“เล็ก ฝันเด่น” เดินเท้า 7 วันถึงพระราชวังไกลกังวล ก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร้องไห้โฮ เผยไม่ได้ร้องไห้เพราะเหนื่อย แต่เป็นน้ำตาแห่งความสุขที่หาคำเปรียบไม่ได้ อธิษฐานขอพลังให้ทุกคนมีความอดทน เข้มแข็ง มีจิตใจที่ดี ลั่นเดินเท้าครั้งนี้ไม่ได้หวังจะเป็นฮีโร่ หรือเป็นตัวแปรของความเปลี่ยนแปลง แต่อยากจะทำในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง
เดินเท้ามาเป็นวันที่ 7 แล้วสำหรับ “เล็ก ฝันเด่น จรรยาธนากร ” โดยมีจุดหมายปลายทางคือพระราชวังไกลกังวล เพื่อเรียกร้องความสงบสุขให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง โดยเมื่อคืนที่ผ่านเล็กได้พักที่วัดไทรน้อย อ.ชะอำ และเริ่มออกเดินทางเวลา 06.00 น.ตลอดเส้นทางเดินมีประชาชนมาให้กำลังใจอย่างมากมาย ทั้งมาขอถ่ายรูป มอบน้ำอาหารกล่าวให้กำลังใจ และยังร่วมเดินเท้าไปกับเล็กอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีคนเอาพระยอดธงมามอบให้ โดยเล็กได้รัดไว้ที่ปลายธงชาติไทย
โดยคนที่มาให้กำลังใจทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ติดตามข่าวการเดินทางของเล็กมาโดยตลอดทางเฟซบุ๊คว่าเดินทางถึงไหนบ้างแล้ว ตั้งใจอยากจะมารอให้กำลังใจ คุณลุงธนวัฒน์ ส้มภา อายุ 57 ปี หนึ่งในคนที่มาร่วมให้กำลังใจและร่วมเดินทางไปกับเล็กได้กล่าวว่า
“ติดตามข่าวรู้ว่าเขาจะเดินมารู้สึกตื่นเต้นดีใจที่เขาทำเพื่อในหลวงรักในหลวง ผมเองก็บ้านอยู่แถวนี้ก็อยากจะร่วมเดินไปกับเขาด้วย เขาเดินมาจากกรุงเทพยังเดินได้แล้วนี่อีก 12 กิโลจะถึงหัวหินแล้วทำไมเราจะเดินไม่ได้”
ด้านเล็กก็ได้เปิดเผยถึงการเดินทางในวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 7 และกำลังจะถึงจุดหมายปลายทางว่า รู้สึกมีความสุขมาก ระหว่างทางได้เจอผู้คนมากมายที่มาให้กำลังใจ เป็นสิ้นปี่ที่มีความสุขมาก เป็นวันส่งท้ายปีเก่าที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่เมื่อคืนนี้รู้สึกนอนไม่หลับ ต้องไปนั่งสมาธิที่ใต้ต้นไม้และหลับไปตอนตี 3 ก่อนจะตื่นมาตี 5 เพื่ออาบน้ำและออกเดินทาง
จากนั้นเวลา 10.00 น.เล็กก็ได้เดินทางมาถึงพระราชวังไกลกังวล และก็ได้ถวายพระพรร่วมกับประชาชนที่เดินเท้ามาด้วยกัน และทันทีที่เล็กก้มลงกราบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว น้ำตาก็ไหลอาบแก้ม ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าเจ้าตัวตั้งจิตอธิษฐานอยู่นาน หลังเสร็จสิ้นภารกิจเล็กได้เปิดเผยถึงความรู้สึกในวันนี้ด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า
“ผมทำตามที่พ่อสอนผมจะเป็นคนดีทำให้พ่อภูมิใจครับ ผมจะเป็นคนดีของประเทศ ทำอย่างไรก็ได้ให้ประเทศไทยมีความสุขเหมือนที่เคยมีมา ไม่ว่ามันจะเหนื่อยหรือยากมากแค่ไหน ไม่ว่าจะมีใครช่วยหรือไม่ ผมจะทำเท่าที่ผมทำได้เสมอ”
“มันไม่ใช่น้ำตาของความเสียใจ มันไม่ใช่น้ำตาของความเจ็บปวด มันไม่ใช่น้ำตาของความเหนื่อยยาก แต่มันเป็นน้ำที่ออกมาจากความสุขที่หาคำใดมาเปรียบไม่ได้ เราอยากมีความสุขเหมือนที่เคยเป็นมา ต้องการความสุข มันมีอยู่ทุกที่แต่เราลืมอยู่ทุกที่หรือเปล่า”
“ไม่ใช่ว่าประเทศชาติไม่มีความสุขเหลืออยู่ ทุกคนมีความสุข แต่เราจะสุขพร้อมๆ กันและสุขกันทุกๆ คน ไม่ใช่สุขเพียงแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคนใดคนหนึ่งเพราะเป็นประเทศ ประเทศประกอบไปด้วยคนและความรักความสามัคคี ความสุขและความรักจึงต้องมีต่อไปเสมอ”
เผยอธิษฐานขอพลังให้ทุกคนอดทน เข้มแข็ง มีจิตใจที่ดี
“ผมอธิษฐานว่ากับสิ่งที่ลูกได้กระทำได้เดินได้ใช้จิต ได้รับพลังอันยิ่งใหญ่จากทุกสิ่งสรรที่จัดมาให้ในทุกๆ วันทุกๆ เวลาที่ผ่านเข้ามา ขอให้ภารานุภาพเหล่านั้นได้ส่งต่อไปยังทุกๆ คนทุกๆ สิ่งสรรที่อยู่บนโลกใบนี้ให้มีความอดทน ให้มีความเข้มแข็ง ให้มีจิตใจที่ดี และมีความมุ่งมั่นและสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นโลกใบนี้ และสุดท้ายขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน”
การเดินเท้า 7 วันไม่ได้อยากเป็นฮีโร่ หรือหวังจะเป็นตัวแปรให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แค่อยากทำในฐานะคนไทยคนหนึ่ง
“ไม่เคยคาดหวังขนาดนั้น ผมทำเท่าที่ผมทำได้ ผมทำตามที่ผมได้ยินได้ฟังได้เห็นที่ในหลวงทรงทำทรงตรัสไว้ ผมทำเท่าที่ผมได้ ทำอย่างพอดีและพอเพียง ไม่คิดหวังว่าตัวเองจะต้องเป็นฮีโร่หรือตัวแปรของความเปลี่ยนแปลงอะไร ผมทำเท่าที่ผมทำได้ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง”
ในนขณะที่ “เล็ก ฝันดี” มีความมุ่งในการที่จะเดินเท้าจากกรุงเทพมาพระราชวังไกลกังวลเพื่อขอให้เกิดความสงบสุข แต่ในช่วงนั้นกลับเกิดเหตุการณ์ไม่สงบสุขในกรุงเทพ มีการยิงแก๊สน้ำตาปราบผู้ชุมนุมจนทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตาย ซึ่งเรื่องนี้เล็กกล่าวว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เสียใจถ้าการสูญเสียเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บก็คงจะเข้าใจได้มันเป็นกงกรรมมนุษย์ แต่การสูญเสียที่เกิดขึ้นแบบนี้เราถึงได้เสียใจ เราถึงไม่อยากให้มีการสูญเสียอีก เราถึงอยากให้เรารักกัน รักกันไว้เถิด”
มั่นใจเมืองไทยยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน เพราะตลอดการเดินทาง 7 วันได้เห็นสิ่งเหล่านี้มาตลอด
“ผมพูดในฐานะที่ผมเดินมาเองและมีเพื่อนร่วมทางเดินมา ก็มีหลายๆ คนที่ช่วยระหว่างทางไม่ว่าจะเป็นการชู้นิ้ว ส่งรอยยิ้ม น้ำดื่ม ขนม ทุกอย่าง เมืองไทยยังคงมีมิตรภาพ คนไทยยังคงมีมิตรภาพ ยังคงมีความรัก ยังมีความดีต่อกันเสมอ แต่บางครั้งเราแค่เหมือนหมอกหรือฝุ่นมาบังตาเท่านั้น ถ้าเราร้องไห้ให้น้ำออกตาบ้าง ตาเราจะใสใจเราจะใสแล้วจะเจอสิ่งทีดีแล้วเราจะละเอียดอ่อนมากขึ้น”
“ผมทำตามที่พ่อทำ ในหลวงทรงคิด ทรงทำ ฉะนั้นผมนำสิ่งเหล่านั้นมาปฏิบัติในฐานะลูกที่ดี ในฐานะผู้ที่เดินตามรอยพ่อ พ่อจะไม่ทิ้งเรา พ่อไม่เคยคิดร้ายไม่เคยมอบอะไรที่ไม่ดีกับเรา ฉะนั้นเราเชื่อและศรัทธาในพ่อ”