คนบันเทิงแห่ร่วมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอย นักแต่งเพลงคนดัง “เป็ด มนต์ชีพ” โพสต์ยกตัวอย่างอดีตผู้นำถูกไข้โป้งถามคนแดนไกลถ้ากฎหมายผ่านกล้ากลับมั้ย เชื่อแค่ต้องการเงินคืนแล้วเปิดตูดแน่บ ด้าน “ดี้ นิติพงษ์” บอกไม่ใช่ร่างเพื่อปรองดองแต่ทำเพื่อคนๆ เดียว
ออกมาคัดค้านกันมากมายหลายกลุ่มเลยทีเดียวสำหรับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่ารัฐบาลทำไปเพื่อผลประโยชน์ของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” เพียงคนๆ เดียว ทั้งในเรื่องของการลบล้างความผิดต่างๆ รวมถึงการคืนเงินที่เจ้าตัวได้จากการคอร์รัปชันกว่า 4 หมื่นสามพันล้านบาท โดยไม่สนใจว่าจะทำลายหลักกฎหมายของบ้านเมือง รวมถึงผลกระทบในด้านลบที่จะตามมาเป็นลูกโซ่อีกมากมาย
โดยล่าสุดในส่วนของคนบันเทิงเองก็ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้มากมายหลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็นดาราผู้จัดคนเก่ง หน่อย บุษกร วงศ์พัวพัน, นก สินจัย เปล่งพานิช, หนุ่ม อรรถพร ธีมากร, หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ, พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร,สมรักษ์ ณรงค์วิชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการช่อง 3, คฑาหัสต์ บุษปะเกศ นักเขียนบทละครโทรทัศน์ชื่อดัง, บอย โกสิยพงษ์, แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม รวมถึงดาราสาว โมเม นภัสสร บูรณศิริ ที่ต่างก็ขึ้นในอินสตาแกรมของตนเองเพื่อคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยที่ว่านี้พร้อมชักชวนให้คนเข้าไปร่วมลงชื่อคัดค้าน พ.ร.บ.ดังกล่าวที่ www.change.org ด้วย
ขณะที่ในส่วนของนักแต่งเพลงชื่อดังของบ้านเราอย่าง “เป็ด มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร” ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กของตนเองถึงเรื่องนี้เช่นกัน โดยที่เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับคนแดนไกลอดีตผู้นำประเทศหนึ่งว่าทุกสิ่งที่อีกฝ่ายทำไปโดยไม่สนใจว่าประเทศชาติของตนเองจะวุ่นวายเพียงใด ก็เพราะต้องการเงินหลายหมื่นล้านคืนมากกว่า นอกจากนี้เจ้าตัวยังแสดงความเห็นใจไปยังน้องสาวคนแดนไกลด้วยว่าต้องมารับหน้าเสื่อแทนพี่ชายจนถูกประชาชนด่าทอค่อนขอดไม่เว้นแต่ละวัน ก่อนบอกว่าปัญหาทุกอย่างจะยุติแน่นอนหากคนแดนไกลที่ว่าจะสำนึกได้ในสิ่งที่ตนเองกระทำลงไป
“กม.ผ่านแล้วจะกล้ากลับบ้านเหรอครับพี่ ไม่กี่ปีมานี้ก็มีผู้นำประเทศนึง โดนคล้ายๆ พี่นี่แหละ แล้วก็ได้นิรโทษ ก็กลับบ้าน ยังไม่ทันพ้นสนามบิน ก็เป็นไข้โป้งตาย ผมเดาว่าพี่เล็งจะเอาคืนไอ้หลายหมื่นล้านของพี่มากกว่า ถ้าได้แล้วก็คงเปิดตูดไม่กลับมาหรอก โห เงินหลายหมื่นล้านมันเป็นยังไงครับ นึกยังไงผมก็นึกไม่ออก มันทำให้พี่นอนหลับสบายทุกคืนหรือเปล่า เออ แล้วกับน้องสาวพี่อ่ะ ถูกพี่หลอกใช้ด้วยป่าว ผมเห็นบางทีก็สงสาร เมื่อก่อนทำธุรกิจอยู่ดีๆ ก็รวย ก็สวย ปูยังงั้น ปูยังงี้ ดูน่ารักดี ตอนนี้ต้องมาเก๊กมาดเข้ม พูดผิดๆ ถูกๆ ให้ชาวบ้านด่าค่อนขอดอยู่ทุกวัน หน้างี้แก่เชียว ลูกผัวไม่รู้มีเวลาให้รึเปล่า ปล่อยวางบ้างเถอะพี่ ผมขอร้องพี่อย่างจริงใจ ถ้าพี่ยังคิดอยู่ว่ากูถูกแกล้ง ต้องคืนความยุติธรรมมาให้กู ผมก็อยากสะกิดพี่ว่าแล้วที่พี่เอาเปรียบคนอื่นมาตั้งเท่าไหร่ พี่ก็รู้แก่ใจ ไอ้ที่ว่า set zero ผมว่าเริ่มจากพี่เองแหละ พี่สงบ ทุกอย่างก็สงบ นะพี่นะ”
เช่นเดียวกับอีกหนึ่งคนในแวดวงดนตรีรุ่นใหญ่อย่าง “ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค” ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตนเองที่ https://www.facebook.com/nitipong.honark โดยระบุว่าตนเชื่อว่านี่ไม่ใช่การร่างกฎหมายเพื่อการปรองดอง แต่เป็นการกระทำเพื่อให้ใครบางคนรอดกลับบ้านได้นั่นเอง
“ดูข่าวแล้วมึน...เคยดูข่าวความขัดแย้งในแต่ละประเทศ แต่ละทวีป มาหลายยุคหลายสมัย พอเข้าใจได้...แต่ฉันยอมรับว่า กรณีนี้ เวลานี้ ไม่เข้าใจเหตุการณ์สักเท่าไร...มันไม่เมคเซ้นส์เลย
ร่างกฎหมายฉบับเดียวที่เพิ่งผ่านสภาด้วยคนสามร้อยคน...ตั้งแท่นมาจากกรรมาธิการไม่กี่สิบคน...ทำไมมันถึงขัดหูขัดตาคนได้มากขนาดนี้
ขัดใจฝ่ายค้าน ขัดใจประชาธิปัตย์ ขัดใจแนวร่วม..พอเข้าใจได้
เฮ้ย...นี่ขัดใจพวกเดียวกัน เสื้อแดงก็ขัดใจ เพราะเชื่อในแนวคิดของคุณพี่มาตลอด แต่คุณพี่ดูเหมือนไม่แคร์เลย คุณพี่จะวางแผนให้พี่รอดอยู่คนเดียว....
ที่บ้าที่สุดคือ...คนที่เริ่มร่าง พ.ร.บ.นี้ในเวอร์ชั่นแรกซึ่งดูไม่น่าเกลียดนัก...ก็ขัดใจไอ้เวอร์ชันนี้...และไม่เห็นด้วย ไม่โหวตให้ด้วย
อะไรวะนี่จ๊ะ....ตอนนี้มันหาต้นสายปลายเหตุไม่เจอกันแล้ว...ใครอยู่กับใครมั่งก็ไม่รู้แล้ว
ยืนยันว่า...นี่ไม่ใช่ร่างกฎหมายเพื่อปรองดอง....แต่เอาให้ใครบางคนให้รอด ให้กลับมาบ้านได้
ถ้าเป็นกฎหมายเพื่อปรองดอง ต้องไม่มีลุกฮือขนาดนี้
สำคัญคือ พวกเดียวกันกับมึง ยังลุกฮือเลย ลุกฮือมาประท้วงพร้อมกับฝ่ายที่เป็นฝ่ายตรงข้าม....
อะไรนี่....ระบบการรบอะไร...ระบบแผนอะไร
ยาก...
คงต้องแลกด้วยเลือดเนื้อกันแน่นอน
ไม่สนุกเลย....”