หล่อง่ายๆ สไตล์ "ก้อง สหรัถ"

ถ้าให้ยกตัวอย่างชื่อผู้ชายที่มีบุคลิกพระเอ๊ก-พระเอก และมีสถานะเป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ เชื่อขนมรับประทานได้เลยว่า หนึ่งในนั้นจะต้องมี "ก้อง สหรัถ สังคปรีชา" รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย

นับจากการสร้างชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาในฐานะหนึ่งในนักร้อง-นักดนตรีของวงดนตรี "นูโว" ผ่านงานการแสดงมาแล้วทั้งหนัง-ละครหลายต่อหลายเรื่องโดยมีรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง "คู่แท้ 2 โลก" บนเวทีภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์เป็นเครื่องการันตีในความสามารถ ล่วงเลยมาจนถึงพ.ศ.2555 นี้ ก้อง สหรัถ มีอายุอานามเป็นเลข 4 สองตัวเข้าไปแล้ว

กระนั้นในวัยที่ว่านี้ แต่ประโยคที่เรามักจะได้ยินยามที่มีการพูดถึงตัวเขาคนนี้ก็คือคำชมประเภทที่ว่า...คนอะไรหล่อมาก...ผู้ชายอะไรดูไม่เคยแก่เลย...เนี้ยบตลอด...ฯลฯ

ในความเป็นจริง คงมิใช่เรื่องของกายภาพภายนอกเท่านั้นที่ทำให้เจ้าตัวได้มาซึ่งคำชมดังกล่าว หากแต่ส่วนหนึ่งก็คงจะเป็นเพราะด้วยความที่เป็นคนที่ค่อนข้างจะเก็บตัวไม่นิยมอออกงานสังสรรค์+สังคมนั่นเองที่ทำให้ที่ผ่านมาชายหนุ่มคนนี้แทบจะไม่มีข่าวคราวไปในทางเสียๆ หายๆ เลย

และไม่นานมานี้ชื่อของเขาก็เพิ่งจะกลายเป็นที่ฮือฮาอีกครั้งบนเวทีการแข่งขันร้องเพลง The Voice ที่เจ้าตัวร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการหลังสังเกตเห็นถึงความไม่ปกติในเรื่องการมองเห็นของผู้เข้าแข่งขันหญิงคนหนึ่ง ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นไปช่วยเหลือประคองอีกฝ่ายลงจากเวที

จะเมกหรือไม่เมก จะเตี๊ยมหรือไม่เตี๊ยม แต่เรื่องนี้ก็ทำให้ชื่อของ ก้อง สหรัถ ได้เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของใครต่อใครมากยิ่งขึ้นไปอีก

ร่ายยาวทีถึงตรงนี้ให้น่าสนใจทีเดียวว่าแล้วที่ผ่านมาผู้ชายมาดเนี้ยบคนนี้ไม่เคยทำเรื่องอะไรไม่ดี? ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำเรื่องเพี้ยนๆ กับเขาบ้างเลยหรือ? วันนี้ "นัดคุย" มีคำตอบ

"ถ้าเรื่องทำนองนี้ก็ต้องสมัยเด็กๆ ก็คือชอบไปทำอะไรป่วนๆ ชาวบ้าน ขับรถไปแกล้งชาวบ้านเขา ยกตัวอย่างเช่น ขับรถ 2 คันกับโจกับจอห์น แล้วก็ไปจอดที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว เสร็จแล้วก็วิ่งไล่กันรอบรถ ไล่ลงมาทำเหมือนตีกันมีเรื่องกัน แล้วก็รีบวิ่งขึ้นรถ แล้วก็ขับออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"

"หรือไม่อย่างบางทีขับรถไปติดไฟแดงกับโจ ไม่มีอะไรทำ ก็ลงมาจากรถต่อยกัน คือทำเป็นต่อยกัน กลางสี่แยกเลย พอไฟเขียวก็เข้ามากอดกัน หอมแก้มกัน แล้วก็ขึ้นรถไป (หัวเราะ) อะไรแบบเนี้ย คือแกล้งให้คนเขางงเล่นมากกว่า ก็มีประมาณนี้นะ ไม่ได้มีอะไรมากมาย"

แม้จะถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนูเพราะเกิดมาเป็นหลานคนแรกของตระกูล แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ยืนยันว่าเขาเองเป็นเด็กที่ไม่ดื้อเลย..."คุณพ่อจะเป็นคนที่ไม่ค่อยตามใจ จะคอยดุ ตี ถ้าอยากจะได้ของก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน อย่างอยากได้ของเล่นก็ต้องกวาดขยะ เก็บขี้หมา ตัดหญ้า หรือว่าอยากได้รถขับก็ต้องเรียนให้ได้เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเท่านี้นะ"

ดูอย่างไรก็หล่อไม่เคยเปลี่ยน มีเคล็ดลับอะไร?
"ถ้าเป็นเรื่องของการแต่งกายก็คือแต่งให้ง่ายเข้าไว้ เช่นเสื้อยือ ไม่ต้องรีดเยอะ เพราะมันไม่ค่อยยับ กางเกงยีนส์ก็ไม่ค่อยยับ ไม่ต้องรีด ส่วนเรื่องของการดูแลสุขภาพก็พักผ่อนให้เป็นเวลา ออกกำลังกายบ้าง ดูแลเรื่องอาหารการกิน ก็พยายามทานผักผลไม้ให้มากเข้าไว้ ให้มากกว่าเนื้อสัตว์ คือเรื่องร่างกายก็ดูเรื่องอาหารการกิน ส่วนจิตใจก็ทำใจให้มันคิดบวกไว้ สบายๆ อย่างไปคิดมากหรือว่าไปซีเรียสอะไรมากมาย คิดเแต่เรื่องดีๆ เข้าไว้ ก็ง่ายๆ แบบนี้นะ"

เหมือนเป็นคนที่ไม่มีเรื่องอะไรให้เครียดเลย?
"มีบ้างครับ เวลางานมันรุม มีอะไรเข้ามาหลายๆ อย่าง (แก้ไขอย่างไร) วิธีแก้ไข ก็ต้องอดทนครับ เกิดเป็นผู้ชายต้องอดทน (หัวเราะ) เพราะเรารู้ว่าเดี๋ยวมันก็จะต้องผ่านพ้นไป อย่าไปเครียดกับมันมาก ทนๆ ไปเดี๋ยวมันก็หาย เพราะมันไม่มีอะไรที่จะมาอยู่กับเราได้ตลอด ทั้งความทุกข์และความสุข ก็ต้องอยู่อย่างเข้าใจมัน"

ไม่ค่อยจะพูดเรื่องความรักและชีวิตคู่สักเท่าไหร่ แต่กระนั้นเจ้าตัวก็เคยเผยถึงเรื่องนี้กับนิตยสารสุขกายสบายใจ ฉบับมีนาคม 2555 ว่า...
"ชีวิตผมมีความเป็นส่วนตัวสูง และก็ยังไม่เคยคิดถึงเรื่องแต่งงานครับ กับแฟนก็คบกันมา 20 ปีแล้ว ตั้งแต่เรียนศรีวิกรม์ด้วยกัน ตอนนี้รู้สึกว่ามันเลยช่วงแต่งงานหรือมีลูกไปหมดแล้ว อีกอย่างผมว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องของความอยากนะ การจุติหรือการมีลูก ถ้าเราอยากมีลูกก็จะมีได้เอง มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผมเชื่ออย่างนั้น"

"สำหรับคำถามที่ว่าทำไมไม่ยอมเปิดตัวแฟนซักที ป่านนี้แล้วคงไม่ต้องควงเปิดตัวหรอก เขาก็รู้กันทั่วแล้ว เขาชอบอยู่เงียบ ๆ แบบไม่ต้องมีใครรู้จักสบายใจกว่า เรื่องไปไหนมาไหนเราใช้ชีวิตปกติ ไปห้างซื้อของปกติ ไปเที่ยวก็ไปได้ทุกที่ไม่ได้ปิดบังครับ"

ประทับใจอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้?
"เขาเข้าใจผมมากที่สุด เป็นคนจิตใจดีแล้วผมก็โชคดีที่ได้มาอยู่กับเขา เป็นคนไม่ฟุ้งเฟ้อเลย พอเพียงมาก ที่สำคัญเราก็อยู่กันด้วยความรัก ความเข้าใจ ซึ่งทุกวันนี้ผมก็ยังมีมุมหวานๆ ให้เขานะ อย่างบางวันผมอยากให้ดอกไม้ ก็โทรสั่งไปให้เขาที่บ้าน (ยิ้ม) หรือวันวาเลนไทน์ผมส่งข้อความ แล้วก็นั่งทำรูปให้เขาด้วย"

มีข่าวว่าแอบไปจดทะเบียนสมรส?
"ไม่ได้จดครับ คงไม่ต้องจดแล้ว คือจะจดหรือจะแต่งไม่แต่ง มันก็เหมือนกันหมดแล้ว ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องทางกฎหมาย นิติกรรม ซึ่งตรงนั้นไม่สำคัญใหญ่เลย อยู่ด้วยกันมาขนาดนี้ เหมือนเป็นเรื่องของการแชร์ทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันมาตั้งนานแล้ว ไม่ต้องเอากฎหมายมาเป็นสิ่งสำคัญ อีกอย่างครอบครัวเราสองคนก็เข้าใจ และเราคงไม่ทิ้งกันไปไหนแน่นอนครับ"

ในชีวิตเคยมีเรื่องอะไรที่ผิดพลาดสักเรื่องมั้ยที่เรานึกอยากจะกลับไปย้อนแก้ไขมัน?
"ถ้าเป็นเรื่องของความผิดพลาดไม่มีเลยนะ ไม่มีเลย...แต่อย่างเมื่อก่อนเคยนึกถึงเรื่องเรียนว่าจะเรียนศิลปะ ตอนผมจบไฮสคูลจะเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นเคยมีความคิดว่าอยากเป็นคนวาดรูป ว่าจะเรียนเรื่องของการวาดรูปอย่างจริงๆ จังๆ แต่มาคิดอีกที เป็นนูโวแบบนี้ดีแล้ว ถ้าวาดรูปสงสัยคงจะลำบากกว่านี้"

ไม่เคยนึกอยากจะหาเวลาไปเรียนตรงส่วนนี้?
"ไม่ทันแล้วครับ ตอนนี้คงเป็นนักดนตรีร้อยเปอร์เซ็นต์"

กำลังจะมี คอนเสิร์ต "NUVO {B-SIDE} CONCERT" (ครั้งนี้คงถูกใจ) วันเสาร์นี้ (13 ต.ค.) ซ้อมไปถึงไหนแล้ว เพราะเห็นว่าเวลาซ้อมค่อนข้างจะน้อย?
"ตอนนี้ก็ถือว่าพอสมควร แต่ถ้าได้มากกว่านี้ก็จะดี เพราะว่ามันเป็นคอนเสิร์ตที่ 70 เปอร์เซ็นต์เนี่ยเราแกะเพลงใหม่ มันไม่ใช่เพลงที่เราเล่นกันอยู่เป็นประจำ เราเอาเพลงที่ไม่ค่อยได้เล่นมาเล่น แล้วงานจะเป็นอะไรที่ออเร้นจ์ใหม่เยอะมาก ก็มีการนำเอาเครื่องเป่าเข้ามา เพิ่มเพอร์คัสชัน-คอรัสเข้ามาเยอะแยะ ก็เหมือนกับการซ้อมใหม่ ทำใหม่ ก็ค่อนข้างเหนื่อยอยู่พอสมควรครับ"

หลังคอนเสิร์ต "นูโว" มีแผนจะออกอัลบั้มใหม่บ้างมั้ย?
"ณ วันนี้คงยัง แต่คงจะต้องอยู่ที่วาระและโอกาสอำนวยหรือเปล่า มากน้อยแค่ไหน แต่ตอนนี้บอกได้ว่ายังครับ..."

(ภาพถ่ายโดย เฉลิมรัฐ ผาสุข)