ทางโลกไร้ที่ยืน "แจ๊ส ทิฟฟานี่" ลาบวชชั่วชีวิต

จากเด็กหัวโปกสู่เวทีมิสทิฟฟานี่ ปี 2009 สรวีย์ รวีรัฐฐากรณ์ หรือ "แจ๊ส - สรวีย์ นัดที" ฉีกคาแรกเตอร์ "สาวงามประเภท 2 แอ๊บแบ๊ว" มาเป็น "นางแบบ" ผู้มาดมั่น สวยคม อยู่บนเวทีประกวด แต่กลับไม่สามารถต่อยอดรายได้และงานต่างๆอย่างนางงามคนอื่น ความตรงและจริงจังเกินไปตามประสา "คนใต้" กลายเป็นเรื่องที่สังคมนางงามเพศที่ 3 ร้อง "ยี้" และ "ไม่มีใครเอาเข้าพวก" !!
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีแต่ข่าวเกาเหลากับสาวงามเพศที่ 3 สไตล์ "สวยใส" รวมถึงข่าวสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พระเอก อ. "อ๊อฟ" ชนะพล สัตยา ด้วยเป็นคนพื้นเพเดียวกัน ปิดท้ายด้วยการไปนั่งแฉในรายการ "คนดังนั่งเคลียร์" ในประเด็นล่อแหลม จนคนทั้งวงการรุมด่า ... อำลาวงการ หลังเครื่องสำอางทำพิษ หน้าพัง จนต้องหนีหลบหน้าไปปลงสังขารจนเห็นความไม่เที่ยง ในวัดแห่งหนึ่งที่นครราชสีมา ... วันนี้ถอดนม ... วางเต้า ตัดสินใจบวชตลอดชีวิต หวังให้ร่มกาสาวพัสตร์ เป็นจุดยืนชุบชีวิตใหม่ ...

แจ๊ส สรวีย์ไม่ใช่สาวงามประเภท 2 เดินสายประกวดอย่างเช่นคนอื่นๆที่นิยมทำกัน เธอเริ่มประกวดบนเวทีครั้งแรกกับ "หนุ่ม G Star" ในฐานะ "นางงามหัวโปก" จากนั้น ... หนุ่มก็เป็นคนพาเธอไปประกวดต่อบนเวที "มิสทิฟฟานี่" กฎระเบียบการประกวดสาวงามประเภท 2 นั้น ข้อหนึ่งคือ ผู้เข้าประกวดยังต้องมีองคชาติอยู่ครบ !! ซึ่งศัพท์ในวงการเรียก อวัยวะส่วนเกินนี้ว่า "งู" แต่ถ้าคนใดเฉาะ เชือด เฉือน "งู" ทิ้งก็จะไม่มีสิทธิลงประกวด และผู้ได้ตำแหน่ง ทุกเสาร์ - อาทิตย์ต้องมาโชว์คาบาเรต์เป็นระยะเวลา 1 ปี

ปีนั้น ... การประกวดมิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส 2009 หมายเลข 26 สรวีย์ นัดที อายุ 20 ปี ชาวสงขลา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะศิลปศาสตร์ ของ ม. ราชภัฏสวนสุนันทา เป็นผู้ชนะเลิศ ได้รับเงินสด 1 สนบาท , รถยนต์ ฮอนด้าแจ๊ซ 1 คัน พร้อมสายสะพายและถ้วยรางวัล นอกจากนี้ เธฮยังได้รางวัล แต่งกายงามอีกด้วย บนเวที ต้องบอกว่า แจ๊ส สรวีย์ ได้ฉีกขนบเดิมจาก "นางงาม" เป็นลุคอย่าง "นางแบบ" ที่สวยคม มาดมั่นอยู่บนเวที และมีความโดดเด่นมากบนเวทีประกวด เมื่อได้ตำแหน่ง !! เธอเป็นมิสทิฟฟานี่ เพียงคนเดียวที่ไม่สามารถปฏิบัติงานโชว์ ทุกเสาร์ - อาทิตย์ อย่างนางงามคนอื่น เพราะติดเรียนอยู่

ความตั้งใจของเธอนั้น ใฝ่ฝันการเป็นนางแบบ และดีไซเนอร์เป็นที่สุด !! ตอนจบปริญญาตรี เธอลงทุนด้วยเงินเหยียบแสนเพื่อออกแบบชุดอลังการเพื่อส่งงานอาจารย์ และผลงานทั้งหมด "หนุ่ม G Star" เป็นคนซื้อไปใส่หุ่นโชว์อยู่ที่หน้าร้าน G Star ... ความที่เธอมีลุคของนางแบบมากกว่านางงาม เพราะฉะนั้นการต่อยอดในแง่การทำงานจึงไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นมากนัก ผิดกับสาวงามรุ่นพี่อย่าง "ปอย" ตรีชฎา เพชรรัตน์

ผลงานของเธอในด้านพิธีกรช่องเคเบิล ได้แก่ รายการเฟิร์สคลาส , รายการ ครบเครื่องเรื่องสวย by แพรว ไอดิน สปาช่อง MV 5 และ MV news และ I channal , การแสดงมีบทบาทเล็กน้อยในเรื่อง "คุณพ่อหวานแหว๋ว" (ช่อง 7) และ คุณชายติดหรู คุณหนูติดดิน (ช่อง3) และผลงานภาพยนตร์ VCD เรื่อง "สามกิ๊กจุ๊กกรู" ของเทิดไท้ภาพยนตร์ เท่านี้เอง

แม้การเป็นดีไซเนอร์จะเป็นความฝันสูงสุดของเธอ แต่หนุ่ม G Star บอกเธอว่า อาชีพนี้ต้องมีเงินทุนหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ระหว่างการไต่เส้น เธอได้คุยและกำลังจะไปเป็นนางแบบในสังกัด อีลิทโมเดล

แล้วจู่ๆ เธอก็หันหลังให้กับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวงการบันเทิง หรือ ความฝัน !!

แหล่งข่าวชาวเกย์คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า "แจ๊สเป็นคนใต้ มีความเป็นนักเลงอยู่ในสายเลือด การพูดการจาของเธอไม่ได้แอ๊บอย่างนางงามคนอื่น ไม่ต้องสร้างภาพสวย และที่สำคัญ ไม่ได้เกิดมาเป็นกะเทยชะนีตั้งแต่เด็กเหมือนกับปอย ตรีชฎา เขาเป็นกะเทยหัวโปกมาก่อน เมื่อตอนที่แจ๊สเพิ่งจบ ม.6 ใหม่ๆ ยังแต่งบอยอยู่เลย ซึ่งโดยโครงหน้าของเขาแล้ว เรียกว่าเป็นเกย์หล่อ ดูดี แล้วโครงหน้าแบบนี้ เมื่อแต่งหญิงก็จะสวยแปลก"

ในขณะที่กลุ่มนางงามประเภท 2 ที่เกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น แต่เธอถูกหมายหัวให้ "โดดเดี่ยว" จากวงการ และปัญหาหนึ่งที่ถือว่า เป็นข้อผิดพลาดมาก คือ การแฉที่ไปสะดุด "ตอใหญ่" !!

ไม่ว่าจะไปที่เรื่องราวกับ เจ้าแม่กะเทยสวยเสมอหญิงอย่าง "ปอย" ตรีชฎา เพชรรัตน์ รวมถึง "ฟิล์ม" ธัญญารัศมิ์ จิราภัทร์ภากร และเอมมี่ รัชฎา ครุฑรามาศ ไปจนถึงชิดเชื้อกับพระเอก อ. ช่อง 7 สี ซึ่งหมายถึง "อ๊อฟ" ชนะพล สัตยา ซึ่งทั้งคู่รู้จักกัน สมัยที่อยู่สงขลา ก่อนที่ "อ๊อฟ ชนะพล" จะเข้ามาประกวดดัชชี่บอย

ในวงการทิฟฟานี่ด้วยกัน ย่อมรู้ว่า ใครอย่าไปวัดรอยเท้ากับ "ปอย" ตรีชฎา เป็นอันขาด เนื่องจากเธอเป็น "ลูกรัก" ของ "จ๋า" อลิสา พันธุศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิฟฟานี่โชว์ ทั้งนี้เพราะ ปอย ตรีชฎาเป็นมิสทิฟฟานี่ระดับตัวท็อปที่สร้างชื่อเสียงให้กับอัครสถานทิฟฟานี่แห่งนี้ ในประเทศ เธอมีผลงานมาก ทั้งงานโฆษณา, มิวสิกวิดีโอ, ละคร, ภาพยนตร์, พิธีกร และอีกสารพัด ยิ่งยามที่เธอต้องไปโชว์ตัวในต่างประเทศนั้น เธอเป็นยิ่งกว่าดารา มีแต่คนห้อมล้อม เพราะเธอมีส่วนสำคัญที่ทำให้ชาวต่างชาติได้รู้จักทิฟฟานี่ แล้วประการสำคัญ "ปอย ตรีชฎา" รู้จักสร้างภาพเพื่อรักษาภาพลักษณ์ได้อย่างดีเยี่ยม

รายการสุดท้ายที่ "แจ๊ส" สรวีย์ไปออกรายการคือ "คนดังนั่งเคลียร์" ของ Starmax Channel ที่มียิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ เป็นพิธีกร พูดหลายเรื่องที่เป็นการแฉโหด เสียดและเสียบเข้าไปในวงการกะเทยแบบไม่ต้องสร้างภาพ เรื่องกะเทยขายตัว เรื่องคนระดับใหญ่โตในบ้านเมืองที่เคยทาบกะเทย เป็นเรื่องที่วงการเกย์ กะเทยต่างรู้กันดี แต่ไม่มีใครกล้าเอาเรื่องนี้มาแฉผ่านสื่อ เพราะเกรงจะกระทบต่อวงการโดยส่วนรวม แต่เธอกล้า !! ความจริงในข้อนี้ ทำให้บรรดากะเทยแอ๊บหลายคนรับไม่ได้
เพราะฉะนั้น ... หลายเรื่องราว จนถึงบรรทัดนี้ เธอก็ไม่ต่างจาก "แกะดำ" ที่แตกกลุ่ม ผิดเหล่า จนไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย

ในช่วงที่เธอหายหน้า หายตาไปในระยะหลัง เพราะว่า แพ้เครื่องสำอางจนปรุเละเทะไปทั้งหน้า จึงหลบไปถือโอกาสพิจารณาชีวิตและความไม่เที่ยงที่วัดแห่งหนึ่งใน จ. นครราชสีมา ซึ่งถือว่าเป็นระยะเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ จนตัดสินใจเบนเข็มชีวิต เปลี่ยนที่ยืนใหม่ จนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ในเวลาต่อมา
นายวรวีย์ นัดที ตัดสินใจเอาซิลิโคนออกจากทรวงอก ส่วนองคชาติก็ยังอยู่ครบ เพราะยังไม่มีการเฉาะแต่ประการใด !!

ผ่านการขานนาค เข้าสู่พิธีอุปสมบทที่วัดเลียบ เขตเทศบาลนครสงขลา อ. เมือง จ. สงขลา ได้รับฉายา "พระมหาวิริโยภิกขุ" ซึ่งมีความหมายว่า ผู้มีความเพียรยิ่งใหญ่ โดยวัดแห่งนี้มี พระอุตตมวาทีภิกขุ เป็นเจ้าอาวาสโดยพระมหาวิริโยภิกขุ มีความประสงค์ที่จะบวชตลอดชีวิต เพื่อศึกษาและปฏิบัติธรรม
................................................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 189 วันที่ 18-24 มิถุนายน 2556