“ใบเตย” บีบน้ำตา ขอโทษ “แม้ว” การตลาดหรือพลาดพูดมากเอง

ชักจะแน่นอก “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติ์ศักดิ์” สั่ง “ใบเตย อาร์สยาม” แถลงแก้ไขภาพลักษณ์นักโทษชาย “ทักษิณ ชินวัตร” ขับกล่อมด้วยเสียงเพลงบรรเลงด้วยเงินค่าจ้างรอบละ 5 แสน ใน 2 อาหารมื้อค่ำ ฟันไป 1 ล้านบาท พร้อมกระเป๋าแบรนด์เนมอีก 1 ใบ ส่วนลดบ้านอีกเท่าไหร่ไม่ปรากฏชัด แถมยังชงให้อีกว่าสนิทกับอาร์เอสอย่างดี มีโอกาสจะบินไปอีก ใบเตยพูดหมดงานรุ่งขายได้ หวังจะเป็นรายได้ของบริษัท อาร์เอสสั่งแถลงขอโทษทั้งน้ำตาว่าปาร์ตี้ถั่งเช่าที่ว่าไปมาจริง แต่แค่เอาใจเจ้าภาพ ปากสว่างพูดความจริง แม้จะโดนติงว่าโง่แต่ก็ไม่เสียใจที่ครั้งหนึ่งเคยกินข้าวกับแม้วแบบส่วนตั๊ว ส่วนตัว แต่ “โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร” บอกไม่รู้จักกันก็ไม่เป็นไร

เรื่องธุรกิจก็ว่ากันไปตามธุรกิจ ส่วนเรื่องบันเทิงก็ชักไม่บันเทิง แม้ว่าจะเอื้อนเอ่ยให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีว่าไปกินข้าวกับแม้ว อดีตนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร แม้ว่าดีเอสไอ จะตามหาตัวไม่เจอ แต่ “ใบเตย อาร์สยาม” และคนดัง ทหาร ตำรวจ ชั้นผู้ใหญ่ไปเจอมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังล่าตัวไม่ได้ สาวคนล่าสุดที่ออกมาบอกว่าเจอตัวเป็นๆสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่กินข้าว ร้องเพลง และปาร์ตี้ส่วนตัว มื้อละ 5 แสน พร้อมแจกทิปกระเป๋าแบรนด์เนมอีก 1 ใบ แถมส่วนลดบ้านหลังที่ซื้อ 20 ล้านที่ได้มา ต้องบอกว่าข่าวนี้ของนักร้องนุ่งสั้นเสมอหู “อีหนูใบเตย สุธีวัน ทวีสิน” ฮอตชั่วข้ามคืน และได้รับความสนใจขึ้นมาทันทีในความตรง ที่กล้าทำกล้ารับว่าไปมาจริง แม้ว่าเรื่องนี้เฮียฮ้อจะโดนพาดพิงในตอนแรก เจอนักข่าวถึงขั้นแทรกวงออกไป ไม่ขอตอบเรื่องดังกล่าว แม้ว่าก่อนหน้านั้น เรื่องของเรื่องเพราะเมาท์และลือกันไปต่างๆนานาว่ามีศิลปินของอาร์เอสบินไปร้องเพลงให้ทักษิณฟังอีกหลายคน

คำพูดของใบเตย เมื่อสัปดาห์ก่อน มาสัปดาห์นี้ เฮียฮ้อต้องเดินหนีไม่ตอบเรื่องทักษิณใช้บริการนักร้องอาร์เอส มื้อละ 5 แสน ยกหน้าที่ให้จำเลยอย่างใบเตย และ “เณร ศุภชัย นิลวรรณ” ผู้บริหารค่ายอาร์สยามตอบนักข่าวเอง หลัง 1 สัปดาห์ ฟีดแบ็กจากคนแดนไกลไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แถมโอ๊ค พานทองแท้ ลูกชายแท้ๆของ ทักษิณ ยังเอ่ยอีกว่าไม่ได้รู้จักใบตงใบเตยที่ไหนมาก่อน อีกทั้งงานจ้างที่ว่าพ่อของตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินแต่ประการใด

น้ำตาแห่งความเสียใจ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ “เกม” อันหนึ่งของใบเตยจึงเกิดขึ้น หลังจากที่การพูดตรงๆว่าไปร้องเพลงให้คนแดนไกลฟัง แล้วพลั้งพลาดพูดออกมาว่าบอกกลายๆว่า ทักษิณสุขสบายดีมีความสุขและแฮปปี้มีงานปาร์ตี้ส่วนตัวสม่ำเสมอ อาการหน้าชื่นตาบานเกิดขึ้นเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น ใบเตยออกงานถึงกับไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย รอแถลงพร้อมกับผู้ใหญ่ และเพราะความไม่คิดไกล รับงานมา จ้างจริงก็ตอบจริง เอาเงินทักษิณมาได้ หลายฝ่ายชื่นชมใบเตยว่าเจ๋งขนาดไหน เพราะแม้แต่ภาษี นักโทษชายคนนี้ยังไม่คิดจะจ่าย แต่มีเงินจ้างนักร้องไปกินข้าว ดินเนอร์หรูและแจกกระเป๋าแบรนด์เนม ตามสไตล์แม้วแบบนี้ทุกครั้ง และก็มีเพียงใบเตย ที่กล้าทำ กล้ารับ แม้จะโดนด่า และกดดัน กระทบกระทั่งครอบครัวของอีกฝ่ายจนภาพลักษณ์ของอดีตนักโทษชายทักษิณและครอบครัวเดือดร้อน
 
แต่ที่สุดแล้วในการแถลงข่าว ใบเตยก็ยังยืนยันว่า ทั้งหมดที่ออกจากปาก คือการพูดความจริงทุกประการ นั่นแสดงว่าการแถลงข่าวของใบเตยกับผู้บริหารอาร์สยามครั้งนี้เพื่อการขอโทษที่ให้สัมภาษณ์พาดพิงนักโทษชายทักษิณล้วนๆในเรื่องการใช้เงิน

สิ่งที่ชัดเจนที่สุดของการแถลงข่าวอีกประการหนึ่งของอาร์สยาม ในเครืออาร์เอสนั้นยืนยันว่าไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองและมีความสนิทสนมกับทุกๆรัฐบาล ไม่เพียงแต่รัฐบาลของทักษิณเท่านั้น อีกทั้งจุดยืนที่ชัดเจนของธุรกิจคือหากทำตามกติกาก็สามารถส่งนักร้องไปร่วมงานได้ แม้ว่าคนจ้างจะจ้างไปเล่นให้ใคร เจ้าภาพคือใครก็สามารถรับงานได้ นั่นหมายถึงเมื่อยินดีจ่าย ทั้งค่าแรง ค่าจ้าง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ชอปปิ้ง ในราคาที่พร้อมจ่ายก็พร้อมส่งนักร้องไป นี่คือนโยบายของอาร์เอส ส่วนของชำร่วยที่มีค่า กระเป๋าแบรนด์เนมใดๆ แล้วแต่สินน้ำใจที่ผู้ว่าจ้างจัดให้กับศิลปิน หรือพูดอย่างตรงไปตรงมาคือนักโทษหนีคดีที่ไหนจ้างก็รับได้ หากมีเงินจ้าง ส่วนการรับสินน้ำใจจากลูกค้าก็แล้วแต่จะกรุณา

ที่ผ่านมาศิลปินทั้งอาร์เอสและแกรมมี่ มีความสนิมสนมกับทักษิณเป็นอย่างดี แต่ไม่ค่อยมีใครออกมาให้ข่าว ใบเตยยังเป็นสาวคนเดียวที่พูดถึงเรื่องค่าตัวค่าจ้างอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่อ้ำอึ้ง อีกทั้งใบเตยเป็นศิลปินเบอร์หลัก ซึ่งแม้ไม่ได้มีเสียงร้องที่โดดเด่นแต่ต้องบอกว่ากระแสข่าวของเธอนับตั้งแต่เข้าวงการมาภายใน 2 ปีนี้ กระแสของใบเตยไม่เคยตก ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวและอีเวนต์ที่ต้องบอกว่าค่าตัวเธอพุ่งสูงสุดเมื่อเทียบกับนักร้องลูกทุ่งเบอร์อื่นของค่าย แม้ลีลาการตอบคำถามจะพูดความจริงมากไปหน่อยจน “เฮียฮ้อ” สอนไม่ทัน ตั้งแต่เรื่องการแต่งตัวโป๊จนโดนกระทรวงวัฒนธรรมตำหนิ ใบเตยก็ยืนยันว่านี่คือจุดขายที่อาร์เอสสร้างให้เธอ จนมาถึงเรื่องนี้ เธอก็บอกกับสื่อว่าอาร์เอสรับรู้และสนิทกับทักษิณอย่างดีจึงได้รับงานนี้ แถมยืนยันว่าทุกสิ่งที่ออกจากปากเธอคือความจริง แต่อาจเป็นสิ่งที่เฮียฮ้อไม่ได้อยากให้พูด

ใบเตยนับเป็นศิลปินเบอร์คนสำคัญของอาร์สยามที่สร้างรายได้ให้บริษัท และงานรุมมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา อยู่ในกระแสทั้งลบและบวก นอกจากนี้ทันทีหลังจากมีข่าวไปร้องเพลงหม่ำข้าวกับทักษิณ ตำแหน่งสำคัญของเธอล่าสุดคือ “พรีเซ็นเตอร์รณรงค์ยุติความรุนแรงผู้หญิงและเด็ก” ที่เธอไปร้องเพลงโดยมี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ไปเปิดงานอีกด้วย นอกจากนี้งานอีเวนต์ที่ใบเตยเป็นตัวเรียกเงินเข้าอาร์เอสยังมีอีกมากมาย เพียงแต่คำพูดที่ดูบาดใจ ไปกินข้าวร้องเพลงครั้งและ 5 แสน อาจทำให้ภาพลักษณ์ของพ่อของโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ดูแปดเปื้อนราคะกับข่าวในทำนองนี้
 
การแถลงข่าวครั้งนี้ของใบเตยและอาร์สยามจึงเกิดขึ้นพร้อมน้ำตาของใบเตย ที่ (โคตร) ฝืนความรู้สึก ได้รับเงินจริง รับกระเป๋าจริง ได้ส่วนลดซื้อบ้านจริง กินดีอยู่ดี มีทิปแจก มีโอกาสจะไปอีก ได้เงินภาษีที่แม้แต่รัฐบาลยังไม่ได้เพราะนักโทษหนีคดีไม่ยอมจ่าย นิทานเรื่องนี้ (อาร์เอส) สอนให้รู้ว่า เรื่องจริงคงไม่ต้องพูดทุกเรื่องนะอีหนูใบเตย! ธุรกิจเพลงต้องบรรเลงต่อไป ใช้ใบเตยเป็นตัวขาย แต่รับมาเท่าไหร่ จากใคร ไม่ต้องพูดมาก นี่คือกติกา!? งานนี้ใบเตยโดนด่าจากหลายๆฝ่ายรวมทั้งค่าย เพราะอาจมีผลต่อการจ้างงานในอนาคต งานนี้ “ปากพาซวย” ดีเจแมน พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา หวานใจช่วยปลอบด้วย งานนี้นุ่งสั้นจบไม่สวย แถมจะซวยงานที่ล้นมืออาจหายวับไปกับตา!
 
...........................................................................

ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 208 วันที่28 กันยายน -4 ตุลาคม 2556