xs
xsm
sm
md
lg

3 ฑูตจากเม้งก่าเปอร์เชียกับยอดวิชาจากผู้เฒ่าภูผาแห่งป้อมอลามุธ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพวาด ฮัสซัน ไอ ซับบาห์
ในดาบมังกรหยกนั้นเตียบ่อกี้ประสบความพ่ายแพ้ในการสู้กับยอดฝีมือกลุ่มต่างๆ เพียงแค่ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเผชิญกับบ่วงวชิรธรรมของสามหลวงจีนแห่งวัดเส้าหลิน ขณะที่อีกครั้งก็คือ การเจอหน้ากับสามฑูตพิเศษจากพรรคเม้งก่าเปอร์เชียที่ส่งเข้ามาเพื่อจัดการความไม่เรียบร้อยในพรรคสาขาจีน

ฉากนี้คนจำไม่ค่อยได้ครับว่า เตียบ่อกี้นั้นแพ้อย่างยับเยิน ทั้งเรื่องยุทธวิธีการต่อสู้ที่แม้จะฝีมือและกำลังภายในสู้กับเตียบ่อกี้ไม่ได้แต่อาศัยสามคนสู้เหมือนหนึ่งคนกลายเป็นคนทีมีสามเศียรหกกร ทั้งเรื่องของอาวุธซึ่งก็คือ ป้ายอัคคีศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกป้ายที่สามทูตถือเป็นอาวุธ และฉากนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าเตียบ่อกี้นั้นซื่อเกินไปที่จะอยู่ในยุทธจักรเลือดแห่งนี้

สามทูตประกอบไปด้วย ทูตเมฆลิ่วล่อง ทูตลมศักดิ์สิทธิ์ และ ทูตจันทร์รำไพ ซึ่งเป็นสตรี ล้วนใช้หลักวิชาการต่อสู้ที่กิมย้งบอกในช่วงที่เตียบ่อกี้และพวกทั้งหมดลงเรือหนีว่า แม้นพลังจะไม่ใช่ดีมาก แต่ในกระบวนท่านั้นถือเป็นอวิชาขั้นสุดยอดแล้ว หลักการต่อสู้ที่ว่านี้นำมาจากเคล็ดความบนป้ายอัคคีศักดิ์สิทธิทั้ง 6 ป้ายที่บรรดาฑูตทั้งสามใช้เป็นอาวุธนั่นเอง ภายหลังเมื่อเสี่ยวเจียวช่วยแปลเคล็ดความในป้ายอัคคีจึงทำให้เตียบ่อกี้สามารถที่จะเอาชนะสามฑูตได้สำเร็จและทำให้พลังเคลื่อนย้ายจักรวาลของเขาสมบูรณ์แบบขึ้นมา

แต่กว่าจะเข้าใจเคล็ดทุกอย่างเตียบ่อกี้ก็สะบักสะบอมจนต้องยกย่องสามฑูตกันทีเดียวครับ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าวิชาฝีมือทั้งพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลและวิชาบนป้ายอัคคีนี้มาจากใครกันแน่ เพราะ ในฉบับแปลเป็นไทยนั้นใช้ทับศัพท์และเรียกเป็นภาษาแต้จิ๋วว่าเป็น “ผู้เฒ่าภูผา” ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชาที่จารึกไว้หรือแม้กระทั่งพลังเคลื่อนย้ายจักรวาล กิมย้งบรรยายผ่านตัวราชสีห์ขนทองว่า ผู้เฒ่าภูผานั้นเดิมเป็นลูกศิษย์สามพี่น้องของท่านมหาปราชญ์แห่งเปอร์เชีย ตอนหลังผู้เฒ่าภูผาฆ่าพี่น้องที่เหลือและตั้งตัวเป็นหน่วยล่าสังหารถึงขนาดเข้าไปลอบสังหารพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดแห่งอังกฤษกันทีเดียวแต่ไม่สำเร็จ เพราะพระมเหสีของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดพุ่งเข้ามาขวางเส้นทางมีดจนตายแทนไป

บุคคลๆ นี้น่าสนใจที่จะเช็กดูครับว่ามีตัวจริงหรือไม่ ผมเองเมื่อตรวจย้อนกลับไปดูในฉบับภาษาอังกฤษนั้น ผู้เฒ่าภูผาที่ว่ามีชื่ออย่างเป็นทางการคือ “ฮัสซัน ไอ ซับบาห์" (Hassan-i Sabbāh) ซึ่งลองย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์บุคคลสำคัญของเปอร์เชียก็มีชื่อของเขาอยู่ด้วยและมีรายละเอียดที่น่าสนใจจนกระทั่งควรที่จะมาขยายความในที่นี้ไว้

ฮัสซัน ไอ ซับบาห์ เกิดเมื่อปีคศ 1050 และเสียชีวิตไปในปีคศ 1124 เป็นชาวเปอร์เชียโดยกำเนิด มีฝีมือที่โดดเด่นทีสุดในเรื่องของการเป็นมือสังหารที่สามารถลอบเข้าไปฆ่าคนอย่างมากมาย เขาเป็นผู้ก่อตั้งป้อมค่ายภูเขาในเทือกเขา Alborz ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิหร่าน ค่ายภูเขานี้ได้รับการตั้งชื่อจากตัวของฮัสซันว่า อลามุธ ( Alamut)

หลายคนอาจจะร้องอ๋อแล้วนะครับว่า อลามุธ ก็คือ ชื่อป้อมปราการในตำนานของชาวเปอร์เซียเขา เป็นศูนย์รวมของขบวนการมือสังหารแห่งยุค สาวกและลูกศิษย์นักล่าสังหารของฮัสซันนั้นเรียกกันเฉพาะว่า ฮัสซันชิน (Hashashin) หรืออีกนัยหนึ่งในยุโรปก็เรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่า แอสแซสซิน (Assassins) ซึ่งก็หมายถึงมือสังหารนั่นเอง

เรื่องราวของกลุ่มคนเหล่านี้ดังมากในยุคสงครามครูเสด ชื่อของฮัสซันนั้นถูกชาวยุโรปอธิบายว่าเป็นบุคคลน่าสะพรึงกลัว ไล่มาตั้งแต่เป็นผู้นำโดยกำเนิด เป็นนักคำนวนทางคณิตศาสตร์และนักยุทธวิธีที่เก่งสุดๆ ศึกษาคำสอนของอิสลามเป็นอย่างดี แต่ที่หนักหนาที่สุดก็คือ มีความสามารถที่จะปลุกใจให้คนในสังกัดของเขาสามารถที่จะกล่อมให้คนของเขายอมตายเพื่อภาระกิจในการฆ่าคน เขาเชี่ยวชาญการต่อสู้และการสังหารในทุกรูปแบบ ไล่เข้ามาจากการใช้อาวุธและการใช้ยาพิษ และสามารถสอนให้เหล่าลูกศิษย์และสาวกของเก่าเก่งกาจได้แบบเดียวกัน ชาวยุโรปเรียกฮาสซันว่า Lord Of The Dead Mountain ซึ่งก็หมายถึงเจ้าแห่งเขาแห่งความตายหรืออลามุธนั่นเองเอง

ตามประวัติของป้อมอลามุธและฮัสซันซินนั้นเป็นที่น่ากลัวของใครหลายต่อหลายคน เพราะเป็นองค์กรอิสระที่ไม่ขึ้นกับใครแถมยังเป็นอันตรายต่อระบบชาห์ของเปอร์เซียในยุคโน้นด้วย เพราะความเชื่อของฮาสซัน ที่ต้องการจะสร้างโลกใหม่และไม่เชื่อในระบบเดิม ขบวนการล่าสังหารของเขาไล่เด็ดหัวคนไปทั่วทั้งฝั่งเปอร์เชียเอง หรือแม้กระทั่งคนของฝั่งตะวันตก ที่โด่งดังจริงๆ ก็คือ การลอบสังหารพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ลองแชงส์ (The English King Edward Longshanks) เกือบสำเร็จโดยที่มีดที่จะตรึงหัวใจของกษัตริย์อังกฤษนั้นเบี่ยงไปนิดเดียวจากการเข้าขวางของสตรีข้างกายของกษัตริย์อังกฤษนะครับ

ใครที่ชอบดูหนังฮอลลีวู้ดคงจะจำได้ถึงเรื่อง Braveheart ที่เมล กิปสัน แสดงและคว้ารางวัลไปอย่างมากมาย ไอ้กษัติย์อังกฤษผู้ชัวร้ายในเรื่องก็คือ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ลองแชงส์ นั่นแหล่ะครับ คิดเล่นๆ ว่า ถ้าพวกของผู้เฒ่าภูผาลอบสังหารได้สำเร็จเบรฟฮาร์ทคงไม่ตายและประวัติศาสตร์ของอังกฤษคงเปลี่ยนไปอีกแง่หนึ่ง

เพราะเหตุนี้พวกเขาเคยโดนกองทัพของพระเจ้าชาห์แห่งเปอร์เชียส่งกองทัพเข้ามาจัดการกับค่ายนี้หลายครั้งแต่ก็ไม่เคยตีแตก ครั้งที่ร้ายกาจที่สุดและถือว่าทำให้พวกฮาสซันซินเสียหน้าก็คือ พวกมองโกลที่ส่งกองทัพที่โหดยิ่งกว่าเข้ามาทำลายอลามุธราบเป็นหน้ากลองในปี คศ 1256 ซึ่งเป็นยุคของฮูกาลูข่าน ในเวลานั้นศาสดาของพวกเขาอย่างฮาสซันนั้นตายไปนานแล้ว ขณะที่ในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดนั้นป้อมแห่งนี้โดนพระเอกในเรื่อง Prince Of Persia ลูบคมนะครับ

นี่คือความเจ๋งของกิมย้งนะครับที่เอาโน่นเอานี่มาใส่ในเรื่องของเขาจนทำให้น่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะ ฝีมือและการแสดงออกของฑูตทั้งสามนั้นฉาบฉวยและโจมตีได้ผิดรูปแบบของจอมยุทธแดนตงง้วนอย่างที่สุด เพราะทุกกระบวนเป็นท่าสังหาร กิมย้งอธิบายเอาไว้ว่า โชคดีที่เตียบ่อกี้นั้นมีพลังเก้าสุริยันเป็นลมปราณคุ้มครองกายอยู่จึงสามารถยืนหยัดสู้กับสามฑูตได้แบบไม่แพ้ในช่วงแรก แต่เมื่อเจอทั้งความเจ้าเล่ห์ เจอพลังทะปูทะลุกระดูก ก็สามารถทำให้เตียบ่อกี้หวิดจะตายได้เหมือนกัน

อย่างไรก็ตามในประวัติศาสตร์นั้นผมยังหาความสัมพันธ์ของฮาสซันกับนิกายแมนนี่หรือพวกเม้งก่าไม่เจอ เพราะตัวของเขานั้นเป็นมุสลิมที่เคร่งมาก การที่จะไปตั้งหลักการใหม่ๆ ซึ่งขัดกับหลักการเดิมของศาสนาที่เขานับถือนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นการที่กิมย้งบอกเรื่องผู้เฒ่าภูผากับพรรคเม้งก่านั้นจึงน่าจะเป็นจินตนาการล้วนๆ ของเขาเองครับ
ป้อม อลามุธ ( Alamut)
กำลังโหลดความคิดเห็น