์ แตงโมคงได้บทเรียนราคาแพงว่าสำหรับเรื่องบางเรื่องอยู่นิ่งๆ ไว้จะดีที่สุด และคนพูดตรงก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องพูดทุกเรื่องที่คิด มิฉะนั้นแล้วคงจะอยู่ในสังคมได้ลำบาก เพราะที่ผ่านมาแตงโมปากหวานกับมิตรแต่จิกกัดศัตรูแบบไม่ไว้หน้า มาบัดนี้แตงโมเวอร์ชันล่าสุดกลับไปแขวะไปกัดเขาไปทั่ว ขยันสร้างศัตรูแบบนี้ต่อไปคงเหนื่อยเพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นนางเอ๊ก นางเอกได้เหมือนโอปอล์ ปาณิสรา คนนี้
..................................................................
ที่มานิตยสาร ASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 235 วันที่5-11 เมษายน 2557