xs
xsm
sm
md
lg

เอ็กคลูซีฟแบบไม่ลับกับ "โอม ชาตรี"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอ็กคลูซีฟแบบไม่ลับกับ "โอม ชาตรี"

คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรกันมากมายสำหรับคอเพลงที่มีอายุ 40 ขึ้นไปในการเอ่ยถึงนามของผู้ชายที่มีชื่อว่า "โอม ชาตรี คงสุวรรณ"

และสำหรับคนฟังเพลงรุ่นใหม่ "Super บันเทิง" ขออาสาใช้พื้นนับจากบรรทัดนี้พาไปทำความรู้จักกับผู้ที่เป็นนักร้อง-นักดนตรี-นักแต่งเพลงหนึ่งในคนสำคัญของวงการเพลงของบ้านเราคนนี้พร้อมกับคอนเสิร์ตใหญ่ของเขาที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
...
หนึ่งในสมาชิกวงดนตรีระดับตำนาน The Innocent
"ตั้งแต่สมัยเรียน ผมได้เป็นนักดนตรีวงโยธวาทิตของโรงเรียน โดยเริ่มจากการเป่าแซกโซโฟน แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มหัดเล่นกีต้าร์ พอเริ่มเล่นได้สักพักจนชำนาญ เพื่อนก็ชวนไปร่วมงานกับ วงโรแมนติค แล้วผมก็ได้มีโอกาสแต่งเพลงด้วย"

"อยู่ได้สัก2-3 ปี ก็มาร่วมงานกับวง โฟร์ซิงเกิ้ล และก็ได้มีโอกาสเข้าวงดิ อินโนเซ้นท์ ในฐานะมือกีต้าร์ และนักแต่งเพลง ก็เลยทำให้เป็นที่รู้จักเพราะวงดังอยู่แล้ว ซึ่งบรรยากาศการทำงานในวงตอนนั้น ก็จะต่างจากตรงนี้พอสมควร คือวงการเพลงก็ไม่ได้มีอะไรเยอะแยะมากมายก็ต่างจากสมัยนี้ คือมันเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย"

แล้วมาร่วมงานกับแกรมมี่ได้อย่างไร?
"ตอนนั้นแกรมมี่เพิ่งก่อตั้ง แล้วผมได้มีโอกาสพบปะกันกับ คุณเต๋อ (เรวัต พุทธินันทน์) ตามห้องอัดเสียง เขาก็เลยชวนมาทำงานด้วยกัน เราก็โอเคเพราะการอยู่เบื้องหลังมันก็เป็นอะไรที่ต่อยอดจากการเป็นนักดนตรี ก็เป็นอะไรที่ท้าทาย กว่างานเบื้องหน้าเยอะ เพราะเบื้องหน้าคนที่ดังมันก็ดังไปเลย แต่ว่าวงที่ไม่ดังมันก็จะไม่มีอะไรเลย คืองานเบื้องหลังมันเหมือนงานสร้างตึก เราต้องทำโครงสร้างดูหลักการว่ามีอะไรมารองรับบ้าง แต่เราก็ต้องค่อนข้างมีข้อมูลและชำนาญการมากขึ้นเรื่อยๆ"

"ร่วมงานกับแกรมมี่ก็ดีครับ เหมือนเป็นบ้านหลังใหญ่ เพราะผมอยู่มาตั้งแต่ตอนทำงานใหม่ๆ แล้วเราก็เติบโตมาในแกรมมี่ตลอด คือเป็นบริษัทที่มีความเป็นมืออาชีพสูง คนเก่งๆ อยู่เยอะ คือเป็นอะไรที่ค่อนข้างมั่นคง"

ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินหลายต่อหลายคน
"ก็เคยแต่งเพลงให้เบิร์ด ก็แต่งให้เยอะมากตั้งแต่ยุคแรกๆ แล้วคริสติน่า อาร์กีล่าร์ ชุดที่1,2,3 จากนั้นเราก็เป็นโปรดิวเซอร์ให้เขาด้วย และก็อีกอีกหลายวงเลย อย่าง อินคา, วายน็อตเซเว่น, ปีเตอร์คอร์ป, มิสเตอร์ทีม, ปาล์มมี่"

เพลงไหนที่แต่งขึ้นมาแล้วคิดว่ามันคือที่สุดของเราแล้ว?
"มีหลายเพลงนะ อย่างเพลงคู่กัด ที่แต่งให้พี่เบิร์ด ธงไชย มันเป็นเพลงที่คนฟังแล้วรู้จัก อย่างเพลงประวัติศาสตร์ ของคริสติน่า อากีล่าร์ ก็ด้วย แต่ที่ภูมิใจที่สุดก็คงจะเป็นเพลงเจ้าช่อมาลี ของมิสเตอร์ทีม เพลงนี้จะชอบเป็นส่วนตัวเป็นเพลงโปรดเลย"

"คือมันแปลกดี ดนตรีสนุก ตอนที่ทำตอนนั้นเราเป็นโปรดิวเซอร์ให้เขาส่วนนึงก็อยากให้วงเขาดังก็เลยคิดว่าจะทำเพลงยังไงดีให้มันน่าสนใจ ก็เลยนึกถึงเพลงทำนองพื้นบ้านไทยๆ เอามาทำเป็นเพลงเต้นรำ แล้วก็หาลีลาที่เหมาะ ซึ่งตอนแรกเราก็ยังไม่ค่อยมั่นใจ แต่เราก็ตั้งใจทำจนถูกใจเรา ก็รู้สึกประทับใจ"

แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงส่วนใหญ่จะได้จากหนังสือ?
"ก็สะสมหลายเล่มเลย พวกหนังสือดนตรี ประวัติวงการเพลง แม็กกาซีนต่างๆ แม้ว่าบางเล่มเราไม่ได้อ่านหมด แต่แค่อ่านบ้างผ่านๆ มันก็ทำให้เรามีความคิดหลากหลาย แล้วผมก็ชอบดูหนัง เล่นคอมพิวเตอร์ เดี๋ยวนี้มันก็มีอะไรหลากหลายที่น่าสนใจ"

ปัจจุบันกับบทบาทของผู้บริหารค่ายเพลง Mister Music ที่มีตนเองเป็นศิลปินเบอร์แรกกับงานอัลบั้มที่มีชื่อว่า Into The Light ออกมาในปีพ.ศ. 2551
"ก็ทำงานกับแกรมมี่ ในฐานะโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง ทำมาได้ 5 - 6 ปี ก็ออกมา เพราะว่ามีความรู้สึกอยากทำอะไรที่เป็นของตัวเองเนื่องจากลักษณะที่ทำอยู่ตอนนั้นมันเหมือนเป็นงานประจำ อยากทำอะไรที่เล็กๆ เป็นของเราดีกว่า แล้วก็เลยไปคุยกับทางผู้ใหญ่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามวาระ ก็เลยเริ่มต้นทำบริษัทมิสเตอร์มิวสิค (2550) เป็นบริษัทส่วนตัว เป็นมิวสิคโปรดักส์ชั่น เอาไว้ให้เราร่วมงานกับคนนั้นคนนี้"

"หลักๆ ก็จะทำให้กับสหภาพดนตรี เหมือนเป็นสตูดิโอเอาไว้ผลิตงาน คือเราผลิตงานในวงกว้าง ถามว่าเนื้องานมันต่างกันเยอะไหม คือมันก็คนละงานกัน ที่ผ่านมาผมทำงานหลายๆ อย่าง อย่างตอนนี้ผมก็อยู่ในฐานะผู้บริหาร แต่ก็ยังทำโปรดิวเซอร์อยู่ด้วย เพราะเราเป็นนักดนตรีก็ยังไม่พ้นเรื่องแต่งเพลง มันก็รวมๆ กัน ยังทำทุกอย่างอยู่ จะบอกว่าการทำหลายๆ อย่างนั้นดีนะไม่เบื่อไม่ซ้ำซาก แต่เราก็ต้องแยกแยะให้ดี แต่เรื่องพวกนี้มันมีความเหมาะสมของมันอยู่แล้ว ถ้าเรารู้หน้าที่มันก็จะไม่เลื่อมล้ำกันมาก"

รู้สึกว่างานเบื้องหน้ากับเบื้องหลังมันยาก-ง่ายต่างกันบ้างมั้ย?
"มันก็มีทั้งสบายและลำบากต่างกันออกไป คืออยู่เบื้องหน้ามันก็ต้องออกไปแสดง ต้องดูแลตัวเอง อยู่เบื้องหลังถ้าไม่นับงานที่เราต้องดูแลตรงนั้นให้ดี ก็จะสบายดี เดินห้างก็มีคนจำไม่ค่อยได้ ไม่ต้องคอยระวังตัว เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบอยู่เงียบๆ แต่ก็ไม่ถึงกับขนาดไม่ชอบความวุ่นวาย คือผมไม่ชอบสังคมจ๋า"

อยู่ในวงการมา 30 กว่าปี ทำหมดทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง นักร้อง นักดนตรี ศิลปินเดี่ยว นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ผู้บริหาร ฯ เคยถามตัวเองบ้างมั้ยว่าเรารู้สึกอิ่มตัวหรือยัง?
"ยังครับ ยังตั้งเป้าว่าต้องทำงานอีกนาน คืองานปัจจุบันที่ทำเป็นงานที่เราค่อนข้างชื่นชอบอยู่แล้ว แต่มันยังมีรายละเอียดที่เรายังไม่ได้ทำอีก คือยังอยากเล่นคอนเสิร์ต ยังอยากทำโปรเจ็กท์ต่างๆ ที่อยากลองทำแล้วยังไม่ได้ทำ...คือถือว่าโชคดีมาก ที่เราประสบความสำเร็จในดำเนินชีวิตที่ดีมากๆ เลย คือไม่เคยคิดว่าตัวเองขาดโอกาสอะไร รู้สึกว่าตัวเองได้รับโอกาสที่ดีมากๆ เพราะเราเดินทางมาในอาชีพสายดนตรีก็มีโอกาสดีๆ ให้เราทำมาโดยตลอด ได้ทำในสิ่งที่เรารัก เราถนัดและสนใจ"

รวมถึงคอนเสิร์ต "OHM CHATREE : LIVE 2013 - THE DIRECTOR ‘ S CUT CONCERT" ที่กำลังจะมี
"เรียกว่าเป็นคอนเสิร์ตเอ็กคลูซีฟ ที่ทำขึ้นมาเฉพาะวาระ ไอเดียของเราคือ เราอยากรวบรวมผลงานเพลงของเราทั้งหมดที่เราแต่งขึ้น ตั้งแต่ยุค ดิ อินโนเซ้นท์ ยุคที่เราแต่งเองร้องเองและก็ยุคที่เราทำให้คนอื่น ก็จะจัดเอาไว้ในโชว์เดียวกัน เอามาปรับให้เป็นสไตล์เรา ก็อาจชวนเพื่อนในยุคต่างๆ มาร่วมสนุกกัน"

"หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงเป็นคอนเสิร์ตเอ็กคลูซีฟ ก็เนื่องจากคนที่มาดูก็เป็นแฟนๆ หลายๆ รูปแบบ น่าจะมีแฟนๆ ของ ดิ อินโนเซ้นท์ส่วนหนึ่ง คนที่ติดตามผลงานเพลงงานดนตรีส่วนตัว แล้วก็แฟนๆ ของเอเอฟ (AF) ก็คงมี ก็คิดว่าหลากหลายไม่ใช่เฉพาะกลุ่ม"

เชิญใครบ้างมาร่วมสร้างสีสัน?
"ก็จะมี เช่น ติ๊ก ชีโร่ , เอเอฟรุ่น 1-10, โอฬาร พรหมใจ , ศิลปินจากสหภาพดนตรี และ The Mister Music Band และเพื่อนพ้องน้องพี่นักดนตรีอีกจำนวนหนึ่งที่มาให้กำลังใจ พร้อมทั้งผู้บริหารเบียร์สิงห์ ในฐานะสปอนเซอร์หลัก ก็มาดูแลอย่างใกล้ชิดครับ"

รอบเดียว เน้นสนุกแบบเป็นกันเอง
"ตั้งใจว่าทำรอบเดียว เพราะไม่อยากทำอะไรที่มันใหญ่โตมาก คือเป็นความตั้งใจเดิมอยู่แล้ว เพราะถ้าทำใหญ่โตก็ต้องประชาสัมพันธ์เยอะมันจะยุ่ง ไม่เหมาะกับคอนเซปต์งาน เราอยากทำรูปแบบเป็นกันเองสนุกๆ...ก็วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์ ชั้น 8..."


วง The Innocent
วง The Innocent
กำลังโหลดความคิดเห็น