xs
xsm
sm
md
lg

“หนิง” แถลงโชว์ข้อความ “ไฮโซน้ำหวาน” สวีทสามี ด้าน “จิน” ขอโทษทั้ง 2 ฝ่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หนิง-จิน” เปิดแถลงเดือดซัด โชว์ข้อความที่ “ไฮโซน้ำหวาน” ส่งมาหาเรียก Honey และส่งไฟท์เวลากลับให้จินไปรับที่สนามบิน แฉเริ่มรู้ว่าทั้งคู่คุยกันตั้งแต่ 19 ม.ค. และวันที่ 22 ม.ค.ก็เคลียร์กับน้ำหวานไปแล้วว่าครอบครัวอยู่ด้วยกันดี ฉะอีกน้ำหวานนัดกับจินเจอที่คอนราด สาบานไม่ได้ตั้งอินสตาแกรมคนหน้าด้านด่าไฮโซน้ำหวาน ด้านจินยอมรับและขอโทษทั้งสองฝ่ายยันยังรักและเลือกครอบครัว จึงสักชื่อลูกไว้ที่แขนไว้เตือนใจ



หลังจากที่ออกมาให้สัมภาษณ์เรียกน้ำย่อยเมื่อก่อน ล่าสุดวันนี้ “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ก็ควงสามี “จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ” และน้องสาวของหนิงเปิดแถลงข่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า สามีไปกิ๊ก “ไฮโซน้ำหวาน วรพรรณ พันธุ์คงชื่น” ซึ่งฝ่ายน้ำหวานได้ออกมาให้สัมภาษณ์แล้วว่า โดนจินหลอกว่าแยกกันอยู่กับหนิงแล้ว และไม่ขอยุ่งเกี่ยวขอร้องให้จินเลิกมาวุ่นวาย ลั่นไม่คิดเป็นเมียน้อยใครทางบ้านมีฐานะมั่นคง

วันนี้หนิงก็ได้เปิดใจที่ต้องแถลงข่าวเพราะครอบครัวได้รับความเดือดร้อน เรื่องมันลุกลามมาถึงน้องสาวและครอบครัว....

หนิง : "เหตุผลที่หนิงขอแถลงข่าวเพราะเรื่องมันลามปามมาถึงครอบครัวหนิง แนนน้องสาวหนิงต้องป่วยเข้าโรงพยาบาล คุณแม่หนิงป่วยนอนอยู่บ้าน 3 วันเพราะเครียดกับเรื่องที่มันไม่จบเสียที ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาหนิงเลือกเงียบมาตลอด 2 เดือน ไม่เคยพูดอะไรเลย ไม่ไปทำงาน แต่มันรู้สึกว่าพอแล้วตราบใดที่หนิงไม่พูดทุกคนก็จะยังตามไม่จบหนิงเลยต้องออกมาพูด"

“น้ำหวาน” ไม่หยุดเลยต้องพูด
หนิง : "มีส่วน อย่างล่าสุดหนิงงงมากที่มีอินสตาแกรมใช้ชื่อหนิงปณิตาไปเขียนว่าเขา ซึ่งหนิงไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลย หนิงเลือกที่จะเงียบมากกว่า ประชาชนอาจจะไม่เข้าใจว่าวันนี้หนิงออกมาพูดทำไมในเมื่อหนิงเลือกที่จะเงียบมาตั้งนาน แต่อย่างที่บอกมันเป็นเพราะว่าหนิงทำงานไม่ได้เลย แล้วครอบครัวหนิงก็ต้องมาเดือนร้อน ถ้าน้องสาวหนิงไม่เข้าโรงพยาบาลแม่ของหนิงไม่ป่วยหนิงก็ยังจะเลือกเงียบ"

จิน : "ผมพูดไปหมดแล้วทุกอย่างจบตั้งแต่ผมขึ้นอินสตาแกรม ก็คิดว่าควรจะเงียบได้แล้ว ตอนนี้ผมมีความสุขกับการเลี้ยงลูกดูแลภรรยามาก อะไรที่พลาดที่ผ่านไปแล้วก็ขอโทษทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะฝั่งที่นั่งอยู่ตรงนี้ แนนคือเพื่อนรักของผม แล้วก็หนิงก็คือภรรยาผมรวมถึงครอบครัวผมที่ต้องมานั่งปวดหัวกับเรื่องที่เราสร้างขึ้นมาเอง ก็ขอโทษและขอบคุณหนิงและเพื่อนๆ ที่คอยแก้ปัญหาเวลาคนมาถามว่าไอ้จินไปทำอะไรมาวะ ผมยอมรับว่าผมทำจริง แล้วผมก็จบจริง ตอนนี้ผมมีแต่งานลูกและก็เมียเท่านั้น"

จิน :"กับน้ำหวานผมไม่คุยครับ ต่างคนก็ต่างเงียบไปก็พอแล้ว ไม่มีการพูดคุยกันแล้ว แต่จะไปห้ามใครล่ะครับ จริงๆไม่อยากจะแถลงโต้กันไปมาสาวกันไปสาวกันมา ผมเป็นลูกผู้ชายพอผมยอมรับในสิ่งที่ผมทำผิด ผมขอโทษครอบครัวผมและทุกคนที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้ผมจะดูแลลูกของผมให้ดีที่สุด ตอนนี้ผมตื่นมาก็เล่นกับลูกทุกเช้ามันทำให้ผมย้อนกลับไปคิดว่าเราทำไปได้ยังไง ยิ่งเห็นหน้าลูกทุกวันมันก็ยิ่งคิด ไอ้ห่า...กูทำไปได้ยังไงวะเนี่ย กูทำไมทำเรื่องเลวอย่างนี้วะ ไม่คิดถึงลูกเลย ตอนนี้ก็พยายามให้ครอบครัวกลับไปดีเหมือนเดิม ผมพยายามทำดีกับหนิงเพราะผมทำผิดกับเขาไว้เยอะ พยายามทำดีกับลูกแล้วก็ขอร้องเลยว่าแนนเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย อย่าเอาแนนเข้ามาเกี่ยวข้องเลย เขาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานสุจริต อย่าไปอะไรกับเขาเลย"

เคลียร์กรณี “แนน” โทรไปด่า “ตั้ม สมประสงค์” อย่างหยาบคาย และสาบานไม่ได้เป็นคนสร้างอินสตาแกรมขึ้นมาโจมตี “น้ำหวาน”
หนิง : "หนิงต้องพูดในฐานะที่น้องหนิงหน้าที่การงานของน้องหนิงที่ทำงานอยู่ ก็อยู่ในองค์กรที่มีชื่อเสียงแล้วเขาจะต้องมานั่งตอบคำถามในเรื่องที่เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แนนเองเป็นคนที่คอยอยู่ข้างๆ หนิงเหมือนเป็นผู้จัดการส่วนตัวหนิงด้วยซ้ำ เขาต้องมาตอบทุกอย่างแทนหนิง แต่กลับกลายว่าทางฝั่งนั้นมาบอกว่าแนนไปใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าเขา ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาแนนไม่เคยทำอะไร"

แนน : "กับพี่ตั้มแค่รู้จักกันเฉยๆ แล้วที่เขาอธิบายว่าเขามารู้จักกับจินที่งานหมั้นน้องคนเล็ก คือแนนเห็นเองกับตานะแต่แนนไม่รู้ว่าเขาเป็นใครทำอะไร แล้วไม่มีใครเมนชั่นอะไรถึงคุณตั้มเลย รู้แต่ว่ามีคนทำไอจีใช้ชื่อว่าคนดี เรายอมรับว่าเราโกรธแทนพี่ เราเลยไปช่วยรีโพสต์ว่าไปตามหน่อย แต่พอเราไปทำอย่างนี้คนก็นึกว่าเป็นเรา สาบานได้เลยว่าเราไม่ได้ทำคนกลับมารุมด่าเรา ไม่ว่าจะเป็นทางโน้นก็เขียนว่าเราสร้างไอจีปลอมมันหนักมากจริงๆ เราทนไม่ไหวแล้ว กับคุณตั้มเรารู้จักเป็นการส่วนตัวก็เลยโทรหาเขาเพื่อเคลียร์ว่าเราไม่ได้ทำอย่าเข้าใจผิด จะให้เราขอโทษก็ไม่รู้จะขอโทษอะไรในเมื่อเราไม่ได้ทำ ซึ่งเขาก็โอเคเข้าใจแต่มันก็เหมือนเรื่องไม่จบ มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้าเขาไม่พยายามจะแท๊คชื่อเราเข้าไป เราก็เลยเอาชื่อตัวเราอธิบายไปอีกทีว่าเราไม่ได้ทำ อย่างที่ว่าน้ำหวานบอกว่าไม่รู้จักจิน ก็อ่านตามข่าวนะคะ"

“หนิง” เผยรู้ว่า “จิน” เริ่มไปยุ่งกับ “น้ำหวาน” วันที่ 19 มกราคม
หนิง : "จากที่เขาได้ให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ในวันที่ 9-15 มี.ค.นักข่าวถามว่า ได้เข้าไปก้าวก่ายชีวิตครอบครัวของหนิง-จินหริงเปล่า เธอย้ำชัดอีกครั้งว่าเราไม่ได้ยุ่งกับเขามาตั้งแต่แรกแล้ว เราอยู่ของเราเฉยๆ ถึงเราจะไม่รู้เรื่องครอบครัวเขา ย้ำนะคะว่าไม่รู้เรื่องครอบครัวเขาแต่เราก็ไม่ได้คุยกับเขาอย่างที่เป็นข่าว”

“เอาเป็นว่าจากข่าวคุณน้ำหวานรู้จักคุณจินนะคะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาหนิงรับรู้เรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.วันที่เขารู้จักกัน ในความเป็นจริงเขารู้จักกันในคืนวันที่ 18 ข้ามไปวันที่19 ตอนตี 3 ซึ่งมันเป็นงานพิธีหมั้นของน้องหนิงในคืนงานเลี้ยงวันที่ 19 หนิงเห็นแล้วว่าคุณจินอยู่กับกลุ่มผู้หญิงคนหนึ่ง โดยเซนส์ผู้หญิงเรารู้ได้เลยว่ามันประหลาด แต่ก็ไม่คิดที่จะพูดอะไร”

“จนมาวันที่ 22 มีโทรศัพท์เข้ามาชนิดที่ว่าต้องรับโทรศัพท์ หนิงก็เป็นคนรับก็เลยได้ทราบว่าน้องคนนี้ชื่ออะไรเป็นใคร แต่หนิงเองเคยได้รู้จักชื่อน้องเขา หนิงรู้จักน้องเขาแต่เขาอาจจะไม่รู้จักหนิง ก็มีการโทรและพูดเคลียร์กันไป และก็เลือกที่จะอยู่นิ่งๆ เฉยๆ หลายคนอาจจะมองว่าวันนี้หนิงออกมาปกป้องจิน ทำอย่างนั้นเพื่ออะไร หนิงกับคุณจินเองเรามีการพูดคุยกัน ไม่ใช่ว่าไม่ได้ตำหนิฝ่ายของตัวเอง ความจริงก็คือความจริง ทำอะไรไว้ก็ยอมรับความจริงซะเพราะหนิงเลือกที่จะนิ่งตั้งแต่วันที่19 ม.ค.จนถึงวันนี้เป็นเวลาถึง 2 เดือนแล้วขอร้องนะคะอย่ามาพาดพิงถึงครอบครัวหนิง"

แนน : "เราเงียบแต่เขาก็พูดไม่หยุดทุกวัน จนเราต้องออกมาพูดแล้ว สาบานได้ว่าถ้าเขาจบเราจะไม่ออกมาพูดเลย"

แฉ “น้ำหวาน” ส่งข้อความหา “จิน” เรียก “ฮันนี่”
หนิง : "(หนิงหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน) ช่วงที่เขาอยู่อเมริกาในข่าวเขียนว่าคุณจินโทรหาเขาเองวันละสิบๆ รอบ ซึ่งจริงๆ แล้ว(หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา) เบอร์ที่เขาโทรเข้ามาแล้วคุณจินไม่ได้รับ คุณจินโทรหาเขาเองก็มีจริง แล้วก็ยังมีการส่งข้อความซึ่งจริงๆ แล้วข้อความพวกนี้หนิงไปเห็นในไอแพดเพราะข้อความในมือถือจินลิ้งค์กับไอแพด หนิงก็เลยดูไอแพดแล้วเก็บหลักฐานพวกนี้ไว้ทุกวันเป็นเวลา 2 เดือน”

“เขาส่งมาว่าเขาไม่ได้สนใจอะไรถ้าคุณจะอยู่กับครอบครัว ฉันอยากจะทำในสิ่งที่ฉันอยากจะทำ ขอโทษที่รบกวนคุณ ฉันคิดว่าฉันแคร์คุณแต่คุณแคร์ฉันหรือเปล่า ไอเลิฟยูนะคะฮันนี่ ถ้าใช้คำว่าฮันนี่แสดงว่าน้องคนนี้ไม่รู้จักคุณจินใช่ไหมค่ะ แสดงว่าน้องคนนี้ไม่มีอะไรกับคุณจินใช่ไหมค่ะ วันนี้คิดว่าทุกอย่างหนิงเคลียร์แล้วก็ขอให้ทุกอย่างจบจริงๆ อย่าได้พาดพิงอะไรถึงหนิงและครอบครัวหนิงอีก ข้อความยังมีมากกว่านี้อีกเยอะมากๆ แล้วก็ยังมีหลักฐานอื่นอีกมาก แต่หนิงมองว่ามันไม่มีความจำเป็นต้องเอามา แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว วันที่ก่อนจะเดินทางกลับจากอเมริกา ก็ส่งไฟล์ทตั๋วเครื่องบินแล้วบอกว่าให้ช่วยไปรับด้วย จากหลักฐานเขาต้องรู้อยู่แล้วว่าจินมีครอบครัว หนิงเองได้คุยกับเขาก็ได้แจ้งให้เขาทราบไปแล้วว่าหนิงกับคุณจินเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ชีวิตครอบครัวยังอยู่ดีกันเหมือนเดิมปกติ"

“จิน” อ้างเอาโทรศัพท์ไปซ่อมภาพคู่ “น้ำหวาน” เลยหลุดถึงมือสื่อมวลชน
จิน : "เรื่องมันผ่านมาแล้วถ้าเขาจะเอาออกมามันก็ช่วยอะไรไม่ได้ ผมยอมรับว่าผมทำจริง ซึ่งนานแล้วเกิน 1 เดือน ผมไม่ได้เพิ่งส่งเมื่อวาน บอกตรงๆ ว่าผมกับเขาเพิ่งเลิกติดต่อกันไม่นานประมาณอาทิตย์กว่าๆ เท่านั้นเอง หลังจากที่เขากลับมาจากอเมริกาได้ไม่นาน ที่คุยเป็นเพราะว่าโทรศัพท์ของผมมีรูปหลุดไป เกิดจากที่ผมเอาโทรศัพท์ไปซ่อม ซึ่งกลับมาผมก็ได้เครื่องใหม่ ผมก็ดีใจได้โทรศัพท์ใหม่แต่ลืมคิดไปว่ามีของอยู่เครื่องเก่าหมดเลย"

หนิง : "มันมีข้อความอยู่ครอบครัวเขา ซึ่งทั้งหมดจะพูดตรงกันว่าพวกเขาเป็นคนที่มีศีลธรรม จรรยา ไม่สนับสนุนให้ผู้หญิงคนนั้นทำเรื่องแบบนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วมีข้อความนึงที่พี่สะใภ้ของเขาส่งมาถ้าคุณจินไม่เคลียร์ทุกอย่างภายใน 24 ชั่วโมง เขาก็จะปล่อยคลิปเสียงคุณจินออกมา แสดงว่าเขาจะต้องรู้กันอยู่แล้วว่าคุณจินมีครอบครัวถูกต้องไหมค่ะ"

จิน : "วันนี้ก็อยากจะมาบอกว่าผมยังรักลูกเมียผมเหมือนเดิมครับ ที่ผ่านมาในข่าวหรืออะไรต่างๆ ผมไม่เคยอ่าน ไม่ว่าเขาจะให้สัมภาษณ์หรือเขียนอะไรผมไม่เคยอ่าน บางทีเขาส่งให้ดูผมก็ไม่ได้อ่าน ที่บ้านผมงานยุ่งมาก ผมกับเขาไม่ได้เคลียร์อะไรกันก็เงียบไปเลย เขาก็เงียบไปเลย ต่างคนก็คงต่างจบ เพราะว่ามันเงียบไปทั้งคู่แล้ว ต่างคนต่างอยู่กันก็ได้"

“หนิง - แนน” ปฏิเสธเป็นคนปล่อยภาพคู่ “น้ำหวาน - จิน” ให้กับสื่อมวลชน
หนิง : "ทุกครั้งที่หนิงเห็นแมสเสจหรือเห็นภาพมันชาไปหมดทั้งตัว วูบ บอกไม่ถูกน้ำตาไหลไม่รู้ตัวโดยที่ไม่รู้ว่าน้ำตาไหลได้ยังไง หนิงก็จะหันไปมองหน้าลูกแล้วพูดกับลูกว่าแม่จะอดทน แม่จะเข้มแข็ง แม่จะทำทุอย่างให้ดีที่สุดเพื่อหนูนะลูก"

จิน :"โห....เขาจะปล่อยทำไมครับ ปล่อยออกมาเขาก็ดูไม่ดีใช่ไหม สามีตัวเองไปถ่ายกับคนอื่น"

แนน : "ถ้าเราอยากจะปล่อยจริงๆ เราปล่อยแมสเสจไปไม่ดีกว่าหรอค่ะ เพราะของพวกนี้อยู่ในมือเรานานแล้ว แต่เราไม่อยากให้มีเรื่อง มันอายนะมีเรื่องแบบนี้ แล้วก็ไอจีคนหน้าด้านก็เหมือนกัน แนนสาบานว่าไม่ได้เป็นคนทำ แต่ยอมรับว่าแชร์ แชร์ด้วยอารมณ์ล้วนๆ ไม่ได้เป็นคนทำจริงๆ"

“หนิง” แฉ “น้ำหวาน - จิน” นัดเจอกันที่โรงแรมคอนราด
หนิง : "เรื่องนี้จริงค่ะ หนิงไม่ได้ขับรถตามไปแต่เผอิญว่าหนิงอยู่ในร้านนั้นก่อนอยู่แล้ว แล้วเขาก็มา"

จิน : "ก็มาเจอกันเพราะเรื่องรูปหลุดนี่แหละครับ ก็บอกเขาว่ารูปที่หลุดออกไปเราไม่รู้จริงๆ โทรศัพท์พี่เสียก็เลยเอาไปซ่อม ผมพูดกับทุกคนอย่างนี้ เรื่องมันผ่านไปแล้วไม่อยากจะพาดพิงถึงใคร สงสารที่สุดคือลูกผม อยากให้มันจบ ตอนนี้ผมขออยู่กับลูกของผม”

แนน : "ทางเราหยุด แต่ที่ออกมาพูดนี่เพื่อต้องการให้เขาหยุด เพราะเขาบอกว่าว่าเขาจะฟ้อง ก็เลยงงว่าจะฟ้องอะไร ก็รอหมายศาลอยู่ว่าจะฟ้องอะไร"

หนิง : "ก็ยังงงว่าเขาจะมาฟ้องอะไร ก็เตรียมตัวไม่ถูกจะฟ้องว่าหนิงโดนแย่งสามีเหรอค่ะ เรื่องตรงนี้มันเป็นเรื่องของความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ศีลธรรมจรรยาความถูกต้อง จะฟ้องร้องเอาเรื่องอะไรล่ะค่ะ หนิงเองคุยกับน้องเขาจริงจังตั้งแต่วันที่ 22 แล้ว หนิงก็บอกว่าจบนะ หนิงเองบอกเลยว่าไม่มีความจำเป็นต้องเคลียร์แค่เห็นก็พอแล้ว เขาเองก็รู้ว่าครอบครัวของเรายังอยู่ด้วยกัน เดือนๆ นึงเราก็จะไปพักผ่อนกันอยู่แล้วเราก็ขึ้นไอจี นั่นหมายความว่าครอบครัวเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน"

จิน : "ผมผิดเองครับ"
แนน : "ณ ตอนที่เจอวันนั้นเขาก็ตกใจ อาการเขาดูมึนเมาหรือไม่เมาก็ไม่รู้ แต่เขาดูงงๆ อาจจะเพราะตกใจ"

จิน "ผมว่าจบแล้วแหละครับ ถ้าไม่มีใครยุอะไรขึ้นมามันก็จบแล้ว ครอบครัวเราตอนนี้ดีมากครับ"

หนิงสวนพร้อมหันไปมองหน้า "หรอ!!!!"
จิน "ผมก็ยังรักหนิงเหมือนเดิม"

ความไว้เนื้อเชื่อใจหายไป แต่ความเป็นครอบครัวยังเหมือนเดิม
หนิง : "ความไว้เนื้อเชื่อใจมันก็ต้องมีหายไปบ้าง"
จิน : "จากร้อยก็เหลือหนึ่ง"
หนิง : "แต่สุดท้ายครอบครัวเราก็ยังเหมือนเดิม หนิงยกย่องสถาบันครอบครัว ไม่ว่าคุณจิน ไม่ว่าหนิงทุกคนผิดพลาดกันได้หมด แต่ถ้าผิดพลาดแล้วแก้ไขกับมัน มันก็ดีถ้าเราจะให้โอกาสให้แก้ไขกัน”

ไม่พอใจกระแสโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คที่ว่า หนิงสมควรโดนแบบนี้เพราะไปแย่งสามีคนอื่นมาก่อน และก็ตนเองก็มีเงินจากการขายครีมปีละหลายล้าน ไม่ใช่เลิกกับ "จิน" ไม่ได้เพราะเรื่องเงิน
“อีกระเด็นที่หนิงค่อนข้างซีเรียสคือในอินเตอร์เน็ตเขียนด่าหนิงว่าต้องโดนแบบนี้เพราะหนิงไปแย่งสามีชาวบ้านเขามาก่อน หนิงขอยืนยันว่าคุณจินไม่เคยแต่งงานมีครอบครัวนะคะ แล้วในอินเตอร์เน็ตก็ยังเขียนอีกว่าถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเงินหนิงก็คงจะเลิกกับจินไปแล้วอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้ หนิงอยู่กับจินเพราะเงิน ทุกวันนี้ธุรกิจครีมของหนิงทำกำไรปีนึงหลายล้านเหมือนกันนะคะ ก็สามารถดูแลตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้เงินคุณจิน ก็ขอความกรุณาอย่าใช้คำพูดอะไรที่มันมาบั่นทอนกัน ตอนนี้หนิงแย่มากพออยู่แล้ว ขอร้องถ้าไม่ชอบเราก็อย่าเขียนด่าเราเลย เราแย่มากพอแล้ว"

หนิง : "หลังเกิดเรื่องจินไม่ไม่ให้คำสัญญา หนิงว่าคำสัญญาหรืออะไรก็แล้วมันก็แค่เป็นสิ่งที่พูดมา หนิงขอดูพฤติกรรมดีกว่าว่าต่อไปจะยังไง ดูสิ่งที่เขาพยายามดีกับเรา พยายามจะชดเชยในสิ่งที่มันผิดพลาดไปอันนั้นมันสำคัญกว่าคำสัญญา ถ้ามัวแต่มาสัญญาแล้วไม่ทำอะไรเลยตัวเราเองก็จะเจ็บเหมือนเดิม”

“ทุกวันนี้หนิงท้อนะคะ แต่สิ่งที่ทำให้หนิงอยู่ได้เพราะวันนี้มันไม่ใช่ตัวหนิงคนเดียว มันมีน้องนิริน น้องสาว ครอบครัวที่น่ารักและรวมถึงครอบครัวคุณจินเองที่คอยซัพพอร์ตหนิงตลอดเวลา มันเลยทำให้หนิงเป็นกำลังใจ รวมไปถึงแฟนคลับที่คอยส่งกำลังใจให้หนิง แต่หนิงอยากจะขอจริงๆโดยเฉพาะแฟนคลับหรือคนที่เล่นอินเตอร์เน็ตรักและชื่อนชอบในตัวหนิงได้ แต่อย่าได้ไปเขียนต่อว่าอะไรฝ่ายตรงข้ามเลย คนที่เดือดร้อนจะกลายเป็นหนิง มันจะกลายเป็นว่าหนิงเป็นคนทำ หนิงรู้ว่าพวกคุณรักและหวงใยหนิงจริงๆ แต่หนิงขอให้มันจบเถอะค่ะ"

“จิน” ลั่นจะไม่ทำแบบนี้อีกแต่จะไม่เลิกเจ้าชู้ ทำเอา “หนิง” ค้อนขวับ
จิน : "ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เกิดเรื่องขนาดนี้เป็นคุณคุณยังจะไปอยู่อีกหรอ ผมบอกว่าเลิกก็คือเลิกจริงๆ แต่เรื่องเลิกเจ้าชู้คงไม่หรอกครับ....ผู้ชายอยู่ในห้องนี้เยอะ ถ้าผมบอกว่าผมจะเลิกเจ้าชู้จะมีใครเชื่อกันไหม มันเลิกไม่ได้หรอกครับ แต่จะเจ้าชู้แบบมีลิมิตใช้แค่สายตา ผมจะไม่ให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวผมอีกเพราะมันกระทบลูกผม เวลาแม่เครียดน้ำนมลูกก็จะเป็นพิษเดี๋ยวลูกผมจะออกมาเป็นเด็กเกเร อะไรก็ได้ที่ไม่กระทบลูกและครอบครัวผมพยายามจะทำมันอยู่แล้ว จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ครั้งนี้เป็นอะไรที่แรงมาก ก็เลยต้องไปสักชื่อลูกไว้ตรงแขนซ้าย ไว้เตือนใจเวลาจะทำอะไรเลวๆ (หัวเราะ) สักมาไม่นานนี่เองครับ ก็เอาไว้เตือนใจ"

หนิง : "หนิงก็แซวเขาแล้วบอกว่าหนิงจะโทรไปบอกคนที่สักใครเขาว่า ให้สักชื่อหนิงด้วยไว้บนหน้าผาก(หัวเราะ)"


















กำลังโหลดความคิดเห็น