“ปั้นจั่น-ยิปซี” เลิกกันเรียบร้อยแล้ว บอกรักกันแต่ไม่เข้าใจกัน เหลือความสัมพันธ์ดีที่สุด ยินดีหากฝ่ายหญิงจะมีคนใหม่ เพราะต้องยอมรับความจริง ว่า คงจะรอใครไม่ได้ทั้งชีวิต
จากกรณีที่นักแสดงสาว “ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์” ได้ทวีตข้อความไปหานักร้องนักแสดง “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ว่า “ไม่ต้องส่งมาทักเราอีกนะ พี่ปั้นจั่นไม่ชอบ” กระทั่งถูกแฟนคลับของฝ่ายชายด่าเละ สุดท้าย “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” แฟนหนุ่มของยิปซีต้องออกมาแถลงข่าว ยอมรับว่า ตนเป็นคนส่งข้อความดังกล่าว เพราะเกิดความหึงหวง ล่าสุด ทั้งคู่ก็ได้เลิกรากันไปเรียบร้อยแล้ว
“ตอนนี้เป็นเพื่อนกัน เราเลิกกันด้วยความเข้าใจ เรามีมุมมองความรักที่ต่างกัน ถามว่า เรารักกันไหม เรารักกัน แต่เหมือนเราคิดต่างกัน ก็ทำให้ไม่เข้าใจกัน ไม่ว่าจะอดทนปรับตัวแค่ไหนก็ตาม ทุกวันนี้ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันยังห่วงใยเหมือนเดิม ตอนนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วทำงานอย่างเดียว”
“เรื่องความหึงหวง คงต้องพอแล้ว เพราะไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะทำอย่างนั้นได้แล้ว ถึงจะหวงมากแค่ไหน ก็ทำไม่ได้แล้ว โอกาสในอนาคตก็คงตอบไม่ได้จริงๆ เพราะว่าวันใดวันหนึ่งอาจจะกลับมาก็ได้ เพราะตั้งแต่มีแฟนมาเลิกกันก็ไม่เคยมองหน้ากันไม่ติดทุกคนยังเป็นเพื่อนเสมอ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าวันหนึ่งใครจะเข้ามาในชีวิตเราอย่างน้อยความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดก็คือเพื่อน”
รับผิดว่าสิ่งที่ตนเป็นนั้นคนอื่นรับไม่ได้ เข้าใจอยู่ในวงการทำให้หลายคนจับตามอง
“มันทำให้เหนื่อยน้อยลงแล้วผมกับน้องก็โตเป็นผู้ใหญ่ ให้รู้ว่าถ้าเราจะทำงานอยู่ตรงนี้เราจะต้องไปในทิศทางไหน ผมก็เพิ่งมารู้ว่าผมต้องทำตัวยังไง เพราะสุดท้ายเราต้องทำงานและรับผิดชอบงาน แต่ตัวเราก็ยังเป็นเราอยู่นะ แต่สุดท้ายสิ่งที่เราเป็นตัวเราคนอื่นอาจรับไม่ได้”
“เหมือนที่ผมเคยบอกว่าเรื่องหึงหวงเคยเกิดขึ้นกับทุกคน คือ ทุกคนอยู่ในวงการพอเกิดเรื่องก็เลยเป็นที่จับตามอง ใครจะว่าอะไรก็ว่าไปแต่ผมยอมรับผิดแล้ว”
ยินดีถ้ายิปซีจะมีคนเข้ามาจีบ
“ถ้าเขาเริ่มต้นกับคนใหม่เราก็ยินดี ถ้าเรามานั่งรั้งเขาไว้ก็คงเห็นแก่ตัว คือ เราก็คงไม่ได้บอกให้ใครมารอเรา เราคงต้องซื่อสัตย์กับตัวเองว่าเราก็คงไม่รอใครได้ทั้งชีวิตจริงๆ หรอก ตอนนี้ปั้นจั่นมีความสุขกับงานที่ทำ แล้วเราก็รู้สึกว่าเรามาถูกทางแล้วเราชอบการแสดงเราอยากเล่นหนัง ส่วนเรื่องสาวๆ หรือแฟนก็ค่อยๆ เข้ามาดีกว่าก็ไม่อยากวิ่งหาแล้ว คือตั้งแต่คบแฟนผมก็มีปัญหาเรื่องนี้มาตลอด มันหมายถึงพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เป็นผู้ใหญ่สักที”
