“ก้อย” เคลียร์คิวว่าง จูงมือ “ตูน” เที่ยวมัลดีฟส์สองต่อสองฉลองวันเกิดย้อนหลัง เจ้าตัวบอกเสียดายวันเกิดของตูนที่ผ่านมาอดทำเซอร์ไพรส์ เพราะมัวยุ่งแต่งาน ส่วนเรื่องแต่งขออุบไว้ก่อน เผยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ควงกันไปดินเนอร์ฉลองวันเกิดครบรอบ 34 ปี ของฝ่ายชายแบบเงียบๆ สำหรับ “ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ” กับ “ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย” ซึ่งเจ้าตัวบอกปีนี้อดทำเซอร์ไพรส์ให้แฟนหนุ่ม เพราะยุ่งมากจนไม่มีเวลาเหมือนปีที่ผ่านมา ส่วนของขวัญปีนี้เป็นตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวมัลดีฟส์ หลังเคลียร์คิวของทั้งคู่ลงตัว
“แทบจะไม่ได้เจอกันด้วยซ้ำ เพราะว่าเราซ้อมละครเวที และมีละครต้องวิ่งไปวิ่งมาอย่างนี้ กว่าจะได้เจอกันก็เกือบจะข้ามวันเกิดเขาไปแล้วด้วยซ้ำ ปีนี้ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษอย่างที่บอกเพราะว่ายุ่ง แต่มีไปทานข้าวกันสองคน ด้วยความที่เวลาน้อย ปกติปีที่ผ่านๆ มาเราจะทำเค้กให้เขา แต่ปีนี้ไม่ทันจริงๆ ตอนไปทานข้าวที่ร้านแล้วสั่งเค้กเขาด้วย ก้อยก็เลยเข้าไปขอแต่งหน้าเค้กเอง ทางร้านก็ใจดี ให้เราแต่งหน้าเค้กเอง และก็เอาออกมาให้เขา ส่วนของขวัญ (ตั๋วเครื่องบิน) พี่เขาก็ถูกใจนะ เราทำงานหนักทั้งคู่ ก็แพลนไว้ว่าหลังละครเวทีที่ก้อยเล่นจบ และเขาเข้าห้องอัดเสร็จแล้ว เราจะไปเที่ยวทะเลกัน ด้วยความที่ก้อยมีตั๋วเครื่องบินเก่าที่เก็บไว้ ก็เลยเอาตั๋วเครื่องบินนั้นให้พี่ตูน ในตั๋วเครื่องบินเขียนว่าไปเชียงใหม่ แล้วขีดฆ่าเขียนว่าไปมัลดีฟส์ เป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่าหนูอยากไป และเขาก็บอกว่าไปเที่ยวกัน ก็คงจะไปหลังจากที่ก้อยเสร็จจากงานละครเวทีแล้ว เคลียร์งานให้เสร็จแล้วค่อยเดินทาง”
“เดินทางน่าจะเป็นช่วงปลายมิถุนายน ต้นกรกฎาคมค่ะ ไปสัก 3-4 วัน แค่ไปชาร์จแบตจะได้กลับมามีพลังมากขึ้นอย่างตอนนี้ เราก็ต่างคนต่างยุ่ง แต่เราก็พยายามหาเวลาเล็กๆ น้อยๆ ที่เราพอจะดูแลกันได้ อย่างการให้กำลังใจ คือมันเหนื่อยทั้งคู่เนอะ เวลาเจอกันมันก็อยากจะมีคำพูดดีๆ หรือว่าไม่ต้องพูดกัน แค่สิ่งที่เราทำให้กัน แค่นี้เราก็รู้สึกได้แล้วว่าเป็นห่วงกัน อาศัยความเข้าใจกันมากกว่า อย่างวันเกิดเขาเราเวลาน้อยพี่ตูนเขาก็เข้าใจ แต่กลายเป็นเราที่เสียดาย เพราะทุกปีเรามีเซอร์ไพรส์ เราจะทำโน่นทำนี่ แต่นี่เราทำอะไรไม่ทันเลย ก่อนหน้านี้เราได้บอกเขาไปแล้วว่าเราอยู่ด้วยไม่ได้นะ เขาก็เข้าใจ”
แย้มคบหาดูใจกันมา 4 ปี เริ่มมีพูดคุยเรื่องแต่งงานบ้างแล้ว ตอนนี้ต่างฝ่ายขอทำงานเก็บเงินก่อน บอกอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน
“เคยนั่งคิดเหมือนกันนะ เพราะเรารู้สึกว่าปีนี้มันกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 เหมือนเด็กมหาวิทยาลัยน่ะ ขึ้นปี 4 เราก็ลองคิดดูว่า ระยะเวลาที่เราคบกันมันนานไหม มันเร็วมาก แต่เราก็นึกถึงตอนที่เราอยู่มหาวิทยาลัย ตอนเราอยู่ปี 1 และกว่าจะถึงปี 4 เพราะฉะนั้นอนาคตถามว่ามีแพลนกันไหม ก็มีบ้าง แต่ว่ามันไม่ได้เป็นอะไรที่มีลายลักษณ์อักษร หรือเป็นคำพูดที่กำหนดหรือมีกฎเกณฑ์ที่มันตายตัว เพราะว่าทุกวันนี้เราก็ยังทำงานกันอยู่ ต้องรับผิดชอบงานแต่ละฝ่ายกันอยู่ เพราะฉะนั้นเรื่องที่ว่ามันจะมีวันนั้นไหม ก็อยากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ต่อไป ตอนนี้ก็หาเงินก่อน ดูแลกันไปก่อน”
“เวลานี้ก็ 4 ปีแล้ว เราก็ยังมีเวลาเรียนรู้กันไป คือไม่มีใครบอกได้ว่าสุดท้ายมันเป็นยังไงว่าจะเป็นคนนี้จริงๆ รึเปล่า เพราะอนาคตมันเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่สำหรับก้อย ณ วันนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือ เวลาที่เรามีเขาอยู่ มันก็เป็นเวลาที่ดีที่สุดแล้ว”