xs
xsm
sm
md
lg

แสบถึงใจกับฉายาดารา 2556

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาช้านานแล้วสำหรับการตั้ง "ฉายา" ให้กับศิลปินดาราในวงการบันเทิงไทยโดยสมาคมนักข่าวบันเทิง สำหรับปีนี้มีดาราที่ตกเป็นข่าวโด่งดังจำนวนไม่น้อยที่บรรดานักข่าวตั้งฉายาให้เป็นสีสันในช่วงปลายปี มีทั้ง "แตงโม- โตโน่" ที่ได้ฉายาคู่จากงานหมั้นสุดอลังการท่ามกลางกระแสคัดค้านของบรรดาแฟนคลับของโตโน่ "เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข" ที่เป็นดาราดาวรุ่งมาแรงที่สุดประจำปี "บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์" ที่มีข่าวฉาวกินตับสาวปริศนาที่เกาหลีจนต้องออกมาแถลงข่าวยอมรับทั้งน้ำตา ส่วนดาราที่ได้รับฉายาแบบแพกคู่ (แบบไม่เต็มใจ) อีกคู่คือ "ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย" กับ "เจนี่ อัศวเหม" ที่ตกเป็นข่าวระดับทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปเมื่อหลายเดือนก่อน นอกจากนั้นยังมีกรณีของลูกทุ่งสั้นเสมอหู "ใบเตย อาร์สยาม" ที่คราวนี้ได้รับฉายาแรงๆ จากการข้ามฟ้าไปดินเนอร์กับ "ทักษิณ ชินวัตร" อีกด้วย

เริ่มกันที่ฉายาของคู่รักที่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้แก่สังคมมากที่สุดส่งท้ายปลายปีอย่าง "โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" กับ "แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีรพงษ์" ที่สวีตหวานท่ามกลางกระแสคัดค้านต่อต้านอย่างรุนแรงโดยเฉพาะจากบรรดาแฟนคลับของโตโน่ที่รักแรงเกลียดแรงถึงขนาดประกาศตัดญาติขาดมิตรหากโตโน่ยังดึงดันจะคบกับแตงโมต่อไป ซึ่งโตโน่ก็หาได้แคร์ ยังคงยึดมั่นในรักครั้งนี้จนยอมเสียแฟนคลับไปส่วนหนึ่ง แถมยังมีเปอร์เซ็นต์จะเสียงานในวงการบันเทิงอีกด้วย ความรักร้อนแรงขนาดนี้ทำให้โตโน่ได้รับฉายา "ค้นฟ้าคว้าเมีย" ไป โดยล้อกับการที่เขาเข้าวงการมาจากการประกวดเดอะ สตาร์ "ค้นฟ้าคว้าดาว" นั่นเอง ซึ่งโตโน่ได้พูดถึงฉายานี้ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจว่า

“ผมรู้สึกเฉยๆ แล้วแต่เขาเขาจะตั้งอะไรให้ผมก็ได้เราก็มีหน้าที่ทำมาหากินของเรา เขาก็ทำหน้าที่ทำมาหากินของเขา มันไม่ต้องให้ผมพูดอะไรดีกว่าจะให้ผมรู้สึกยังไง ไม่โกรธแต่ก็ไม่ได้ชอบ”

ส่วนแฟนสาวอย่างแตงโมก็สร้างวีรกรรมแสบซ่าเอาไว้มากมายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการปะทะฝีปากกับนักข่าวและคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในอินสตาแกรมของเธอ ทั้งคนทั่วไปและคนที่แอนตี้เธอ โดยแตงโมปะทะตรงแบบไม่ไว้หน้า ทำให้เธอได้รับฉายา "ฝีปากไร้ตะกร้อ" ไป โดยแตงโมพูดถึงฉายาที่ได้รับในปีนี้ว่า

"ขอบคุณที่นึกถึงมันสะท้อนให้เห็นว่าเรายังอยู่ในสถานการณ์ที่นักข่าวและประชาชนยังนึกถึงข่าวยังขายได้ มีฟีดแบ็กต่อคนอ่านคนดู ฉายานี้ก็ถือว่าแรงเหมือนกันแต่ว่าคนที่ให้เขาไม่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ในทุกมุมของโมโมไม่ได้เป็นคนแรงขนาดนั้น แต่เป็นคนพูดจริง พูดตรงซึ่งอาจจะมีคนรับไม่ได้ก็อยากให้คนไทยเปิดใจมากกว่า”

“เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข" ดาราหนุ่มสุดฮอตประจำปีที่ถือว่าเป็นดาราชายดาวรุ่งที่แจ้งเกิดไปอย่างสวยงาม แต่หลังจากที่โด่งดังได้สักพักก็เริ่มมีข่าวว่า "เจมส์จิ" เรื่องเยอะ เข้าถึงยาก วางตัวเป็นซูเปอร์สตาร์ มีข่าวขัดแย้งกับดารารุ่นพี่ "นุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์" ที่เข้าไปขอถ่ายรูปคู่กับเจมส์จิ แต่ดารารุ่นน้องกลับปฏิเสธที่จะถ่ายรูปด้วย โดยเหตุผลว่าเขาสวมกางเกงบ็อกเซอร์ ดูไม่สุภาพ ทำให้นุ้ยเสียเซลฟ์มากจนออกมาแขวะเจมส์จิในทุกช่องทาง ทั้งถ่ายรูปกับเพื่อนดาราล้อเลียนเจมส์เป็นระยะๆ ในช่วงหลังๆ เจมส์จิมุ่งหน้าสู่วงการบันเทิงเกาหลีซึ่งยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ซุป'ตาร์ ของเจมส์จิยิ่งชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ผู้จัดการส่วนตัวของเจมส์จิใช้วิธีการเดียวกับที่ผู้จัดการศิลปินเกาหลีใช้กับนักร้องนักแสดงในสังกัดของพวกเขาซึ่งก็ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงเจมส์จิยากขึ้น และส่งให้ภาพลักษณ์ของนักแสดงหนุ่มคนนี้สูงส่งจนนักข่าวบันเทิงมอบฉายา "ซุป'ตาร์เทวดา" ให้แก่เขา

เจมส์จิพูดถึงฉายาที่ได้รับแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า "สำหรับฉายาที่ได้ก็ดีใจที่พี่ ๆ ยังจำได้และให้ความสนใจ จริงๆ เจมส์ก็เป็นคนธรรมดา เป็นเด็กตัวน้อย ๆ ไม่ได้เป็นเทวดา ฉายานี้ก็รู้สีกว่ามันกลาง ๆ นะ ที่ผ่านมาอาจจะมีการเข้าใจผิด ในเรื่องการสื่อสารหรืออะไรกันบ้าง ต่อไปเจมส์ก็คงต้องปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ ก็ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แล้วทุกคนก็จะรู้ว่าเจมส์เป็นยังไง"

“บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์" นักแสดงหนุ่มหน้าหนวดขวัญใจสาวๆ ตกเป็นข่าวฉาวเมื่อมีภาพหลุดในขณะที่เขากำลังสวมเสื้อผ้าโดยเป็นภาพแอบถ่ายจากบุคคลที่สองในห้องพักส่วนตัว โดยคนถ่ายตั้งใจถ่ายให้เห็นเท้าของตัวเองขณะนอนอยู่บนเตียงเพื่อสื่อให้เห็นว่าเธออยู่กับบอยในห้องส่วนตัวจริงๆ ซึ่งหลังจากที่ภาพนี้หลุดออกไป บอยก็จำต้องออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวยอมรับว่าเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสาวนิรนามคนหนึ่งขณะที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีจริงๆ ซึ่งเขาก็ยอมรับเรื่องนี้ทั้งน้ำตา ด้วยนิสัยที่เกรียนและซ่ามาตลอดของบอย เมื่อตกเป็นข่าวนี้แล้วนั่งแถลงข่าวแบบน้ำตาแตกเช่นนี้ทำให้เขาได้รับฉายา "เกรียนมึนโฮ" จากนักข่าวบันเทิงไปครอง โดบบอยที่กำลังอยู่ในทวีปยุโรปได้ส่งข้อความทางไลน์พูดถึงเรื่องนี้สั้นๆ ว่า "การให้ฉายาถือว่าเป็นสีสันของวงการบันเทิงส่งท้ายปีครับ ก็ขอบคุณพี่ ๆ นักข่าวครับ ที่ให้ฉายาผมเบา ๆ 555"

สำหรับฉายาของ "ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย" ในฐานะผู้มาก่อนกับ "เจนี่ อัศวเหม" ผู้มาทีหลังก็แซบไม่แพ้ใคร หลังจากที่ชัดเจนว่าเจนี่เข้ามาเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายของ "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" โดยเปิดบ้านอัศวเหมย่านปากน้ำแถลงข่าวใหญ่โต ท่ามกลางกระแสต่อต้านคัดค้านว่าเจนี่เข้ามาเป็นมือที่สามในความรักระหว่าง "เอ๋" กับ "ตู่" ในขณะที่เอ๋ออกมายืดอกยอมรับว่าเขากับตู่ "แยกกันอยู่" มานานหลายปีแล้วเพียงแต่ไม่เคยแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ หลังจากที่พี่เอ๋กับน้องเจนี่แถลงข่าวไประยะหนึ่ง "มาดามตู่" ก็ออกมาให้สัมภาษณ์แสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและคำพูดที่แสดงออกถึงความใจกว้างของเธอ ทำให้ตู่ได้รับฉายา "มาดามเอื้ออาทร" ไปครอง

ทางด้านคู่กรณีอย่างเจนี่กลับได้รับฉายาที่แรงได้ใจ "แบ๊วฉกทะเบียน" เนื่องจากที่ผ่านมานางเอกสาวนัยน์ตาแป๋วคนนี้มีภาพลักษณ์แบ๊วใสมาโดยตลอด แม้จะมีข่าวกับไฮโซหนุ่มคนนั้นคนนี้บ้างแต่ภาพลักษณ์โดยรวมก็ถือว่าไม่มีอะไรเสียหาย จนกระทั่งกลายมาเป็นมาดามคนปัจจุบันของเอ๋ ชนสวัสดิ์ซึ่งคบหากันได้ไม่เท่าไหร่แต่พี่เอ๋ก็ทุ่มหัวใจจรดปากกาจดทะเบียนสมรสกับเจนี่ต่อหน้าสักขีพยานมากมาย เจนี่พูดถึงฉายาที่ได้รับในปีนี้ว่า "ไม่ชอบ อยากให้ถอดฉายานี้ออกแต่ก็เชื่อว่าพี่เอ๋ก็น่าจะไม่ชอบเหมือนกันคำว่าฉกมันแรง ดูเหมือนแย่งใครมาแต่เจนี่ไม่ได้แย่งนะคะ”

นางเอกสาวสองคนที่ได้รับฉายาแตกต่างไปคนละแบบ ทั้ง "น้ำฝน พัชรินทร์ จัดกระบวนพล" ที่วางตัวดีมาตลอดเวลาที่อยู่ในวงการบันเทิง แม้อดีตแฟนหนุ่ม "อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม" จะทำตัวเหลวไหลไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องพลอย สาวประเภทสอง แต่น้ำฝนก็ยังคงนิ่งและวางตัวดีมาตลอด มาดีแตกตอนปลายปีหลังจากที่มี "คลิปเสียง" แฉว่าเธอมีอะไรกับพระเอกร่วมช่องในขณะที่ตัวเองยังคบหาอยู่กับอาร์ต ทำให้น้ำฝนได้รับฉายา "กุลสตรีดีแตก" ไป โดยน้ำฝนพูดถึงฉายาที่ได้รับไปสดๆ ร้อนๆ นี้ว่า "ก็เพิ่งรู้เหมือนกันค่ะ เราเป็นนักแสดงก็ต้องอยู่คู่กับข่าว ถามว่าแรงไหม ก็ไม่นะคะ จริง ๆ ฝนรู้ว่าหน้าที่ของนักข่าวก็คือทำข่าว ทราบว่ามันคืองาน ก็ถ้ามองในแง่ดีก็ขอบคุณที่พี่ ๆ นึกถึง"

นางเอกดาวรุ่งอีกคนคือ "เบลล่า ราณี แคมเปญ" กับฉายา "สก๊อยมือชง" ซึ่งเป็นฉายาที่ได้รับจากการที่เธอคบหาดูใจอยู่กับพระเอกหนุ่มต่างช่อง "เวียร์ ศกลวัฒน์ คณารส" ซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์เป็นประจำทำให้เบลล่าไม่พ้นต้องเป็นสาวซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของพระเอกหนุ่ม และเนื่องจากหนุ่มเวียร์ดื่มเหล้าเป็นชีวิตจิตใจทำให้เบลล่าได้รับฉายาที่มีทั้งคำว่า "สก๊อย" ซึ่งสื่อถึงการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ และ "มือชง" ซึ่งหมายถึงการคอยชงเหล้าให้กับเวียร์ไปครอง เบลล่าพูดถึงฉายาที่ได้รับว่า "ได้ยินฉายาแล้วก็ขำๆ มันคล้ายๆ ข่าวเก่าเล่าใหม่คนจะโฟกัสไปที่ข่าวพี่เวียร์มากกว่าก็ถือว่าแรงอยู่ แต่ก็ไม่ซีเรียสไม่โกรธแต่ก็ขอบคุณที่นึกถึง"

ปิดท้ายที่สองลูกทุ่งสาวที่ได้รับฉายาต่างกันคนละขั้ว "ใบเตย อาร์สยาม" ได้ฉายาจาการที่เธอยอมรับว่าบินข้ามฟ้าไปดินเนอร์กับ "ทักษิณ ชินวัตร" ว่า "สั้นเสียเหลี่ยม" ส่วนทางด้าน "หญิงลี ศรีจุมพล" ลูกทุ่งสาวที่มาแรงที่สุดของปีกับบทเพลงขอใจแลกเธอแลกเบอร์โทร. ได้รับฉายาที่ถือว่าดีที่สุดประจำปีนี้ว่า "ลำซิ่งชิงเกิด" โดยหญิงลีพูดถึงฉายาที่ได้รับว่า "ชอบมากๆ ขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนแล้วก็แฟนๆ ทุกคนด้วยที่ให้การสนับสนุนหญิงลีเราก็รู้สึกว่าเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาผลงานพัฒนางาน พัฒนาโชว์ของเราต่อไปถามว่าปีนี้เป็นปีทองของหญิงลีหรือเปล่าก็หวังว่าคงปีนี้แล้วก็ปีหน้าเพราะว่าตอนนี้งานของหญิงลีคิวแน่นไปจนถึงปีหน้าแล้วค่ะ” ในขณะที่ใบเตยดูท่าจะไม่พอใจกับฉายาที่ได้รับในปีนี้ ซึ่งเธอก็ออกมาตัดพ้อแล้วปิดท้ายว่าอาจจะ "หากิน" กับฉายาที่ได้รับก็เป็นได้

“รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนปีที่ผ่านมาฉายาปีที่แล้วน่ารักกุ๊กกิ๊กกว่าแต่ก็ต้องยอมรับค่ะเพราะว่าเขาก็ต้องเลือกเอาประเด็นที่เป็นเรื่องราวทอล์กออฟเดอะทาวน์แต่เราก็ไม่อยากให้เอาไปโยงในเรื่องของการเมืองเลยก็ขอบคุณพี่สื่อๆมวลชนทุกคนที่ยังนึกถึงและให้ฉายาค่ะมันดูน่ากลัว แต่ก็โอเคนะก็น้อมรับ จะมองให้แรงก็แรงจะมองให้ขำก็ถูกต้องเนอะเสียเหลี่ยมเลย ก็ไม่โกรธแต่ก็ตกใจคนตั้งนี่ช่างตั้งมากไม่แน่อาจจะเอาคำนี้มาแต่งเป็นเพลงก็ได้ถ้าโปรดิวเซอร์เห็นว่ามันติดหูเหมือนเสมอหู"

ปีเก่ากำลังจะผ่านไป ปีใหม่ใกล้จะเวียนมาถึงอีกครั้ง ในปีที่ผ่านมานักข่าวบันเทิงกับศิลปินดารายังคงเป็นน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าที่ทำให้ต่างฝ่ายต่างมีงานทำเหมือนในอดีตที่ผ่านมา สำหรับฉายาดาราซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ดาราแต่ละคนได้รับไปก็แสดงถึงความใกล้ชิดสนิทสนท หยิกแกมหยอกระหว่างนักข่าวกับดาราได้เป็นอย่างดี จะพอใจหรือไม่พอใจก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน ปีหน้าฟ้าใหม่ดาราคนไหนอยากได้ฉายาดีๆ ท้ายปีก็เริ่มต้นทำสิ่งดีๆ กันเสียแต่เนิ่นๆ นะจ๊ะ
........................................

ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 221 วันที่28 ธันวาคม - 3 มกราคม 2557







กำลังโหลดความคิดเห็น