xs
xsm
sm
md
lg

ทางเลือกของ “อั้ม พัชราภา” อยู่หรือไป...ช่อง 7 ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เดินทางมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตอีกครั้งสำหรับนางเอกสาวซุป’ ตาร์ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” เมื่อสัญญาที่เซ็นกับช่อง 7 กำลังจะสิ้นสุดลง งานนี้แว่วมาว่านางเอกสาวมีโอกาสจะย้ายค่ายสูงเพราะอยู่ช่อง 7 มานานจนบทบาทในละครเริ่มตีบตัน ประกอบกับการปรับเปลี่ยนระบบผลิตละครของช่อง 7 หลังจากที่ไร้คุณแดง “สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ที่เคยป้อนละครให้อั้มชนิดมองตาก็รู้ใจ แต่อีกกระแสบอกว่าอั้มไม่มีทางย้ายค่ายไปช่องอื่น เพราะคุณเธอแย้มปากออกมาแล้วว่า “อยู่ที่ไหนแล้วรู้สึกอบอุ่นก็จะอยู่ที่นั่น” แฟนคลับประสานเสียงบอกอยากให้อั้มออกมาเป็นนักแสดงอิสระ เพราะถึงแม้อยู่ช่อง 7 นางจะสุขสบายเหมือนเจ้าหญิงแต่ในใจลึกๆ แฟนอั้มก็อยากเห็นดาราขวัญใจได้แสดงบทแปลกๆ ใหม่ๆ รวมถึงร่วมงานกับพระเอกคนอื่นๆ บ้าง สุดท้ายไม่ว่าอั้มจะอยู่หรือไปแต่แฟนคลับก็บอกว่ายังรักอั้มเหมือนเดิมอยู่วันยังค่ำ

คาดเดากันไปต่างๆ นานา สำหรับการตัดสินใจครั้งใหญ่ในวัย 34 ปีของนางเอกสาวชื่อดัง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ที่สัญญากับช่อง 7 เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายในช่วงปลายปีนี้ เป็นธรรมดาของดาราดังที่ทุกคนจะจับตามองว่าจะต่อสัญญากับช่องเดิมหรือจะย้ายไปซบค่ายอื่นเหมือนพระเอกนางเอกช่อง 7 รายอื่นที่ย้ายไปอยู่ช่อง 3 ซึ่งได้ชื่อว่า “จอมดูด” มาแล้วนับไม่ถ้วน กรณีของอั้มเป็นที่จับตามองเป็นพิเศษเพราะตอนนี้ช่อง 7 เหลือนางเอกตัวแม่เหล็กอยู่น้อยมาก ที่กำลังพยายามปั้นขึ้นมาก็ยังไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควรไม่ว่าจะเป็น “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” , “เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์” จึงน่าจะพูดได้ว่าอั้มกับ “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” เป็นนางเอกเพียงสองคนที่ยังคงขายได้สำหรับช่อง 7 เมื่อสัญญาของอั้มที่คงอยู่ในตำแหน่งนางเอกแบบนี้ได้อีกไม่เกิน 5 ปีกำลังจะสิ้นสุด แน่นอนว่า ‘เงิน’ ต้องเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่นางเอกสาวนำมาประกอบการตัดสินใจอย่างแน่นอน

อยู่ช่อง 7 แล้วอบอุ่น
“อยู่ที่ไหนแล้วอบอุ่น อั้มก็อยู่ที่นั่น” เป็นประโยคที่อั้มแย้มเอาไว้เมื่อมีคนไปถามถึงเรื่องการต่อสัญญา ถ้าตีความจากประโยคนี้ช่อง 7 ก็คงหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้นเพราะว่าอั้มเกิดและเติบโตมาจากช่อง 7 ฉะนั้นแล้วที่ที่อั้มจะรู้สึกอบอุ่นก็คงหนีไม่พ้นช่องที่อั้มอยู่มาตั้งแต่เกิดอย่างช่อง 7 แน่นอน

การได้อยู่ช่อง 7 จะทำให้อั้มมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น เพราะสถานการณ์ของช่อง 7 ณ ตอนนี้ต้องยอมรับว่าขาดแคลนนางเอกเป็นอย่างมาก ถึงขนาดต้องดึงนางเอกโลกลืมอย่าง “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” กลับมาแสดงละครนักสู้มหากาฬควบคู่กับการแสดงบทร้ายในวันนี้ที่รอคอย ตอนนี้ช่อง 7 ก็คงมีแต่อั้มกับแพนเค้กเท่านั้นที่เรียกว่าขายได้ ซึ่งถือว่าน้อยมากหากเทียบกับช่องคู่แข่งที่มีนางเอกทั้งแบบที่ดูดมาและสร้างใหม่มากหน้าหลายตา อั้มจึงมีสถานภาพไม่ต่างจากเจ้าหญิงที่ช่อง 7 ต้องประคบประหงมสุดๆ ชนิดริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม และนี่ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้อั้มมีอำนาจในการต่อรองที่สูงมากเป็นพิเศษ

แต่ความอึดอัดในการอยู่ช่อง 7 ต่อสำหรับอั้มแล้วก็คงจะมีไม่น้อย เพราะหากไม่นับเรื่องบุญคุณกับความผูกพันก็คงต้องยอมรับว่าทางเดินของอั้มสำหรับช่อง 7 ค่อนข้างตีบตัน เนื่องจากไม่มีบทแปลกๆใหม่ๆ รวมทั้งพระเอกที่มีเคมีเข้ากันมาให้อั้มเลย ด้วยตลาดของช่อง 7 ที่ไม่ค่อยทำละครที่ให้คู่พระ - นาง เป็นคนที่แต่งงาน มีครอบครัวแล้ว ทำให้อนาคตของอั้มในการเป็นนางเอกสาววัยรุ่นค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ผิดกับช่อง 3 ที่ผลิตละครที่พูดถึงชีวิตของคนอีกวัยมากกว่า เปิดโอกาสให้พระเอกและนางเอกเป็นคนที่มีอายุเลย 30 ได้สบายๆ ประกอบกับมีพระเอกหลายคนของช่อง 3 ที่สามารถมาเข้าคู่กับอั้มได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็น “เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” , โฬม พัชฏะ นามปาน” , “สมาร์ท กฤษฎา พรเวโรจน์” “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” ซึ่งมีหลายเสียงเรียกร้องอยากเห็นอั้มแสดงคู่กับพระเอกเหล่านี้สักครั้งก่อนที่เธอจะอำลาวงการไป

ย้ายไปช่อง 3 เพื่ออนาคต
ถ้าพูดถึงอนาคตทั้งด้านการเงินและการงานก็ต้องยอมรับว่าการย้ายไปอยู่ช่อง 3 อาจจะสวยหรูกว่า ดูอย่างกรณีของ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ที่อยู่ช่อง 7 แล้วใกล้จะดับ พอย้ายมาอยู่ช่อง 3 ได้รับบทเรยา ในดอกส้มสีทองก็ดังเปรี้ยงปร้างจนฉุดไม่อยู่ ถ้าหากเป็นอั้มที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากอยู่แล้วแถมยังมีฝีมือการแสดงในระดับยอดเยี่ยม หากได้รับบทแปลกๆใหม่ๆ ที่ส่งให้โด่งดังก็ย่อมจะทำให้ชื่อเสียงของอั้มพุ่งขึ้นไปอีกระดับอย่างแน่นอน

อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องของเงินกินเปล่าที่นักแสดงระดับแม่เหล็กในสังกัดช่อง 3 หลายคนได้รับ ทั้งจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าและการออกงานอีเวนต์มากมาย ซึ่งหลายคนรู้ดีว่าได้รับเม็ดเงินมหาศาลยิ่งกว่าแสดงละครหากต้องเทียบกับเวลาและหยาดเหงื่อที่เสียไป ยิ่ง “พลากร สมสุวรรณ” จากช่อง 7 เพิ่งออกมาประกาศว่าดาราคนไหนที่เบี้ยวงานแสดงโดยรับงานอีเวนต์ซ้อนกับงานละครจะไล่ออกทันทีด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้อั้มลำบากใจเพราะตัวเองก็ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแม่อีเวนต์อยู่แล้ว จริงอยู่ที่ช่อง 7 ไม่มีทางที่จะลงโทษอั้มหากรับงานอีเวนต์ซ้อนงานละคร แต่ในฐานะพี่ใหญ่ที่อยู่มานานย่อมรู้สึกกระอักกระอ่วนหากมีกรณีที่ต้องไปอีเวนต์ในขณะที่กองถ่ายละครต้องเบรกกองรอ ทั้งๆ ที่ช่องประกาศห้ามรับงานซ้อนแล้ว สู้ไปอยู่ช่อง 3 ที่ไปอีเวนต์ได้อย่างสบายใจน่าจะเหมาะกับเจ้าแม่อีเวนต์อย่างอั้มมากกว่า

สำหรับงานละครที่หลากหลายและดูว่าน่าจะมีอายุยืนยาวกว่าห้ามเทียบกับช่อง 7 เพราะนักแสดงหลายคนที่แต่งงานมีครอบครัว รวมถึงมีลูกแล้วก็ยังสามารถกลับมาเล่นละครได้เพราะช่อง 3 มักจะมีบทรองรับเอาไว้เสมอ เมื่อหันไปดูช่อง 7 แล้วก็พบว่ามีดาราหลายคนที่เมื่อแต่งงานไปแล้วไม่สามารถกลับมาเล่นละครได้เพราะไม่มีบทที่เหมาะอย่างเช่น “กบ สุวนันท์ คงยิ่ง” ที่ต้องพักงานแสดงไปเลี้ยงลูกเพียงอย่างเดียวในตอนนี้

หรือนักแสดงอิสระจะเป็นคำตอบ?
ทางเลือกที่ใครหลายคนเชื่อว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับอั้มก็คือการไม่เซ็นสัญญากับค่ายใดทั้งสิ้น ปล่อยให้หมดสัญญาแล้วกลายเป็นนักแสดงอิสระ เลือกรับงานที่ตัวเองชอบได้จากทุกๆ ค่าย เช่นนี้แล้วนางเอกสาวคนสวยก็จะได้ไม่ต้องผิดใจกับช่อง 7 ที่ปลุกปั้นและสร้างมากับมือ อีกทั้งยังสามารถไปร่วมงานกับช่อง 3 (หรือช่องอื่นๆ) เพื่อพัฒนาฝีมือการแสดงและสร้างความหลากหลายในชีวิตการทำงานของตัวเองได้อีกด้วย

อั้มพูดออกมาเองว่า “เราไม่ค่อยมีเวลาให้กับละคร การเซ็นสัญญาอาจทำให้กระทบกระเทือนและเกรงใจ” ซึ่งอาจจะเป็นคีย์เวิร์ดที่บอกเป็นนัยๆ ว่าอั้มต้องการจะออกมาเป็นนักแสดงอิสระเต็มตัว เนื่องจากที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าอั้มมีผลงานละครออกมาน้อยลง โดยที่ในช่วงปี พ.ศ. 2548 อั้มมีผลงานละครออกมาถึง 4 เรื่อง ส่วนในปีอื่นๆ ก็มีงานละครออกมาไม่ต่ำกว่า 3 เรื่อง แต่ในปีนี้อั้มกลับยังไม่มีผลงานละครเลย แถมละครเรื่องล่าสุดอย่าง อุบัติเหตุ ที่ฉายในปี พ.ศ. 2555 ก็เป็นละครเพียงเรื่องเดียวของเธอที่เกิดขึ้นในปีนั้นอีกด้วย

กว่าที่ผู้จัดการสุดสัปดาห์เล่มนี้จะวางแผงก็คงจะมีความชัดเจนมากขึ้นสำหรับการตัดสินใจครั้งใหม่ของอั้มที่จะเปลี่ยนอนาคตของเธอไปพอสมควร แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนก็คือบรรดาแฟนคลับที่ยังคงรักนางเอกสาวคนนี้เสมอมา ไม่ว่าอั้มจะมีงานละครออกมามากหรือน้อยขนาดไหน หรือว่าจะอยู่สังกัดใดก็ตาม

.....................................................

ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 199 วันที่ 27 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม 2556


กำลังโหลดความคิดเห็น