“แกรนด์ เดอะสตาร์” กล้าหาญ!แล้วแตะเบรก

การแสดงออกถึงความคิดเห็นทางการเมืองของคนบันเทิง ทั้งดารา นักร้อง นักแสดง พิธีกร ผู้ประกาศข่าว ฯลฯ แทบจะกลายเป็นเรื่องต้องห้ามในประเทศที่มีประชาธิปไตยแค่เปลือก ที่ผ่านมาหากมีดารา นักแสดงคนไหนแสดงจุดยืนทางการเมืองขึ้นมาก็มักจะถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามรวมถึงเสียงตักเตือนจากแฟนคลับและผู้ที่เป็นห่วงให้สงบปากสงบคำเพราะเกรงจะไม่ปลอดภัยตลอดจนอาจไม่มีใครกล้าว่าจ้างอีกต่อไป การแสดงความคิดเห็นทางการสำหรับคนบันเทิงจึงแทบจะกลายเป็นของต้องห้ามไปแล้วสำหรับสังคมนี้

ดังนั้นการหาญกล้าลุกขึ้นมาโพสต์ข้อความแสดงออกถึงจุดยืนทางการเมืองของดาราและนักร้องสาว “แกรนด์ พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า” หรือ “แกรนด์ เดอะสตาร์” ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @grand_thestar เมื่อไม่กี่วันก่อนจึงเป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนถึงกับอึ้งเพราะคิดไม่ถึงว่าสาวน้อยหน้าตาน่ารัก ผิวขาวใส ท่าทางแอ๊บแบ๊วคนนี้จะมีดีกว่าที่คิด

แกรนด์โพสต์ถึง “คุณ” เอาไว้อย่างเผ็ดร้อน ถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาตรงๆ แต่จากเรื่องราวทั้งหมดที่แกรนด์เขียนถึงก็คงเดาได้ไม่ยากว่าเธอพูดถึงใคร ส่วนหนึ่งของข้อความที่แกรนด์โพสต์เอาไว้มีดังนี้

“เราสูญเสียชีวิต สูญเสียกำลังใจ สูญเสียทุกอย่าง เสียจนไม่มีอะไรจะให้เสียอีกแล้ว คุณจะเอาอะไรอีกเหรอคะ หลายปีมานี้เกิดสิ่งเลวร้ายกับแผ่นดินของเราเยอะมากมายเหลือเกิน เราสูญเสียอะไรไปมาก มากเกินกว่าที่จะให้อภัยคุณได้ อย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีกเลยค่ะคุณ คุณจะกลับมา จะเอาอะไรจากพวกเราอีกเหรอคะ สิ่งที่คุณได้ไปทั้งหมดยังไม่เพียงพอเหรอคะ คุณคนเดียวสร้างความเดือดร้อนกับแผ่นดินเรามาหลายปี คุณต้องการทำลายแผ่นดินเราให้สิ้นซากเลยใช่มั้ยคะ คุณลืมไปหรือเปล่าว่าอยู่บนผืนแผ่นดินของใคร”
ข้อความทั้งหมดแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแกรนด์ระบายออกมาด้วยความรู้สึกอึดอัดและคับข้องใจที่ “คุณ” คนนั้นกระทำต่อประเทศชาติขนาดไหน หลังจากที่ข้อความทั้งหมดออกสู่สาธารณะก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย ทั้งเห็นด้วย สนับสนุน ไม่เห็นด้วย ต่อต้าน และตักเตือน

ซึ่งหลังจากที่มีผู้ใหญ่จากทางต้นสังกัดออกมาตักเตือนแกรนด์ถึงเรื่องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และขอให้เธอลบโพสต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกากรเมืองออกทั้งหมดในวันต่อมา แกรนด์จึงจำเป็นที่จะต้องลบข้อความที่เธอแสดงออกทางการเมืองทั้งหมดทิ้งไป ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้แกรนด์เคยประกาสเอาไว้ว่าเธอแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมาและไม่ได้เอ่ยชื่อใครออกมาตรงๆ เธอจึงไม่กลัวว่าจะมีผลเสียอะไร เมื่อลบโพสต์ที่เกี่ยวกับการเมืองทิ้งแล้วแกรนด์ก็โพสต์ข้อความเพื่อชี้แจงต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนี้
"สำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แกรนด์ต้องขอโทษจากใจจริง ๆ ค่ะ เนื่องมาจากอารมณ์ชั่ววูบ ความขาดสติ ขาดการไตร่ตรอง รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดการกลั่นกรองข้อมูลข่าวสารให้ดี แต่สิ่งสำคัญที่แกรนด์อยากบอกคือ แกรนด์ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ได้อยู่พรรคพวกใด ไม่ได้อยู่สีใด ๆ ไม่มีเจตนาแอบแฝงที่จะไปเข้าข้างฝ่ายใด”

แกรนด์อธิบายต่อไปว่าถึงจะเห็นเธอเป็นวัยรุ่นคนหนึ่ง แต่เธอยอมรับว่าตัวเองเป็นคนที่ “หัวรุนแรงเรื่องชาติบ้านเมืองและกษัตริย์” โดยเธอยืนยันว่าตัวเองเป็นคนที่รักและเทิดทูนในหลวงเหนืออื่นใด ฉะนั้นเธอจึงทนไม่ได้ที่รู้ว่าใครหรือเรื่องอะไรที่ทำให้ในหลวงไม่สบายพระทัย ก่อนจะย้ำว่าเธอไม่ได้อยู่ฝั่งไหน ฝ่ายใดทั้งสิ้น

นอกจากแกรนด์แล้ว นักแสดงอีกคนที่กล้าแสดงตัวว่ายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาลคอร์รัปชันคือ “ดอม พีรดนย์ เปล่งพานิช” ทายาทรูปหล่อของสองนักแสดงมากฝีมือ “นก สินจัย-นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช” ที่ประเดิมผลงานแสดงครั้งแรกกับบท “เรืออากาศโท พีรดนย์ เปล่งพานิช” เพื่อนนักบินของคุณชายรณพีร์ ในละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ภาคคุณชายรณพีร์

ดอมเป็นหนึ่งในลูกไม่ที่หล่นไม่ไกลต้น นอกจากฝีมือทางด้านการแสดงแล้ว หัวใจที่รักในความถูกต้องของเขายังมั่นคงชัดเจนเช่นเดียวกับพ่อและแม่ ไม่กี่วันก่อนดอมเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณที่บริเวณสวนลุมพินี โดยดอมได้โพสต์ภาพตัวเองขณะร่วมอยู่ในเหตุการณ์ชุมนุมพร้อมกับคำบรรยายภาพว่า “สู้ไม่สู้?” ลงอินสตาแกรมส่วนตัวที่ชื่อ @domenicii

สำหรับสองนักแสดงมากฝีมือ “นก สินจัย-นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช” นั้นแสดงออกถึงจุดยืนทางการเมืองของตัวเองมาโดยตลอด ที่ผ่านมาทั้งสองเคยเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการชุมนุมทางการเมือง จนกระทั่งมาถึงการผลิตละครเหนือเมฆ 2 ที่มีเนื้อหาพาดพิงนักการเมืองคอร์รัปชันจนถูกแบนไปในที่สุด ซึ่งในตอนที่ละครเหนือเมฆถูกแบน ดอมก็โพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมของเขาว่า “ท่านไม่ยุ่งการเมือง แต่การเมืองจะมายุ่งท่าน”

นอกจากการแสดงออกถึงจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจนและเข้มข้นของสองนักแสดงดังกล่าวแล้ว การบริหารงานที่ย่ำแย่ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์และคณะรัฐบาลก็ถูกหยิบไปพูดถึงบนเวทีการแสดง one standup comedy ครั้งที่ 10 (หรือเดี่ยวไมโครโฟน)ของนักแสดงอารมณ์ดี “โน้ต อุดม แต้พานิช” ที่จิกกัดยิ่งลักษณ์ตลอดจนรัฐบาลเอาไว้อย่างแสบทรวง

ตลอดเวลาเกือบสามชั่วโมงของการแสดงดังกล่าว โน้ตได้พูดถึงการเมืองออกมาเป็นระยะๆ แต่ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดอยู่ในการพูดบทกลอนในช่วงกลางของการแสดง โดยตอนแรกโน้ตได้กล่าวถึงการที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองหนังสือโลกก่อนที่จะโยงไปถึงทักษะการอ่านหนังสือของยิ่งลักษณ์ ดังนี้

“กรุงเทพเมืองหนังสือโลก ไม่ได้มาเพราะโชค คนทั้งโลกรู้ดี คนไทยนั้นรักการอ่าน ไม่ได้บอกผ่าน 8บรรทัดต่อปี
ผู้ใหญ่ควรอ่านให้เด็กเห็น เป็นเยี่ยงอย่าง อ่านให้เด็กเห็นบ้างเป็นตัวอย่างที่ดี
ตัวอย่างมีอยู่ถมไป ไม่ต้องดูอื่นไกล นายกรัฐมนตรี
ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย แค่มีโพยยื่นให้ก็อ่านได้ทันที
อ่านมากๆ มันก็มีพลาดผิด ถนนคอ-นก-รีต ประเทศซิดนีย์
ตอนอ่านจะเก็ต หรือไม่เก็ต แต่พออ่านเสร็จอย่าลืม Thank you 3ที “Thank you Three time”

บทกลอนประกอบจังหวะนี้เรียกเสียงหัวเราะและความสะใจจากทุกคนที่ได้ฟังเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทุกคนต่างก็เห็นถึงความเฟอะฟะของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยขณะนี้ แต่นอกจากความเฟอะฟะเหล่านั้นยังมีความทุจริตคอร์รัปชันมากมายที่ถือว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าหลายเท่า และความฟอนเฟะของรัฐบาลที่ปกครองคนในชาติทับถมจนระเบิดออกมาเป็นการแสดงพลังของคนบันเทิงอย่างที่เห็นกันอยู่นี้ ทั้งๆ ที่คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนสาธารณะที่ใครๆ ก็รู้ดีว่าควรสงวนท่าทีในการแสดงออกเกี่ยวกับเรื่องการเมืองเอาไว้มากที่สุด

นึกว่า... วันที่ 7 สิงหาคม จะคึกคัก มีคนบันเทิงมาขานรับ แต่กลับ เงียบ เหงา และวังเวง !!
..........................................................

ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 201 วันที่ 10-16 สิงหาคม 2556