xs
xsm
sm
md
lg

“เอ” วิ่งโร่หาผู้จัด ขอละครให้ “ณเดชน์” หวั่นกระแสตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ซุป’ตาร์ กังวล “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ละครไม่ต่อเนื่อง จน “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ต้องวิ่งโร่ขอผู้จัดให้พระเอกแบรี่ ได้เล่นละครเพิ่ม เพราะหวั่นใจว่าแฟนคลับจะลืมหน้าหลงรักแต่คุณชายทั้ง 5 ในละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ เพราะหากจะนับเวลาของความคลาดเคลื่อนเอ คำนวณพลาดคาดว่าหนังคู่กรรมจะดัง แต่ไม่เปรี้ยงเท่า สรุปสุดท้ายรับอีเวนต์จนหาคิวลำบาก สุดท้ายละครทิ้งช่วงต้องวิ่งโร่หาผู้จัดในช่อง 3 หาละครให้พระเอกลูกรักเพิ่ม
 
นโยบายปั้นดาราออกมาเรื่อยๆของช่อง 3 จึงทำให้ละครแต่ละเรื่องที่ออกมาในช่วงหลัง แข่งขันกันเข้มข้น ชนิดที่เรียกว่า ดาราหน้าไม่ซ้ำกัน และแข่งขันกันที่บทบาทการแสดงและความฮอต หน้าดีบทไม่ดีก็ไม่ได้แจ้งเกิด อันนี้ยังคงใช้ได้ไม่มีเปลี่ยน และเพราะสุภาพบุรุษจุฑาเทพ พระเอกเด็กปั้นของช่อง 3 ทั้ง 5 คนจบลงไป แฟนคลับก็จับจองพื้นที่ความหล่อกันมาเรื่อยๆ ทำให้พระเอกที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันเข้ามานั้น ถูกจัดเรียงไว้มากหน้าหลายตา ไม่เพียงแต่บทบาทการแสดง ความฮอตและบทบาทการแสดงก็นับว่ามีส่วนสำคัญในการถูกจับลงละคร ซึ่งแน่นอนว่าละคร ซึ่งหมายรวมไปถึง การจัดคิวให้ลงละครในแต่ละเรื่องก็มีส่วนสำคัญในการคัดเลือกนักแสดงในเรื่องนั้นๆด้วย

สำหรับพระเอกซุป’ตาร์ขายดีเบอร์หนึ่งก่อนหน้านี้ อย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ก่อนหน้านี้มีหนังเรื่องคู่กรรม แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในแง่ของรายได้ หากแต่ก่อนหน้านั้น เอ ศุภชัย ก็ให้เหตุผลว่าสาเหตุที่ต้องลดงานละครของณเดชน์ และปฏิเสธ งานละครบางเรื่องไป เพราะว่าต้องให้เวลาเรียนกับ

ณเดชน์ เพราะเรื่องนี้ เออ้างว่าให้คำสัญญากับแม่แก้ว แม่ของ ณเดชน์ไว้แล้วว่า จะไม่ให้กระทบเรื่องเรียนในการรับงาน
“ข่าวที่บอกว่า เบรกงาน ณเดชน์ ให้รับละครปีละ 2 เรื่อง คือ อันนี้พี่ต้องแจกแจงก่อนว่า พี่เอ คุยกับน้องและคุณแม่น้อง ตั้งแต่ก่อนที่ น้องณเดชน์ จะเข้าวงการอีก ว่า พี่เอ เล็งเห็นถึงเรื่องของการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ เป็นเรื่องใหญ่ เพราะฉะนั้น พี่เอ ได้สัญญากับแม่แก้ว ว่า จะไม่ทำให้น้องเสียการเรียน พี่เอ จะรับงานทุกชิ้นก็รับได้ แต่ พี่เอ รู้สึกว่าความรู้มันติดตัวเราไปตลอดชีวิต ถ้าวันนึง ณเดชน์ ไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง แต่น้องไม่ได้เรียนหนังสือ พี่ว่ามันไม่แฟร์และไม่ดีกับตัวเรา ในฐานะของผู้จัดการ เพราะฉะนั้น หากเรียนก็จะสามารถรับละครได้ทีละเรื่อง แต่ถ้าเมื่อไหร่น้องเรียนจบ พี่เอ ให้โอกาสน้องรับละครได้ปีละ 2 เรื่องเลย 1 เรื่องเนี่ย ต้องใช้เวลาถ่ายทำนานมาก เฉลี่ยแล้วว่า สามารถทำงานได้แค่ทีละเรื่องเท่านั้นเอง คือ ถ้าได้ ก็อาจจะเป็นช่วงปิดเทอม แต่ก็อาจจะไม่มีเจ้าไหนทำได้นะครับ คิวปีหน้าของน้องเต็มแล้วครับ อาจจะมีช่วงว่าง ไว้รับงานการกุศลและงานฟรีบ้าง ...”

“เอ ศุภชัย” เคยบอกไว้อย่างนั้น แต่ตอนนี้คิวละครเกิดการผิดพลาด เพราะตั้งแต่จบละครเรื่อง “แรงปรารถนา” ในบทของ “พิทยา” กับ “สุอาภา” ประกบ “คิมเบอร์ลี แอน โวลเทมัส” ของผู้จัด “ดา หทัยรัตน์ อมตวณิชย์” แห่งบริษัท ละครไท จำกัด กำกับการแสดงโดย “ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์” ที่ต้องบอกว่าเรตติ้งของณเดชน์ก็ยังดีทีเดียวในเวลานั้น แม้ว่าการเข้าแทนที่ละครเหนือเมฆ 2 อย่างกะทันหันก็ตาม

ล่าสุด กับละครที่ณเดชน์ กำลังถ่ายทำอยู่ คือ “รอยฝันตะวันเดือด” ประกบกับ “ญาญ่า อุรัสยา สเปอร์บันด์” คู่ขวัญของณเดชน์อีกครั้ง ซึ่งเป็นซีรีส์เรื่อง The Rising Sun ต่อจาก รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ที่ “มาริโอ้ เมาเร่อ” และ “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” ในซีรีส์ชุดเดียวกัน และคิวของละครเรื่องรอยฝันตะวันเดือดมีคิวจะออกอากาศในต้นปีหน้า ซึ่งหากนับรวมกับ ก็จะเท่ากับ 1 ปี กันเลยทีเดียว งานนี้ณเดชน์ถึงกับยอมรับว่า กลัวแฟนคลับจะลืมหน้า พร้อมทั้งแก้ข้อกล่าวหาว่า เอาเวลาไปรับงานอีเวนต์ เจ้าตัวยืนยันว่าไม่จริง และส่วนใหญ่เอาเวลาไปเรียนและทำหนังสั้น ถ่ายภาพส่งอาจารย์มากกว่า ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เอ ต้องเดินสายไปเจรจากับผู้ใหญ่หลายต่อหลายเจ้า อยากให้ณเดชน์มีละครคั่นสักเรื่องให้แฟนคลับได้หายคิดถึง ส่วนจะค่ายไหนนั้นคงต้องรอฟังอีกครั้ง จะเป็นผู้จัดเจ้าใหม่ หรือเจ้าเก่า ก็ยังคงต้องรอลุ้น เพราะว่าก่อนหน้านี้พระเอกคนดัง คิวแน่น จนไม่มีเวลาลงละคร แต่ข้อครหา เด็กในสังกัดเอ ศุภชัยให้คิวยาก ก่อนหน้านี้ก็ทำให้เกิดกระแสว่า ผู้บริหารบางคนในช่อง 3 ไม่ปลื้ม ก็ไม่รู้ว่าหวยจะออกที่ณเดชน์หรือไม่ เพราะตอนนี้ห่วงโปรเจกต์หนังสั้นที่กำลังทำส่งเพื่อเรียนจบ หรือว่า เอาเวลาไปรับงานอีเวนต์ อันนี้เอ ศุภชัย คงรีบคุยผู้ใหญ่ที่สนิทสนมให้อีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตามณเดชน์ก็ยอมรับกลายๆว่า ในช่วงละครห่างกันก็ทำให้หวั่นใจว่าแฟนคลับจะลืมหน้าเนื่องจากไม่เคยมีช่วงเวลาของละครที่ห่างกันอย่างนี้มาก่อน ท่ามกลางการแข่งขันสูงของพระเอกในช่อง ที่มีตัวเลือกมากขึ้นทั้งในเรื่อง “ความสด” และ “ความฮอต” ของพระเอกอีกหลายตัวละครของช่อง 3 ในเวลานี้ อีกทั้งในเรื่องของคิว ที่แน่นอนว่าหลังจากนี้เป็นต้นไป ดาราที่หันมารับงานละคร แม้ยังไม่เป็นคำสั่งอย่างถาวรคล้ายกับช่อง 7 ที่ออกกฎว่าหากมีถ่ายละครห้ามรับงานอีเวนต์ก็ตาม คิวในการรับงานแสดงต้องมีเวลาและความยุ่งยากในการถ่ายทำค่อนข้างนาน ยิ่งในช่วงหน้าฝน ดาราจะต้องให้เวลากับกองถ่ายมากขึ้นอีกหลายคิว แต่วันนี้ณเดชน์ว่างแล้วจ้า คงจะได้สมใจแฟนคลับกับปีนี้ที่พระเอกต้องเคลียร์หลายข้อหาตั้งแต่ต้นปี ว่ากันว่าเรตติ้งโดนแย่งไปจากบรรดา 5 หนุ่มจุฑาเทพ ที่หลายคนก็แอบปันใจให้ “เจมส์จิ” หรือ “จิรายุ ตั้งศรีสุข” ไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร ณเดชน์ยังพร้อมและลับมือไว้เพื่อการละครอีกมาก และยืนยันว่าอีเวนต์รับปกติไม่ได้มากมายเสียจนไม่มีเวลาเล่นละครอย่างที่โดนเมาท์

“ความจริงแล้วก็เป็นพี่เอกับคนที่ช่องเขาพูดคุยกัน ความจริงไม่ได้มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรมาก ก็เป็นเพราะความเห็นของผู้ใหญ่เขาคิดเห็นตรงกันว่า ละครเรื่องไลซิ่งซันของผม ที่กำลังถ่ายอยู่คิวออกอากาศมีประมาณต้นปีหน้า ผู้ใหญ่เลยกลัวว่า เอ๊ะ มันจะทิ้งช่วงนานไปหรือเปล่า เลยมีการพูดคุยกันเกิดขึ้น สำหรับตัวผมเองแอบกลัวเหมือนกัน เพราะละครเรื่องล่าสุดของผมคือแรงปรารถนา ซึ่งมันผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว กลัวมันจะนานเกินไปเดี๋ยวแฟนคลับเขาจะลืมผมไปซะก่อน เพราะตอนนี้นักแสดงในช่องก็เยอะ การแข่งขันอะไรหลายอย่างก็สูงขึ้นเรื่อยๆ”

หากเปรียบฝีมือการแสดงของณเดชน์ก็คงไม่ยากหากจะหาละครลงอีกสักเรื่อง เพื่อไม่ให้คนลืม และวันนี้เขาพร้อมทั้งคิวและเวลา และการกลับมาทวงบัลลังก์ในครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ คลื่นลูกใหม่ในช่องที่เกิดขึ้นเป็นเงาตามตัวจะทำให้พระเอกซุป’ตาร์คนนี้กลับมาโด่งดังอีกครั้งได้หรือไม่ ต้องอดใจรอ เชื่อว่าฝีมือคงไม่แพ้ใคร ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังในเรื่องเรียนมากเท่าแต่ก่อน ผู้จัดคนไหนใจดีก็เรียกบริการใช้ได้ อีเวนต์ใดๆ ก็เว้นไปเพื่องานละครก่อนในเวลานี้เพื่อรักษาตำแหน่งแชมป์ให้ได้ ในยุคที่พระเอกหน้าใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวันในเวลานี้

.............

นอกจากเรื่องละคร โฆษณา พรีเซ็นเตอร์ ภาพยนตร์แล้ว หน้าที่หลักของณเดชน์อีกประการที่เจ้าตัวบอกว่าไม่ว่างานจะมากหรือน้อยก็ไม่ขอดร็อปเรียน เราะอยากจบภายใน 4 ปี ตอนนี้อยู่ ปี 3 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ที่เจ้าตัวมักจะหาเวลาว่างทำภาพยนตร์สั้นเรื่อง “หลงรักเลย” กับเพื่อน และตั้งใจจะไม่ให้การเรียนตกต่ำ และจัดสรรเวลาอย่างดี นอกจากนี้ หากแม้นว่าไม่มีเวลาในการเข้าเรียน ณเดชน์จะส่งใบลาและทำงานส่งและมีการพูดคุยกับอาจารย์ไว้ล่วงหน้าถึงภาระหน้าที่ต่างๆตามเหตุผลสมควร

อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องเรียนนั้น ณเดชน์เคยได้เกรดเฉลี่ยสูงสุดถึง 3.7 เจ้าตัวคาดหวังถึงเกียรตินิยม นอกจากนี้เพื่อนในห้องและรุ่นเดียวกันยังมีส่วนช่วยให้การเรียนของณเดชน์อีกด้วย ชีวิตมหาวิทยาลัยของณเดชน์จึงไม่แตกต่างไปจากเพื่อนคนอื่นๆ อีกทั้งความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ถือตัว ของเขายังทำให้เขาเข้ากับเพื่อนฝูง รุ่นน้องในคณะได้อย่างดีอีกด้วย

นอกจากฝีมือการแสดง แล้วณเดชน์ยังหาเวลาฝึกฝนการถ่ายทำภาพยนตร์ เรียนรู้มุมกล้อง และศาสตร์ด้านงานแสดงในหลายๆอย่างอีกด้วย รวมไปถึงการลงมือถ่ายภาพนางเอกคู่จิ้นทั้งในจอและนอกจอ อย่าง “ญาญ่า อุรัสยา” ในนิตยสารดัง โดยมี “ใหญ่ อมาตย์ นิติภาคย์” ช่างภาพคนดัง เป็นครูกิตติมศักดิ์ให้ การเรียนในชีวิตจริงของพระเอกคนนี้เขาคาดหวังถึงเกียรตินิยมเลยทีเดียวในความตั้งใจไม่แพ้การเล่นละคร ต้องมาตามดูว่า ฮอตพอๆกัน เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน และเล่นละครช่องเดียวกัน พี่น้องร่วมสถาบัน อย่างซุป’ตาร์ รุ่นพี่อย่างณเดชน์ จะครองตำแหน่งขวัญใจแฟนคลับผนวกกับรุ่นน้อง “เจมส์จิ” หรือไม่ เพราะสองคนนี้ทำเอานักศึกษาใหม่ วันปฐมนิเทศของมหาวิทยาลัยแทบแตกมาแล้ว หล่อด้วยรักเรียนด้วย หาไม่ง่ายในแวดวงบันเทิงไทย เพราะส่วนใหญ่ ดร็อปเรียนรับงานแทบทั้งสิ้น
 

ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 198 วันที่ 20-26 กรกฎาคม 2556



กำลังโหลดความคิดเห็น