มองต่างมุม สร้างชื่อไทยในแบบ "ชมพู่-ญาญ่าญิ๋ง"

แม้เทศกาลหนังที่เมืองคานส์ครั้งล่าสุดจะผ่านไปแล้ว แต่ดูเหมือนกระแสในบ้านเราจะยังไม่จบตาม โดยเฉพาะการไปสร้างชื่อให้กับประเทศไทยของ 2 นักแสดงสาว "ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต" กับ "ญาญ่าญิ๋ง รฐา โพธิ์งาม" ที่หลายคนต่างก็มองกันไปในหลากหลายแง่มุม

เริ่มกันตั้งแต่ในรายของสาว "ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต" ที่ได้ไปเยือนเทศกาลหนังที่ยิ่งใหญ่เทศกาลหนึ่งของโลกครั้งนี้ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ของผลิตภัณฑ์สินค้าแบรนด์ L'Oréal พร้อมกับคำโฆษณาที่ว่าเธอคือนักแสดงสาวคนแรกของไทยที่ได้ไปได้ไปเดินพรมแดงในเทศกาลหนังเทศกาลนี้

นั่นเองจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่สื่อฯ บ้านเราเองจะให้ความสนใจติดตามความเคลื่อนไหวของตัวเธอในเทศกาลหนังครั้งนี้มากเป็นพิเศษ ซึ่งทันทีที่เว็บไซต์แฟชั่นที่ชื่อ Redcarpet Fashion Awards ได้เขียนชมถึงการปรากฏตัวบนพรมแดงของนักแสดงสาวไทยว่าสวยราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ถึงขนาดที่มีข่าวลือออกมาว่าทำให้สองนักแสดงสาวชาวจีน "ฟั่นปิงปิง" และ "จางอีว์ฉี" ซึ่งมีฐานะเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ L'Oréal เช่นกันเกิดความอิจฉา อยากจะได้ชุดของนักแสดงสาวชาวไทยมาใส่บ้างเรื่องนี้จึงกลายเป็นประเด็นข่าวที่บ้านเราให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

แน่นอนว่าในความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ที่ได้รับทราบ "ข่าวดี" ข่าวนี้ สิ่งแรกก็คือความรู้สึกชื่นชมต่อตัวนักแสดงสาวซึ่งแม้จะไปในฐานะของพรีเซ็นเตอร์ของผลิตภัณฑ์ที่เป็นของต่างชาติ แต่หลายคนก็มองว่าไมว่าจะไปในฐานะอะไรเธอนั้นก็เปรียบได้กับตัวแทนของประเทศไทยคนหนึ่งที่ไปสร้างชื่อให้ประเทศอื่นๆ ได้รับรู้เช่นกัน

ตรงนี้เห็นได้ชัดจากการโหวตการแต่งตัวดีที่สุดประจำวัน ซึ่งปรากฏว่าได้มีแรงโหวตของคนไทยเข้าไปให้กับสาวชมพู่ในชุด salvatore ferragamo อย่างล้นหลามจนนำมาเป็นอันดับหนึ่ง 56% โดยมีนักแสดง-นักร้องเพลงป็อปสาวชาวจีนคนดังอย่าง "Li Yuchun" ที่สวมชุดของ Givenchy coutureตามมาเป็นอันดับที่ 2 ที่ 36%

แต่ด้วยผลโหวตของทั้ง 2 คนที่ค่อนข้างจะห่างจากคนอื่นๆ เป็นอย่างมากนั่นเอง (ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1% กับ 2%) ทำให้ทาง L'Oréal จึงได้ตัดชื่อของทั้งสองคนออกไป

อย่างไรก็ตาม จากเสียงชื่นชมก็ได้มีเสียงวิจารณ์ไปยังสาวชมพู่ไม่น้อยทีเดียวเมื่อเจ้าตัวต้องถูกยกไปเปรียบเทียบกับนักแสดงสาวชาวไทยอีกคนอย่าง "ญาญ่าญิ๋ง รฐา โพธิ์งาม" ที่ได้ไปปรากฏตัวบนพรมแดงในงานดังกล่าวในฐานะของหนึ่งในนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง Only God Forgivesพร้อมด้วยลีลาการไหว้แบบไทยๆ

โดยในหลายเสียงวิจารณ์นั้น บ้างก็ให้ความเห็นว่าสาวชมพู่นั้นสวยสง่าอยู่แล้วแต่มันคงจะดีกว่านี้มากๆ หากเธอเองได้แสดงออกถึงอะไรบ้างที่สื่อถึงความเป็นไทย เช่นเรื่องของชุด หรือแม้แต่การยกมือขึ้นไหว้ เหมือนกับสาวญาญ่าญิ๋งทำ ขณะที่บางส่วนก็ใช้อารมณ์ต่อว่าเธออย่างรุนแรง ว่าเธอลืมความเป็นไทย อยากจะเป็นฝรั่ง ฯ

ทันทีที่กลับมาถึงเมืองไทย เมื่อถูกสื่อซักถามถึงเรื่องที่ว่านี้สาวชมพู่ได้เปิดเผยว่าตนเองเตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะต้องมีเสียงวิจารณ์ในทำนองนี้เข้ามา พร้อมกับชี้แจงด้วยว่าสิ่งที่ตนแสดงออกและไม่ได้แสดงออกนั้นเป็นการทำไปอย่างมีสติ และย้ำว่าตนไม่ได้ลืมไปว่าตนเองเป็นคนชนชาติอะไร แต่ที่ทำไปก็เพราะบทบาทในอีกหน้าที่หนึ่งเท่านั้น
"เอาจริงๆ ประเด็นนี้เราคิดกันมาตั้งแต่แรกแล้ว เป็นสิ่งที่เราก็พูดกันตั้งแต่แรกว่าเราจะทำยังไงไม่ใช่เราไม่พูดกันไม่ใช่เราลืม สิ่งที่เกิดขึ้นที่พรหมแดงที่คานส์ไม่ใช่ว่าชมขาดสติหรือว่าชมไม่ได้ลืมไปแล้วว่าชมเป็นคนชาติดอะไร แต่มันเป็นเพราะว่าอยากให้ทำความเข้าใจว่ามันคือบทบาทที่แตกต่างกันออกไป แล้วมันคือสิ่งที่เราตัดสินใจแล้วไม่ใช่ว่าเราไม่อยากทำหรืออะไรแบบนั้นมันเป็นตอนนั้น อยากให้เข้าใจว่ามันเป็นหน้าที่ลักษณะนี้อาจจะไม่ถูกใจทุกๆ คนถามว่าเตรียมใจไหมกับประเด็นนี้ตอบได้เลยว่าเตรียมใจก็คิดว่าก็คงต้องมีอะไรออกมาอีกแล้วแต่ว่าก็อยากจะบอกว่าเราไปอีกหน้าที่หนึ่ง"

ทั้งนี้การชี้แจงของสาวชมพู่นั้นดูเหมือนว่าจะค่อนข้างชัดเจนและถูกใจใครต่อใครหลายคนเลยทีเดียว กระทั่งได้มีการนำภาพของเธอพร้อมกับข้อความบางส่วนมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค รวมถึงอินสตาแกรมของตนเอง อาทิ คนบันเทิง อย่าง ไอซ์ อภิษฎา, โมเม นภัสสร บูรณศิริ ฯ รวมถึงนักแสดงหนุ่ม "ซี ศิวัฒน์" ที่ได้โพสต์ข้อความต่อว่าไปยังคนที่เข้ามาต่อว่าสาวชมพู่ว่า..."ไม่เข้าใจจริงๆ สิ่งหนึ่งที่มันค่อนข้างเสียความรู้สึก และกวนใจผมมากที่สุดคือ ต่อให้ประเทศใดในโลกใบนี้เค้าดูถูกประเทศไทยมากแค่ไหน ก็ยังไม่เจ็บปวดเท่าคนไทยด้วยกันดูถูกและย่ำยีหัวใจกันเอง…แทนที่จะภาคภูมิใจ และร่วมยินดีกับคุณ“ชมพู่ อารยา” ที่เค้ามีความสวยเด่น ไม่แพ้สาวงามคนอื่นๆ ของต่างประเทศ หรือ ติด 1 ใน10 best dress แต่กลับตำหนิติเตียนในสิ่งที่ไม่เห็นต้องเอามาเป็นประเด็น คนเราถ้าต้องไปยืน ณ จุดๆนั้นมันมีอะไรมากกว่าที่คุณคิดไว้มากมายนัก

ไม่ใช่ผมไม่เห็นความสำคัญของวัฒนธรรมไทย แต่ผมแค่ไม่เห็นความจำเป็นต้องชี้นำให้เป็นประเด็นรุนแรง “หรือ ต้องให้ขี่ช้างแล้วถือชามต้มยำกุ้งเข้างานด้วย”นี่คือความเห็นแก่ตัวของกลุ่มคนบางกลุ่มที่พร้อมจะเหยียบย่ำพร้อมจะทำลาย เพื่อให้ตัวเองสำเร็จ แม้ว่าจะทำให้ผู้ถูกกล่าวถึงนั้นเสียความรู้สึกก็ตาม คุณคิดจริงๆหรือว่า คุณชมพู่ อารยา ลืมความเป็นตัวตน? ลืมความเป็นไทย? หรือ…ไม่ได้คิดอะไรหรอกแค่อยากให้เป็นประเด็น…ถ้าเป็นเช่นนี้ “คุณเองก็คงลืมไปว่าคนเราก็ต้องการกำลังใจ” #ผมอยากบอกว่าแม้คุณเองเป็นคนไทย เหมือนคุณชมพู่ อารยา #แต่มันต่างกันตรงที่ว่าเค้าสร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยมากกว่าคุณ!!” –ขอเป็นกำลังใจให้พี่ชมเสมอ ผมคนนึงที่ชื่นชมและภูมิใจในความสามารถของพี่ชมเสมอมาครับ

นอกจากคำตอบของสาวชมพู่ที่ถูกใจคนหลายๆ คนแล้ว ดูเหมือนว่าทางฟากคำพูดของญาญ่าญิ๋งเองที่เจ้าตัวได้โพสต์ลงอินสตาแกรมถึงความรู้สึกที่ได้ไปร่วมงานที่เมืองคานส์มาก็ได้มีหลายคนนำมาฟอร์เวิร์ดผ่านโลกออนไลน์ด้วยเสียงชื่นชมในความคิดของเจ้าตัวกันเช่นกัน

โดยข้อความนั้นมีว่า..."เสร็จสิ้นภารกิจรอบสื่อกับภาพยนตร์ Only God Forgives ที่เมืองคานส์เรียบร้อยไปเมื่อวาน หญิงอยากบอกทุกคนว่า การมาครั้งนี้ไม่ใช่แค่หญิงที่เป็นนักแสดงไทยในเรื่องนี้คนเดียว ยังมีพี่ปู วิทยา ปานศรีเอี่ยม ที่ทำหน้าที่นักแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม เราสองคนไม่ได้มาในฐานะนักแสดงไทยในต่างแดนเท่านั้น หญิงคิดเสมอว่าการก้าวไปครั้งนี้ถ้าชีวิตนี้เราไม่ได้เกิดเป็นทหารหญิงถือปืนคอยปกป้องประเทศ ในฐานะที่เกิดเป็น “หญิง” เราพอจะทำอะไรบ้างเพื่อประเทศของเรา หญิงหอบเอาความรัก ความเคารพ ความเป็น “เรา” ในฐานะนักรบ-นักแสดงไทยในพรมแดงค่ะ...ดีใจที่ได้เกิดอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาณนะคะ"

อย่างไรก็ตามก็ยังมีบางส่วนที่ได้นำเอาคำตอบของทั้งสองนั้นมาเปรียบเทียบกัน พร้อมกับแสดงความเห็นที่แตกต่างกันไป ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยที่บางคนก็ยกตัวอย่างไปถึงการแสดงถึงความเป็นไทยผ่านแวดวงกีฬาด้วยการไหว้ที่ทำให้คนประเทศอื่นชื่นชมและจำภาพนักกีฬาชาวไทยได้เป็นอย่างดี อาทิ ในรายของ "น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์" นักแบดมินตันชื่อดัง หรือแม้กระทั่งอดีตนักเทนนิสชื่อดังของไทย เจ้าบอล "ภราดร ศรีชาพันธุ์" กันเลยทีเดียว

แต่ถึงแม้จะมีมุมการมองที่แตกต่าง แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ตั้งอยู่บนความปรารถนาดีที่อยากให้ต่างชาติมองประเทศไทยอย่างชื่นชมเหมือนๆ กันอย่างแน่นอน
...


ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศhttp://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก