น้ำหวานเป็นพิษ ฮอตข้ามเดือน! “จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ” สามีของ “หนิง ปณิตา พัฒนาหิรัญ” แอบปันใจให้ไฮโซสาว “น้ำหวาน วรพรรณ เพชรนันทวงศ์” ตัวละครเริ่มเยอะ แต่แล้ว “ตั้ม สมประสงค์ สิงหวนวัฒน์” ออกมาเฉลยความจริงให้ ยันจินบอกว่าเลิกเมียแล้วจริง ด้านหนิงนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ไม่แถลงนั่งแท่นบัญชาการผ่านอินสตาแกรม ด้านจินกระต่ายขาเดียวขอโทษรับผิดทุกอย่างแล้วพาเมียลูกหนีข่าวเที่ยวทะเล ศึกนี้มันเสียดแทงใจ ไม่รู้ว่าให้อภัยหรือจำใจทนเจ็บ มหากาพย์ขาเตียงสะเทือนที่ปวดไปทั้งกายใจของหนิง แต่นิ่งสยบความเจ็บปวด แถมจินยังโทร. หาน้ำหวานไม่เลิก
เรื่องราวความรักของเขา เราสามคน เรื่องผัวๆ เมียๆ ที่มีบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้องด้วย และเริ่มชัดเจนเห็นทิศเห็นทาง เมื่อตัวละครเพิ่มขึ้นแล้วได้รับผลกระทบอย่าง “ตั้ม สมประสงค์ สิงหวนวัฒน์” นักร้องชื่อดังที่โดนลากมาพาดพิงด้วย เนื่องจากภรรยาของนักร้องดังคือเพื่อนสนิทของไฮโซน้ำหวานที่อยู่กลุ่มเดียวกันมาก่อน อีกทั้งตั้มเองก็มีความสนิทสนมกับ จิน เป็นอย่างดีและอยู่ในเหตุการณ์วันที่จินประกาศว่าเลิกรากับหนิงต่อหน้าเพื่อนอีกหลายคน ก่อนที่จะลงมือปฏิบัติการจีบไฮโซน้ำหวานตั้งแต่นั้นมา
“ตั้ม สมประสงค์” ออกรายการคนนั่งเคลียร์ เปิดใจถึงเรื่องราวหลายๆอย่าง อีกทั้งลูกสาววัย 13 ปีที่ทราบข่าว ไม่พอใจกับกรณีที่พ่อมีข่าวเป็นคนติดต่อไฮโซน้ำหวานให้กับสามีของดาราดังอย่างหนิง ปณิตา อีกทั้งก่อนหน้านี้ ตั้มมีการโพสต์รูปปืนขึ้นในอินสตาแกรม แต่เขายืนยันว่าไม่ได้ขึ้นเพื่อเป็นนักเลงและไม่ต้องการยิงใคร หากแต่ว่าเรื่องนี้ตนโดนวิพากษ์วิจารณ์ โพสต์ด่าเสียหาย จนต้องออกมาพูดความจริงว่าไม่ใช่พ่อสื่อที่ทำให้ครอบครัวของใครแตกแยก จึงเหมือนกับการ “แฉ” โดยสุจริตว่า เขาและเพื่อน รวมทั้งภรรยาอยู่ในเหตุการณ์ด้วยในวันที่จินบอกถึงสถานะของครอบครัวที่ได้ยินสองหูว่าหย่าขาดกับหนิงแล้วซึ่งเป็นวันเดียวกับที่น้องสาวหนิงได้ฤกษ์หมั้นตอนตี 3 พอดิบพอดีแต่ไม่เป็นข่าว และนับจากนั้นเป็นต้นมาสัมพันธ์ของจินและไฮโซน้ำหวานก็สานต่อขึ้นซึ่งไม่ได้หมายความว่าตั้มคือพ่อสื่อ
หลังจากข่าวครึกโครมแน่นอนว่าจิน รู้อยู่แล้วว่ากรณีดังกล่าวตัวเองนั้นผิดเต็มๆ อีกทั้งมีพยานหลักฐานชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ของตนและไฮโซน้ำหวานนั้นเริ่มขึ้นในขณะที่หนิงท้องใกล้คลอด
“ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งครับ เรานัดมาเจอกันที่โรงแรมฮันซ่า เพียงแต่ครั้งนี้ผมไม่ทราบว่าจะมีใครมาบ้าง ซึ่งพอผมไปถึงที่ผมก็เจอจินนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว พอเห็นแบบนั้นในใจผมก็คิดเลยว่าเอาล่ะ และผมยืนยันได้เลยครับว่าผมถามคำนี้กับจินจริงๆ ว่า ...จินเรื่องครอบครัวจินตกลงมันเป็นยังไงเนี่ย เพราะถ้าจินโสดพี่จะไม่ว่าเลย แต่เผอิญจินมีลูก มีภรรยาแล้วและลูกเพิ่งจะคลอดด้วย จินมาทำแบบนี้แล้วเดี๋ยวเป็นเรื่องจะทำยังไง" ซึ่งคำตอบจากปากจินตอนนั้นพวกเราได้ยินหมดเลยคือเขาบอกว่า "ผมแยกกันอยู่กับหนิงซักสักหนึ่งแล้ว"..” ตั้ม สมประสงค์เอ่ยชัดเจนถึงคำพูดดังกล่าวซึ่งมัดตัวจินหนาแน่นทีเดียว
ส่วนไฮโซน้ำหวานยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ไม่ทราบมาก่อนว่า จินมีภรรยาและแต่งงานแล้ว แม้ว่าจะมีคนไม่เชื่อแต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่า “โดนหลอก” ( “หลอกจริง” หรือ “รู้ว่าเขาหลอก” โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟัง) อีกทั้งเพราะการพูดของจินต่อหน้าหลายคนวันนั้นทำให้เชื่อว่า ฝ่ายชายเลิกกับหนิงแล้ว จึงสานสัมพันธ์แต่ยืนยันว่าในฐานะเพื่อนแม้ว่าจะมีภาพความสนิทสนมที่หลุดออกมาเป็นระลอกๆกับจิน อีกทั้งมีพยานปากเอกอย่างตั้มยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าไม่เคยคิดทำให้ครอบครัวใครแตกแยก แต่พอคบได้ซักระยะ ความจึงมาแตกว่าแท้ที่จริงแล้วจินกับหนิงยังไม่ได้หย่าขาดจากกัน ความสัมพันธ์จึงเริ่มถอยห่างออก
ฝ่ายหนิงนั้น เดิมทีเดียวจะมีการแถลงข่าว แต่ทว่า การแถลงข่าวดังกล่าวยุติลง พร้อมกระแสข่าวที่ว่าหนิงหนีเข้าโรงพยาบาล ท่ามกลางการโพสต์ผ่านอินสตาแกรมว่าให้อภัยสามีและพร้อมเริ่มต้นใหม่ แต่เพราะน้องสาวหนิง ชื่อ “แนน” ที่โพสต์ข้อความพาดพิงถึงฝ่ายตรงข้ามดุเดือดจึงทำให้เกิดปะทะเดือดทางอินสตาแกรมร้อนแรง และอยู่ในความสนใจของคนในสังคมมานานหลายสัปดาห์ ฝ่ายหนิงเองคล้ายยอมรับตำแหน่งเมียหลวง ไปโดยปริยาย เพราะเจ้าตัวนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ใช้อินสตาแกรมเป็นแท่นเมียหลวง ทั้งหนิงตัวจริงตัวปลอม ลงมติไฮโซน้ำหวานมายุ่งกับผัวตนแน่นอน
หัวอกเมียหลวง ปกป้องสามีแต่ก็ไม่รู้ว่าในใจลึกบอบช้ำมากน้อยเพียงใด เพราะหากไล่เรียงดีๆ กรณีนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ท้องใกล้คลอดเต็มแก่ ไฮโซน้ำหวานยืนยันว่าทันทีที่ทราบว่าจินมีลูกมีเมียแล้วก็ถอยห่างทันที แต่จินยังคงโทร.หาแม้ว่าตนจะเดินทางไปอเมริกาแล้วก็ตาม แต่ตนไม่ยอมรับสาย ฟังแล้วไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เพิ่งเริ่มต้นหรือเพิ่งจบ เพราะฝ่ายชายก็โพสต์อินสตาแกรมสเตตัสว่าขอโทษทุกฝ่ายยอมรับผิดเอง แต่ดูเหมือนว่า เรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นสวนทาง เนื่องจากจินก็ยังคงพยายามติดต่อทางไฮโซนำหวานอยู่เหมือนเดิม
ตอนสมัยกิ๊กของเพื่อน หนิงยังตามไปช่วยตบเมียน้อยด้วยเกือบทุกงาน พอถึงคิวตัวเองก็มีน้องสาวตัวเองที่คอยช่วยเหลือ แต่ทว่างานนี้ยังไม่มีคลิปจากฝ่ายใดหลุดออกมา เหตุผลในการเปลี่ยนใจไม่แถลงข่าว อาจเพราะไม่อยากตอบและไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด หนิงจึงเลือกโพสต์ภาพลูกและสามีแทนคล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกแง่มุมหนึ่ง โวยวายไปก็ไม่เป็นผลดี เรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก คนแรก หากแต่ก่อนหน้าการแต่งงานของทั้งคู่ จินก็เคยมีข่าวกับแม่ของลูกอีกคนหนึ่งมาก่อน โดยจิน บอกว่ามีเหตุที่เกิดจากการผิดพลาดในอดีตจนมีลูกกับสาวอีกคนหนึ่งจริง ความหวานที่ก่อตัวก่อนช่วงแต่งของหนิงและจิน ช่างสวนทางกับข่าวที่ออกมามากนักในตอนนี้ จึงอาจทำให้ข่าวขาเตียงสะเทือนของหนิงและจินได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ อีกทั้งคู่กรณีก็มีข่าวติดร่างแหเรื่องคบแฟนชาวบ้านบ่อย จึงทำให้เรื่องนี้คอข่าวบันเทิงโก่งคอสนใจมาตลอด
ที่นิ่งเงียบอยู่นี้ ทั้งสองฝ่ายก็มีข้อมูลของกันและกัน เพราะต่างก็เสียหายทั้งคู่ แม้ว่าแม่ของคู่กรณีจะออกมาด่าฝ่ายชายมากกว่าโจมตีฝ่ายเมียหลวง แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายก็จะมีหลักฐานที่สามารถฟ้องร้องกันได้ตลอดเวลา ส่วนความผิดของสามี หนิงตั้งกฎไว้ว่าได้ “กี่ครั้ง” เท่านั้นสำหรับการให้อภัยต้องรอนางออกมาเปิดใจ ว่าท้ายที่สุดแล้วเธอทำใจไว้อย่างไร และนับหนึ่งถึงร้อยมาแล้วกี่หน...ในประเด็นดังกล่าว และเหตุผลที่ไม่โวยวาย ก็มีแต่จะทำให้เป็น “หม้าย” เร็วขึ้นดังคำร่ำลือก็เห็นจะเป็นได้ อุ๊บส์!!?
............................................................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 182 วันที่ 30 มีนาคม - 5 เมษายน 2556