xs
xsm
sm
md
lg

"ตาดูดาว เท้าติดดิน" ละครตาย ขายคนเป็น!!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พอล - จุ๋ย บท ทักษิณ - พจมาน ใน ละคร ตาดินดาว - เท้าติดดิน
ณ วันนี้ ละคร "ตาดูดาว เท้าติดดิน" ถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อนางสาวพิมพ์ชนก สุวรรณเวศน์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิป หมายเลข 762661 ระบุพร้อมผังรายการ เดือนกันยายนของช่อง 7 สี ในชั้นต้น แม้จะถูกระบุว่า เป็นการปลอมแปลงเอกสาร เชื่อกันว่า ละครเรื่องนี้เป็น "ละครตาย" หลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทว่าความจริง ละครเรื่องนี้ยังถูกกล่าวขานอยู่เนืองๆ ก่อน "คุณแดง"สุรางค์ เปรมปรีดิ์จะลากกระเป๋าออกจากช่อง 7 สี ก็ยังมีการพูดถึงละครเรื่องนี้กันอยู่

นานๆ ครั้ง ที่ ช่อง 7 สีจะลุกขึ้นมาทำละครในแนวชีวประวัติ ดังเช่น "ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์" (พ.ศ. 2542), "มิตร ชัยบัญชา" มายาชีวิต (พ.ศ. 2548) และ "ตาดูดาว เท้าติดดิน" ถือเป็นละครในแนวเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนจากคนบันเทิงมาเป็นนักการเมือง ...

ตาดูดาว เท้าติดดิน เป็นชีวประวัติของ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร เรียบเรียงโดย วัลยา เริ่มจากการตีพิมพ์ลงเป็นตอนๆใน "มติชนสุดสัปดาห์" ก่อนรวมเล่มในปี 2542 ในยุคนั้น เป็นหนังสือขายดี และถูกตีพิมพ์มากกว่า 10 ครั้ง ในวาระและโอกาสต่างกันไป
ละครของช่อง 7 สี ยึดนโยบายอิงกระแสและปรากฏการณ์ของสังคม ดังจะเห็นได้ว่า บทโทรทัศน์ของละครหลายเรื่องจะแทรกเรื่องราวของกระแสสังคมอยู่เนืองๆ ดังนั้น เมื่อมีกระแส "ทักษิณฟีเวอร์" ในระยะต้นของรัฐบาลทักษิณ 1 ช่อง 7 สีได้เฝ้ามองและติดตามปรากฏการณ์ดังกล่าว และได้ตัดสินใจซื้อลิขสิทธิ์ "ตาดูดาว เท้าติดดิน" ชีวปะวัตินายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของไทยในตอนนั้น ด้วยค่าลิขสิทธิ์ขณะที่กำลังดังจึงแพงหูฉี่ ยิ่งกว่าละครเรื่องอื่นที่เคยซื้อมาทำละคร หมายมั่นว่า จะเป็นละครจานด่วน ในปี 2548 โดย "หลุยส์" สยาม สังวริบุตรแห่ง ดาราวิดีโอ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการผลิต ซึ่งในตอนนั้น "หลุยส์" สยาม ได้ระดมทีม " 3 ประสาน" ซึ่งเป็นทีมสร้างชื่อให้กับ "ดาราวิดีโอ" มาทำละครเรื่องนี้ ทีม 3 ประสานนี้เคยสร้างชื่อมาตั้งแต่ปี 2544 กับละครเรื่อง "ดั่งสวรรค์สาป" เป็นต้นมา

ทีม 3 ประสานนี้ ประกอบด้วย สยาม สังวริบุตร ในฐานะ "ผู้จัดฯ" , วีระชัย รุ่งเรือง ในฐานะ "ผู้กำกับฯ" และ คฑาหัสต์ บุษปะเกศ ในฐานะ "นักเขียนบท" ณ วันนี้ ทั้ง "โหน่ง" วีระชัย - "หนึ่ง" คฑาหัสต์ ต่างโยกตัวเองไปทำงานให้กับช่อง 3 ทั้งสิ้น
เมื่อต้องคัดเลือก "นักแสดง" หมายมั่น "ชาคริต แย้มนาม" ให้มารับบทนี้ แต่เนื่องจากชาคริตติดละครเรื่องอื่นอยู่ และคิวไม่ลงตัว จึงมีการเปลี่ยนบทพระเอกเป็น " พอล" ภัทรพล ศิลปาจารย์ ส่วน "จุ๋ย" วรัทยา นิลคูหา รับบทเป็น "พจมาน ดามาพงศ์" และ "มิ้น" ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทองในบท "เอม - พินทองทา ชินวัตร" ซึ่งเป็นละครเรื่องแรกของเธอ (ก่อนไปช่อง3) พอละครเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2548 มีคิวจะออนแอร์ แต่กระแสสังคมและการเมืองกลับพลิกผัน

เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2548 ผลการเลือกตั้งทั่วไป ทำให้ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตรเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยในสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนเสียงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ต่อมามีการประกาศยุบสภาในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 และเลือกตั้งใหม่ในเดือน เมษายน
ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนต่อต้าน ทักษิณ ชินวัตร มากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากช่วงปลายรัฐบาลทักษิณ 1 มีการปราศรัยจาก "กลุ่มประชาชนเพื่อชาติและราชบัลลังก์" และในปลายปี 2548 ภายใต้การนำของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ซึ่งต่อมาได้ขยายวงกว้าง และเกิดกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงกลุ่มอื่นๆ ในเวลาต่อมา

เมื่อกระแสสังคมพลิกผันไปเช่นนี้ "คุณแดง" สุรางค์ เปรมปรีดิ์ จึงได้ยืนยันหลายต่อหลายครั้งในที่ประชุมของช่อง 7 สีว่า ไม่สมควรเอาละครเรื่องนี้ออกอากาศ !! และก่อนหน้าที่คุณแดงจะพ้นวาระการสิ้นสุดสัญญากับช่อง 7 สี ไม่นาน ในที่ประชุมก็ยังมีการคุยถึงละครเรื่องนี้ขึ้นมาอีก ซึ่งเธอก็ได้ยืนยันตามความคิดเห็นเดิม เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ยังมีกลุ่มคนในระดับบิ๊กของช่อง 7 สีที่สนิทสนมอยู่กับทักษิณ และขรรค์ชัย บุนปานที่ยังนึกเสียดายกับละครเรื่องนี้

แหล่งข่าวหลายปากยืนยันตรงกันว่า การที่ "คุณแดง" สุรางค์ เปรมปรีดิ์ เช่าซื้อลิขสิทธิ์ "ตาดูดาว เท้าติดดิน" เพราะเห็นกระแสทักษิณฟีเวอร์ในห้วงเวลานั้น แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยนก็พลิกแพลงไปตามความเหมาะสม ทั้งที่ในทางส่วนตัวแล้ว สุรางค์ เปรมปรีดิ์ชื่นชมแนวความคิดและความกล้าหาญของ "สนธิ ลิ้มทองกุล" มาก แม้ปากจะบอกกับใครๆว่า ไม่เอา "สีเสื้อ" ใดก็ตาม !!
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 "โหน่ง" วีระชัย รุ่งเรือง เคยให้สัมภาษณ์กับ "ทีมข่าวบันเทิง" ของแมเนเจอร์ว่า

"ในเรื่องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองนะ บางที มันอาจจะมีบทหลุดๆไปบ้าง เพราะจับประเด็นมาจากหนังสือเอามาทำเป็นบทละครโทรทัศน์ บางอันมันก็อวยไปนิดหนึ่ง เราก็จะดึงมันลงมาเพื่อให้เกิดความเป็นกลางที่สุด แล้วไม่ชี้นำไปทางการเมือง นี้คือในมุมมองของผู้กำกับนะครับ

เรื่องงบนี่ต่างกันนิดหนึ่งกับละครเรื่องอื่นๆ เพราะรู้สึกว่า เจ้านายผม คุณสยาม สังวริบุตรเนี่ย เจ้านายเค้าควักกระเป๋าเต็มที่หน่อย โอเค มันอาจจะไม่ใช่แอกชันที่คนอยากจะมองให้เราทำ แต่มันก็ไม่ยากที่จะผ่านงบมาให้ อย่างไปถ่ายเชียงใหม่เป็นอาทิตย์ ขนดาราบินขึ้นลงอยู่หลายเที่ยว ส่วนหนึ่งก็ใช้นักเรียนนายร้อย จปร. มาเข้าฉาก ก็จ่ายค่าตัวกันเป็นร้อยๆคน อะไรแบบนี้ครับ ประมาณนี้แหละ ส่วนหนึ่งงบไปอยู่ที่ส่วนงบในฉากนายร้อย จปร. เสียเยอะ เพราะแนวคิดทางการเมืองเริ่มจุติตรงนั้น ตามเรื่องนะครับ"

วีระชัย รุ่งเรือง ยืนยันว่า ได้ปรับปรุงแก้ไขจากข้อเขียนของ "วัลยา" เพื่อไปให้ ชงชัดๆ โทนของเรื่องประมาณว่า สู้แล้วจะชนะ !!
"เรื่องนี้ ก็คงเป็นเรื่องของคนคนหนึ่ง ผมไม่ได้เจาะจงไปที่ความพิเศษของใคร คือทุกคนก็คือ ตัวละคร ทักษิณ ชินวัตรก็คือ ตัวละครตัวหนึ่งในการทำงาน เวลาเราทำงาน เราจะเรียก พอลว่า ทักษิณ อะไรเงี้ย มีอยู่วันหนึ่งที่เราไปถ่ายทำที่อาคารชินวัตร เรายังเผลอเรียก "อ้าว...ทักษิณมา" ลูกน้องเค้ามองกันตาเขียว เราก็ต้องบอกว่า เราเรียกตัวละคร ซักพักก็เรียกจุ๋ยในเรื่องว่า พจมานมาเข้าฉาก ส่วนตัวผมเฉยๆกับละครเรื่องนี้นะ"

สำหรับผู้ที่ใช้ชื่อปลอมในพันทิปว่า พิมพ์ชนก สุวรรณเวศน์ (สมาชิกหมายเลข 762661) นั้นไม่แจ้งชัดว่า เป็นใคร!? เนื่องจากชื่อพร้อมนามสกุลนี้ เป็นชื่อ-นามสกุลของนางเอก "หลงเงาจันทร์" ที่ "กบ" สุวนันท์ เคยเล่นคู่กับสันติ วีระบุญชัย (สเตฟาน - ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) เมื่อปี 2549

ควันหลงจากกระทู้ของเธอ สมาชิกท่านอื่นในพันทิป มีความเห็นดังนี้
“ตาดูดาวเท้าติดดิน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร. ใช่เรื่องราวเกี่ยวกับอดีตนักการเมืองที่ตอนนี้หนีคดีเกี่ยวกับการคอร์รัปชันและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเผาบ้านเผาเมืองหรือเปล่า ถ้าใช่คงจะยากอะนะที่จะได้ทำจนออกมาฉาย / ไม่รอตอนจบจริงๆก่อนเหรอ / แม้เรื่องนี้จะยาว. แต่ก็ใกล้จบแล้ว. ลุ้นอยู่ว่าตัวโกงจะตายตายแบบไหน จะตายยกตระกูลไหม55 / ขอเถอะ แค่นี้ ประเทศไทยก็มีคนสติแตกมากมายอยู่แล้ว ถ้าเอามาฉายเดี๋ยวก็ได้เห็นคนคุ้มคลั่งวิ่งแก้ผ้ากลางสี่แยก แล้วตะโกนโหยหวน ทากสีน / สารคดีชีวิตสัตว์หรือครับ / Thailand only บางคนก็เชื่อเป็นตุเป็นตะ ถึงว่าเดี๋ยวนี้เขาปลุกระดม(สนตะพาย)กันง่ายดี เพราะมีคนประเภทมีหัวเอาไว้ให้ผมงอกอย่างเดียว/ บางคนจะเอามากลบกระแสเน่าๆของพรรคคนดีในสภาป่าว อิอิ สนับสนุนให้ฟ้องให้เข็ด / ตาดูดาว เท้าติดดิน ทางช่องอนุมัติให้ออนแอร์แล้วเหรอ โดนดองเค็มไปกี่ปีแล้วล่ะ ( เข้าถึง ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2556)

หากถามว่า มีแนวโน้มความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ช่อง 7 สี จะเอาละครเรื่องนี้กลับมา และจะมาด้วยเหตุผลใด !! - ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ สำหรับช่อง 7 สี (ถ้ามีกระแส) ขนาดละคร "มิตร ชัยบัญชา มายาชีวิต", ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ของ เจ เอส แอล ก็เคยดองกันอยู่หลายปี จน "แอฟ" ทักษอร ภักดิ์เจริญสุข , เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธุ ไปอยู่ช่อง 3 กันจนหมดก็ยังเอามาออกอากาศได้ เมื่อมีกระแส เพราะฉะนั้น ... จึงไม่น่าแปลกใจ ถ้าวันหนึ่ง "ตาดูดาว เท้าติดดิน" จะมีการขุดกรุออกมาแพร่ภาพในวาระที่เห็นสมควร
วาระนั้น คาดคะเนจากความเป็นไปได้ เช่น

หนึ่ง. ต้อนรับ นช. ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน และได้รับการนิรโทษกรรมทางการเมือง หรือมากกว่านั้น กลับมาเป็น "ผู้นำ" อีกครั้ง จะด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่
สอง. ในวาระที่ไม่มีเสียงคัดค้านจาก "คุณแดง" สุรางค์ เปรมปรีดิ์ เฉพาะอย่างยิ่งในวันที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศยุติบทบาทแล้ว ... อย่างวันนี้
สาม. เสียงร้องขอจากแดนไกล สายตรงถึงผู้มีอำนาจในการตัดสินใจของช่อง 7 สี หรืออาจจะผ่านขรรค์ชัย บุนปานมาเจรจากับยังผู้สนิทชิดเชื้อของสถานีฯ

ถามว่า "คุ้มค่าไหม?"
สำหรับระยะเวลาในการเช่าซื้อลิขสิทธิ์บทประพันธ์ ซึ่งโดยปกติจะอยู่ที่ 3-5 ปี (หรือมากกว่านั้น เล็กน้อย แล้วแต่การเจรจา) น่าจะหมดอายุไปแล้ว หากจะนำละครเรื่องนี้กลับมาแพร่ภาพ นั่นหมายถึง การที่จะต้องเซ็นหรือต่อสัญญาอีกครั้ง จะคุ้มค่าไหม ไม่ว่าจะเรียกเก็บตามอัตราเดิม หรือลดหย่อนนิดหน่อย และค้ามีใบสั่งจากคนไกล "ให้" โดยไม่คิดมูลค่าเพิ่มอีกล่ะ ... เรื่องนี้น่าคิด !

สถานการณ์ของรัฐบาลภายใต้การนำของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของพรรคเพื่อไทย ณ เวลานี้ อยู่ในช่วงที่คะแนนเสียงตกต่ำ ถดถอย ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปลุกผีทักษิณขึ้นมาต้มตุ๋นคนดู เพราะหน้ากากปีศาจแห่งโรงละครการเมืองถูกกระชากจนสิ้นแล้ว

การปลุกละครตายมาขายคนเป็นจึงไม่มีประโยชน์อันใด นอกจากทำให้คนร้อง "ยี้" แล้ว ยังจะทำให้ "ช่อง 7" เสียฐานเสียง ยังไงก็ได้ไม่คุ้มเสีย !!

"ตาดูดาว เท้าติดดิน" นี้ เริ่มต้นจากการตีพิมพ์เป็นตอนๆลงใน "มติชน สุดสัปดาห์" จากนั้นมีการนำมารวมเล่มในปี 2542 และได้รับการพิมพ์นับ 10 ครั้งในวาระต่างๆกันไป โดยหนังสือเล่มนี้ มี 3 คำนำจาก ขรรค์ชัย บุนปาน, วัลยา (ผู้เรียบเรียง) และ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ทั้งนี้ เริ่มจากบทเกริ่นนำ และแบ่งเป็นเรื่องราวในตอนต่างๆทั้งสิ้น 18 ตอน ได้แก่ 1. มรดกพ่อ, 2. เด็กบ้านนอก, 3. นักเรียนนายร้อย, 4. พบกับพจมาน, 5. สวมเครื่องแบบ, 6. เปิดโลกทัศน์, 7. ตกเหว, 8. จุดพลิกผัน, 9. ไต่บันได, 10. แรงเสียดทาน, 11. วางมือ, 12. จุดเริ่มต้นบนถนนการเมือง, 13. 101 วันที่กระทรวงการต่างประเทศ, 14. เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม (1), 15. เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม (2), 16. ลาออกจากพรรคพลังธรรม, 17พักยกทางการเมือง, 18. คิดใหม่ - ทำใหม่, บทส่งท้าย
...........................................................

ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์ ฉบับที่ 204 วันที่ 31 สิงหาคม -6 กันยายน 2556
ปกหนังสือ

ผังปลอม !!?
คุณแดง - สุรางค์ เปรมปรีดิ์
หลุยส์ - สยาม สังวริบุตร
หนึ่ง - คฑาหัสต์ บุษปะเกศ
โหน่ง - วีระชัย รุ่งเรือง
กำลังโหลดความคิดเห็น