xs
xsm
sm
md
lg

เพลงรักแบบ “คาราบาว”...เพื่อชีวิตก็รักเป็น/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์เพลงวาน โดย : บอน บอระเพ็ด(skbon109@hotmail.com)
ภาพเก่าวงคาราบาว
14 กุมภา วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักของฝรั่ง เดี๋ยวนี้มันได้ผิดเพี้ยนกลายเป็น“วันเสียตัว” หรือ “วันเปิดซิง”ของวัยรุ่นไทยจำนวนหนึ่งไปเสียแล้ว

อย่างไรก็ดี แง่งามของวันแห่งความรักสำหรับคนทั่วโลกนั้นก็ยังคงทรงคุณค่าเกินกว่าที่วัฒนธรรมวันเสียตัวจะมาทำลายได้

ด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นการร่วมกระแสวันวาเลนไทน์ ผมจึงขอนำ 8 บทเพลงรักของ “คาราบาว” หนึ่งในวงดนตรีแห่งตำนานของเมืองไทย มานำเสนอรับวันแห่งความรักที่จะมาถึงนี้
คาราบาวชุดแรก มี 2 เพลงรักให้ฟัง
ความที่ภาพของวงคาราบาวเป็นวงเพื่อชีวิต มันทำให้ใครหลายๆคนมองข้ามบทเพลงรักของวงๆนี้ไป ทั้งๆที่คาราบาวมีบทเพลงรักที่ชวนฟังอยู่มากโข แถมหลายเพลงยังอยู่ในขั้นอมตะที่ยังติดหูและร้องกันได้ติดปากมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งทางวงหัวควายได้เคยนำเพลงรักดังๆของพวกเขามารวมไว้ใน 2 อัลบั้มด้วยกัน คือ “รักแบบ’บาว” กับ “ตำนานรักทรหด”

อย่างไรก็ดีบทเพลงรักของคาราบาวที่ผมคัดสรรมานั้น ไม่ได้อ้างอิงจากอัลบั้มทั้ง 2 หากแต่นำมาจากผลงานเพลงทั้งในยุคคลาสสิกและในยุครุ่งโรจน์ตั้งแต่ชุดแรก“ขี้เมา”(2524) ไปจนถึงชุด “ห้ามจอดควาย”(2533)

เริ่มกันที่เพลงแรก “หนุ่มลำมูล” (แต่งโดย : คมสันต์ ดวงสูงเนิน,สุเทพ ถวัลย์วิวัฒนกุล) เพลงนี้นำเสนอวิถีชนบทได้อย่างเห็นภาพ แถมพกด้วยเรื่องราวที่สื่อถึงความรักระหว่างหนุ่มสาวแบบบอกเป็นนัยๆ(ไม่ได้บอกอย่างชัดเจน) ฟังดูอบอุ่นอวลกลิ่นอายบ้านทุ่ง ที่ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงรักคลาสสิกของคาราบาว
ชุดวณิพกมีดอกจานเป็นเพลงรัก
ต่อกันด้วยอีกหนึ่งเพลงรักในชุดเดียวกันคือ “ลอยลมรัก”(ขี้เมา) เพลงนี้ถือเป็นเพลงรักยุคแรกสุดของคาราบาวที่หลายๆคนอาจไม่รู้ ว่าด้วยไอ้หนุ่มวัยฉกรรจ์ที่ครวญคร่ำพร่ำเพ้อละเมอหานางในฝันหลังอายุครบ 20 ปี ก่อนที่วันเวลาจะล่วงเลยสั่งสมประสบการณ์ทำให้เข้าใจความรักในมิติที่ลุ่มลึกขึ้น น้าแอ๊ดเขียนเพลงนี้ได้สดมาก ท่วงทำนองสนุก ใช้ภาษาเรียบง่าย เสียงน้าแอ๊ด คาราบาว (ยืนยง โอภากุล) ยังใสปิ๊ง ฟังได้ใจ แต่คาราบาวในช่วงนั้นยังไม่ดัง เพลงนี้จึงกลายเป็นเพลงที่ถูกลืมไป

จากชุดแรกข้ามไปชุดสาม“วณิพก”(2526) อัลบั้มที่แจ้งเกิดให้กับคาราบาวอย่างเต็มตัว ชุดนี้มีเพลงรักหนึ่งเพลงคือ “ดอกจาน” บทเพลงรัก ผิดหวัง เศร้าในอารมณ์ชนบทเช่นเดียวกับหนุ่มลำมูล แต่เนื้อหาอารมณ์เพลงต่างกัน เพราะเพลงหนุ่มลำมูลไอ้หนุ่มที่จากบ้านไปได้กลับคืนถิ่นมาอยู่กับสาวๆที่คิดฮอด ส่วนเพลงดอกจานสาวเจ้ากลับทิ้งท้องทุ่งนา ทิ้งไอ้หนุ่มคนรักหนีบางเข้าไปอยู่ในเมืองกรุงสวรรค์

เพลงดอกจานแม้จะไม่ดัง แต่ว่าฟังไพเราะได้อารมณ์ความเป็นชนบทดีแท้
สมาชิกวงคาราบาวในยุครุ่งโรจน์
หลังชุดวณิพกบนความโด่งดังฉุดไม่อยู่ของวงหัวควาย คาราบาวกลายเป็นวงเพื่อชีวิตเบอร์หนึ่งของเมืองไทย พวกเขาจึงมุ่งเน้นการเขียนเพลงแต่งเพลงไปในแนวเพื่อชีวิต สังคม การเมือง เป็นหลัก

อย่างไรก็ดีในปี 2528 น้าแอ๊ดได้แต่งบทเพลงพิเศษให้กับการบินไทย เพื่อให้สอดรับกับสลโกแกนรักคุณเท่าฟ้าที่มีมาตั้งแต่ปี 2521 คือบทเพลง “รักคุณเท่าฟ้า” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเพลงรักอมตะของคาราบาว

เพลงนี้ได้เสียงนุ่มๆไพเราะของน้าเทียรี่(เมฆวัฒนา)มาถ่ายทอด มีทางคอร์ดที่ยอดเยี่ยม ท่อนกลาง อ.ธนิสร์ โซโลขลุ่ยรับส่งกับกีตาร์ได้อย่างหวานพลิ้ว

“...ความงามความรักมีมาตามธรรมชาติ เติมวาดแต่งแต้มแสงสีตามในใจคน มีฟ้ามีน้ำมีดินหินทรายและผู้คน ร่วมสุขทุกข์ทนสร้างแผ่นพื้นดินไทย...”

รักคุณเท่าฟ้าไม่ได้เป็นเพลงรักฉันหนุ่มสาว หากแต่เป็นรักโลก ผืนแผ่นดิน ธรรมชาติ ในเชิงอุดมคติ เนื้อหาเปรียบเปรยลึกซึ้งกินใจ ฉายให้เห็นถึงความเป็นเลิศทางด้านการแต่งเพลงของน้าแอ๊ดในยุคนั้น ซึ่ง “ชัคกี้ ธัญญรัตน์” มือกีตาร์เทพผู้ล่วงลับก็ได้นำเพลงรักคุณเท่าฟ้าไปร้องในอัลบั้มชุด “ศรัทธา” ผลงานเดี่ยวชุดแรกและชุดสุดท้ายของเขาที่ออกมาในยุคไล่เลี่ยกัน งานเพลงชุดศรัทธาแม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ถือเป็นรักคุณเท่าฟ้าในเวอร์ชั่นที่แตกต่างและมีเสน่ห์ชวนฟังไปอีกแบบ

จากเสียงของน้าเที่ยรี่มาถึงบทเพลงของ “น้าเล็ก คาราบาว”(ปรีชา ชนะภัย) กับ “บาปบริสุทธิ์”(เวลคัมทูไทยแลนด์ : 2530) นำเสนอปัญหา(ความแตกแยก)ของครอบครัวทั่วๆไปในสังคมไทย ว่าด้วยเรื่องราวความรักที่ใหม่ๆน้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่พออยู่ๆไปนานๆเห็นตัวตนธาตุแท้กันมากขึ้น แม้แต่น้ำตาลกินแล้วยังว่าขมปี๋เลย

เพลงนี้ใช้ภาษาที่เรียบง่ายตรงไปตรงมา แต่เห็นภาพชัดเจน ขณะที่ภาคดนตรีนั้น เสียงกีตาร์ของน้าเล็กที่เดินเรื่องคลอคู่ไปกับเสียงร้องนั้น ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว ส่วนทางคีย์บอร์ดฝีมือของ อ.ธนิสร์ ที่คอนเล่นเสริมรับส่ง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันที่ทำให้ตัวเพลงน่าฟังยิ่งขึ้น

บาปบริสุทธิ์เป็นอีกหนึ่งเพลงที่กลายเป็นลายเซ็นประจำตัวของน้าเล็ก คาราบาวเช่นเดียวกับเพลงคนเก็บฟืนแม้ เพลงนี้จะจบลงแบบห้วนๆ แต่ในโลกของความเป็นจริงปัญหาครอบครัวแบบในเพลงบาปบริสุทธิ์นั้นไม่เคยจบ ยังเป็นปัญหาอมตะนิรันดร์กาลต่อไป
ทับหลังมีเพลงรัก คือ รักทรหด กับ หนุ่มสุพรรณ 2
ต่อกันด้วยอีกหนึ่งบทเพลงรักสะท้อนสังคมนั่นก็คือ “รักทรหด”(ทับหลัง : 2531) ที่น้าแอ๊ดนำความเป็นไปของสังคม วิถีคนทำงานชนชั้นกลาง มาเขียนเป็นเพลงรักเนื้อหาอารมณ์สนุกๆ ใช้ภาษาง่ายๆแต่โดนตามสไตล์ถนัดของน้า ขณะที่มิวสิควีดีโอเพลงนี้ก็สนุกน่าชมไม่แพ้กัน เมื่อได้ซู่โม่ตุ๋ยขี้เมามาเล่นเป็นพระเอกมนุษย์ยุคหิน

ด้วยความโดนทั้งชื่อเพลง เนื้อหา ภาษา ดนตรี และมิวสิค ทำให้เพลงรักทรหดมีภาคสองตามมาในอัลบั้ม“ทำมือ” ผลงานเดี่ยวชุดที่สองของน้าแอ๊ด คาราบาว

ในชุดทับหลังคาราบาวยังมีอีกหนึ่งเพลงรักอันโดดเด่นนั่นก็คือ “หนุ่มสุพรรณ 2” เป็นภาคต่อจากหนุ่มสุพรรณ 1 (ชุดขี้เมา) ที่ตอนนั้นเธอก็หมา(มา) จนไอ้หนุ่มสุพรรณเกิดไปหลงใหลในสาวอีสาน

หนุ่มสุพรรณ 2 ไม่ได้มาในทางลูกทุ่งแบบหนุ่มสุพรรณ 1 หากแต่มาในทางบลูส์ ที่น้าแอ๊ดช่วงนั้นเสียงยังดีอยู่ สามารถร้องถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่เสียงกีตาร์ที่เล่นโซโลและหยอกล้อไปตลอดเพลงนั้นก็ทำได้เป็นอย่างดี หนุ่มสุพรรณ 2 ถือเป็นหนึ่งในเพลงบลูส์ประจำคาราโอเกะที่คนนิยมร้องกันไม่น้อย อีกทั้งนี่ยังเป็นบทเพลงเปิดโลกดนตรีบลูส์ของคาราบาว ที่ต่อมาพวกเขาได้ทำเพลงในสไตล์นี้ออกมาอีกหลายต่อหลายเพลง
น้าเขียวโด่งดังกับเพลงสัญญาหน้าฝนในชุดห้ามจอดควาย
หลังจบชุดทับหลังคาราบาวยุครุ่งเรืองวงแตก มาถึงยุคเปลี่ยนผ่านที่น้าแอ๊ด น้าเล็ก น้าเขียว น้าอ๊อด เดินหน้าทำวงคาราบาวต่อโดยมีทีมงานจากวงตาวันมาเล่นแบ็คอัพ

คาราบาว(ที่เหลือ)+ทีมงานตาวันผลิตผลงานเพลงออกมาชุดเดียวคือ “ห้ามจอดควาย” ชุดนี้มีหนึ่งในเพลงรักอันสุดคลาสสิกของคาราบาวคือ “สัญญาหน้าฝน” เพลงนี้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวให้กับน้าเขียว คาราบาว(กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร) หลังจากเคยร้องเพลงกับคาราบาวมาบ้างประปราย แต่ไม่ดัง

สัญญาหน้าฝนบอกเล่าเรื่องราวของสาวเจ้าที่หายไปพร้อมกับหน้าฝน มีการใช้คำที่เรียบง่าย ดิบ แต่ว่าฟังแล้วเห็นภาพ โดนใจชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น

“...เดือนเป็นปี ล่วงผ่านไปแล้ว แก้วตาเจ้าแหกตาใช่ไหม รู้อย่างงี้ไม่คิดรักใคร กัดจิ้งหรีดมันกว่า...”

“....รักจนใจปี้ป่น เกิดเป็นคนทำตัวไม่เจียม ขวัญไม่ควรคู่เรียม ไม่เหมือนนิยาย จากคลองแสนแสบ...”

“...โดนเขาคาบ ไปหม่ำเสียแล้ว เอ็งไม่ต้องทำสงกะสัย หลงเมืองกรุง ทั้งยาวทั้งใหญ่ จ้างก็หา ไม่เจอ...”

สัญญาหน้าฝนนับเป็นอีกหนึ่งงานเขียนเพลงมือทองของน้าแอ๊ดที่ส่งต่อให้น้าเขียวร้องอย่างได้อารมณ์ จนกลายเป็นบทเพลงลายเซ็นประจำตัวของน้าเขียวมาจนทุกวันนี้ อีกทั้งนี่ยังเป็นหนึ่งในเพลงดังของคาราบาวประจำร้านเหล้าที่ทั้งหนุ่ม ทั้งสาว ต่างร้องตามกันได้เป็นอย่างดี

และนี่ก็เป็น 8 บทเพลงรักจากวงคาราบาว หนึ่งในยอดวงดนตรีในระดับตำนานของเมืองไทย ซึ่งแม้วงหัวควายจะได้ชื่อว่าเป็นวงเพื่อชีวิต แต่พวกเขาก็มีบทเพลงรักเพราะๆเคียงคู่ยุทธจักรวงการเพลง แถมหลายๆเพลงยังคงความอมตะมาจนถึงทุกวันนี้
*****************************************

หมายเหตุ : คอลัมน์เพลงวาน จะนำบทเพลงน่าสนใจย้อนยุคทั้งเพลงไทยและสากลมานำเสนอสลับกับบทความแนะนำเพลงน่าสนใจในสมัยนิยม
กำลังโหลดความคิดเห็น