มนุษย์ล้อพลังจิต, ชายหนุ่มผู้กลายร่างเป็นหมาป่า, ฝูงคนตายคืนชีพ และผู้ร้ายที่ควบคุมไฟและน้ำแข็งได้ ... นี่ไม่ใช่ตัวละครของหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่จากฮอลลีวูดแต่อย่างใด ซึ่งหลายคนคงไม่เชื่อว่าเป็นเหล่าตัวละครของหนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายกำลังภายในชื่อดังต่างหาก
4 ยอดมือปราบ เป็นผลงานของนักเขียนชื่อดัง อุนสุยอัน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนนิยายกำลังภายใน ที่ดังสุดหลังยุคของ กิมย้ง กับ โกวเล้ง และถือว่าโด่งดังขึ้นมาก่อนการมาถึงของ หวงอี้
ผมเองผ่านตางานของ อุงสุยอัน มาบ้างนิดหน่อยครับกับพวกเรื่อง "กวีในดงดาบ", "จริยวีรชน", "นักสู้คะนองศึก" ที่ไม่ได้ยาวเหยียดเขียนติดต่อกันหลายภาคแบบ "ชุดอาวุธ" หรือ "4 ยอดมือปราบ" อะไรพวกนั้น ส่วนตัวชื่นชอบงานของเขาพอสมควร อุนสุยอัน เขียนเรื่องราวที่มีตัวละครมากมาย, มีจุดหักมุมอยู่ตลอด และมักจะชอบทรมานคนอ่าน กำหนดชะตากรรมของตัวละครได้เหี้ยมโหดดีชะมัด
สำหรับงานดังอย่าง 4 ยอดมือปราบ ที่เขียนออกมาหลายภาค และตัวละครในนิยายชุดนี้ก็ไปมีบทบาทในนิยายเรื่องอื่น ๆ ของท่านผู้เขียนกันแบบพันกันวุ่นไปหมด ผมได้อ่านอยู่ไม่กี่เล่ม และจำรายละเอียดอะไรไม่ค่อยได้แล้ว แต่ก็พอที่จะบอกได้ว่าฉบับภาพยนตร์ที่ชื่อว่า The Four นั้นแทบจะเรียกว่าไม่สามารถถ่ายทอดความยอดเยี่ยมของงานต้นฉบับออกมาได้เลย
ว่ากันสั้น ๆ 4 ยอดมือปราบ เล่าเรื่องของจอมยุทธ 4 คน ที่ล้วนมีภูมิหลังและความสามารถแตกต่างกันไป แต่ได้มาร่วมมือในการทำงานภายใต้ขุนนางผู้ทรงอิทธิพล และคุณธรรม "จูเก๋อเจิ้งหว่อ" ในการคลี่คลายคดีความต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับยุทธภพ และมีวี่แววจะส่งผลกระทบถึงราชสำนัก
ในหนัง The Four ที่ดัดแปลงมาจากนิยายชุดนี้ ผู้กำกับเลือกที่จะเล่าเรื่องในลักษณะ "จุดเริ่มต้น" และ "การรวมตัว" ของเหล่ามือปราบยอดฝีมือทั้ง 4 คน เมื่อเริ่มต้นขึ้นมา 2 ใน 4 ได้ทำงานภายใต้ จูเก๋อเจิ้งหว่อ อยู่แล้ว ส่วนอีก 2 คนได้เข้ามาร่วมกลุ่มเป็น 4 ยอดมือปราบด้วยเหตุการณ์ในหนังเรื่องนี้เอง
หนังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดคดีลึกลับขึ้นในเมืองหลวง จากการขโมยแท่นพิมพ์เหรียญเงิน จนไปถึงการฟื้นคืนชีพของคนตาย โดยมี "สำนักหกเหลี่ยม" หน่วยงานมือปราบอันทรงอิทธิพลแห่งเมืองหลวงที่มี "เทพมือปราบ" เป็นผู้นำ เข้าสอบสวนคดีพร้อม ๆ กับกลุ่มของ จูเก๋อเจิ้งหว่อ อดีตองค์รักษ์ผู้ถือป้ายทองคำจากฮ่องเต้ ที่สามารถเข้าสืบสวนเรื่องราวต่าง ๆ ได้ทั้งแผ่นดิน
หลิวอี้เฟย สาวสวยขวัญใจของหลาย ๆ คนมาสวมบทบาทเป็น "อู๋ฉิง" หญิงขาพิการที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น ศิษย์อันดับ 1 ของ จูกั๊วะซิงแซ ซึ่งอย่างที่หลายคนทราบครับ ในนิยายตัวละครตัวนี้เป็นผู้ชาย แต่ผู้สร้างตัดสินใจเปลี่ยนเป็นเพศหญิงแทน (พร้อมคำยืนยันว่าได้รับความเห็นชอบจากผู้เขียนแล้ว) เพื่อสร้างเรื่องราวประเภทรัก ๆ ใคร่ ๆ ระหว่างตัวละครของเธอ กับตัวละครศิษย์คนที่ 4 เหลิ่งเซวี่ย (เติ้งเชา) มือกระบี่ที่ในหนังบอกว่าเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของ "ฝูงหมาป่า" !? และโดนพิษชนิดหนึ่งที่ทำให้เขาอาจคลุ้มคลั่งกลายเป็นสัตว์ร้ายได้ทุกเวลา หากโดนยั่วโมโหจนความคุมความโกรธไม่ได้ โดย เหลิ่งเซวี่ย เป็นคนของพรรค หกเหลี่ยม ที่ถูกส่งตัวให้ไปแทรกซึมในกลุ่มมือปราบของ จูเก๋อเจิ้งหว่อ แต่สุดท้ายกลับเป็นตัวเขาเองที่แปรพักตร์
โดยในเรื่องราวทั้งสองต้องรวมมือกับ "เถียโส่ว" มือเหล็กจอมพลังลูกศิษย์ของ จูเก๋อเจิ้งหว่อ กับ "จุยมิ่ง" ขี้เมายอดฝีมือด้านสะกดรอยตาม ที่ตัดสินใจรับงานครั้งนี้ เพราะน้ำใจที่ จูเก๋อเจิ้งหว่อ ช่วยเหลือเขาจากการรังควานของพวกสำนักหกเหลี่ยม เพื่อเปิดโปงแผนชั่วที่มี อันซื่อเกิ่ง พ่อค้าผู้ลึกลับที่กำลังวางแผนทำอะไรบางอย่างอยู่
ผมไม่แน่ใจว่า The Four หยิบยกเนื้อเรื่องส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือมาดัดแปลงรึเปล่านะครับ แต่ปัญหาของหนังไม่ได้อยู่ที่เนื้อเรื่อง หรือการเปลี่ยนเพศตัวละคร (เท่านั้นหรอก) แต่ดูเหมือนทั้งผู้กำกับ และคนเขียนบท จะล้มเหลวโดยสิ้นเชิงกับการสร้างบรรยากาศ และความน่าเกรงขามลุ่มลึกให้กับตัวละครอย่างที่ "4 ยอดมือปราบ" ควรจะเป็น แต่ดันไปสนุกกับการคิดองค์ประกอบแปลก ๆ ประเภทหยิบกลเม็ดแบบหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่กำลังฮิตมาใส่ในหนังกำลังภายในแทน
เห็นได้ชัดว่าหนังพยายามแปลงโฉม 4 ยอดมือปราบให้กลายเป็น X-Men ฉบับกำลังภายใน อู๋ฉิง ไม่ได้มีแค่วิชาตัวเบา หรืออาวุธลับอีกแล้ว แต่กลายเป็น ดร. เอ็กซ์ ภาคสาวสวยยุคจีนโบราณ ที่สามารถทั้งอ่านใจ และใช้พลังจิตควบคุมสิ่งของต่าง ๆ ได้ ส่วน เหลิ่งเซวี่ย ก็เห็นได้ชัดว่าคือ วูฟเวอร์รีน ดี ๆ นี่เอง ยังมีตัวร้ายที่สามารถควบคุมความร้อนความเย็นได้ ซึ่งในเรื่องบอกว่าเป็นวิชาจากพวกซีเซี่ย แถมฝูงคนตายฟื้นคืนชีพแบบ "ซอมบี้" อีก ก็โอเคครับแปลกดี แต่สำหรับหลายคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นการทำลายบรรยากาศแบบนิยายกำลังภายในมากกว่า ก็แล้วแต่รสนิยม
แต่องค์ประกอบหลุดโลกพวกนี้คงไม่ได้เป็นปัญหาอะไรขึ้นมาเลย หากจะเทียบกับความล้มเหลวในการสร้างน้ำหนัก ความลุ่มลึกให้กับตัวละครอย่างที่หนังเป็นอยู่
หลิวอี้เฟย ไม่สามารถถ่ายทอดบทบาทตัวละครที่จมอยู่กับอดีตอันแสนเศร้าอย่างที่บทพยายามให้เป็นได้ ทำได้แค่เพียงแสดงเป็นหญิงสาวขาเป๋หน้าบูดบึ้งออกมาเท่านั้น แม้เธอจะดังมาจากการเล่นบทประเภทนิ่ง ๆ อย่าง "เซียวเหล่งนึ่ง" มาก่อน แต่กลับทำได้ไม่ค่อยดีนักกับบท อู๋ฉิง สำหรับผมแล้วรู้สึกว่าเธอโดนนางร้ายเซ็กซีอย่าง เจียงอีเยี่ยน ขโมยซีนแย่งความเด่นไปไม่น้อยด้วยซ้ำไป แถมรถเข็นสุดไฮเทคที่ตามเรื่อง เถียโส่ว เป็นสร้างขึ้นให้กับ อู๋ฉิง ก็ดูเดาไม่ออกเลยว่าจะเอาฮา หรือเอาเท่กันแน่ ก็ต้องขอโทษแฟน ๆ ของน้อง หลิวอี้เฟย ที่ต้องบอกว่าเธอยังคงไม่สามารถเปล่งประกายได้ในหนังเรื่องนี้
บทของ เติ้งเชา ดูจะมีน้ำมีเนื้ออยู่บ้าง แต่ฉากการกลายร่างเป็นหมาป่าก็ดูตลกขบขันแทนที่จะน่าเกรงขามอย่างที่ควรจะเป็น ดาราคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เจิ้งจงจี, โจวเจ้าหลง หรือกระทั่ง หวงชิวเซิง ก็ไม่สามารถฉายแววความโดดเด่นจากบทที่จืดชืดไร้ความน่าจดจำได้แต่ประการใด ดูไม่ได้เป็นจอมยุทธ์ที่น่าหวั่นเกรงอะไรเลย โดยเฉพาะบท จูเก๋อเจิ้งหว่อ ของ หวงชิวเซิง ที่ออกแนวไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน และดูจะพึ่งพาแต่ลูกศิษย์ ชนิดที่ตัวร้ายตัวหนึ่งในเรื่องยังแซวว่า ตานี้ก็แค่พึ่งลูกศิษย์สาวที่มีพลังจิตนี่หว่า (ซึ่งคนดูอย่างผมก็ได้แค่พยักหน้าเห็นด้วยเล็ก ๆ 55)
ที่เด่นกลายเป็นตัวร้ายไปแทนไม่ว่าจะเป็น จีเย้าฮัว บทจอมยุทธ์หญิงสวยร้ายที่เข้าเป็นมือปราบในสำนักหกเหลี่ยมด้วยเหตุผลอันน่าเคลือบแคลงสงสัยซึ่งแสดงโดย เจียงอีเหยียน ที่ทั้งหว่านเสน่ห์ และสร้างมิติให้กับตัวละครของเธอได้อย่างน่าสนใจ มีอะไรคาดเดาไม่ได้อยู่สมควร ส่วนดาราชาวจีนแผ่นดินใหญ่ อู๋ซิ่วปอ ก็แสดงเป็น อันซื่อเกิ่ง ตัวร้ายผู้ลึกลับได้โรคจิตแพรวพราวดี
ในฐานะหนังนักสืบ The Four มีเรื่องราวการไขคดีที่ไม่น่าสนใจ, ขาดตรรกะเหตุผล, การลำดับเรื่องราวที่จะทำให้คนดูทึ่งได้เมื่อถึงจุดของการคลี่คลาย และในฐานะหนังกำลังภายใน ผลงานของผู้กำกับชาวฮ่องกง กอร์ดอน ชาน เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรให้จดจำ พูดง่าย ๆ ว่าบู๊กันไม่ค่อยมันส์เท่าไหร่ หนังนำเสนอคิวบู๊แบบใช้ CG ช่วย แต่เป็น CG ระดับฮ่องกงที่ยังไม่ได้มาตรฐาน (โอเคว่ายังไม่เข้าขั้นฝันร้ายแบบ นางพญางูขาว ที่เพิ่งดูกันไป) หนังกำลังภายในนี่จะวัดว่าเจ๋งรึเปล่าดูฉากวิชาตัวเบาก็พอจะบอกได้แล้วนะครับ ซึ่งสำหรับหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าสอบตกเต็ม ๆ สำหรับฉากวิชาตัวเบาที่ไม่เนียนเอาเสียเลย
ผมเป็นคนประเภทที่หาความสนุกจากงานแย่ ๆ ได้เสมอ The Four เป็นหนังที่ผมยอมรับว่าก็ไม่ได้น่าเบื่ออะไรนะครับ เพราะอย่างน้อยก็ไม่ได้ทำอะไรตามสูตร และมีสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ให้เห็นอยู่บ้าง แต่หากวัดที่คุณภาพงานก็ต้องบอกว่าไม่ถึงขั้นในเกือบทุกด้านครับ
| เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
