มนต์รักริมรั้ว “หมาก ปริญ สุภารัตน์” กับ “คิมเบอร์ลี่ แอนโวลเทมัส” ยังคลุมเครือหลังเลิก “เจ็ท ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช” ลูกชายผู้จัดคนดัง “จิ๋ม มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” เพราะมีคนตาดีแอบเห็นสวีตเริงร่าไม่มีแววเฮิร์ตเที่ยวทองหล่อ คิมรับโดยดีไปกันหลายคน และบริสุทธิ์ใจ ไม่สนใจคนมองปากแข็ง ยืนยันสัมพันธ์บ้านผู้จัดยังดีและพร้อมร่วมงาน ฝ่ายเจ็ทเงียบสยบความเคลื่อนไหว
มีเพียงแม่ที่ยืนยันว่าไม่เคยเป็นมาเฟียทำร้ายใคร เรื่องของเด็กไม่เคยยุ่ง เสียหญิงไม่เท่าเสียงาน จับตาสัมพันธ์ “หมาก-คิม” รอดหรือร่วง!
ฮอตต่อเนื่องและยังคงความสนอกสนใจของบรรดาแฟนคลับขาเชียร์ไม่น้อยสำหรับเรื่องราวความรักของ ผู้จัดละคร “เจ็ท ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช” และ นางเอกดังอย่าง “คิมเบอร์ลี่ แอนโวลเทมัส” ที่ยุติลงแล้วตามที่นางเอกสาวได้ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ ทำให้กองเชียร์ของ “หมาก ปริญ สุภารัตน์” และคิมเบอร์ลี่ หลายต่อหลายคนต่างฟิลและอินไปกับกระแสคู่จิ้นทั้งในจอและนอกจอ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ กระแสไลน์ที่หลุดออกมาของหมากและคิม ทำให้เกิดข้อวิจารณ์มากมาย แต่เพราะช่วงละครต้นรักริมรั้ว กำลังจะออกอากาศ เรื่องความสัมพันธ์ของคิมและหมาก จึงต้องยุติไว้เพียงเท่านั้นเป็นคู่จิ้นในจอ และให้เรื่องดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่ทันทีที่ละครจบ คิมออกมายอมรับว่าความสัมพันธ์กับเจ็ทเริ่มไม่ดี ห่างกัน แต่ไม่อยากให้มองว่าหมากคือมือที่สามที่ทำให้ตนและผู้จัดต้องเลิกรากัน แต่เป็นเรื่องที่คนสองคนตกลงกันแล้วว่าต่างคนต่างมีหน้าที่ ซึ่งคิมยืนยันว่า สัมพันธ์กับหมากเป็นเพียงพี่น้องกันเท่านั้น แม้ว่ากองเชียร์จะดีอกดีใจกันไปแล้วก็ตาม
หลังจากมีข่าวเลิกรากับเจ็ทไม่นานก็มีคนตาดีเห็นคิมและหมากไปเที่ยวที่ทองหล่อไร้แววเศร้า ซึ่งคิมก็ยอมรับว่าเรื่องไปเที่ยวนั้นไปกันเป็นกลุ่ม ซึ่งรวมไปถึง “มาร์กี้ ราศรี” และ “ญาญ่า อุรัสยา สเปอร์บันด์” นางเอกที่โด่งดังมาพร้อมๆกัน ไม่ได้ไปสวีตกันสองต่อสอง อีกทั้งความบริสุทธิ์ใจที่แก๊งนี้เจอและปาร์ตี้กันบ่อยอยู่แล้ว รวมทั้งการจับตามองของนักข่าว คิมจึงยอมรับว่าที่ผ่านมาข่าวเลิกราเจ็ทไม่ใช่ไม่เสียใจ แต่เพราะว่ามีงานทุกวัน เศร้าแต่ก็ไม่เคยได้แสดงออกมาเท่านั้น และหาทางระบายด้วยกันเจอเพื่อน เรียนต่อยมวย และมีกิจกรรมอย่างอื่นทำ
ในเรื่องของความสัมพันธ์ของหมากกับคิมนั้น ทั้งคู่ยังยืนยันตรงกันว่าไม่มีสิทธิ์พัฒนา แต่สนิทสนมและพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง และการเลิกรากับเจ็ทครั้งนี้ ก็ทำให้เธอระมัดระวังตัวมากขึ้นในการไปไหนมาไหนสองต่อสองกับหมาก ซึ่งคิมก็ยอมรับว่า “อึดอัด” กับข่าวนี้มากพอสมควร เนื่องจากโดนจับตามองเรื่องความรักและความสัมพันธ์ทำนองนี้มาตลอดในระยะหลัง
น่าจะเพิ่มความตึงเครียดพอสมควรหลังจากที่มีข่าวว่า “จิ๋ม มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” จะติดต่อ “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” ให้ดามใจเจ็ท ร้อนถึงเจ๊จิ๋มต้องพูดบ้างในรอบนี้ว่า มีศีลธรรมพอที่จะรู้ว่าดิวมีแฟนแล้วและคงไม่ทำให้เด็กลำบากใจ แต่ไม่ปฏิเสธว่าเอ็นดูดิว เนื่องจากความตั้งใจในการเล่นละคร และมีความสนิทสนมกันในกองถ่ายละครต้นรักริมรั้ว ในช่วงหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าการเลิกราของเจ็ทและคิมครั้งนี้ โดนพาดพิงไปถึงผู้เป็นแม่และพี่สาวอย่าง “จ๋า ยศสินี ณ นคร” ที่ทำหน้าที่ผู้จัด และปั้นหมาก ปริญ มากับมือ ตั้งแต่มีข่าวเรื่องหมาก คิม เจ็ท ฝ่ายจิ๋ม มยุรฉัตรไม่ได้ออกมาพูดอะไรนอกจากปลอบใจและโพสต์เป็นกำลังใจให้ลูกชายต่อสู้กับปัญหาและให้อภัยกัน จบจนละครจบสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จบลงตามจึงทำให้หลายคนพุ่งเป้าว่าการเลิกรากับแฟนผู้จัดของคิมครั้งนี้ นั่นหมายถึงการร่วมงานของคิม-หมาก และค่ายละครของครอบครัวนี้ด้วยหรือไม่ จิ๋ม มยุรฉัตรยืนยัน ว่าไม่มีอำนาจ และไม่ได้เป็นมาเฟียบันเทิงแต่ประการใด แม้ว่าครั้งหนึ่งเจ็ทจะมีปัญหากับ “จอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค” ในช่วงที่จอยใกล้หมดสัญญากับช่อง 3 พอดิบพอดี จึงทำให้หายหน้าหายตาไปจากช่อง 3 ในเวลานั้น ซึ่งนอกจากจะได้เคลียร์ใจเรื่องมาเฟียแล้ว จิ๋ม มยุรฉัตร ยังไม่ขอพูดเรื่องความสัมพันธ์ของคิมกับหมาก เพราะว่าไม่เกี่ยวกับตน และเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เจ็ทกับคิมอาจจะไปด้วยกันไม่ได้ และเลิกรากัน จึงมีวลีเด็ดจากปากเจ๊จิ๋มว่า “เสียผู้หญิงได้ แต่เสียงานไม่ได้” เพราะว่ารอบนี้ เจ็ทเศร้าและไม่ได้ปริปากพูดเรื่องดังกล่าวกับครอบครัวเหมือนทุกครั้ง
ในช่วงที่มีข่าวคิมกับหมาก แอบส่งไลน์หากันจนมีเรื่องมีราว แหล่งข่าวในกองถ่ายต้นรักริมรั้วเปิดเผยว่า มีบางช่วงที่เจ็ทไม่ได้เข้ากองละคร ซึ่งแม้ว่าจะวางมือไปบ้างแล้ว แต่แม่ก็ยังเข้ามากองถ่ายแทนลูกชายในวันที่มีปัญหาในชีวิตและพร้อมเคียงข้าง เป็นที่ปรึกษาให้ลูก และในครั้งนี้นับว่าเป็นอีกครั้งที่จิ๋ม มยุรฉัตร แก้ข่าวด้วยอารมณ์น้อยใจกับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ไม่น้อยทีเดียว
“ก็โดนมาตลอดเพราะว่าบางคนเขาก็คิดว่าพระเอกต้องคู่กับนางเอก นางเอกต้องคู่กับเพระเอก นางฟ้าก็ต้องคู่กับเทวดามันก็เป็นคู่จิ้นของเขาที่เขาฝันกัน แล้วคนของเขาก็เสียบเข้าไปที่ไม่ใช่คู่จิ้นของเขา เขาก็ผิดหวัง เลยทำให้ไม่เป็นที่พอใจบ้าง พอใจบ้างมันก็เป็นเรื่องธรรมดามาก เราไม่เสียใจค่ะ ที่บ้านก็คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามาก คือคนเรากว่าจะโตมันมีใครเข้ามาในชีวิตเยอะแยะผ่านไปๆ จนเจอคนที่คลิกมันถึงจะจบ เราจะเสียใจถ้าลูกเราเสียงาน แต่เราไม่เสียใจถ้าเจ็ทเสียผู้หญิง”
ความสัมพันธ์ส่วนตัวหลังจากนี้ของคิมและครอบครัวเหมือนประสิทธิเวช ยังเป็นที่จับตามองว่าจะลงเอยอย่างไร และมีผลงานร่วมกันอีกหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่ากลุ่มนักแสดง กลุ่มเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มนักแสดงด้วยกันก็ล้วนแล้วแต่มีความสนิทสนมกับครอบครัวเหมือนประสิทธิเวช ส่วนหมาก ปริญ นั้นหลายฝ่ายไม่มีข้อกังวลเนื่องจากยังมีความสนิทสนมกับ “นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช” ผู้จัดคู่บุญ ที่ยังเกื้อหนุนกันอยู่ คงต้องมาดูว่างานละครของคิมเบอร์ลี่ หลังจากนี้ ที่ว่ากันว่ามีหนาวมีสะท้าน ก็คงต้องรอดูว่ามีผลหรือไม่
โสดแล้วเนื้อจะหอม งานจะรุ่งต่อไปหรือไม่คงต้องติดตามชมกันต่อไป เมาท์ว่าเลิกราครั้งนี้คิมดูไม่เศร้าไม่เสียใจ แต่นางเอกยืนยันว่าไม่มีใครรู้และเข้าใจถึงหัวอกข้างในว่าร้าวรานแค่ไหน ไม่เพียงแต่เรื่องหัวใจ แต่เรื่องอนาคต การงาน การเรียน ที่ยังรออยู่ก็ยังใจตุ๋มๆต้อมๆ แถมตอบคำถามสื่อก็ต้องคอยระวังจะไปสะกิดให้ใครเจ็บตัวอีกหรือไม่ แยกไม่ถูกว่าอันไหนอึดอัดกว่ากัน ระหว่างเรื่องรักกับเรื่องงานนับจากนี้!
...............................................................
ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 211 วันที่ 19- 25 ตุลาคม 2556