ตาต่อตา ฟันต่อฟัน! เรื่องณเดชน์ยังไม่ทันหาย เรื่องใหม่ๆก็เข้ามาแทรก อีนุงตุงนังเมื่อ “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” จัดหนัก “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ย้ำชัดออกจากสังกัดเพราะเงิน เจ็บจี๊ดถึงใจ ปั้น “เกล้า” มากับมือยังตามใหม่ไป กะเทยถึงยุคไหล กบฏนางเอกรวมหัวเพื่อนป่วนในสังกัดงัดข้อเอ ไม่สนคนมองเนรคุณ โพสต์อินสตาแกรมเหน็บร้อน ด้าน “เฮเลน” ซี้ เอ ยันแม่ใหม่ยังให้เงินไม่ครบ แถมขู่ซ้ำอย่าให้แฉหลังด่า “ดีนี่” วงการบันเทิงไทย วิบากกรรมต่อไปเด็กสมองไหลต่างคนต่างรับงานอิสระ เอเครียด ได้ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” กู้หน้าให้ การันตีคบมานานไม่มีเรื่องโกงเงิน
ศึกณเดชน์กับยูนิลีเวอร์ จบลงไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่า ศึกของ “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” ที่ออกมาบอกสื่อว่ารับงานเองแล้วกับ “เกล้า” ผู้จัดการส่วนตัวคนล่าสุด ที่ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ปลุกปั้นกันมานานนม มาขอแยกตัวดูแลกันเองตามลำพัง แถมมีการซักกันเดือดในอินสตาแกรม หนังคนละม้วน และตัวละครเริ่มเยอะ เมื่อการออกมาครั้งนี้ ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์หนักถึงเอ ศุภชัย ที่หลายคนเชื่อว่าคำสัมภาษณ์ของใหม่ ครั้งนี้ กระทบหัวใจเอและคนใกล้ตัวอย่างรุนแรง และถึงกับเครียด ซึ่งที่ผ่านมานั้นท่ามกลางข่าวลือการหักเงินเด็กเยอะและโก่งค่าตัวบวกของตัวเองไปด้วยนั้น เอยังไม่เคยออกมาตอบโต้แรงนัก และปล่อยให้วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง ท่ามกลางข่าวของ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” กับยูนิลีเวอร์ ที่มีปัญหาเรื่องตัวเลข แต่ดูเหมือนว่า เอ ศุภชัยก็เคลียร์จนข่าวซาลง และทุกครั้งก็ผ่านมาได้
อย่างไรเสียเรื่องของณเดชน์ดันมาเกิดเรื่องพร้อมกับเรื่องราวของใหม่ ดาวิกา พอดิบพอดี ซึ่ง “เกล้า” และ “ใหม่” ยืนยันตรงกันว่าออกมาเพราะเรื่องเงินที่สั่งสมกันมาจนระเบิดและเสียความรู้สึก และมีการพาดพิงไปถึง “เฮเลน ปวรา” ที่เป็นเจ๊ดันพาใหม่มาฝากไว้กับ “เอ ศุภชัย” และมีการพาดพิงถึงค่าตัวที่ต้องหักอีกหลายเปอร์เซ็นต์ให้ จนทำให้เกิดการสั่งสมจนอยู่ร่วมชายคากันไม่ได้ แน่นอนว่าเด็กที่ไม่มีสัญญา มีเพียงใจ และตกลงกันไว้ว่าหักเท่าไหร่ ลงตัวอย่างไร ย่อมผ่านการรับรู้และยินยอมกันทั้งสอง
ฝ่าย เอ ศุภชัยจะหักเด็กทุกคน เพราะต้องพาไปเรียนการแสดง ศัลยกรรม และเข้าคอร์สต่างๆ ใน 3 ปีแรก เท่านั้น หากดังและมีชื่อเสียงในเวลาต่อจากนั้นก็พิจารณากันตามความเหมาะสมและไม่ต้องก้าวก่ายเรื่องรับงาน ดังนั้น ณเดชน์ คูกิมิยะ ,หมาก ปริญ สุภารัตน์,มิ้นท์ ,ณัฐวรา วงศ์วาสนา,มาริโอ้ เมาเร่อ,สน ส่งไพศาล,เวียร์ ศุกลวัฒน์ รวมไปถึงกุ๊บกิ๊บและเหล่านักแสดงอีกมากมายในสังกัดเอ คือนักแสดงที่รับงานและหางานเองได้โดยไม่ต้องถามเอ ศุภชัย ส่วนค่าตัวที่จะได้ จะไม่มีในสัญญาแต่คือสัญญาใจ ที่เอ ศุภชัย บอกว่า “แล้วแต่น้องจะให้” แต่ตัวเลขเท่าไหร่นั้นไม่มีใครทราบข้อมูลที่แท้จริง
ส่วนนักแสดงหน้าใหม่ที่เอ ศุภชัย ปลุกปั้นมาเองกับมือ อย่าง “เจมส์ มาร์” จากสุภาพบุรุษจุฑาเทพ, “บอส โตนนท์ วงบุญ”, "ริชชี่ อมราวดี ดีคาบาเลส” นางเอกภาพยนตร์เรื่อง “คู่กรรม”, “เบลล่า ราณี แคมเปน” นางเอกจากพรพรหมอลเวง ฯลฯ รวมถึงนักแสดงหน้าใหม่ที่ยังไม่มีชื่อเสียงที่รอการปลุกปั้นอีกหลายคนจะมีสัญญาที่แตกต่างกันออกไป ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าเอ ศุภชัย หักค่าตัวนักแสดงในสังกัดแล้วแต่เปอร์เซ็นต์การรับงาน ทั้งยังมีส่วนที่หักค่าตัวซ้ำซ้อนและยิ่งมีข่าวของใหม่ ดาวิกา เกิดขึ้นยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่าข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวนี้เป็นอย่างไร
แต่ในเรื่องตัวเลข ผู้จัดการส่วนตัวชื่อดังจะไม่นิยมเปิดเผย เนื่องจากเป็นตัวเลขที่สังคมและสรรพากร จับตามอง แต่ในแง่ของนักแสดงใหม่ๆ เอ ศุภชัยเคยบอกว่าต้องมีค่าใช่จ่ายเนื่องจากต้องพาไปโมดิฟายหลายอย่างทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ดังนั้นใน 3 ปีแรก จะหักเงินนักแสดงในสังกัดและไม่สามารถหักในปีเดียวได้เนื่องจากต้องแบ่งบางส่วนให้เด็กได้ใช้จ่ายดูแลครอบครัว ซึ่งตัวเลขที่หักจะอยู่ที่ 30-40 เปอร์เซ็นต์จากค่าตัว
ซึ่งก่อนหน้านี้พระเอกดังอย่าง “หมาก ปริญ สุภารัตน์” กับ “มิ้นท์ ณัฐวรา วงศ์วาสนา” ออกจากการดูแลของเอแล้ว เมื่อเป็นข่าวออกมาหมากเองยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับเอเรื่องเงิน แต่สามารถรับงานเองได้อย่างอิสระ และออกมาจากบ้านเอมาอยู่กับพี่สาวแต่ไม่เคยมีปัญหากัน แต่ยอมรับว่าไม่ได้คุยกันเหมือนเมื่อก่อนเนื่องจากต่างคนต่างมีหน้าที่ แม้ว่าเอจะไม่ได้ดูแลหมากโดยตรงแต่ก็ยังมีคนดูแลอยู่ ซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวที่เอปั้นคอยดูแลนักแสดงอีกคนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามเอ ให้อิสระในการเลือกงานกับนักแสดงที่ดังแล้วทุกคนโดยไม่ต้องผ่านตนเองส่วนเรื่องรายได้สำหรับคนดังไม่ได้ระบุในสัญญา และสัญญาของเด็กเอ ศุภชัยในบ้านของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน โดยที่ผ่านมาผู้จัดการส่วนตัวคนดังจะไม่ได้ออกมาชี้แจงตัวเลขรายรับรายจ่ายเป็นส่วนๆ และโดนวิพากษ์วิจารณ์หนักถึงเรื่องค่าตัวเด็กในสังกัด และนั่นคือสิ่งที่เด็กได้ตกลงกับเอ ในเบื้องต้นไว้แล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เอพยายามผลักดันเด็กหน้าใหม่เข้าวงการ อีกทั้งชอบแถมตัวไม่ดังให้ตัวดังติดสอยห้อยตามไปด้วย เนื่องจากตัวที่ยังไม่ดังนอกจากจะได้มีโอกาสเติบโตแล้วยังจัดเก็บและดูแลง่ายกว่าคนดังเสียอีก
เมื่อเกิดกรณีใหม่ขึ้นนั้น เจ้าตัวให้สัมภาษณ์สื่อชัดเจนว่ามีปัญหากันเรื่องเงินที่ทำให้เกิดเสียความรู้สึกกัน จึงทำให้ใหม่เดินเข้าไปคุยกับเอ ศุภชัยโดยตรงและขอออกจากสังกัด โดยบอกกับสื่อว่า “เรื่องเงิน” คือประเด็นหลัก เวลาไล่เลี่ยกันก็มีข่าวออกมาว่า “มาริโอ้ เมาเร่อ” ทะเลาะกับเอเช่นเดียวกันเรื่องเงินๆทองๆ อีกทั้งว่ากันว่าดาราอีกหลายคนก็มีปัญหาเรื่องนี้แต่ไม่มีใครกล้าพูดกับเอ อาทิ เคน ภูภูมิ ,ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ที่มีใหม่เป็นหัวหอก อย่างไรก็ตามใบเฟิร์น พิมพ์ชนกนั้น เดิมที “เกล้า” ดูแลอยู่แล้วซึ่งหากเป็นความจริงใหม่และคณะถือเป็นกบฏรุ่น 2 ที่ทำให้เอ ศุภชัยถึงขั้นเครียด
แต่ก็ยังมี “เฮเลน ปวรา ศิริสาร” กะเทยเพื่อนซี้ที่หุ้นร้านตำแหลด้วยกันออกมาแฉอย่างถึงพริกถึงขิงว่า วงการบันเทิงไทยมี “ดีนี่” ตัวจริงและเรียกเอ ศุภชัยในอินสตาแกรมว่า “ป้ากบ” ซึ่งตัวละครดังกล่าวโดนดีนี่ซึ่งเป็นนางร้ายเนรคุณ ซึ่งจะหนีใครไปไม่ได้ ในขณะเป็นข่าว หลังเกิดเรื่องราวเอ ศุภชัย เครียด จน “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ต้องออกโรงไปเยี่ยมและปลอบใจเพื่อน ถึงผลกระทบที่มีต่อข่าวในครั้งนี้ แถมทั้งยืนยันว่าเอเป็นคนดีและตนคบมานานไม่เคยโดนโกงเงินแต่อย่างใด
แต่เพราะมีกระแสโพสต์อะไรก็ร้อน เมื่อเกล้าอดรนทนไม่ไหว โพสต์กลับบ้างว่า
“......ใหม่ อยากเปิดร้านส้มตำ..............ตัวหารเยอะ..............ตั้งแต่เมื่อไหร่!?!? ขอเชิญเที่ยวงานวัน “ไหล” พัทยาค่ะ เห่อ~ แน่นอนว่าวันไหล
ที่เกล้าว่า คงจะมีกะเทยอีกหลายนางที่ดูแลนักแสดงของเอ ซึ่งทั้งดาราและผู้จัดการส่วนตัวที่ปั้นมาเองกับมือ อาจไหลไปไหนต่อไหนในช่วงเวลาต่อจากนี้ แน่นอน ท่ามกลางผลประโยชน์มหาศาลในอาชีพ
วิบากกรรม ความลับ และตัวเลข ไม่เข้าใครออกใคร แต่ที่แน่ๆ เมื่อไม่มีสัญญาทางกฎหมายและหมดใจ ทางใครทางมัน กรณีใหม่ แน่นอนว่าเอ ศุภชัย และคนใกล้ตัวก็ร้อนตัวที่โดนพาดพิง เพราะใหม่เองก็ขึ้นภาพคู่กับแม่ในวันที่ออกจากเอแล้วบรรยายใต้ภาพว่า “และวันนี้ก็มาถึง” แม้จะยืนยันว่าคนละเรื่องเดียวกัน แต่ก็ถือว่าออกตัวแรงและมีข่าวแรงๆมาโดยตลอด ไม่บ่อยนักที่มือปั้นอย่างเอ ศุภชัยจะเจอเด็กในสังกัดงัดข้อ ครั้งนี้ เล่นเอาซดน้ำใบบัวบกกันเลยทีเดียว และก็ได้นางฟ้าอย่าง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” มาดูแล ไม่แปลกที่เอ จะรักอั้ม กับป๋อ ณัฐวุฒิมากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะดูแลกันมาแล้ว 2 คนนี้ไม่มีสัญญาใดๆกับเอ แต่คือตัวช่วยและกำลังใจสำคัญทีเดียวในเวลานี้ ท่ามกลางกระแสข่าวเมาท์ว่าเด็กใหม่จะสมองไหลไปจากเอ แต่ก็มีเด็กอีกจำนวนไม่น้อยที่เข้าคิวให้เอปั้นต่อ ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสัดส่วนรายได้ที่เอโดนจับตามองมาตลอดว่า “เอาเปรียบ”
ท่ามกลางเด็กเอ ศุภชัย ล้นจอทีวีทั้งละคร หนัง พรีเซ็นเตอร์ ไม่แปลกที่เอจะถูกมองว่ามีรายได้จากเด็กในสังกัดมากมาย นอกเหนือจากนั้นยังมีเรื่องบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่ฟูมฟักพาไปรักษาหน้า ศัลยกรรมจนงามและสวยหล่อ บางคนถึงขั้นทุบกะโหลกโมหน้าจนเป็นพระเอกได้ ตัวเลขที่ไม่มีใครอยากบอก ทั้งสัดส่วนการหัก รายได้เข้ากระเป๋า รายจ่าย ค่าดูแลเด็ก ค่าน้ำ ค่าไฟ ในชีวิตเอ ศุภชัย ตัวเลขมากมายไปหมด แต่ไม่มีใครหาญกล้างัดข้อ
แต่หากถามเอ ศุภชัยว่า เสียดาย “ใหม่” หรือไม่ เมื่อนับตั้งแต่วันพาเข้าไปเจอ “คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์” สมัยยังอยู่ช่อง 7 จนขอออกไปดูแลตัวเอง นางคงตอบว่าเสียใจกับ “เกล้า” มากกว่า เจ็บแค้นแสนรักศึกใหญ่หรือปีชงของเอ ศุภชัยก็ตอบไม่ได้ รู้แต่ว่า กบฏรุ่น 2 โดยมีใหม่ ดาวิกา เป็นแกนนำระดับนางเอกครั้งนี้ ทำให้เสียเรตติ้งไปเยอะ เจอแม่นาคใหม่อาละวาด แถมพี่มากโอ้ก็ทำท่าจะเสียดินแดนอีก ต้องพกน้ำใบบัวบกใส่กระเป๋าแอร์เมสไว้หลายๆขวดหน่อยในช่วงนี้นะ เอ ศุภชัย …
...............................................
ที่มานิตยสาร ASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 180 วันที่ 16-22 มีนาคม 2556