“ฟลุค เดอะสตาร์” โต้ “วิว” วางมวยแฟนสาวแย่งตน แฉตัวท็อปเอ็กแซ็กท์ต้องไปรดน้ำตอนตี 4

“ฟลุค เดอะสตาร์” ปฏิเสธ “วิว” วางมวยแฟนสาวแย่งตน ยันไม่เจอวิวมาเป็นปี พร้อมเผยยกเลิกสัญญาเอ็กแซ็กท์แล้ว รับมีปัญหากัน เพราะค่ายอยากให้เล่นละคร แต่ตนอยากเป็นนักร้อง แจงเข้าไปคุยผู้ใหญ่หลายครั้งและพูดจาดีตลอด แต่ค่ายกลับพูดไม่ดีใส่ ตอนนี้ก็เลยออกมาทำเพลงเอง ก่อนแฉตัวท็อปเอ็กแซ็กท์ต้องไปรดน้ำตอนตี 4 ทุกคน

นักร้องและนักแสดงหนุ่ม “ฟลุค เดอะสตาร์ 5” หรือ “พชร ธรรมมล” เคยตกเป็นข่าวฉาวเพราะไปมีเรื่องกับ “เต้ย ธโนทัย เอื้ออมรรัตน์” ดีเจคลื่น 91.5 ฮอตเอฟเอ็ม เพราะดันไปจีบสาว “ซาร่า เอเอฟ 3” แฟนของดีเจเต้ย จนต้องเคลียร์กันวุ่นวาย ก่อนจะมาเป็นข่าวดังอีกรอบตอนที่เจ้าตัวออกมาโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ถึงกรณีการเสียชีวิตของ นายอำพล ตั้งนพกุล หรือ อากง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 เพราะไม่เห็นด้วยกับกฎหมายมาตราดังกล่าว จนเจ้าตัวถูกวิจารณ์อย่างหนัก

หลังจากเงียบหายไปจากพื้นที่สื่อนาน ล่าสุด ฟลุคก็กลับมาเป็นข่าวอีกรอบ หลังมีข่าวว่า นางเอกเอ็กแซ็กท์ “วิว วรรณรท” ไปมีเรื่องทะเลาะกับแฟนสาวของฟลุคที่ชื่อ “ต้าร์” ซึ่งเป็นนักข่าว และเป็นพิธีกรของทีวีพูล เพราะต้าร์จับได้ว่าตนแอบมาจีบวิว ถึงขั้นหวิดวางมวยกัน สบโอกาสเหมาะได้เจอตัวหนุ่มฟลุคในงานแถลงข่าวเปิดตัว “เป๊กกี้ ดอลล์” ที่เมเจอร์ รัชโยธิน จึงเปิดประเด็นถามถึงเรื่องข่าวรักสามเส้า เจ้าตัวก็ปฏิเสธลั่นว่าไม่ใช่เรื่องจริง

“คิดว่าใครจะชนะล่ะครับ เป็นเรื่องที่ขำมาก งงมากกว่าทำไมมีข่าวแล้วทำไมต้อง 2 คนนี้ด้วย ผมไม่ได้ระหองระแหงกับต้าร์แล้วไปจีบวิว ไม่จริงเลยครับ วิวเจอครั้งสุดท้ายนี่ปีกว่าๆ แล้ว แล้วเราไม่เคยคุยเคยกิ๊ก ไม่มีเบอร์โทรศัพท์อะไรเลย”

“ตั้งแต่ผมขอยกเลิกสัญญากับทางเอ็กแซ็กท์ ก็เหมือนจะมีเรื่องกันนิดนึง การที่เราจะบอกว่าคุยกับใคร เราก็เกรงใจเขา กลัวว่าพูดไปว่าเราคุยกับเขาแล้วเขาจะมีปัญหารึเปล่า เราเจอกันเราก็เป็นเพื่อนกัน ครั้งสุดท้ายน่าจะเป็นงานรวมศิลปินในค่าย เจอก็ทักทายกัน แต่ไม่เคยโทรคุยกันหรือแชทกันเลย เราเป็นคนที่เคยอยู่ร่วมสังกัดเดียวกันเท่านั้นเอง"

เผยเป็นคนยกเลิกสัญญาเอ็กแซ็กท์เอง แต่ไม่ตอบมีปัญหาภายในกับค่าย แต่ตัดพ้อตนเข้ามาประกวดเดอะสตาร์ เพราะอยากร้องเพลงเป็นนักร้อง แต่เอ็กแซ็กท์กลับไปทำอย่างอื่นมากกว่า

“เราขอยกเลิกสัญญากับค่ายไปแล้ว ตอนนี้ออกมาทำเพลงเอง โปรโมทเอง เราก็เต็มที่กับทุกอย่าง มันสบายใจขึ้นมากเลย เราก็ทำงานกับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยทำงานด้วยกันในค่าย ก็ยังแวะเวียนโทรมาหาอยู่”

“ส่วนที่มีข่าวว่าผมมีปัญหาภายในกับทางค่าย ก็ทางค่ายเขาว่ายังไงบ้างล่ะ ผมเองก็เป็นแค่เด็กคนนึง พูดอะไรไปเขาก็ไม่ค่อยฟัง ข้อเท็จจริงคือ ฟลุคได้พูดคุยกับทางค่าย ถามถึงผลงานตอนที่เราแข่งขันเข้ามา เราร้องเพลงเข้ามา เราก็มีความสามารถ เราอยากจะทำงานเพลง เราอยากจะร้องเพลง แต่มันเป็นความเข้าใจผิดขณะนั้นเอง ว่าค่ายนี้เป็นค่ายที่ทำอย่างอื่นมากกว่า มันเป็นการแสดง ส่วนใหญ่ในมุมมองของพี่ๆ ทีมงานบอกว่า เราเหมาะกับงานแสดงมากกว่างานเพลง เราก็เลยถามว่าเราจะมีผลงานเพลงต่อไหม ถามไปเขาก็เงียบๆ ก็มีการพูดคุยกันมากกว่านี้ แต่ไม่อยากจะเล่า เดี๋ยวจะเสียหายกันไปหมด ผมก็เลยขอยกเลิกสัญญา ผมพูดกับเขามันก็เหมือนว่าผมเถียง”

พร้อมแฉตัวท็อปของเอ็กแซ็กท์ก่อนไปทำงานต้องไปรดน้ำตอนตี 4

"ฟลุคได้อ่านที่เขา (บอย ถกลเกียรติ) ให้สัมภาษณ์นะ ที่เขาบอกว่าถ้าออกไปทำเพลงเองได้ ก็ให้ออกไปทำเอง เคยดูตัวเองไหมว่ารับผิดชอบรึเปล่า ก็อยากจะบอกว่าคนที่เคยร่วมงานกับฟลุครู้ดีครับ ว่าที่มันมีเรื่องเล่าว่า ศิลปินคนอื่นที่เป็นตัวท็อปของค่ายนี้ ถ้าไปทำงานเขาก็จะไปกันตั้งแต่ตี 4 ตี 5 ไปนั่งรดน้ำใช่ไหม มีหลายคนในค่ายที่ทำแบบ…ฟลุคเองก็ไปสแตนด์บาย บางวันฟลุคก็ไปรดน้ำเหมือนคนอื่นเขาบ้าง ไปตั้งแต่ตี 4 ครึ่งเหมือนกัน”

“ฟลุคบอกกับทุกคนในค่าย ว่า ฟลุคชอบร้องเพลง มีงานอะไรมา ผมก็ทำเต็มที่ ผมโชคดีกว่าคนอื่นที่ได้ทำงานนี้ แต่ยังไงผมก็ยังมีความสุขกับการร้องเพลง แล้วก็หวังว่า สักวันนึงในชีวิตผมจะมาทำงานสายนี้ แต่ผมก็งงว่าทุกครั้งที่ผมเข้าไปคุย ผมก็พูดดีเสมอ แต่สิ่งที่กลับมามันค่อนข้างแรง เป็นคำพูดที่แรงมาก จนเราคิดว่าคิดแบบนี้แล้วทำไมเขาถึงเอาเราไปเซ็นสัญญาวะ ก็เลยเป็นที่มาว่า ถ้าพี่ไม่วางแผนเรื่องเพลงให้ผม จะต้องให้ผมรอต่อไป งั้นผมขอออกมาทำเองแล้วกัน”

“ถึงแม้ว่ามันจะเฟล แต่อยู่ตรงนั้นมันเสียใจยิ่งกว่า เราพยายามพูดคุยกันดีมาก กับคนที่รองมาจากคุณบอย พี่เขาก็บอกว่ามีอะไรก็โทรมาคุยกันนะ เรายังเป็นครอบครัวเสมอ พอผมยกเลิกสัญญาได้ปุ๊บ ก็มีการออกมาสัมภาษณ์ว่าผมเป็นเด็กดื้อ ผมเป็นคนเรื่องมากนั่นนี้ ผมพูดตรงๆ เลย ว่าสิ่งที่ผมต้องการทำคือต้องการแค่ได้ทำงานที่ผมมีความสุข”

“ที่ผมออกมาทำงานเอง ผมก็คาดหวังอยู่เหมือนกัน แต่เราก็เลิกแล้ว แล้วเราก็พูดกับตัวเองเสมอว่าเราจะต้องทำให้มันสำเร็จ ถึงแม้ว่ามันจะเฟล มันก็เป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ สิ่งที่เราควบคุมได้คือเราทำงานของเราให้เต็มที่ที่สุด ตอนยกเลิกก็เหลือสัญญาแค่ปีเดียวเอง งานเพลงเป็นงานที่ผมถวายชีวิตนี้ให้เลย เข็ดแล้วครับกับการมีสังกัด”