xs
xsm
sm
md
lg

เมาท์สนั่น “เจนี่” ตุ๊กตาหน้ารถตัวใหม่ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมาท์แรงนางเอกซุป’ ตาร์ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” หวังรวยทางลัดยอมเป็นตุ๊กตาหน้ารถตัวใหม่ของ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” ทั้งๆ ที่ฝ่ายชายมี “ตู่ นันทิดา อัศวเหม” เป็นศรีภรรยามานานหลายสิบปีแล้ว ข่าวนี้แรงจนเจนี่สะอึกก่อนปฏิเสธหนักแน่นว่าเป็นไปไม่ได้ ยอมรับว่ารู้จักฝ่ายชายจริงแต่ไม่ได้นั่งรถหรือรับเงินจากชนม์สวัสดิ์แม้แต่บาทเดียว แต่ไม่มีมูลฝอย สุนัขก็ไม่ขี้ หลังจากเรื่องนี้แดงออกไปมีคนทยอยออกมาปูดข้อมูลในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นระยะๆ ท่ามกลางกระแสแอนตี้จากแฟนคลับว่าหากเจนี่มาคบชนม์สวัสดิ์จริงๆ บรรดาแฟนคลับทั้งหญิงชายคงพร้อมใจกันลงมติเลิกชอบและติดตามผลงานของนางเอกสุดฮอตคนนี้อย่างแน่นอน

ไม่รู้ว่าจะได้คุ้มกับที่เสียไปหรือเปล่า สำหรับนางเอกสาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ที่ตกเป็นข่าวล่าสุดกับทายาทนักการเมืองจอมเจ้าชู้ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” ทั้งๆ ที่เขาแต่งงานกับ “ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย” มานานหลายสิบปีแถมยังมีลูกที่โตเป็นสาวแล้วอีกต่างหาก แน่นอนว่าหลังจากเกิดข่าวลือแพร่สะพัดทุกคนย่อมอยากรู้ความสัมพันธ์ลึกๆ ระหว่างเจนี่กับเอ๋ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อนักข่าวเอาไมโครโฟนไปจ่อปากถามเจนี่ นางเอกสาวก็ตอบมาเพียงว่ารู้จักเอ๋มานานแล้ว แต่ไม่ได้ให้เขามารับมาส่งเพราะมีคนขับรถส่วนตัวและไปไหนมาไหนกับคนขับรถตลอด แถมยังไม่เคยให้ฝ่ายชายทุ่มเงินซื้อของโน่นนี่ให้ไม่อย่างนั้นตัวเองคงไม่ต้องตรากตรำทำงานหนัก 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ขนาดนี้

“เจนี่ทำงาน ดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าเจนี่อยากจะได้อะไรก็ต้องซื้อเอง เราดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ เลย มันทั้งหนักและเหนื่อยมาก ซึ่งพอเวลาได้ของพวกนี้มาแต่ละอย่าง อย่างเช่น บ้าน เจนี่จะภูมิใจมาก เงินทุกบาททุกสตางค์ พอเรามาอยู่เราก็สุขใจ มีความสุขจริงๆ เพราะมันคือหยาดเหงื่อของเรา เวลาเข้าไปบ้านทีไรเราจะสดชื่น เพราะมันเกิดขึ้น คิดว่านี่รู้มั้ยต้องร้องไห้กี่ซีนกว่าจะได้บ้านมา”

แต่โบราณว่าไว้ว่าไม่มีมูลฝอย สุนัขไม่ขี้ หลังจากที่ข่าวเมาท์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ลึกๆ ระหว่างเอ๋กับเจนี่แพร่สะพัดไป รายการข่าวบันเทิงทุกรายการก็นำไปรายงาน ที่แซบที่สุดคงจะเป็นรายการบันเทิง 108 ของช่องเคเบิลช่องหนึ่งที่มี “พจน์ อานนท์” เป็นพิธีกร ซึ่งคาแร็กเตอร์ส่วนตัวของพจน์ที่รายงานข่าวพร้อมทั้งจิกกัดไปตามเรื่องราวที่แอบรู้มา หลังจากเล่าข่าวนี้ไปตามหน้าที่พจน์ก็ทำเป็นเรียกชื่อตัวละครที่เจนี่แสดงผิดจาก “มุตา” เป็น “มุสา” นอกจากนั้นยังให้ข้อมูลต่อว่าแหล่งข่าววงในระบุว่าเห็นเอ๋ขับรถไปรับเจนี่ที่งานของบริษัทประกันชีวิตที่จัดขึ้นที่เมืองทองธานีอีกด้วย

จะว่าไปแล้วทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงก็เคยตกเป็นข่าวเรื่องรักซ้อนซ่อนเงื่อนจนกลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่มาแล้วในอดีต ไม่ว่าจะเป็นกรณีรักสามเส้า เราสามคนระหว่าง “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” - “ตู่ นันทิดา” และ “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” ที่คาราคาซังมานานหลายปี ในตอนนั้นตู่เลือกที่จะใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหวของสามีกับนางแบบสาว ซึ่งก็ใช้เวลานานหลายปีเลยทีเดียวกว่าที่เรื่องทั้งหมดจะเริ่มคลี่คลาย จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ตู่กับเอ๋ก็ยังคงมีทะเบียนสมรสเป็นปราการด่านสำคัญที่ทำให้สาวคนไหนที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นชู้เพียงสถานะเดียวเท่านั้น

สเปกส่วนตัวของ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ คือสาวในวงการที่เป็นนางแบบ โดยเฉพาะสาวขายาว หุ่นสูงชะลูดนั้นเป็นที่ถูกใจเอ๋ยิ่งนัก ดูจากสาวที่เคยเข้ามาพัวพันอย่างโย ยศวดี จนกระทั่งมาถึงสาวคนล่าสุดที่ตกเป็นข่าวอย่างเจนี่ที่ต้องยอมรับว่าเป็นพิมพ์นิยมของเขาเลยทีเดียว
ทางด้านฝ่ายหญิงก็ไม่น้อยหน้า ที่ผ่านมาเธอตกเป็นข่าว “แย่งแฟนชาวบ้าน” มาแล้วถึงสองครั้งติดๆ กัน ข่าวแรกคือการแอบคั่วไฮโซหนุ่ม “หมูตั้ง ม.ล. อรรถดิศ ดิศกุล” ในขณะที่ฝ่ายชายกำลังคบหาอยู่กับ “แอริณ ยุกตะทัต” ลือแรงถึงขั้นว่าเจนี่ชอบโทร.ไปหาแอริณแล้วพูดเย้ยว่าหมูตั้งอยู่กับเธอ ซึ่งตอนนั้นทั้งเจนี่และหมูตั้งต่างก็ออกมาประสานเสียงปฏิเสธว่าไม่มีอะไรในกอไผ่เป็นเพียงพี่น้องร่วมวงการที่สนิทกันเฉยๆ หลังจากนั้นไม่นานเจนี่ก็มีข่าวที่แซบกว่าเดิมนั่นคือการเป็นมือที่สามแทรกกลางระหว่างสาว “ผิง พิมพาภรณ์ ลีนุตพงษ์” กับ “บอย ภานุศักดิ์ เดชธีรศิริ” ที่ในตอนนั้นหมั้นหมายกันไว้อย่างแน่นอนแล้วว่าอีกไม่กี่เดือนต่อจากนั้นจะเข้าสู่พิธีวิวาห์ด้วยกัน แต่แล้วก็เกิดข่าวลือว่าเจนี่แอบดอดมากิ๊กกับบอยจนผิงรู้เข้าจึงต้องถอนหมั้นฝ่ายชายกะทันหัน

เรื่องราวระหว่างเจนี่กับผิงรุนแรงถึงขั้นที่ทั้งสองฝ่ายให้สัมภาษณ์จิกกัดกันเป็นระยะ เจนี่มีวลีเด็ด “ไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร ก็เลยไปแย่งของๆ ใครไม่ได้” เรียกว่าเป็นเหมือนสารท้ารบที่ส่งตรงไปถึงผิงจนสาวผิงควันออกหูต้องออกมาบอกว่าทุกคนรู้กันดีว่าเธอเป็นเจ้าของใคร แต่หลังจากนั้นไม่นานผิงก็ออกมาประกาศถอนหมั้นบอย และสวมคอนเวิร์สทางใครทางมัน โดยที่เจนี่เองก็ไม่ได้ประกาศคบหากับบอยแต่อย่างใด

พูดถึงสเปคของสาวเจนี่แล้วก็ต้องยอมรับว่าเธอเลือกที่จะคบหากับหนุ่มไฮโซบ้านรวยมาโดยตลอด นับตั้งแต่ “บั๊ด ลวรรณ แสงสนิท” หนุ่มคนแรกๆที่เจนี่ยอมเรียกว่าแฟนซึ่งคบหากันนานถึง 7 ปีเต็ม โดยในช่วงที่คบหาอยู่กับบั๊ด เจนี่ก็ได้ทรัพย์สมบัติจากฝ่ายชายไม่น้อย ทั้งบ้านโมเดิร์นสุดหรู รถยนต์ และสุนัขตัวโปรด(ในตอนนั้น) ก่อนที่จะแยกทางกันไป หลังจากนั้นเจนี่ก็มาคบหากับไฮโซตั้ม “สิริเกียรติ วาทะพุกกณะ” ซึ่งก็ถือว่าคบหากันนานอีกเช่นเดียวกัน

ต่อจากไฮโซตั้ม เจนี่ก็กระโดดมาซบไฮโซบอย “พลาวุธ ลิมปิวิวัฒน์กุล” ทายาทห้างแพลทินั่ม ซึ่งความสัมพันธ์เพิ่งมาจบลงเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าหนุ่มข้างกายของเจนี่ที่ผ่านมาทุกคนล้วนเป็นไฮโซหนุ่ม บ้านรวยด้วยกันทั้งสิ้น และเมื่อดูจากทรัพย์สินบางอย่างที่เจนี่เคยได้รับจากอดีตแฟนก็ต้องยอมรับว่าขัดกับคำให้สัมภาษณ์ที่ว่าเธอซื้อทุกอย่างมาด้วยตัวเองเสมออยู่พอสมควร

ตอนเลิกรากับไฮโซบอย เจนี่ให้เหตุผลว่าเพราะนิสัยที่เหมือนเด็กของฝ่ายชาย แบบนี้ก็ยิ่งตีกรอบสเปกของเจนี่ให้แคบลงมาได้อีกว่าต้อง “รวย มีทั้งชื่อเสียงและเงินทอง และมีความเป็นผู้ใหญ่” แบบนี้หนุ่มใหญ่อย่าง “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” ก็ถือว่าเข้าข่าย แต่ถึงอย่างไรเจนี่จะยอมตัดอนาคตตัวเองด้วยการยอมเล่นบทมุตาในชีวิตจริงเลยหรือ เรื่องนี้ก็ยังเป็นที่กังขาของใครหลายคน เพราะที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างให้เห็นกันอย่างชัดเจนว่าคนบันเทิงรายไหนที่เป็นชู้กับสามีชาวบ้านอนาคตในวงการล้วนดับวูบทุกราย มิหนำซ้ำบรรดาแฟนคลับที่เคยชื่นชมนับถือจะค่อยๆ หายไปทีละคนสองคน จนมารู้ตัวอีกทีก็เจอกระแสแอนตี้เต็มไปหมดจนยากที่จะทำงานต่อไปได้อย่างมีความสุข

ก็หวังว่าเจนี่จะชั่ง ตวง วัดผลดี ผลเสียที่เกิดขึ้นกับการยอมเป็นตุ๊กตาหน้ารถ เป็นความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวของคนรวยโดยแลกกับชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของตัวเอง หวังว่าประวัติศาสตร์คงไม่ซ้ำรอย และหวังว่าวลีเด็ด “ไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร เจนี่ก็เลยไมได้แย่งของๆใคร” จะไม่ถูกส่งไปหามาดาม “ตู่ นันทิดา” เหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับ “ผิง พิมพาภรณ์” ในอดีตที่ผ่านมา
............................................................

ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 198 วันที่ 20-26 กรกฎาคม 2556

กำลังโหลดความคิดเห็น