xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องของนายพลเสือขาว "ซิยิ่นกุ้ย" (จบ) : นายพลผู้พิชิตโคคูเรียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

lee Duk Hwa แสดงเป็นซิยิ่นกุ้ยฉบับเกาหลี
ในปี 657 ทัพถังในยุคของถังเกาจงฮ่องเต้ก็บุกไปกำหราบเผ่าต่างๆ ที่เคยสยบมาก่อนทางเหนือและทางตะวันตก นายพลซูติงฟาง ในการปะทะกันที่ชายขอบทัพถังเอาชนะทัพของถูเจี๋ยตะวันตกซึ่งนำมาโดยหัวหน้าเผ่าหนีชู ( Nishu ) ซึ่งเป็นพันธมิตรภายใต้การปกครองของถูเจี๋ยเป็นๆ มาได้ ขณะที่กำลังจะประหารชีวิตนายพลต่างชาติท่านนี้ ก็เป็นซิยิ่นกุ้ยที่ให้คำปรึกษาต่อองค์จักพรรดิว่าให้ใช้นโยบายยุแยงภายในดีกว่าทำสงครามซึ่งๆ หน้า

แผนก็คือให้ปล่อยหัวหน้าเผ่าหนีชูแล้วสนับสนุนเขาขึ้นเป็นผู้นำที่เข้มแข็งแทน เผ่าหนีชูก็เลยสวามิภักดิ์กับราชวงศ์ถัง พร้อมกับส่งกองทัพและอาวุธให้เผ่าหนีชูปฏิวัติถูเจี๋ยตะวันตกแทน แผนนี้ได้ผลเพราะสุดท้ายก็เป็นกองทัพผสมของเผ่าหนีชูกับทัพถังที่บุกเข้าโจมตีและจับตัวอาซือนา เหอลู่ ข่านถูเจี๋ยได้สำเร็จ

ปีต่อมาทัพถังออกปราบตะวันออกอีกครั้ง ครั้งนี้ถังเกาจงสั่งนายพลอาวุโสอย่างเฉิงหมิงเจินและซิยิ่นกุ้ยเป็นหัวหอกในการจัดการกับโคคุเรียว ซิยิ่นกุ้ยสามารถบุกเข้ายึดเมืองฟูซุน (ปัจจุบันอยู่มณฑลเหลียวหนิง) เอาชนะนายพล ตู บางนู จนแตกพ่าย ในปี 659 ซิยิ่นกุ้ยปลิดชีพนายพลเกาหลีที่ชื่อ Wen Shamen ได้อีกหนึ่งราย ทำลายกองทัพผสมของพวกชี่ตันที่นำโดยข่านอาบูกูได้สำเร็จ กองทัพของเขายังจัดการจับตัวข่านอาบูกูได้เป็นๆและนำกลับไปยังลั่วหยางได้ด้วย ถึงเวลานี้ซิยิ่นกุ้ยก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลเขตเหอตงเรียบร้อยแล้วจากผลงานสุดยอด

สองปีต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงในเผ่าหุยเก๋อ เมื่อหัวหน้าเผ่าคนเก่าตายลง บิซูตู หลานชายหัวหน้าเผ่าเดิมขึ้นครองตำแหน่งแทน เขาประกาศตัวเป็นอิสระพร้อมกับเผ่าตงลั่วและเผ่าปูกู แถมยังโจมตีเขตปกครองทางเหนือของอาณาจักรถังเสียด้วย ซิยิ่นกุ้ยต้องยกกองทัพจากเขตของเขาเข้าร่วมปราบเผ่าเหล่านี้

ทัพของเผ่าหุยเก๋อนั้นนอกจากจะมีเผ่าที่กล่าวมาแล้ว ยังมีนักรบจากเถี่ยเล่อเข้ามาร่วมหวังที่จะคว้าชิ้นปลามันจากการโจมตีถังอีกด้วย เขตการรบที่ตึงมือที่สุดก็คือ การต้องเจอกับ 10 กองพันหฤโหดของเถี่ยเล่อนี่เองครับ ในการรบครั้งนี้เกียรติและชื่อเสียงความเป็นเทพเจ้าสงครามของซิยิ่นกุ้ยก็พ่งทะยานอย่างที่ไม่มีใครคาดมาก่อน เพราะเขาใช้ธนูคู่มือและลูกธนูอีกสามดอก ปลิดชีวิตนายพลจอมโหดของเถี่ยเล่อไปถึง 3 คน นั่นเป็นเหตุให้เผ่าเถี่ยเล่อถึงกับยอมแพ้ในความเก่งกาจของซิยิ่นกุ้ยทันที

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะ ขณะที่ 7 นายพลที่เหลือเข้าสู่กระโจมเพื่อลงนามและสวามิภักดิ์อย่างเป็นทางการ แต่เกิดเหตุอะไรก็ไม่ทราบแน่ที่ทำให้ซิยิ่นกุ้ยนั้นลงมือฆ่านายพลทั้ง 7 คนดังกล่าว แถมยังออกคำสั่งให้ทหารในสังกัดของตัวเองสังหารเชลยศึกของเถี่ยเล่ออีกหลายพันคน ท่านกลางเสียงคัดค้านของแม่ทัพถังที่ร่วมเดินทางมารบด้วยจนกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตขึ้นมาที่ทัพถังซึ่งถือว่ามีอารยะธรรมกลับประหารเชลยศึกที่ยอมแพ้แล้วหลายพันคน

หนักกว่านั้นการที่ซิยิ่นกุ้ยสามารถใช้ธนูสามดอกปราบทัพเถี่ยเล่อได้ ก็ทำเอาทหารถังนั้นเอาไปร้องเป็นเพลงว่า “ ซิยิ่นกุ้ยพิชิตเขาเทียนซานด้วยธนูแค่สามดอก นับเป็นบุญตายิ่งนักที่ได้มีโอกาสเห็นเขาผู้นี้” ซิยิ่นกุ้ยยอดขุนพลก็เลยโดยธงอาญาสิทธิ์ที่คุมมาจากเมืองหลวงเข้าจับทันที โดยทางราชสำนักตั้งข้อหาไว้ว่า อาจจะเป็นกบถ และทำร้ายเชลยศึกจนเสียชีวิตหลายพันคน ข้อหาทั้งสองข้อหานี้ร้ายขนาดสามารถที่จะโดนประหารชีวิตได้เลย

โชคยังดีที่ถังเกาจงฮ่องเต้พิจารณาแล้ว ก็ตัดปัญหาเรื่องของการเป็นกบถไปได้ พระองค์การันตีในฐานะที่ซิยิ่นกุ้ยรับใช้ท่านมานาน ส่วนเรื่องของข้อหาประหารเชลยศึกนั้น ถังเกาจงบอกว่าเป็นความผิด แต่ก็หักไปกับความชอบที่เอาชนะศึกได้ ซิยิ่นกุ้ยก็เลยไม่มีความผิดอะไรแล้วถูกปล่อยตัวออกมารับตำแหน่งเดิม

เหตุแห่งการที่ซิยิ่นกุ้ยจะพิชิตตะวันออกเกิดขึ้นเมื่อปี คศ 666 เมื่อไก้ซูเหวิน( Yeon Gaesomun)ผู้นำของโคคูเรียวเกิดตายลง ลูกชายสองคนของเขาได้แก่ Yeon Namsaeng ซึ่งได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เป็นผู้นำชาติคนต่อไป ก็ถูก Yeon Namgeon และ Yeon Namsan น้องชายทั้งสองคนก่อกบถ นำซังต้องเผ่นหนีออกจากเมืองเปียงยางและขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรถัง

โอกาสนี้เหมาะเหม็งที่สุดที่จะจัดการกับโคคูเรียว พวกเขาดำเนินยุทธการที่สุดยอดให้นายพล ปังตงชาน และ กัวขั้น นำทัพมาช่วยตามที่นำซังร้องขอ แต่ “นัมเกียน” น้องชายผู้ก่อกบถ ได้วางแผนโจมตีทัพถังที่ล่วงเข้ามาในแดนข้าศึกโดยไม่ให้รู้ตัว แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือแผนลวง เพราะทัพใหญ่จริงๆที่ตามหลังมาเพื่อตลบหลังกองทัพกบถโคคูเรียวอีกที นำโดยซิยิ่นกุ้ย ผลก็คือทัพกบถเกาหลีโดนกระหนาบทั้งหน้าทั้งหลังทัพของนัมเกียนเสียชีวิตเกือบทั้งหมด ซิยิ่นกุ้ยถือโอกาสกระจายทัพออกไปบุกยึดเมืองนัมโซ (ปัจจุบันคือเถี่ยหลิง ในเขตเหลียวหนิง) ยึดเมืองม็อกเจียว (ปัจจุบันคือฟูซุน) และเมืองจังนัม(ปัจจุบันคือเมือง เปนซี่ ในเหลียวหนิง) เมื่อช่วยเหลือนัมซังกษัตริย์อย่างเป็นทางการแล้ว ในปี 668 ทัพของซิยิ่นกุ้ยก็เดินทางปราบทัพกบถที่เหลืออย่างเมามัน เขาบุกยึดเมืองปูเยียว และเดินหน้าไปจนกระทั่งถึงทะเลญี่ปุ่น ยึดได้อีก 40 เมืองที่อยู่ตอนภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด จากนั้นก็เคลื่อนพลลงใต้บุกโจมตีเมืองเปียงยางเมืองหลวงในขณะนั้นแตก ก็เป็นอันว่าอาณาจักรโคคูเรียวที่เป็นเอกราชมาเกือบ 700 ปีแถมเคยสร้างความปวดหัวมาให้แก่ชนชาติฮั่นตั้งแต่สมัยราชวงศ์สุย ยันมาถึงราชวงศ์ถังก็ถูกพิชิตภายใต้การนำทัพของซิยิ่นกุ้ยนี่เอง

ความดีความชอบครั้งนี้ทำให้ซิยิ่นกุ้ยได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพผู้พิทักษ์ผู้พิชิตตะวันออก( the Protectorate General to Pacify the East )ตัวของเขาเองนอกจากตำแหน่งนี้ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ครองเขตแคว้นผิงหยาง( the Duke of Pingyang )ที่ทำหน้าที่บริหารทั้งการทหารและพลเรือน รับผลประโยชน์ในเขตนี้จากชาวโคคูเรียวอย่างเต็มที่

ในตำนานของซิยิ่นกุ้ยที่ว่าด้วยเรื่องอภินิหารนั้นจบกันที่ตรงที่ซิยิ่นกุ้ยแสดงฝีมือในการบุกเกาหลีครั้งแรกกับถังไท่จงฮ่องเต้หลี่ซื่อหมิน ไม่ใช่ครั้งที่ทำการยึดเกาหลีทั้งประเทศแบบนี้นะครับ พงศาวดารยังพูดถึงเรื่องทหารเกาหลีที่ซิยิ่นกุ้ยฆ่านั้นว่าเป็นเทพมังกรเขียวมาจุติ ตัวของซิยิ่นกุ้ยนั้นเป็นเทพเสือขาว แถมยังบอกด้วยว่าม้าของซิยิ่นกุ้ยนั้นควบไปบนผิวน้ำสามารถข้ามทะเลไปได้ด้วย เรื่องจบเอาตรงที่ว่าซิยิ่นกุ้ยได้รับตำแหน่งเป็นข้าราชการใหญ่ แอบกลับมาบ้านก็ดันเอาลูกธนูมายิงลูกชายของตนเองคือซิเตงซันแถมยังโดนเสือดำคาบศพเด็กไปเสียอีก

ตามตำนานนั้นซิเตงซันไม่ตาย แต่ท่านเซียนแปลงเป็นเสือดาวมาคาบไปทำการรักษา ต่อมาก็ได้ทำราชการจนสามารถรับใช้ราชวงศ์ถังและกลายเป็นแม่ทัพพิชิตตะวันตกไปได้อีกตำแหน่งหนึ่ง

แต่เรื่องจริงของซิยิ่นกุ้ยนั้นไม่จบเท่านั้น เพราะ เมื่อปี 670 ซิยิ่นกุ้ยได้รับบัญชาจากถังเกาจงฮ่องเต้ให้ไปปราบถูฟานหรือธิเบต ปรากฏว่าเกิดการประสานงานทีย่ำแย่มากในกองทัพโดยเฉพาะตัวซิยิ่นกุ้ยกับกัวไต้เฟิง แม่ทัพที่มีตำแหน่งเท่าเทียมกัน กัวไต้เฟิงนั้นไม่ยอมดำเนินการตามแผนที่วางกันไว้ ส่งผลให้การประสานงานย่ำแย่ ทัพถังโดนทัพแกร่งถูฟานโจมตีในเขตซีอี้จนเสียชีวิตไปเกือบสองแสนนาย ถือเป็นการพ่ายแพ้ที่เอน็จอนาถที่สุดในรัชกาลนี้

เพื่อรักษาชีวิตของทหารในทัพที่ยังพอเหลืออยู่บ้าง ซิยิ่นกุ้ยก็นำแม่ทัพที่เหลือยอมเจรจากับถูฟานซึ่งหลายข้อซึ่งทำให้ราชวงศ์ถังเสียเปรียบ ราชสำนักมีคำสั่งจับและขังทั้งหมด เมื่อสอบสวนว่ามีความผิดจริงซิยิ่นกุ้ยก็ถูกปล่อยตัวเพียงแต่ต้องถูกปลดจากทุกตำแหน่งที่มี อีก 5 ปีต่อมาหลังจากนั่งตบยุงอยู่ในเมืองหลวง ซิยิ่นกุ้ยและครอบครัวก็ถูกเนรเทศไปที่กวางสี

ปี 681 ถูเจี๋ยตะวันออกก่อกบถอีกครั้ง ถังเกาจงนึกถึงความดีความชอบของซิยิ่นกุ้ยที่เคยปราบถูเจี๋ยมาแล้ว ก็โปรดเกล้าให้รับตำแหน่งนายพลคุมกองทัพไปรบกับถูเจี๋ยอีกครั้ง และไม่เป็นที่ผิดหวังเขาเอาชนะทัพของ Ashide Yuanzhen อุปราชของถูเจี๋ยได้สำเร็จ เรื่องราวบันทึกไว้ว่า ทหารถูเจี๋ยถึงกับหมดแรงเมื่อทราบว่าแม่ทัพผุ้นำทัพถังคือซิยิ่นกุ้ยผู้ยิ่งใหญ่ที่หลายคนคิดว่าตายไปนานแล้ว นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้รับใช้ราชสำนักถัง ซิยิ่นกุ้ยสุขภาพไม่ดีนัก เขาเสียชีวิตในปี 683เรื่องราวของเขาถูกแต่งเติมจนกลายเป็นเทพเสือขาวผู้พิทักษ์ขึ้นมาในที่สุด

ลูกชายของเขามีนามว่าเซี่ยหนี และ และเซี่ยฉูอี้ ได้ทำราชการรับใช้ราชสำนักถังในเวลาถัดมา ส่วนซิเตงซันตามพงศาวดารนั้นไม่มีอยู่ในสารบบครับ
ซิยิ่นกุ้ยเกาหลีจากเรื่องThe King Dae Joyoung
ซิยิ่นกุ้ยขี่เสือโคร่งขาวภาพวาดจากจินตนาการศิลปินจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น