เป็นปีที่ 56 แล้วสำหรับการประกาศผลรางวัลแกรมมี รางวัลทรงเกียรติสำหรับแวดวงดนตรี ซึ่งปีนี้ยังเป็นเหมือนทุกปีที่เปิดโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่ๆเข้ามาคว้ารางวัล โดยแร็ปเปอร์ที่ดังสุดๆในปีที่แล้วอย่าง “แมคเคิลมอร์ และ ไรอัน เลอวิส” ก็คว้ารางวัลกลับบ้านไปได้มากถึง 4 รางวัล รวมถึง “ลอร์ด” เจ้าของเพลงฮิต Royals ด้วย และรางวัลใหญ่อย่างบันทึกเสียงแห่งปีและอัลบั้มแห่งปี Daft Punk คว้ารางวัลใหญ่กลายเป็นพระเอกของงานเลยทีเดียว
เปิดงานครั้งที่ 56 อย่างเป็นทางการด้วยคู่สามี-ภรรยาสุดฮอตอย่าง บียอนเซและเจย์ ซี ด้วยบทเพลง Drunk In Love ซึ่งงานนี้บียอนเซ โชว์หุ่นสุดเซียะฟิตเฟิร์ม โชว์แหกขา-โก่งก้น ก่อนจะกอดจูบกับ เจย์ ซี บนเวที ทำเอาเปิดตัวงานร้อนฉ่า
โดยปีนี้วงที่น่าจับตามองมากที่สุดยังเป็นศิลปินแร็ป แมคเคิลมอร์ และ ไรอัน เลอวิส ผู้มีชื่อเข้าชิงถึง 7 สาขา ยังไม่ทันเปิดงานอย่างเป็นทางการก็คว้าไปแล้วถึง 3 รางวัล โดยคว้ารางวัลอัลบั้มเพลงแร๊ปยอดเยี่ยมจากอัลบั้ม The Heist และเพลง Thrift Shop ที่พูดถึงเรื่องจริงที่สนับสนุนการซื้อของมือสองก็คว้ารางวัล เพลงแร็ปยอดเยี่ยม และ การแสดงเพลงแร็ปยอดเยี่ยม
นอกจาก 3 รางวัลข้างต้นแล้ว ศิลปินหน้าใหม่ที่โด่งดังสุดๆ ในปีที่ผ่านมา ก็คว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมไปครองได้อีกด้วย แม้ว่าในตอนแรกพวกเขาเกือบจะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้ามาอยู่ในสาขาเพลงแร๊ปและถูกต่อต้านจากบรรดาแร็ปเปอร์ด้วยกัน แต่ด้วยความกล้าจะแตกต่างรวมถึงความสามารถของทั้งคู่ก็สามารถฝ่าฟันและถูกคณะกรรมการแกรมมีตัดสินใจให้มีสิทธิ์เข้าร่วมชิงในสาขาแร็ปจนกลายเป็นศิลปินที่น่าจับตามองที่สุดวงหนึ่งในปีนี้
ด้วยความแรงของพวกเขาจึงไม่พลาดที่ปีนี้พวกเขาจะได้ขึ้นแสดงบนเวทีด้วย โดยพาเพลง Same Love มาร่วมแสดงกับ แมรี แลมเบิร์ท เพลงนี้เป็นเพลงที่สนับสนุนการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกัน และไม่ต่อต้านเหล่าเพศที่สาม ซึ่งการทำเพลงของพวกเขานับว่าแตกต่างจากแร๊ปเปอร์ทั่วไปอย่างสิ้นเชิงที่มักกล่าวถึงเซ็กซ์, เงิน และยาเสพติด และไม่ค่อยยอมรับเกย์หรือเพศที่สาม โดยหลังจากเปิดตัวคู่รักเพศเดียวกันที่มาแต่งงานกันในงานแกรมมีครั้งนี้ มาดอนนา ก็ออกมาร่วมแจมร้องเพลง Same Love เพื่อสนับสนุนความรักของคนเพศเดียวกัน รวมถึงความรักของคนต่างสีผิว ต่างเชื้อชาติด้วย
ด้านจัสติน ทิมเบอร์เลกก็คว้าไป 3 รางวัล ทั้งเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม จาก Pusher Love Girl และ มิวสิกวิดีโอ Suit & Tie ที่ร่วมงานกับเจย์ ซี ก็คว้ารางวัล มิวสิควิดีโอยอดเยี่ยมไปครอง และยังพาเพลง Holy Grail ที่ร่วมร้องกับ เจย์ซี เช่นกันคว้ารางวัลเพลงแร๊ปร่วมร้องยอดเยี่ยมด้วย โดยงานนี้เจย์-ซี ที่มีชื่อเข้าชิงมากที่สุดถึง 9 รางวัล ขึ้นรับรางวัลแทน
ด้านอเดล ที่เป็นราชินีแกรมมีไปเมื่อ 2 ปีก่อน ก็กลับมาคว้ารางวัลกลับบ้านอีกครั้ง โดยบทเพลง Skyfall เพลงประกอบภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ ก็คว้ารางวัลไปในสาขา เนื้อเพลงยอดเยี่ยมสำหรับ Visual Media รวมถึง โน๊ตเพลงซาวนด์แทร็คยอดเยี่ยมสำหรับ Visual Media ด้วยเช่นกัน
ด้านศิลปินดูโออิเล็คโทรนิคจากฝรั่งเศสอย่าง Daft Punk ก็คว้ารางวัลกลับบ้านไปถึง 4 รางวัล ทั้งอัลบั้มแดนซ์/อิเล็กทรอนิกส์ยอดเยี่ยมไปครอง จากอัลบั้ม Random Access Memories ซึ่งนอกจากจะคว้ารางวัลในสาขาเพลงของตนได้แล้ว ยังสามารถคว้ารางวัลใหญ่สุดของงานอย่างอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปีไปได้ด้วย ในส่วนของเพลง Get Lucky ก็ทำให้พวกเขาคว้ารางวัล ศิลปินดูโอ/กลุ่มยอดเยี่ยมสาขาเพลงป๊อป และยังคว้ารางวัลใหญ่อีกรางวัลอย่าง บันทึกเสียงแห่งปีจากเพลงเดียวกันไปได้เช่นกัน และเช่นเดิมที่ไม่ว่าจะขึ้นรับรางวัลไหน ทั้งคู่ก็ไม่ยอมถอดหมวกกันน็อกที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองออก ปล่อยให้ฟาร์เรล วิลเลียมส์ ที่มาร่วมร้องต้องทำหน้าที่เป็นล่ามกล่าวขอบคุณ โดยมีนีล รอดเจอร์ส ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ
ศิลปินร็อกรุ่นใหญ่ระดับตำนาน Led Zeppelin คว้ารางวัล อัลบั้มร็อกยอดเยี่ยมไปครองจาก Celebration Day ซึ่งเป็นบันทึกการแสดงสดของพวกเขาในการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเมื่อปี 2007 ที่ O2 Arena ในลอนดอน
นอกจากนั้น Cut Me Some Slack ที่ เดฟ กรอห์ล ร่วมงานกับ พอล แมคคาร์ทนีย์ ที่ใช้เวลาในการแต่งเพียง 2 ชั่วโมงก็คว้ารางวัล เพลงร็อกยอดเยี่ยมไปได้ด้วย
ศิลปินสาวน้อยจากนิวซีแลนด์วัย 17 ปีอย่าง ลอร์ด กับเพลง Royals ที่เธอแต่งเองและประสบความสำเร็จขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดและชาร์ตเพลงฮิตอีกมากมายก็คว้ารางวัล เพลงป็อปยอดเยี่ยมไปได้แบบไม่มีพลิกโผซึ่งเธอก็ได้กล่าวด้วยว่าผู้เข้าชิงรายอื่นทั้ง ซารา บาเรลลีส์, บรูโน มาร์ส, เคที เพอร์รี และ จัสติน ทิมเบอร์เลก ล้วนเป็นแรงบันดาลใจของเธอทั้งสิ้น ซึ่งก่อนจะได้รับรางวัลเธอยังได้ขึ้นแสดงเพลงนี้บนเวทีด้วย นอกจากนั้นเจ้าตัวยังพาเพลง Royals คว้ารางวัลใหญ่ของงานอย่าง เพลงแห่งปีไปได้ด้วยเช่นกัน นับเป็นการเข้าชิงรางวัลแกรมมีครั้งแรกของสาวน้อยที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
ด้าน บรูโน มาร์ส ที่เข้าชิงถึง 4 รางวัลพาอัลบั้ม “Unorthodox Jukebox” คว้ารางวัล อัลบั้มเพลงป็อปยอดเยี่ยมไปครอง
สาวน้อย เคซีย์ มัสเกรฟส์ ศิลปินคันทรีที่มาแรงแซงสาวคันทรีรุ่นพี่เทย์เลอร์ สวิฟท์ จนมีชื่อเข้าชิงสาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมก็สามารถคว้ารางวัลใหญ่ อัลบั้มคันทรียอดเยี่ยมไปครองได้สำเร็จจากอัลบั้ม Same Trailor Different Park
โดยการประกาศรางวัลแกรมมีครั้งที่ 56 นี้ยังมีความพิเศษและความน่าสนใจมากมายอย่างการนำศิลปินคันทรีระดับตำนานอย่าง เมอร์เล แฮกการ์ด, คริส คริสตอฟเฟอร์สัน, วิลลี เนลสัน และ เบลค เชลตัน มารวมตัวกัน
นอกจากนั้นในส่วนของการแสดงยังน่าสนใจมีวงร็อกรุ่นใหญ่ชื่อดังอย่าง Nine Inch Nails, Queens of the Stone Age และเดฟ กรอห์ล นักร้องนำ Foo Fighters กับ ลินด์เซย์ บัคกิงแฮม จาก Fleetwood Mac มาร่วมแจมกันด้วย
การจับคู่การแสดงที่น่าสนใจยังมี ลามาร์ กับวงร็อกดัง Imagine Dragons ไปจนถึงคู่ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อย่าง ร็อกรุ่นเดอะ Metallica กับนักเปียโนชาวจีนที่กำลังมาแรงในเวลานี้อย่าง หลาง หลาง
และการแสดงที่สนุกสุดๆ กับการรวมตัวกันอย่างไม่น่าเชื่อของศิลปินที่ต่างแนวอย่าง สตีวี วันเดอร์ส, นีลส์ รอดเจอร์ส และ ฟาร์เรล วิลเลียมส์ มาร่วมโชว์กับเพลง Get Lucky ก่อนที่จะมีศิลปินอิเล็กทรอนิกส์ Daft Punk เจ้าของบทเพลงโผล่มาร่วมแจม ถึงขั้นทำเอาศิลปินทุกคนที่อยู่ในงานลุกขึ้นเต้นกันอย่างสนุกสนาน
นอกจากนั้นยังมีศิลปินระดับตำนานอย่าง The Beatles ก็ขึ้นรับรางวัลความสำเร็จสูงสุดในอาชีพ โดย พอล แมคคาร์ทนีย์ และ ริงโก สตาร์ 2 สมาชิกของวงที่ยังมีชีวิตอยู่ก็รวมตัวกันอีกครั้งที่งาน โดย โยโกะ โอโนะ ก็ควงแขนลูกชายมางานด้วย ซึ่ง ริงโก สตาร์ ได้ขึ้นแสดงในเพลง Photograph เพลงสุดฮิตสมัยปี 1973ที่เขาแต่งร่วมกับ จอร์จ แฮริสัน ที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2001 โดยมีวงบิ๊กแบนด์ร่วมบรรเลง และเขายังกลับขึ้นแสดงอีกครั้งร่วมกับ พอล แมคคาร์ทนีย์ ซึ่งการปรากฏตัวครั้งนี้ของสมาชิกวงยังเป็นการฉลองครบรอบ 50 ปี นับตั้งแต่ที่พวกเขาปรากฏตัวทางโทรทัศน์ของอเมริกาและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
ผลรางวัลแกรมมี อวอร์ดส์ ครั้งที่ 56
อัลบั้มแห่งปี - “Random Access Memories”, Daft Punk
บันทึกเสียงแห่งปี - "Get Lucky", Daft Punk Featuring Pharrell Williams & Nile Rodgers
เพลงแห่งปี - Royals, Lorde
รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม - Macklemore & Ryan Lewis
เพลงป๊อปเดี่ยวยอดเยี่ยม - Royals : Lorde
ศิลปินกลุ่มป๊อปยอดเยี่ยมแห่งปี - “Get Lucky” : Daft Punk Featuring Pharrell Williams & Nile Rodgers
อัลบั้มบรรเลงป๊อปยอดเยี่ยม - Steppin Out จาก เฮิร์บ อัลเพิร์ต
อัลบั้มเพลงป๊อปยอดเยี่ยม - “Unorthodox Jukebox”, Bruno Mars
บันทึกเสียงเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม - Clarity จาก เซดด์ และ ฟ็อกเซส
อัลบั้มเพลงแดนซ์/อิเล็กทรอนิกส์ยอดเยี่ยม - Random Access Memories จาก Daft Punk
อัลบั้มเพลงป๊อปดั้งเดิมยอดเยี่ยม - To Be Loved จาก Michael Buble’
ศิลปินฮาร์ดร็อก/เมทัลยอดเยี่ยม - “God is Dead,” Black Sabbath
ศิลปินเพลงร็อกยอดเยี่ยม - “Radioactive,” Imagine Dragons
เพลงร็อกยอดเยี่ยม - “Cut Me Some Slack” Dave Grohl, Paul McCartney, Krist Novoselic & Pat Smear, songwriters (Paul McCartney, Dave Grohl, Krist Novoselic, Pat Smear)
อัลบั้มร็อกยอดเยี่ยม - “Celebration Day,” Led Zeppelin.
อัลบั้มเพลงอัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม - “Modern Vampires of the City,” Vampire Weekend
เพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม - Pusher Love Girl, James Fauntleroy, Jerome Harmon, Timothy Mosley and Justin Timberlake.
ศิลปินอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม - Something," Snarky Puppy with Lalah Hathaway.
ศิลปินอาร์แอนด์บีดั้งเดิมยอดเยี่ยม - “Please Come Home,” Gary Clark Jr.
อัลบั้มอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม - Girl on Fire, Alicia Keys.
อัลบั้มเออร์เบิน คอมเทมโพรารียอดเยี่ยม - “Unapologetic” , Rihanna
ศิลปินเพลงแร็ปยอดเยี่ยม - Thrift Shop," Macklemore & Ryan Lewis featuring Wanz.
เพลงแร็ปร่วมร้องยอดเยี่ยม - “Holy Grail”, Jay z Featuring Justin Timberlake
เพลงแร็ปยอดเยี่ยม - Thrift Shop, Macklemore & Ryan Lewis featuring Wanz.
อัลบั้มแร็ปยอดเยี่ยม - The Heist," Macklemore & Ryan Lewis.
ศิลปินเดี่ยวคันทรียอดเยี่ม - “Wagon Wheel,” Darius Rucker
ศิลปินดูโอ/กลุ่มคันทรียอดเยี่ยม - “From This Valley,” The Civil Wars.
เพลงคันทรียอดเยี่ยม - “Merry Go 'Round,” Kacey Musgraves, Shane McAnally and Josh Osbourne
อัลบั้มคันทรียอดเยี่ยมแห่งปี - “Same Trailor Different Park”, Kacey Musgraves
อัลบั้มนิวเอจยอดเยี่ยม - “Love's River,” Laura Sullivan
อัลบั้มเพลงร้องแจ๊ซยอดเยี่ยม - “Liquid Spirit,” Gregory Porter
อัลบั้มเพลงบรรเลงแจ๊สยอดเยี่ยม - “Money Jungle: Provocative in Blue,” Terri Lyne Carrington.
อัลบั้มแจ๊ซวงใหญ่ยอดเยี่ยม - “Night in Calisia,” Randy Brecker, Wlodek Pawlik Trio and Kalisz Philharmonic.
อัลบั้มเพลงประสานเสียงยอดเยี่ยม - “Greater Than (Live),” Tye Tribbettlatin
เพลงประสานเสียงยอดเยี่ยม - “If He Did It Before ... Same God (Live),” Tye Tribbett
อัลบั้มละตินแจ๊ซยอดเยี่ยม - “Song for Maura,” Paquito D'Rivera and Trio Corrente
อัลบั้มละตินป๊อปยอดเยี่ยม - “Vida,” Draco Rosa
อัลบั้มละตินร็อก เออร์เบินหรืออัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม - “Treinta Dias,” La Santa Cecilia
อัลบั้มเพลงบลูส์ยอดเยี่ยม - “Get Up!,” Ben Harper with Charlie Musselwhite
อัลบั้มเพลงโฟล์กยอดเยี่ยม - “My Favorite Picture of You,” Guy Clark
อัลบั้มเร็กเก้ยอดเยี่ยม - “Ziggy Marley in Concert,” Ziggy Marley
มิวสิกวิดีโอสั้นยอดเยี่ยม - “Suit & Tie,” Justin Timberlake featuring Jay Z, David Fincher, Timory King.
มิวสิกวิดีโอยาวยอดเยี่ยม - “Live Kisses,” Paul McCartney, Jonas Akerlund, Violaine Etienne, Aron Levin and Scott Rodger.
