“เก้า จิรายุ” ไม่แคร์กระแสดร็อป ดังไม่สู้ “มาริโอ้” ดาราใหม่ๆ แซงหน้า บอกถึงแม้จะรับงานเยอะเท่ากันแต่ก็คงไม่ฮอตเท่า เผยมีคนติดต่อให้เล่นละครเป็นพระเอกแต่บทแก่เกินไปก็เลยไม่รับ บอกจะดังไม่ดังเป็นเรื่องของจังหวะเวลา
ก่อนหน้านี้ “เก้า จิรายุ ละอองมณี” เคยได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มน้อยที่น่าจับตามอง เพราะมีวี่แววท่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์รายต่อไป เมื่อก่อนค่าตัวไม่กี่หมื่นก็อัปขึ้นมาเป็นหลักแสน แต่จู่ๆ เจ้าตัวก็หายเงียบไปจากวงการในขณะที่มีดาราใหม่ๆ ฮอตแซงหน้าขึ้นมาอีกอาทิ “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” ที่ตอนนี้ฮอตติดลมบนไปแล้ว แม้แต่ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ที่ดังมาพร้อมๆ กันก็กลายเป็นพระเอกพันล้านหนังพี่มากพระโขนงไปแล้ว ในขณะที่เก้ายังไม่ได้แตะคำว่าซูเปอร์สตาร์ซักที
“ที่หายไปผมไปเรียนภาษาที่ประเทศอังกฤษครับไปเดือนเดียว การสื่อสารดีขึ้นครับไม่ได้คล่องแบบคนที่เก่งครับ สิ่งหลักๆ ที่ได้คือประสบการณ์และแรงบันดาลใจมากกว่าครับ รู้ว่ามันได้พักผ่อนที่เขาเรียกกันว่าการชาร์จแบตครับ เรียน 5 วันเหมือนเราใจจดใจจ่อกับการทำกิจกรรมมากกว่า คือเราได้เจอเพื่อนเยอะถึงเราจะไปเรียนที่อังกฤษแต่ที่โรงเรียนสอนภาษา เรามีเพื่อนจากทั่วโลก ก็จะทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ จากคนอื่นๆ ซึ่งเขามาจากทั่วโลก บางคนวัฒนธรรมเขาก็แปลกดีครับ เป็นช่วงเวลาที่ดีมีความสุขมาก ถามว่าอยากไปอีกไหมก็ดีนะครับแต่เวลาที่เราจะไปเรียน 1 เดือน ก็หาเวลายากครับ”
ยันไม่คิดเทียบชั้นเรื่องความดัง เจ้าตัวบอกเป็นเรื่องของจังหวะเวลา
“ผมว่าเรื่องของความดังอาจเป็นเรื่องของจังหวะเวลาครับ แล้วก็เป็นความพอใจความพร้อมของเรามากกว่าว่าพร้อมที่รับงานเยอะเหมือนเขาไหม ถึงผมจะรับงานเท่าพี่เขาก็อาจจะไม่ได้ดังเท่าพี่เขาก็ได้ ที่ผ่านมาก็มีละครติดต่อให้เป็นพระเอกละครแบบเต็มตัวก็มีบ้างครับ แต่ว่าแต่ละค่ายก็มีพระเอกของค่ายอยู่แล้ว แต่ด้วยตัวผมด้วยบุคลิกและวุฒิภาวะมันก็คงฝืนที่จะต้องทำ คือเคยมีเหมือนกันที่จะให้เราไปเล่นเป็นพระเอกวัยทำงานซึ่งตอนนั้นผมเด็กก็แค่ ม.5 เราก็คิดว่ามันฝืนไป มันก็เป็นเรื่องของจังหวะด้วยครับ”
เรื่องงานเรื่อยๆ ส่วนเรื่องรักก็เรื่อยๆ ยังไม่เลือกใครเป็นแฟนซักที
“ส่วนเรื่องแฟนยังไม่มีครับแต่ถ้าคนคุยก็มีมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว ก็ประมาณนึงแต่ว่ามีคนเดียวหรือเปล่าไม่แน่ใจ ซึ่งที่ผมพูดแบบนี้ไม่กลัวเขาน้อยใจเพราะเราเข้าใจกัน เราก็เคยมีประสบการณ์มาบ้างไม่ใช่เราเพิ่งคุยกับผู้หญิงตอนอายุเท่านี้ ซึ่งถ้าเราคาดหวังกับอะไรมากเกินไปเรารู้สึกว่า เรายังมีชีวิตอีกยาวไกลและยังเป็นวัยรุ่นอยู่ แต่ตอนนี้ก็คุยคนเดียว ถามว่าหัวใจว่างไหมก็ว่างครึ่งๆ เผื่อใจไว้ด้วย ผู้หญิงที่ผมประทับใจตั้งแต่แรกเห็นจะเป็นผู้หญิงแนวยิ้มแล้วอบอุ่นสามารถดูแลเราได้”
“ส่วนแม่ผมไม่ซีเรียสอยู่แล้วครับ เพียงเรามีความสุขและทำสิ่งที่ถูกต้องไม่ทำอะไรน่าเกลียดแม่ผมจะให้เกียรติการตัดสินใจตลอด อย่างเรื่องงานเรามีทะเลาะกันบ้าง แต่สำหรับเรื่องนี้ท่านก็จะปล่อยๆ ให้ผมตัดสินใจอยากจะคุยกับใครมันก็เป็นประสบการณ์ที่เราควรจะได้เรียนรู้ก็เหมือนกับเด็กวัยรุ่นทั่วไป แม่ผมเคยเจอทุกคนครับ เรื่องเจ้าชู้ผมว่ามันก็เป็นวิจารณญาณของทุกคน ผมก็เรียนรู้ไปอันไหนที่มันดูว่าเริ่มจะน่าเกลียดเริ่มดูว่าเจ้าชู้ไปหรือไม่ดีเราก็ควรกลับมามองตัวเองปรับปรุงตัวเองครับ”